ตอนที่แล้วตอนที่ 485 คลื่นพลังเย็น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 487 การคาดเดาของปิง

ตอนที่ 486 เสี่ยวเอ้อกางร่ม


คลื่นความเย็นที่ไล่หลังพวกเขาส่งเสียงดังหวีดหวิวน่ากลัวพร้อมกับเสียงดังกระแทกกระทั้นไม่หยุด  ถังเทียนเห็นกับตาตนเองว่าศพสองสามร่างแม้แต่ชิ้นส่วนสมบัติที่แตกกระจายถูกปั่นกันทั้งหมดกลายเป็นผุยผงสีน้ำเงินละเอียดพอๆกับแป้ง

นั่นทำให้ผมขนทั่วตัวของเขาลุกชันทันที

คุณสมบัติของสมบัติเครื่องมือนั้นล้วนโดดเด่นกันทั้งนั้นบวกกับสะสมพลังดวงดาวมาเป็นเวลาแรมเดือนแรมปี สมบัติเหล่านั้นจึงยากมากที่จะทำลาย แต่เมื่อเห็นคลื่นที่กราดเกรี้ยวที่เกิดจากคลื่นความเย็นเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่เขมือบกินทุกอย่าง แม้แต่สมบัติก็ยังแตกสลายป่นเป็นธุลีได้อย่างง่ายๆหัวใจของถังเทียนสั่นสะท้านทันที

ไม่ว่าจะมีความคิดบุกย่ำยีกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์เพียงใดก็ตามความคิดนั้นก็ล้วนหายไปหมด  ถ้าร่างส่วนไหนเข้าไปในคลื่นความเย็น  เขาก็คงกลายเป็นธุลีสีน้ำเงินเป็นแน่

น่ากลัวมาก!

เชียนฮุ่ยคงชอบกองฝุ่นสีน้ำเงินไม่ลงอย่างแน่นอน!

ความคิดเช่นนี้ทำให้ถังเทียนไม่ทราบว่ามีเรี่ยวแรงมาจากที่ใดวูบ... เขาลากคนทั้งเจ็ดวิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง

เขาหันไปตะโกนใส่ติงเฉิน  “ถ้ำน้ำแข็งอยู่ตรงไหน?”

“อยู่ข้างหน้าท่าน!”  ติงเฉินไม่กล้าหันหัว เขาตะโกนสุดเสียงพร้อมกับก้มหน้าก้มตาวิ่งอย่างเดียว

คลื่นความเย็นน้ำเงินใกล้เข้ามาทุกทีปัง, หินเล็กก้อนหนึ่งที่ปลิวกระเด็นโดยคลื่นความเย็นพุ่งเข้าใส่ก้นหยาหยาเหมือนลูกธนู  หยาหยากระเด็นออกไปอย่างไม่มีอะไรป้องกัน  แต่ถังเทียนตาไวมือของเขายื่นออกมารวดเร็วราวกับสายฟ้า เขาจับหยาหยาโดยไม่ตรวจหยาหยาและวางมันไว้บนหัวของเขา

หยาหยากำลังงง  มันเกาะยึดเส้นผมของถังเทียนสุดชีวิต

ถังเทียนเจ็บจนหน้าบิดเบี้ยวไอ้ตัวแสบ คอยดูเถอะ ข้าจะคิดบัญชีทีหลัง

ติงเฉินตะโกนอย่างบ้าคลั่งตื่นเต้น  “ข้างหน้า มันอยู่ข้างหน้านี้”

ถ้ำน้ำแข็งมีเส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตรปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคนจะพูดว่าเป็นถ้ำน้ำแข็งก็คงไม่ถูกนัก ความจริงเป็นลานน้ำแข็งที่มีรอยแยก เป็นรอยแยกที่ชัดเจนขยายออกไปสองด้าน

ทุกคนฟื้นคืนจากสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ทุกคนดูมีความสุข พวกเขากระโดดลงไปในถ้ำน้ำแข็งกันทีละคน

ปัง!

ทุกคนหน้าผากเขียวคล้ำ  คลื่นความเย็นวิ่งผ่านไหลไปเหมือนน้ำเฉียดผ่านเหนือศีรษะของพวกเขาไป

เสียงแตกดังขึ้นทำให้ทุกคนรู้สึกหนังศีรษะชาเสียงกระแทกอยู่เหนือพวกเขาคอยทำลายถ้ำน้ำแข็งเหนือหัวพวกเขาไม่หยุดทำให้ชั้นน้ำแข็งหนามีเสียงแตกดังน่ากลัว  ถังเทียนอยู่ข้างในรอยแยกมองดูชั้นน้ำแข็งเหนือศีรษะของเขา10 เมตรมีรอยแตกเกิดขึ้นนับไม่ถ้วน เขารู้สึกตกใจมาก

ถ้าชั้นน้ำแข็งหนาพังถล่มพวกเขาได้ถูกฝังทั้งเป็นแน่...

ในช่วงเวลาฉุกเฉินมือของถังเทียนเต็มไปด้วยหินดวงดาว เขาไม่สนใจดูจำนวนหินดวงดาว ฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยพลัง เป๊าะหินดวงดาวทั้งหมดถูกเขากระแทกแตก

พลังงานหนาแน่นครอบคลุมทั่วพื้นที่

ถังเทียนตะโกนอย่างโมโห  “เสี่ยวเอ้อ กางร่ม!”

เสี่ยวเอ้อกำลังลอยตัวอยู่เหนือหัวถังเทียนได้ยินเสียงของเขาก็เลื่อนมือขวาที่ถือร่มมาไว้ระดับอกมือซ้ายก็จับร่มเช่นกัน  มือทั้งสองค่อยๆ ดึงและบิดร่มอย่างนุ่มนวล

ควั่บ!

พลังงานกระจัดกระจายราวกับว่ากำลังถูกดึงดูด มันลอยขึ้นสูงอย่างรวดเร็วไปยังร่มที่เต็มไปด้วยดวงดาว

รังสีแสงแพรวพราวหมุนตามร่มที่กำลังปั่นหมุนกระจายเป็นวง  เสี่ยวเอ้อแหงนศีรษะ ตาที่ดำขลับของเขาเป็นประกายแต่ยังว่างเปล่ากลับแสดงสีหน้าจริงจังอย่างหาได้ยาก  เขากางแขนทั้งสอง  ขายืนชิดกันจนร่างคล้ายกับรูปไม้กางเขนสูทลินินสีน้ำเงินบนร่างของขยับโดยไม่มีลมทำให้เสียงแตกนั้นปลดปล่อยรังสีปราณที่แข็งแกร่ง

ที่ข้างหน้าเขาร่มดวงดาวขยายออกอย่างรวดเร็ว

ปัง!

ร่มดวงดาวขยายขนาดใหญ่ขึ้นเป็นเหมือนพลังของดาบแทงลึกลงไปในผนังน้ำแข็ง

ปังหิมะที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้ามาพร้อมกับเสียงที่น่ากลัว ตกใส่ร่มอย่างรุนแรงแสงดาวบนร่มเริ่มหมุนเร็ว แครก... ร่มร่วงลงมา

ถังเทียนเห็นบางอย่างผิดปกติ  เขาจับเศษหินดวงดาวแตกอีกครั้งขณะที่เขาตะโกนอย่างเร่งร้อน  “เสี่ยวเอ้อ!”

พลังงานกำลังแผ่กระจายไปทั่วทุกที่

ใบหน้าละเอียดอ่อนน้อยๆของเสี่ยวเอ้อดูมีอารมณ์ว่างเปล่าเฉยชาอีกครั้ง ร่างของเขาค่อยๆ หายไป และแทบจะเวลาเดียวกันเขามาปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน เขาจ้องมองถังเทียนด้วยสีหน้าเฉยเมย แต่ถังเทียนมั่นใจว่าเสี่ยวเอ้อจ้องมองเขา

ในความว่างเปล่าเขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากพลัง เข่าของเขางอเล็กน้อยจากนั้นพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าเหมือนกับธนูไฟ เขากางแขน ร่างหมุนไม่หยุด

พลังงานที่บ้าคลั่งบินเข้าหาฝ่ามือทั้งสองของเขาอย่างบ้าคลั่ง

เสี่ยวเอ้อหมุนปั่นขึ้นไปและกางแขนทั้งสองพร้อมกับมีสายคาดแสงสองสาย ความเร็วของเขาเพิ่มมากขึ้นทุกที เมื่อเขาเตรียมจะบินเข้าหาร่ม เขาเปลี่ยนสภาพเป็นลูกธนูแสงตรง

ปัง!

ธนูแสงเข้าไปในด้ามร่มและความสว่างของดวงดาวบนร่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงดาวบนร่มสว่างเหมือนกับดวงดาวไร้ขอบเขตนับไม่ถ้วน มองเห็นเป็นเนบิวลาดวงดาวน้อยใหญ่จำนวนนับล้านดึงดูดความสนใจจากทุกคน

ดวงดาวบนร่มเริ่มหมุนโคจรช้าๆ  จากนั้นแสงร่มเบาบาง และมีกลิ่นที่รุนแรงทันที

เสี่ยวเอ้อถือร่มลอยตัวขึ้นไปในอากาศเงียบๆ

ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนก้มศีรษะลงมองดูอย่างว่างเปล่า

ปัง ปัง ปัง

ร่างของทุกคนล้มลงกับพื้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พวกเขาตกตะลึงการกระทำที่กล้าหาญของเสี่ยวเอ้อ รวมทั้งถังเทียนด้วย

เจ้าตัวเล็กนี่... เก่งจริงๆ...

ทำไมข้าถึงไม่ตระหนักมาก่อนเสี่ยวเอ้อไม่ได้โง่จริงๆ...

เทียบกับถังเทียนใบหน้าของคนอื่นตกใจกันหมด และกลัวสุดขีด พวกเขาไม่เคยเห็นวิชาต่อสู้ที่บ้าระห่ำและน่ากลัวอย่างนั้นมาก่อน

หิมะร่วงกราวลงมาจากด้านบนตกลงมาเป็นจำนวนมาก  แต่แสงจากร่มที่เบาบางไม่ขยับหวั่นไหวเลย

“อี๊ อี๊ อี๊!”

เสียงร้องแหลมของหยาหยาดังขึ้นทำลายความเงียบ ถังเทียนตกใจสะดุ้งคว้าหยาหยาที่กำลังจับผมเขาอยู่ทันที  เขามองหยาหยาแล้วหัวเราะจนท้องแข็งทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า, หยาหยา เจ้ามันน่าสงสารเหลือเกิน

หินเล็กก้อนหนึ่งฝังลึกอยู่ในก้นของหยาหยา  ก้นหยาหยาแต่เดิมค่อนข้างเจ้าเนื้อเหมือนวุ้นเยลลี่ แต่ตอนนี้มีก้อนหินฝังอยู่ก้อนหนึ่งคล้ายหมุดที่ปักลงแม้แต่เนื้อรอบก้อนหิน ถูกกดแบนอย่างชัดเจน ไม่ว่ามองมุมไหนก็ดูตลกทุกครั้ง

เมื่อได้ยินถังเทียนหัวเราะอย่างไม่เกรงใจหยาหยากระวนกระวายใจทันที มันส่ายก้นอยู่หน้าถังเทียนไม่ยอมหยุดพยายามให้ถึงเทียนช่วยดึงหินออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า หยาหยานี่เขาเรียกว่ามีความแข็งแม้ในความอ่อนหยุ่น และยังเรียกว่าตูดดอกไม้หรือลักยิ้มติดตูด  คนอื่นยังมีลักยิ้มที่แก้มกันเลย  หยาหยามีลักยิ้มที่ตูด..ก๊ากๆๆๆ”ลุงเป็นอีกคนหนึ่งที่หัวเราะไม่ยอมหยุด

ถังเทียนหัวเราะจนน้ำตาไหล แต่เขายังคงพยายามยืนขึ้นและจับหยาหยาเตือนมันในขณะเดียวกัน  “ถ้าเจ้าบังอาจผายลมตอนนี้  ข้าจะฆ่าเจ้าแน่”

ก้นหยาหยาเป็นเนื้อไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงที่ใด ถังเทียนพบมีดสมบัติเล่มหนึ่ง คิดจะใช้แคะหินออก  แต่เขาไม่มีเครื่องมืออื่นอยู่ในมือของเขาและไม่สามารถใช้เครื่องมือที่เขามีได้

คาดไม่ถึงเลยว่าไม่ว่าถังเทียนจะใช้แรงมากเพียงไหน หินก็ติดอยู่ที่ก้นของหยาหยาแน่น ไม่ว่าจะแงะยังไงก็ตามเขาก็แงะไม่ออก ถังเทียนรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่ว่าเขาจะใช้แรงยังไงก็ตาม  เป๊าะมีดในมือของเขาหัก

ถังเทียนตะลึง  ปิงที่กำลังพ่นควันบุหรี่สะดุ้งเช่นกัน

แม้ว่ามีดจะเป็นแค่เพียงสมบัติชั้นทองแดง  แต่มันก็คืออาวุธสมบัติ  เป็นธรรมดาที่ถังเทียนสามารถทำมันพังได้  แต่มันพังเพราะก้อนหิน นั่นไม่ใช่เรื่องธรรมดา

ปิงวิ่งเข้ามาและพูดด้วยความประหลาดใจ  “ไม่ธรรมดาแล้ว  หยาหยา เจ้ามีโชคลาภมหาศาลแล้ว  หินก้อนนี้ดูเหมือนจะพิเศษ”

ถังเทียนเรียกติงเฉินเข้ามา  “เจ้าเคยเห็นหินแบบนี้บ้างไหม?”

ติงเฉินมองดูใกล้ๆ  มันเป็นแค่ชิ้นหินสีดำ  มันมีสีฟ้าเป็นระลอกเมื่อยามสัมผัสให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก  เขาส่ายศีรษะ “นายท่าน ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”

เขาเพิ่งเห็นมันเมื่อหยาหยาถูกหินซัดใส่และกล่าว  “เรียนนายท่าน  หินนี้ไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน  มันไม่แตกสลายเป็นฝุ่นในคลื่นพลังเย็น  ข้าน้อยไม่เคยได้ยินมาก่อน  สมบัติระดับทองและที่ต่ำกว่าลงมา เมื่ออยู่ในคลื่นพลังเย็นจะสลายป่นเป็นธุลีหมด เศษหินที่สามารถทนต่อแรงกระแทกปะทะคลื่นพลังเย็นได้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน”

ถังเทียนผายมือ  “หยาหยา เจ้าได้สมบัติไปแล้วนะ!  โอวไม่ ข้าผิดไปแล้วเจ้าเป็นผู้ที่สมบัติเลือกไว้แล้ว!  มิน่าเล่า หยาหยาของเรา  โชคดีขนาดนี้ไม่มีใครเทียบได้เลยนะ”

หยาหยาเบะปากนอนลงกับพื้นโก่งก้นเหมือนกับหนอนกระดืบ  ตามีน้ำตานองมองถังเทียนอย่างน่าสงสาร

เมื่อเห็นสีหน้าของหยาหยา  ถังเทียนรู้สึกเห็นใจมันจากนั้นเขาดึงธงเล็กที่เหน็บอยู่ก้นของหยาหยาออก และบังหินเอาไว้ได้

“เอาล่ะ แค่นี้ก็บังอยู่แล้ว เฮ้ เฮ้เป็นลูกผู้ชายหน่อย เจ้าจะมาทำท้อแท้เพราะมีลักยิ้มที่ตูดเล็กๆ น้อยๆ ได้ไง  ขุนพลวิญญาณน้อยของหนุ่มชาวฟ้า  กะอีแค่หินก้อนเล็ก มันจะเอาชนะเจ้าได้ยังไง?”

หยาหยาเปลี่ยนอารมณ์จากร้องไห้มาหัวเราะได้มันโดดลงจากพื้นแล้วกระโดดไปตามผนังน้ำแข็ง เหมือนกับกระรอก ในพริบตาเดียวมันกระโดดสูงขึ้นไปเท่าจุดที่เสี่ยวเอ้ออยู่

หยาหยาหันก้นและส่ายอวดเสี่ยวเอ้อให้เห็นเครื่องประดับชิ้นใหม่ของมัน

เสี่ยวเอ้อชำเลืองมองเย็นชาจากนั้นกลับสู่สีหน้าเฉยชาอีกครา

ทุกคนค่อยๆ รู้สึกตัวจากอาการตกใจเสียงหวีดหวิวบนศีรษะยังคงดำเนินต่อไป แต่เพราะแยกจากน้ำแข็งและหิมะหนา จึงไม่น่ากลัวขนาดนั้นอีก

รังสีแสงจากร่มดวงดาวยิงลงมาจากข้างบนเหมือนกับท้องฟ้ายามราตรีเต็มไปด้วยดวงดาว มันสว่างจนน่าทึ่ง

ปิงเรียกติงเฉินเข้ามา  “ข้าขอถามอะไรสักอย่าง”

ติงเฉินพูดอย่างรวดเร็ว  “เชิญถามได้เลยนายท่าน!”

“ข้าได้ยินเรื่องระลอกพลังงานของพื้นที่สนามต่อสู้ปรากฏขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ เจ้ารู้อะไรบ้างหรือเปล่า?” ปิงถามเสียงเบา

“มีเรื่องเช่นนี้แน่”  ติงเฉินตั้งใจทันที  เขาพูดอย่างจริงจัง“เรื่องนี้เกิดขึ้นที่สำนักส่วนใน  ทุกๆช่วงเวลาหนึ่งจะมีระลอกคลื่นประหลาด ทุกคนพูดกันว่าเจ้าสำนักมีของพิเศษบางอย่าง  แต่ไม่มีใครเคยเห็นอะไร  การรักษาความปลอดภัยในสำนักส่วนในแน่นหนามากซึ่งศิษย์ชั้นนอกไม่สามารถเข้าไปได้”

ปิงรู้สึกว่างเปล่าไปชั่วขณะ  ใจของเขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์  “รอเดี๋ยว เจ้าพูดบางอย่างเกี่ยวกับศิษย์ชั้นในและศิษย์ชั้นนอกได้ไหม?”

ติงเฉินอธิบาย  “ศิษย์ในสำนักแบ่งออกเป็นสามกลุ่มคือศิษย์ส่วนตัว, ศิษย์ชั้นในและศิษย์ชั้นนอก ศิษย์ชั้นนอกจะประจำค่ายฝึกฝนด้านนอกซึ่งพวกเขาจะพาออกไปเรียนรู้และฝึกฝนขั้นพื้นฐาน ค่ายฝึกฝนน้ำแข็งดึกดำบรรพ์ของเราเป็นค่ายส่วนนอกที่สำคัญที่สุด”

ซึ่งก็หมายความว่าระลอกไม่มีอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”  ใบหน้าของปิงมีอาการตะลึง

สนามฝึกฝนของศิษย์ชั้นในอยู่ไกลจากที่นี่มากมายนัก” ติงเฉินอธิบาย

บุหรี่หล่นลงพื้นทันที เขาตะลึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด