ตอนที่แล้วตอนที่ 478 วายร้ายหลังฉาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 480 เอาตามนั้น!

ตอนที่ 479 ผู้อาวุโสอัน


“ถังเทียนมาได้เร็วนัก  โชคเขาดีจริงๆ”

คนที่พูดอายุราวสามสิบปี ตาของเขาลึกมีแววถือดีแม้ยามที่เขายิ้ม ก็ไม่ได้รู้สึกอบอุ่นใจแต่อย่างใด นักสู้ที่นั่งอยู่ด้านล่างเขาได้แต่เงียบด้วยความกลัว

เขามองดูทุกคนและพูดอย่างเฉื่อยชา“ใครบอกข้าได้บ้าง ทำไมเจ็ดดาวเหนือถึงได้ถูกผนึกในปีนั้น?”

เจ้าเมืองดูบีตอบด้วยความเคารพ “ผู้อาวุโสอันราวๆ แปดพันปีที่แล้ว การต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างสำนักพญาหมีและนักสู้ชาวต่างถิ่นรุนแรงขึ้นทุกวัน  ผลของการต่อสู้ที่รุนแรงดุเดือดในเจ็ดดาวเหนือเป็นเหตุให้พลังดวงดาวปั่นป่วนขนาดที่ประตูดวงดาวหายไปดังนั้นเจ็ดดาวเหนือจึงผนึกตัวเอง แต่หลังจากผ่านไป 500 หลังสงคราม ทั้งสองฝ่ายทำสัญญากันชาวพญาหมีอยู่ด้านตะวันออกของสันเขา ขณะที่เมืองเจ็ดดาวเหนือถูกสร้างทางด้านตะวันตก”

“ใช่แล้วดังนั้นพวกเจ้าเป็นพลเมืองโบราณกันทุกคนที่ต้องสูญเสียไปมากต้องไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”  ผู้อาวุโสอันถอนหายใจ  “และข้าได้ยินมาว่าแนวสันเขาด้านตะวันออกพลังดวงดาวหนาแน่นมาก สถานที่ดีๆ แบบนั้นถูกพวกป่าเถื่อนฉกฉวยเอาเปรียบนับว่าเสียเปล่าจริงๆ ผนึกของเจ็ดดาวเหนือมีมาแปดพันปีแล้วและพลังดวงดาวในนี้ก็หนาแน่นมาก เกือบเทียบได้กับสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาและสำหรับเซียนชั้นบรอนซ์ มันคือสวรรค์จริงๆ เพราะทุกคนจะได้ใช้พลังฝึกฝน”

มีคนนั่งอยู่ด้านล่างแปดคนนอจากเจ้าเมืองดูบีแล้ว ยังมีนักสู้ชั้นเซียนอีกหกคน  พวกเขายังคงเงียบอยู่  แต่ใจของพวกเขากระตือรือร้นมาก

สำหรับนักสู้ชั้นเซียนการอาศัยกฎธรรมชาติและเพื่อให้สนามพลังวิญญาณก้าวหน้าจำเป็นต้องอาศัยพลังดวงดาวและต้องได้มากเสียด้วย กลุ่มดาวธรรมดาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้  นั่นคือสาเหตุทำให้นักสู้ระดับเซียนชอบกลุ่มดาวระดับระนาบสุริยุปราคาและไม่ยินดีจะอยู่ในกลุ่มดาวที่เล็กกว่าเนื่องจากพลังดวงดาวเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด

“เดิมทีข้าคิดว่าก่อนที่ถังเทียนจะบุกรุกเข้ามา ทุกคนจะสามารถปักหลักที่นี่ได้  แต่ใครกันจะรู้ว่าเจ้าเด็กถังมาได้ไวนักเกินกว่าที่พวกเราคาดเอาไว้ ข้ามาที่นี่เพื่อบอกทุกคน ในเวลาไม่ช้านี้สมาพันธ์ชาวยุทธจะถอนตัวออกจากเจ็ดดาวเหนือทั้งหมด”

ด้วยการพูดเพียงเท่านั้นกลับกลายเป็นเรื่องฮือฮา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพวกเจ้าเมืองพากันตื่นตระหนกกันทั้งหมด  พวกเขาทรยศฉีกสัญญา  และการแก้แค้นของสำนักพญาหมีรุนแรงมาก  แม้ว่าคนป่าเถื่อนจะไม่มีปฏิกิริยามากนักกับโลกภายนอก  แต่เมื่อพวกเขาตระหนัก  ก็จะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก

ผู้อาวุโสอันยิ้ม และทุกคนสงบใจได้ทันที

“ทางสมาพันธ์ไม่เต็มใจจะร่วมทำศึกกับเจ้าเด็กน้อยถังในตอนนี้  พลังของเจ้าเด็กถังยังน้อยนิด แต่ระดับการคุกคามนั้นอยู่ในระดับสูงและสิ่งที่สมาพันธ์กังวลไม่ใช่ถังเทียนแต่เป็นราชสีห์ ข้าคือผู้อาวุโสของสมาพันธ์ชาวยุทธ จำเป็นต้องปฏิบัติตามนโยบายของสมาพันธ์”สีหน้าของผู้อาวุโสอันสงบ

ยิ่งผู้อาวุโสอันพูดอย่างใจเย็น  ทุกคนก็ยิ่งเงียบมากขึ้น  แม้ว่าผู้อาวุโสอันจะอายุยังน้อย  แต่เขาได้รับความเคารพ และมีอำนาจมาก

“แม้ว่าจะมีแต่เพียงเจ้าเมืองดูบีปรากฏตัววันนี้  แต่อีกหกเจ้าเมืองมีใจเป็นหนึ่งและยังมีเจ็ดเซียนนักสู้ที่อาสาเข้ามาใหม่ พวกเจ้ามีนักสู้ชั้นเซียนรวมแล้ว 13 คน ไม่ว่าถังเทียนจะแข็งแกร่งเพียงใดเขาไม่สามารถรับมือพวกท่านได้ทุกคน แม้ว่าถังเทียนจะไม่อาจดูแคลนได้ แต่พวกเจ้ามีใครอ่อนแอบ้าง?ข้าจะบอกไว้เลยว่าทั้งสองฝ่ายพอๆ กัน นอกจากนี้เรายังมีเจ้าหมีบ้านั่นเรายังสามารถใช้ประโยชน์ได้”

เจ้าเมืองดูบีพูดด้วยความเคารพ  “ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะชี้แนะหนทางที่ถูก”

“ข้าได้ยินว่าหลิงซิ่วพากุมารีศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักพญาหมีไปยังแนวเขา”  ผู้อาวุโสอันยิ้ม  “เราแค่ต้องฆ่าพวกเขาในระหว่างทางใครจะรู้ว่าเราฉีกสัญญา? ประตูดวงดาวอยู่ที่เมืองอัลเคดถังเทียนมันบ้าและเหลวไหลและเจ้าเมืองอัลเคดสาบานจะปกป้องเจ็ดดาวเหนือ  ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงสู้รบกันอย่างดุเดือด กุมารีศักดิ์สิทธิ์หนีไปได้แต่ถูกหลิงซิ่วฆ่า เมื่อข้าไปถึง กุมารีศักดิ์สิทธิ์ก็ตายแล้ว  ดังนั้นวิธีเดียวก็คือล้างแค้นให้กุมารีศักดิ์สิทธิ์และฆ่าเจ้านั่นซะ”

ทุกคนนัยน์ตาเป็นประกาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าเมืองดูบีเขายิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น เขารู้นิสัยของคนสำนักพญาหมีดี ถ้าพวกเขาสามารถฆ่าหลิงซิ่วและกุมารีศักดิ์สิทธิ์ได้  สำนักพญาหมีจะต่อสู้กับถังเทียนจนตายแน่นอน

“ใครจะรู้  ทั้งสองฝ่ายอาจเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่ายมากจนทุกคนที่นี่สามารถดำเนินการตอบโต้ได้ และยึดกลุ่มดาวหมีใหญ่ไว้”  ผู้อาวุโสอันหัวเราะเบาๆ อย่างสงบและใจเย็น

เมื่อเห็นว่าเซียนนักสู้สองสามคนเริ่มจะมีความลังเล  สีหน้าของผู้อาวุโสอันเคร่งขรึมทันที

การพูดคุยปรึกษาค่อยๆสงบลงขณะที่ทุกคนมองดูเขา

“นี่จะต่างจากสิ่งที่เราได้วางแผนไว้แต่เดิมแต่ของอะไรในโลกจะได้มาโดยไม่ต่อสู้ด้วยมือของเราเองบ้าง?  บางครั้งแม้มีโอกาสสู้ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆถ้าไม่ใช่เพราะกองทัพของเยี่ยนหย่งเลี่ยล้มเหลว พวกเจ้าคิดว่าจะมีโอกาสเช่นนี้หรือ?”

เมื่อพูดเช่นนั้นเซียนนักสู้พากันตื่นเต้นทุกคน

“ผู้คนภายนอกคิดว่าเยี่ยนหย่งเลี่ยกำลังสู้กับกลุ่มดาวนายพราน  แต่น้อยคนนักจะได้รู้ เทียบกับเจ็ดดาวเหนือแล้วกลุ่มดาวนายพรานจะมีอะไร? ถ้าไม่ใช่เพราะกองทัพพญาหมีตายและพ่ายแพ้สวรรค์จะส่งโอกาสดีเช่นนั้นมาไว้ในมือพวกเจ้าได้อย่างไร?”  สีหน้าของผู้อาวุโสอันเย็นชา

เซียนนักสู้คนหนึ่งยืนขึ้นและคารวะ “เราจะจดจำความกรุณาของท่านผู้อาวุโสตลอดไป  ถ้าท่านมีอะไรให้เราช่วยเมื่อถึงเวลาโปรดบอกเราได้ไม่ต้องเกรงใจ”

หน้าของผู้อาวุโสอันผ่อนคลายและยิ้ม“ถ้าพวกเจ้าทุกคนสามารถหยุดถังเทียนให้ข้าได้ นั่นจะช่วยได้มากมายที่สุด การสูญเสียกลุ่มดาวหมีใหญ่สร้างแรงกดดันให้ข้ามหาศาล  ถ้าพวกเจ้าสามารถโค่นกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้ข้าจะขอรางวัลให้พวกเจ้าทุกคน”

ทุกคนเข้าใจทุกอย่างที่เขาพูด

หัวใจพวกเขาอดประหลาดใจไม่ได้  ความจริงถังเทียนไม่อาจถูกประเมินต่ำไปจนทำให้ผู้อาวุโสอันรู้สึกกดดัน  พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีคนไปสู้กับถังเทียน  ด้วยแผนการร้ายของผู้อาวุโสอัน ถ้าเป็นไปได้ด้วยดีแล้วพวกเขาก็แค่นั่งบนภูดูเสือกัดกัน

และด้วยนักสู้ชั้นเซียนทั้งสิบสามคนไม่ว่าถังเทียนจะแข็งแกร่งเพียงไหน ก็ไม่ง่ายที่จะจัดการพวกเขา

พวกเขาสบายใจ เนื่องจากพวกเขาไม่รู้เหตุผลที่ผู้อาวุโสอันช่วยพวกเขาสู้เพื่อกลุ่มเจ็ดดาวเหนือ

ผู้อาวุโสอันมองดูสีหน้าพวกเขาอย่างใจเย็น

เมื่อการประชุมเสร็จสิ้น  พวกเซียนนักสู้และเจ้าเมืองทุกคนต่างออกไป  พวกเขาจำเป็นต้องปรึกษาถึงวิธีการดำเนินตามแผน

จนกระทั่งดึก เจ้าเมืองดูบีจึงกลับไป

“กำลังใจของทุกคนเป็นยังไงบ้าง?”  ผู้อาวุโสอันยิ้มขณะรินชาให้เจ้าเมืองดูบี

เจ้าเมืองดูบีกำลังเป็นที่โปรดปรานของผู้อาวุโสอันเขารายงานทันที “ทุกคนจดจำคำพูดท่านผู้อาวุโสขึ้นใจ”

ผู้อาวุโสอันมีท่าทางพอใจ และกล่าว  “เมื่อสิบปีที่แล้ว เมื่อข้าค้นดูบันทึกโบราณบังเอิญข้าไปสะดุดกับความเป็นไปได้ที่ทำให้เจ็ดดาวเหนือถูกผนึกไว้และคาดเดาว่าอาจมีอารยธรรมโบราณที่ยังเฟื่องฟูอยู่ภายใน หลังจากนั้นมีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อข้าคิดถึงข่าวลือลับบนกลุ่มดาวแกะว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งนักสู้กลุ่มดาวหมีใช้วิทยายุทธที่สาบสูญของสำนักพญาหมีจากนั้นข้าติดตามเบาะแสนั้นและพบสถานที่ซึ่งคนผู้นั้นปรากฏทีแรกและด้วยความพยายามบางอย่างข้าพบรอยแยก”

“ตอนแรกข้าพยายามหาวัตถุซึ่งมีแนวโน้มว่าจะอยู่ในมือของสำนักพญาหมี  ไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะพวกเขาได้แต่เผอิญเกิดสงครามเสียก่อนและเดิมทีข้าต้องการใช้ดาบของเยี่ยนหย่งเลี่ยเอาชนะพวกเขา  แต่ข้าคาดไม่ถึงว่าเขาน่าผิดหวังนัก  ตอนนี้ถังเทียนอยู่ที่นี่และในเงื่อนไขของข้า เขาก็คือดาบที่คมยิ่งกว่า ถ้าเขาไม่คมพอ เขาจะสามารถตัดกระดูกของสำนักพญาหมีได้ยังไง”

“ผู้อาวุโสฉลาดมีแผนการที่น่าทึ่งจริง!”  เจ้าเมืองดูบีแสดงความเห็นทันที

“ถ้าเจ้าทำได้ดีหลังจากนี้เจ้าจะได้ติดตามอยู่ข้างตัวข้า” ผู้อาวุโสอันให้กำลังใจเจ้าเมืองดูบี เขาตบไหล่เขาเบาๆ

เจ้าเมืองดูบีตื่นเต้น  เขาคุกเข่าทันทีและรีบกล่าว“ขอบคุณอาจารย์ที่สอนสั่งข้า”

“เมื่อถังเทียนเห็นสมาพันธ์ชาวยุทธ  ปฏิกิริยาของเขาจะรุนแรง”  ผู้อาวุโสอันหัวเราะ  สายตาเขาเต็มไปด้วยแววเยือกเย็น “ในตอนนี้เราต้องกระตุ้นยุแหย่สำนักพญาหมีสักหน่อยและพวกเขาทั้งสองฝ่ายจะได้เริ่มทำสงครามกัน ตราบใดที่พวกเขาสู้กัน พวกเขาก็ไม่มีทางหันหลังกลับ ดังนั้นจุดที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ ต้องฆ่าหลิงซิ่วเดี๋ยวนี้”

“ผู้อาวุโสสบายใจได้!”  เจ้าเมืองดูบีตอบทันที  “เจ้าเมืองสามคนออกติดตามพวกเขาไปอย่างกระชั้นชิดไม่ว่ายังไงก็ตาม เราจะไม่ปล่อยให้พวกเขากลับไปที่สันเขานั่นทั้งเป็น”

“มีเจ้าคอยนำพาทุกอย่างข้าปล่อยเรื่องที่เหลือได้ง่ายๆ”  ผู้อาวุโสอันหัวเราะ  เจ้าเมืองดูบีแทบกระดูกอ่อนเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“เอาล่ะตอนนี้ข้าจะออกไปก่อน!  ข้าจะรอฟังข่าวดีของเจ้า”  ผู้อาวุโสอันลุกขึ้นยืน

เมื่อออกจากเมืองดูบีนักสู้ของสมาพันธ์ชาวยุทธคนหนึ่งถาม “ผู้อาวุโส, เราจะไปจากกลุ่มเจ็ดดาวเหนือหรือ?”

เขาคือคนที่สู้กับจิ่งหาวเซียนนักสู้ที่ถูกจิ่งหาวตัดแขนขวา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“ใช่แล้ว”ผู้อาวุโสอันหัวเราะ “ไม่เพียงแต่เรากำลังจะถอนกำลังเท่านั้นข้าได้เขียนจดหมายรายงานข้อมูลการแตกหักของจิ่งหาว  แม้ว่าเขาจะไม่ยอมรับสมาพันธ์ชาวยุทธแต่ที่สำคัญเรามาจากที่เดียวกัน ข้าไม่ต้องการกลายเป็นศัตรูของเขาและหวังว่าเขาจะทำได้ดีที่สุด”

นักสู้ที่มีแขนเดียวตกตะลึง  “นายท่าน, ทำไม...”

“ภูตกระบี่  เขาสร้างภูตกระบี่ขึ้นมาได้  ตราบใดที่เขาไม่ตายเขาจะกลายเป็นกระบี่ที่คมที่สุดในโลก” สายตาของผู้อาวุโสอันเต็มไปด้วยความหลงใหลและเขาพึมพำ  “แม้ว่าเราจะไม่สามารถโน้มน้าวถังเทียนได้  แต่เราสามารถโน้มน้าวจิ่งหาว  เพราะความซื่อสัตย์ของเขาและคนที่ซื่อสัตย์จะรับมือได้ดีที่สุด ถ้าถังเทียนอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย ข้าเชื่อว่าจิ่งหาวคงยินดีจะเอาตัวเองเข้าแลกกับความปลอดภัยของถังเทียน  กลุ่มเจ็ดดาวยังจะมีค่าอะไร? แล้วไงเล่าถ้าพวกเขามีเซียนนักสู้เหล่านี้?  สำนักพญาหมีอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังเทียนไม่ว่ายังไงเราสามารถทอนกำลังเขาช้าๆ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าคนระดับกลางๆจะเอาชนะถังเทียนได้ เพราะข้ามีความอดทนพอ”

หัวใจของนักสู้แขนเดียวรู้สึกสะท้าน

ผู้อาวุโสอันพูดต่อ “เดิมทีข้าสนใจเจ็ดดาวเหนือเพราะของที่อยู่ในมือของสำนักพญาหมี  แต่ตอนนี้ข้ายอมปล่อยวางเพื่ออนาคตไม่ว่ามันจะทรงพลังเพียงไหน จะเทียบกับจิ่งหาวในอีกสิบปีข้างหน้าได้อย่างไร? ถ้าเรามีจิ่งหาวยอดฝีมือกระบี่ที่ไม่เหมือนใครในโลก  ใครจะหยุดข้าได้?อาจารย์ของจิ่งหาวขัดสนมาโดยตลอดแต่ถ้าข้าให้พวกเขาได้ลิ้มรสชาติสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้สำเร็จ  พวกเขาจะไม่หวั่นไหวหรือ เจ้ารู้ไหมบางครั้งอารมณ์ของมนุษย์ก็เหมือนกับตาข่ายไม่ง่ายที่จะดิ้นรนหลุดรอดไปได้”

เขาหันหน้าไปมองนักสู้นั้นและยิ้มให้  “กี่คนแล้วที่สามารถทิ้งครอบครัวและสหายตนเองได้?  สิ่งที่ข้าทำได้คือค่อยๆ ผูกข่ายช้าๆเมื่อเวลามาถึงไม่เพียงแต่ตาข่ายจะล้อมตัวเขาเท่านั้น  แต่มันจะส่งเขามาให้ข้าด้วย”

“ทะ...ท่าน...”นักสู้แขนเดียวตกใจ  สีหน้าของเขาตกตะลึง

บนอกของเขามีประกายแสงสายหนึ่ง ขณะที่มันค่อยๆกลืนเขาทั้งร่าง ร่างของเขาเป็นเหมือนน้ำแข็งอย่างต่อเนื่อง เขาหวาดกลัวสุดขีด

“อาเสียง,เจ้าต้องช่วยข้า ช่วยให้ข้าได้อาวุธพิเศษที่คมกริบไม่มีใดเทียบนี้!” ผู้อาวุโสอันมองดูใบหน้าของนักสู้ที่หวาดกลัวและขอร้อง

แสงรังสีกลืนทั้งใบหน้าที่หวาดกลัวและในวินาทีต่อมา ไม่มีอะไรเหลืออยู่

ผู้อาวุโสอันรั้งสายตากลับมา จากนั้นพึมพำ“ส่งคำพูดออกไป เพราะข้าไม่ยินดีเป็นศัตรูกับจิ่งหาวผู้หนักแน่นและซื่อสัตย์อาเสียงโกรธและทำร้ายข้า  ทำให้ข้าตอบโต้พลั้งมือไปโดยมิได้เจตนาแต่เขาได้รับบาดเจ็บมิอาจเยียวยาได้ ข้าเสียใจและตำหนิตนเองอย่างสุดซึ้ง จำไว้ฝังเขาให้ดี ปลอบโยนตระกูลของเขาด้วย”

ร่างเลือนรางร่างหนึ่งปรากฏตัวอยู่ด้านข้างเขาในพริบตา

“อาเสียงหลังจากงานศพของเจ้า ข้าจะจุดธูปรำลึกถึงเจ้า”

ผู้อาวุโสอันพึมพำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด