ตอนที่แล้วตอนที่ 15-4 กำลังพลมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-6 ปราสาททรายโบราณ

ตอนที่ 15-5 เจตจำนงของดาบ


ทั่วทั้งสนามรบตกอยู่ในความเงียบ

เทพชั้นสูงสิบกว่าคนถูกฆ่าตายในการฟันครั้งเดียวนี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงจริงๆ

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”  ลินลี่ย์เบิกตาจ้องดู“แม้ว่าจะเป็นพลังโจมตีวิญญาณ อย่างมากก็โจมตีได้คนเดียว เทพชั้นสูงสิบกว่าคนหล่นลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกันได้อย่างไร?  ก่อนนี้เกิดอะไรขึ้น?”  ตอนนี้ลินลี่ย์นึกเสียดาย

เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เห็นดาบโจมตีนั้น

“หนี!”

“หนี!”

ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่โผล่ออกมาจากศพเทพชั้นสูงทั้งแปดเริ่มหนีไปทุกทิศทางอย่างหวาดผวา  หลังจากได้เห็นประจักษ์ถึงพลังกระบี่นั้น  ไม่มีใครในพวกเขากล้าอยู่สู้อีก

“ทรงพลังเกินไป น่ากลัวเกินไป”

เทพชั้นสูงเหล่านี้ตอนนี้พวกเขากลัวตายจริงๆ

“หนี?”แลร์มองต์มองดูร่างแยกทั้งแปดอย่างใจเย็น รอยยิ้มเย็นชาปรากฏอยู่ที่ริมฝีปากของเขา

ทันใดนั้น...

เขาชักดาบของเขา!

ในทันทีนั้นเงารัศมีดาบดำแปดสายตัดฝ่าอากาศอย่างต่อเนื่องโจมตีใส่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังหนีไปในตำแหน่งต่างๆแปดร่าง ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดยังคงเคลื่อนต่อไปแต่ร่างของเขาถูกตัดขาดและร่วงลงจากท้องฟ้า

โลหิตสาดกระจายในอากาศทุกที่

“ดาบนั่น!”  ม่านตาของลินลี่ย์หดลีบและในใจของเขาเริ่มไตร่ตรองถึงดาบนั้นอย่างต่อเนื่อง

นั่นคือดาบที่น่ากลัวและไร้ต่อต้านจริงๆ!

ในใจของลินลี่ย์รูปภาพดาบผุดขึ้นมาผ่านวาบไปอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้า นั่นคือดาบไวซึ่งมีเจตจำนงของภูเขาไฟระเบิด  ในทันทีที่ดาบถูกชักออกมาพลังของวิชาก็สำเร็จปลดปล่อยพลังระเบิดออกไปนั่นคือพลังที่ไม่สามารถป้องกันได้ ที่ใดก็ตามที่เงาดาบผ่านไปการทำลายล้างจะตามไปด้วย

“นี่คือวิถีทำลายล้างหรือ?”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะทันที  “ดูเหมือนจะไม่ใช่ มันเหมือนกับ...”

ในใจของเขาลินลี่ย์พยายามแยกแยะการโจมตีนั้นในระดับที่ลึกขึ้น และวิเคราะห์มากขึ้น  ด้วยความเข้าใจส่วนย่อยที่เขาได้รับความสงสัยเขามีมากขึ้นเช่นกัน

ตอนนี้,หัวหน้ากลุ่มโจรนี้ บุรุษชุดแดงร่างกายกำยำหนีไปนานแล้วตอนที่เขาส่งเสียงให้สู้และฆ่า แต่มีแค่บริวารของเขาเท่านั้นเข้าโจมตี เขาเองอยู่รั้งด้านหลังไม่บุกเข้าโจมตีแม้แต่น้อย  เมื่อเขาเห็นดาบวิถีทำลายล้าง  เขาตัดสินใจเลือกทันที....

หนี!

“ช่างเป็นคนน่ากลัวเหลือเกิน  ดาบนั้นสามารถฆ่าเทพชั้นสูงได้เกินกว่าสิบคน”  ใจของบุรุษชุดแดงเต็มไปด้วยความหวาดผวา  “ถ้าข้าช้าไปเล็กน้อยเป็นไปได้ว่าข้าคงจะถูกฆ่าโดยอสูรผู้น่ากลัวเช่นกัน เจ้าเฒ่าสองคนนี้เชิญอสูรทรงพลังอย่างนั้นมาได้ยังไง?”

ตาของบุรุษชุดแดงหรี่แคบ  “นักสู้อสูรผู้นี้น่ากลัวมาก  ดูเหมือนว่าครั้งนี้เราจำเป็นต้องเชิญอาจารย์ของคุณชายเรา ท่านวายุลงมาคลี่คลายปัญหาด้วยตนเอง

“ฮึ่ม” บุรุษชุดแดงชำเลืองกลับไป “เจ้าโง่พวกนี้คิดเงินกับข้าไวโอนาซจะทำเงินได้ง่ายๆ หรือ?  พวกเขาสามารถหาเงินได้  แต่พวกเขาไม่สามารถใช้เงินได้ โชคไม่ดีเทพชั้นสูงสิบสองคนที่คุณชายให้มาเป็นบริวารข้าตายเรียบ”

บุรุษชุดแดงก็คือไวโอนาซหนึ่งในบริวารของอินนิโก

สำหรับพวกกองโจรไวโอนาซใช้เงินเชื้อเชิญโจรกลุ่มใหญ่ต่างๆ ให้มารวมตัวเป็นกลุ่มเดียวกัน  ที่สำคัญไวโอนาซนำสิบสองเทพชั้นสูงขณะที่องค์กรโจรอื่นรวมกันทั้งหมดมีเทพชั้นสูงอยู่เพียงเจ็ดหรือแปดคน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวโอนาซมอบเงินจำนวนมหาศาลให้พวกเขา

กลุ่มโจรพวกนี้จึงรวมตัวกันได้เป็นธรรมดา  ในตอนนี้พวกเขาร่วมกองกำลังวางกำลังเป็นสองสามกลุ่ม

“ข้าจำเป็นต้องรีบนำเด็กน้อยกลับไปแจ้งข่าวคุณชาย”  ไวโอนาซบินกลับไปที่พักของเขาทันที

ด้วยร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สองร่างที่อยู่ในสองตำแหน่งทิศทาง  การติดต่อกันทำได้เร็วมาก  อินนิโกจึงสามารถติดตามสถานการณ์ของอสูรโลหะที่ลินลี่ย์โดยสารได้

หลังจากหัวหน้าโจรถูกสังหารและโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากดาบโจมตีของแลร์มองต์ พวกโจรทั้งหมดสูญเสียกำลังใจและเริ่มหนีไปทุกทิศทาง  ทันใดนั้น..ไม่เหลือกลุ่มโจรเลยแม้แต่กลุ่มเดียว

“พวกมันหนีได้รวดเร็วจริงๆ!”  บีบีแค่นเสียง

“แลร์มองต์ผู้นี้...” แม้แต่ซาโลมอนก็ตกใจฝีมือของแลร์มองต์ที่ยืนอยู่ในอากาศ หน้าของแลร์มองต์เย็นชาและเยือกเย็นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนว่าสำหรับแลร์มองต์การต่อสู้แบบนี้เล็กน้อยไม่มีอะไร

“ลินลี่ย์?” เดเลียเรียกเขาเบาๆ

แต่ตอนนี้ลินลี่ย์หมกมุ่นอยู่ในโลกของตัวเองสิ้นเชิง  เนื่องจากเขายังไตร่ตรองถึงพลังกระบี่โจมตีที่ประหลาด  เขาจะสังเกตว่าเดเลียเรียกได้ยังไง?

“เฮ้, เกิดอะไรขึ้นกับพี่ใหญ่?” บีบีสังเกตว่าลินลี่ย์ดูเหมือนจะแปลกไปเช่นกัน  นีซที่อยู่ใกล้ๆ หัวเราะ  “บีบี, อาจเป็นได้ว่าพี่ใหญ่เจ้ากลัวจนซึมเซาเพราะกระบี่ของท่านแลร์มองต์หรือเปล่า?”  นีซตั้งใจล้อ

บีบีจ้องมองนาง  “เจ้าจะรู้อะไร?  บางทีพี่ใหญ่ข้ากำลังรู้แจ้ง”

ขณะนั้นเองลินลี่ย์กลับมาตื่นตัวเต็มที่อีกครั้ง

“ลินลี่ย์!เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” เดเลียรู้สึกว่าสีหน้าท่าทางของลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาด

“ข้าไม่เป็นไร” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและหัวเราะ “เมื่อครู่นี้ข้ากำลังคิดเรื่องบางอย่าง ข้าคิดว่าจะทำให้ข้าก้าวหน้าได้ แต่ข้าผิดไป” ลินลี่ย์ชำเลืองมองแลร์มองต์ที่อยู่ห่างออกไป  ตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและมึนงง  “ดาบนั่น...”

ลินลี่ย์ก็เป็นผู้ใช้ดาบใหญ่และวิญญาณของเขาก็เป็นรูปดาบ

เกี่ยวกับเจตจำนงของดาบตัวของเขาเองก็รู้เช่นกัน

“ข้าเพิ่งจะรู้พื้นฐานแก่นธาตุไฟและแม้ว่าจะไม่ถึงขั้นเป็นเทพ แต่ส่วนใหญ่ข้าเข้าใจผิด” ลินลี่ย์ยังคงหยุดนิ่งคิดถึงแปดดาบโจมตีที่ไวราวกับสายฟ้านั้นเนื่องจากระดับปัจจุบันลินลี่ย์ไม่มีความสามารถเห็นเคล็ดความรู้ลึกลับของดาบนั้นได้

ซาโลมอนที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะและกล่าว “ลินลี่ย์, เจ้าตกใจกับพลังดาบของท่านแลร์มองต์หรือ?  แน่นอนว่าพลังดาบโจมตีของท่านแลร์มองต์ที่เพิ่งใช้ออกไปเป็นวิถีทำลายล้างระดับสูง”

“วิถีทำลายล้าง?”  ลินลี่ย์เลิกคิ้ว

“อะไรกัน, เจ้าไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของวิถีทำลายล้างหรือ?”ซาโลมอนถาม

“ข้ารู้สึกได้” ลินลี่ย์กล่าว แต่ไม่พูดต่อ

“ถ้าลินลี่ย์รู้สึกได้ทำไมเขาถึงประหลาดใจเล่า?” ซาโลมอนค่อนข้างงง แต่เขาไม่พูดออกมา

ทันใดนั้นอสูรผู้โชคดีรอดชีวิตทุกคนมุ่งมาทางแลร์มองต์กันหมดรวมทั้งชายชราผมขาวเขาดำ ในไม่ช้าก็มีอสูรรวมๆ อยู่รอบตัวเขาห้าสิบกว่าคน

ชายชราผมขาวเขาดำและชายชราผมขาวเขาสีขาวมองดูกันเองมีแววกังวลใจอยู่ในสายตาของเขา พวกเขาเริ่มคาดเดาเหตุผล.. ที่โจรมากมายรุมเล่นงานพวกเขา  ต้องเข้าใจไว้ว่าโดยทั่วไปเมื่อพวกเขาพบว่ามีอสูรมากมายพวกเขาจะไม่โจมตี

ชายชราเขาดำพูดขึ้นดัง  “ทุกคน,ข้าไม่คาดเลยว่าเราจะเผชิญกับการโจมตีของโจรมากมายขนาดนี้ในการเดินทางครั้งนี้  ข้าเสียใจจริงๆ ในช่วงเวลาสั้นๆนี้อสูรมากกว่าหกสิบคนต้องตายไปต้องขอบคุณท่านแลร์มองต์และพี่น้องเอ็ดเวิร์ดที่อยู่ที่นี่...”

“เมื่อเราไปถึงเมืองบลูเมเปิลเราจะเพิ่มเงินค่าตอบแทนให้กับพวกท่าน”

ชายชราเขาดำกล่าวและจากนั้นประกายแสงสีทองวาบขึ้นขณะที่อสูรโลหะปรากฏตัวในกลางอากาศอีกครั้ง อย่างไรก็ตามอสูรโลหะในตอนนี้มีขนาดที่เล็กกว่าเดิมอย่างชัดเจน

เหล่านักสู้อสูรค่อยมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง  พวกเขาเข้าไปในอสูรโลหะ

ทันทีนั้นอสูรโลหะมุ่งหน้าไปต่ออีกครั้ง นักสู้อสูรใช้ชีวิตอยู่บนคมหอกคมดาบอยู่แล้ว  อสูรเหล่านี้ผู้ใช้ชีวิตมานับปีไม่ถ้วนเพียงแต่ต้องการใช้ชีวิตอย่างตื่นเต้นมากขึ้นและเข้าถึงระดับพลังสุดยอดของแดนนรก

ใช่แล้วตายเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่ต้องการพบเจอ และเมื่อพวกเขาเผชิญกับอันตรายใดๆ  พวกเขาจะไม่สามารถต้านทานได้ พวกอสูรจะหนี

แต่เมื่อความตายมาถึงจริงๆ  พวกเขาจะไม่กลัว

ที่สำคัญตั้งแต่พวกเขากลายเป็นอสูร  ทุกคนจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับรับภารกิจนั้นด้วย!

“ผู้เฒ่าเขาดำยังมีมโนธรรมอยู่บ้าง  เขารู้ว่าเขาควรจะเพิ่มค่าตอบแทนให้เรา”  บีบีแค่นเสียง “ข้ายังคงมีความรู้สึกว่าภารกิจคุ้มกันนี้ไม่ง่ายเลย”

ลินลี่ย์พยักหน้าเช่นกัน  “ใช่แล้ว เพียงแต่เมื่อเรารับภารกิจแล้วสิ่งที่เราสังเกตได้ก็คือมีอสูรหนึ่งดาวและอสูรสองดาวสมัครเข้าภารกิจมากกว่าร้อยคน  ใครจะคาดคิดกันว่า...จะมีอสูรสี่ดาวอสูรห้าดาวและแม้กระทั่งอสูรหกดาวเข้าร่วมภารกิจด้วย!  ลินลี่ย์เข้าใจว่าภารกิจของกลุ่มแบบนี้จะถูกแบ่งแยกเป็นส่วนที่ต่างกัน

นี่คล้ายกับการต่อสู้ที่ปราสาททะเลสาบจันทรา

กลุ่มของลินลี่ย์ผิดชอบในการกำจัดนักรบชุดทอง ขณะที่อสูรที่เป็นเทพชั้นสูงรับหน้าที่จัดการนักรบชุดดำพร้อมกับเจ้าปราสาทด้วย

ภารกิจนี้เกี่ยวกับอสูรหกดาวถือว่าไม่ใช่งานง่ายๆ

“ทุกท่าน, ขึ้นยานโดยสารได้แล้ว  มีอะไรยังจะต้องคิดอีก?”  ซาโลมอนส่ายศีรษะ  “ถ้าเป็นแค่ตอนนี้ เมื่อเผชิญกับการโจมตีของโจรการฉวยโอกาสหนีคงเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้ แต่ตอนนี้ เราขึ้นยานโลหะได้แล้ว ถ้าเราต้องการจากไปและถอยไปเดี๋ยวนี้ การออกไปคราวนี้ เราจะเสียหน้า”

สยองหวาด ขลาด กลัว

พวกเขาได้แต่หัวเราะแก้เก้อ

“ทุกคน ฝึกอย่างสงบเถอะ”  ลินลี่ย์พูดจริงจัง  “ไม่ว่ายังไง ถ้าเราเผชิญกับศัตรูเป้าหมายแรกไม่ใช่เรา แต่เป็นชายชราเขาดำและชายชราเขาขาว  เราแค่ต้องฝึกฝนหนักเพื่อปกป้องตนเอง”

ลินลี่ย์ไม่มีความตั้งใจจะปกป้องลูกค้าของเขา  ที่สำคัญ...

ผู้อาวุโสทั้งสองนี้เป็นเทพชั้นสูงทั้งคู่  ขณะที่ลินลี่ย์เองเป็นแค่เทพแท้

“ใช่แล้ว”

ทุกคนพยักหน้าและจากนั้นแยกย้ายกันไปที่ห้องของตนเองและเริ่มฝึก ในห้องนี้เหลือแต่เพียงลินลี่ย์กับเดเลียเหลืออยู่

“ข้าสงสัยว่าทำไมผู้เฒ่าทั้งสองคนนั้นถึงได้เลือกเราเหล่าเทพแท้เข้าร่วมภารกิจ”  ลินลี่ย์ยังเต็มไปด้วยความสับสน  “ช่างเถอะ ปกป้องเดเลียและบีบีก็พอแล้ว”  ลินลี่ย์มองดูเดเลียและจากหลับตาเริ่มการฝึก

“ข้าหวังว่าในช่วงเวลาสั้นข้าจะสามารถบรรลุผ่านคอขวดสัจธรรมแห่งความเร็วนี้ได้  วิธีนั้นข้าจะสามารถปกป้องพวกเราได้ดีมากขึ้น”  ลินลี่ย์รำพึงในใจเงียบๆ

เมืองเรดออร์คิดภายในลานว่างของโรงแรม

อินนิโกได้รับข่าวที่ส่งมาจากไวโอนาซบริวารของเขา  เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ “ข้าไม่คาดเลยว่าเจ้าเฒ่าทั้งสองจะเชิญอสูรที่ทรงพลังมาได้ การฝึกปรือวิถีทำลายล้างได้ระดับนั้นก็หมายความว่าเขาอาจจะเป็นอสูรห้าดาวหรือหกดาวก็ได้”

อินนิโกไม่กล้าคาดคิดว่าจะเป็นอสูรเจ็ดดาว

นี่เป็นเพราะอสูรเจ็ดดาวเป็นสุดยอดฝีมือที่มีชื่อเป็นของตนเอง  พวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเงินทองและพวกเขาเป็นกลุ่มสุดยอดในระดับนักสู้ของอสูร โดยทั่วไปพวกเขาจะไม่รับภารกิจง่ายๆ

“อินนิโก” ชายชราชุดเขียวปรากฏอยู่ในลานว่างอีกครั้ง

อินนิโกเมื่อเห็นคนผู้นี้ก็ยืนขึ้นและพูดด้วยความเคารพทันที  “อาจารย์,ผลการปฏิบัติภารกิจของไวโอนาซเป็นที่รู้ดีกันแล้ว...” อินนิโกบอกผลของการต่อสู้และรายละเอียดกับอาจารย์ของเขาทันที

ชายชราชุดเขียวขมวดคิ้ว“โอว? การฝึกในสายวิถีทำลายล้าง และฆ่าเทพชั้นสูงสิบคนในดาบเดียวน่ะหรือ?  พลังอย่างนี้ยากจะต่อต้านจริงๆ”  ชายชราชุดเขียวแม้ว่าจะค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับพลังของฝ่ายตรงข้าม  แต่ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าสิ้นหวัง

“อาจารย์, ท่านรู้สึกมั่นใจไหม?”  อินนิโกพูดเบาๆ

ชายชราชุดเขียวพูดเบาๆ“ตั้งแต่เขายอมรับภารกิจ อย่างนั้นอสูรนี้ไม่น่าจะใช่อสูรเจ็ดดาว ในเมื่อเขายังเป็นอสูรหกดาว...ข้าน่าจะเอาชนะเขาได้ อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับพลังของดาบโจมตีที่เจ้าอธิบายถึง  พลังโจมตีที่อสูรนั้นใช้ทรงพลังมาก  ข้าไม่สามารถรับได้โดยตรง”

“ไม่จำเป็นต้องให้เขาเผชิญกับอาจารย์โดยตรง  ท่านแค่ต้องฆ่าตาแก่สองคนนั้นเท่านั้น”อินนิโกรีบกล่าว

ชายชราชุดเขียวพยักหน้าเล็กน้อย  “ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าก็มีความมั่นใจ  ข้าแค่จำเป็นต้องแยกอสูรออกไปช่วงเวลาหนึ่ง”

“อย่างนั้นข้าขอฝากทุกอย่างไว้กับท่าน  อาจารย์”

ชายชราชุดเขียวหัวเราะอย่างสงบ

ลินลี่ย์อยู่ในห้องของเขายังคงฝึกต่อจนเกือบปี

หือ?“  ลินลี่ย์ลืมตา ”ทำไมข้าจู่ๆ ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล่า?”

เพราะเหตุผลบางอย่างลินลี่ย์รู้สึกมีความกระวนกระวายบางอย่างในใจ ลินลี่ย์สูดหายใจลึก และสงบความรู้สึกของตนทันที

เดเลียลืมตาเช่นกัน  “ลินลี่ย์!เกิดอะไรขึ้น?”

ลินลี่ย์มองผ่านหน้าต่างออกไปข้างนอก  “ไม่มีอะไร, เพียงแต่ขณะที่ข้ากำลังฝึก ข้ารู้สึกใจข้ามีความอึดอัดขึ้นมาด้วยเหตุผลบางอย่าง”  ตอนนี้พื้นที่ข้างอสูรโลหะเป็นทะเลทรายกว้างไกล  ลมพัดทรายรุนแรงจนปลิวขึ้นมาในท้องฟ้า

อสูรโลหะยังคงบินต่อไปด้วยความเร็วสูง

“เจ้าก็รู้สึกได้เช่นกันหรือ?”  เดเลียพูดอย่างประหลาดใจ  “ข้าก็รู้สึกอึดอัดเช่นกัน”

ขณะนั้นเองอสูรโลหะถูกทรายสีเหลืองปกคลุมอย่างสิ้นเชิง เดิมทีนักสู้อสูรที่อยู่ในอสูรโลหะไม่สนใจเรื่องทราย  แต่... พอจู่ๆ อสูรโลหะถูกปกคลุมด้วยทรายในพริบตาทั่วทั้งอสูรโลหะ...

“บึ้ม!!!!”

ฉีกกระจายเป็นเสี่ยง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด