ตอนที่แล้วตอนที่ 15-2 บาดเจ็บล้มตายกันมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-4 กำลังพลมาก

ตอนที่ 15-3 ตรวจสอบ


ลินลี่ย์ซาโลมอนและคนอื่นหายไปจากโต๊ะกลมทันที และมาปรากฏตัวที่หน้าต่างใส  พวกเขามองผ่านหน้าต่างกระจกใส....

ในกลางอากาศมีเงาร่างหลายร้อยยืนนิ่งกับที่ผู้นำของเขาร่างสูงโปร่งผมสีเทา แต่หน้าของเขาเป็นใบหน้าของบุรุษหนุ่มสง่างามดูเหมือนเขาจะเป็นบุรุษหนุ่มและสะพายกระบี่อยู่ที่หลัง

“สะพายกระบี่เล่มหนึ่งอยู่ที่หลัง?”  ลินลี่ย์งง

ในแดนนรกมียอดฝีมือน้อยมากที่จะพกอาวุธไว้บนร่างกายพวกเขา  ส่วนใหญ่จะเก็บอาวุธไว้ในแหวนมิติเก็บสมบัติ

“มีเทพชั้นสูงมากมาย!” หน้าของบุรุษหนุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที ขณะที่ผู้นำของกลุ่มโจรที่มีชื่อเสียงในรัศมีล้านกิโลเมตร  เขารู้ว่าขบวนไหนสามารถปล้นได้ ขบวนใดปล้นไม่ได้

“หัวหน้า!เราจะโจมตีไหม?” เทพคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของเขาพูดขึ้นเบาๆ

บุรุษหนุ่มรูปงามหันควับมาอย่างไม่ลังเล  “โจมตี? สมองเจ้ามีปัญหาแน่  ทุกคน, ถอย!”  ทันใดนั้นโจรหลายร้อยถอยไปด้วยความเร็วสูงทันที

ขณะที่อสูรโลหะไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อยยังคงมุ่งไปตามทางข้างหน้า

ภายในอสูรโลหะ

กลุ่มของลินลี่ย์กลับไปนั่งที่เดิมของตน  ขณะที่ซาโลมอนหัวเราะอย่างใจเย็น  “ดูเหมือนว่าข้าจะกังวลมากไปสักเล็กน้อย  โจรเหล่านั้นขี้ขลาดมากกว่าที่ข้าคิดไว้มากมายนัก คนพวกนั้นหนีไปก่อนที่คนของเราจะออกไปข้างนอกเสียอีก

ลินลี่ย์หัวเราะเช่นกัน

แต่ขณะนั้นเขารู้สึกตกใจมากจริงๆ

เมื่อซาโลมอนพูดว่ามีการใช้สำนึกเทพตรวจสอบแต่เขาเองตรวจไม่พบอะไร ก็หมายความว่าคนตรวจสอบเป็นเทพชั้นสูงคนหนึ่ง  สำหรับลินลี่ย์เทพชั้นสูงคือคนที่ต้องระวังไว้

“ท่านซาโลมอน” เดเลียหัวเราะ  “ไม่ต้องกังวลมากไป ไม่ว่าโจรจะแข็งแกร่งเท่าใดแต่อสูรโลหะของเรามีท่านแลร์มองต์มาด้วยใช่ไหม? มีเขาอยู่ด้วยไม่จำเป็นต้องกังวล” เดเลียไม่กังวลจนเกินไป

ซาโลมอนพยักหน้าเห็นด้วย

“เดเลีย!  เจ้าพูดอย่างนั้นไม่ได้นะ”  ลินลี่ย์กล่าว

“เหรอ?” เดเลียมองดูลินลี่ย์

ลินลี่ย์เตือน “กลุ่มโจรทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเทพแท้ขึ้นไป กล่าวโดยทั่วไปกลุ่มโจรที่มีเทพแท้จะเป็นกลุ่มอยู่ในแนวบน  ถ้ามีกลุ่มโจรที่ทรงพลังอำนาจมากเพราะมีเทพชั้นสูงอยู่หลายคน อย่างนั้นจำนวนของเทพแท้ในกลุ่มนั้นก็ยังคงมีมากมายเป็นกลุ่มใหญ่อีกด้วย”

ซาโลมอนและเดเลียพยักหน้าทั้งคู่

พวกเขาทุกคนเห็นว่ากลุ่มโจรมีเทพชั้นสูงอยู่คนหนึ่ง  แต่มีเทพอื่นๆ อีกหลายร้อย

“ถ้าพวกเขาโจมตีเราจริงๆ ความจริงเราไม่จำเป็นต้องกลัวยอดฝีมือในกลุ่มนั้น  เนื่องจากท่านแลร์มองต์และคนอื่นๆ จะจัดการกับเขาได้  แต่ด้วยกองกำลังของศัตรูที่มีเป็นจำนวนมาก เราอาจจะต้องเผชิญกับการผนึกพลังโจมตีของเทพแท้” ลินลี่ย์ถอนหายใจ  “ที่สำคัญ เรามีเทพแท้ราวๆ ร้อยคน”

เดเลียจึงได้ตระหนักเรื่องนี้

ถ้าพวกเขาเข้าไปในกลุ่มการสู้รบที่ยุ่งเหยิงจริงๆ  ตอนนั้นจะมีสักกี่คนที่ท่านแลร์มองต์ฆ่าได้เอง?  และแม้ว่าเขาจะสามารถช่วยลินลี่ย์และคนอื่นๆได้แต่บางทีเขาอาจจะไม่สนใจก็ได้

พวกเขาไม่ใช่ครอบครัวหรือสหายทำไมจะต้องช่วยพวกเขา?

“ดูเหมือนว่าเราระวังตัวเองไว้เป็นดีที่สุด”  ลินลี่ย์กล่าว

“พี่ใหญ่, พวกท่านคุยกันเรื่องอะไร?”  บีบีและนีซเดินเข้ามาด้วยกัน

เมื่อลินลี่ย์เห็นบีบีกับนีซเขาอดหัวเราะไม่ได้  “บีบี,ข้าเห็นว่าเจ้ากับนีซดูคล้ายกันจริงๆ”

“อะไรนะ?” บีบีมองดูสับสน และจากนั้นจึงค่อยเข้าใจลักษณะที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา  “โอว, ข้าเข้าใจแล้ว  พี่ใหญ่ ท่านก็พบว่าท่านและเดเลียก็ดูค่อนข้างคล้ายกันใช่ไหม?”

ลินลี่ย์สะดุ้ง  เขาได้แต่มองเดเลียอย่างช่วยไม่ได้

สามีและภรรยาย่อมมีราศีที่คล้ายกันบ้างเป็นธรรมดา

“นี่ก็เป็นอย่างที่รู้กันว่า ‘คู่รักมีกลิ่นอายที่คล้ายกัน’ดังนั้นนีซและข้าค่อนข้างคล้ายกัน” ตาของบีบีเป็นประกายขณะที่เขามองดูนีซ “นีซ! ข้าพูดถูกหรือเปล่า?”

นีซแค่นเสียง  แต่ตาของนางมีแววดีใจ

ลินลี่ย์และซาโลมอนมองตากันเองจากนั้นหัวเราะ  บีบีและนีซ..ดูเหมือนเป็นไปได้ว่าทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกัน

…………… . .

การเดินทางของอสูรโลหะเป็นไปด้วยความเงียบสงบ กลุ่มของลินลี่ย์ใช้เวลาทั้งหมดกับการฝึกฝน แม้ว่าเมืองรอยัลวิงและจุดหมายปลายทางเมืองบลูเมเปิลอยู่ห่างกันถึงสี่พันล้านกิโลเมตรนั่นเป็นการเดินทางเป็นเส้นตรง อย่างไรก็ตามกลุ่มของลินลี่ย์ไม่ได้เดินทางเป็นเส้นตรง  พวกเขาต้องหลีกเลี่ยงพื้นที่อันตราย

พริบตาเดียวผ่านไปอีกสี่ปี  ในห้องลินลี่ย์และเดเลีย

“เฮ้อ” ลินลี่ย์ลืมตา

เดเลียดูเหมือนจะรู้สึกได้และนางลืมตาเช่นกัน  “ลินลี่ย์,ทำไมเจ้าหยุดฝึกเสียเล่า?”

“เดเลีย, ข้ามาถึงคอขวดในการฝึกฝน ‘สัจธรรมแห่งความเร็ว’ ของธาตุลมแล้ว”ลินลี่ย์พูดด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

“คอขวด? เป็นไปได้ยังไง?” เดเลียตกใจอย่างหนัก

กล่าวโดยทั่วไปหลังจากฝึกจนถึงที่สุดอาการคอขวดจะปรากฏเมื่อผู้ฝึกฝึกฝนในเคล็ดลึกลับของกฎธาตุระหว่างช่วงแรกและช่วงกลาง ผู้ฝึกอาจจะชะลอช้าลงได้ แต่เขาจะยังไม่เผชิญกับอาการคอขวดใดๆ

“ลินลี่ย์,ครั้งล่าสุดเจ้าบอกว่าเจ้าต้องใช้เวลาอีกยี่สิบหรือสามสิบปีจึงจะหลอมรวมได้ไม่ใช่หรือ?”  เดเลียถาม

“เดเลีย เมื่อสี่ปีที่แล้วข้าคาดว่าข้าต้องการเวลาอีกยี่สิบปีก่อนจะติดระดับคอขวดและจากนั้นอีกสองปีข้าจะสามารถผ่านคอขวดของเคล็ดวิชาลึกลับได้!” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและหัวเราะ “แต่ข้าคาดผิด เคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะเข้าใจได้ง่าย  ข้าคิดว่าในอนาคตข้าจะฝึกได้ยากขึ้น”

“ข้าไม่ได้ฝึกด้าน ‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ แยกกัน ข้าเทียบความแตกต่างแต่ละด้านและฝึกแต่ละด้านพร้อมกัน

“ตอนแรกเป็นความจริงที่ว่าข้าต้องการเวลามากขึ้น แต่ขณะที่ข้าฝึกในขั้นต่อมาและเทียบความแตกต่างตรงกันข้ามและวิเคราะห์ไปด้วยความเร็วในการก้าวหน้าของข้าเพิ่มขึ้นจริงๆ ด้านเร็วและด้านช้าคือเส้นทางที่คล้ายกันที่แยกออกไปในตำแหน่งตรงกันข้ามและยิ่งเจ้าเดินไปตามเส้นทางมากเข้า ระยะทางก็จะมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อถึงระยะหนึ่ง ทั้งสองด้านจะเริ่มใกล้ชิดบรรจบกันมากขึ้นขณะที่เจ้าเทียบความแตกต่างกัน เส้นทางสองเส้นจะเริ่มใกล้เข้าๆและตอนนี้ข้าก็มาถึงระดับสุดท้ายของการหลอมรวมเข้าด้วยกัน”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ  “เพียงแต่ข้าติดอยู่ที่คอขวดของการฝึกฝนนี้อยู่”

เดเลียเริ่มเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดา

ในฐานะเทพแท้ธาตุลมเดเลียยังคงฝึกในเคล็ดลึกลับด้านเร็วและด้านช้าด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามเดเลียไม่สามารถหลอมรวมทั้งสองด้านนี้ได้ทั้งนางก็ไม่เข้าใจว่าเคล็ดความรู้ลึกลับด้านเร็วและด้านช้าที่ตรงกันข้ามนี้จะสามารถหลอมรวมกันได้อย่างไร

“มาเถอะ, ไปหาอะไรกินกันเถอะ”  ลินลี่ย์ไม่พยายามฝืนต่อไปเมื่อถึงระดับคอขวด เขาจะผ่อนคลายก่อนแล้วค่อยฝึกต่อไป

“สำนึกเทพอื่นหรือ?”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้วทันที

ตอนนี้สำนึกเทพแท้กวาดผ่านไปทั่วอสูรโลหะ

เดเลียหัวเราะ  “ในระหว่างทางเราได้พบกับการตรวจสอบมากมาย แม้ว่าพวกเทพแท้จะกล้าใช้สำนึกเทพตรวจสอบเราก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาอาจจะพบว่าเราอ่อนแอมาก พวกเขาจะออกมาและปล้นเราทันที”

“ช่างพวกเขาเถอะ” ลินลี่ย์รู้สึกหงุดหงิดไปกับกลุ่มโจรพวกนี้ด้วยเช่นกัน

คนในอสูรโลหะกลายเป็นคุ้นเคยกับสำนึกเทพตรวจสอบของพวกโจรเหล่านี้  พวกเขาไม่ให้ความสนใจโจรพวกนี้ ที่สำคัญพวกเขารู้ว่า..ถ้าพวกเขาออกจากอสูรโลหะเพื่อโจมตีพวกโจร บางทีพวกเขาอาจตามจับพวกโจรนั้นไม่ทัน

วันนี้มีสำนึกเทพตรวจสอบของเทพชั้นสูงผ่านเข้ามาในอสูรโลหะ

แต่นักสู้อสูรภายในอสูรโลหะยังคงดื่มฝึก พูดคุยกันอยู่ ไม่มีใครสนใจ

“ทุกคน, แยกย้ายกัน!”

บุรุษผมหยิกขาวนำบริวารนับร้อยบินหนีและถอยเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาด้านล่าง

“ควั่บ!” อสูรโลหะไม่ชะลอความเร็วแม้แต่น้อยหายลับไปในขอบฟ้า

แต่ลึกไปในหุบเขา

“ติ๋ง ติ๋ง....”

น้ำไหลอยู่ในลำธารซอกเขา

“หลังจากรอมาหลายปีในที่สุดข้าก็พบเจ้าจนได้” บุรุษผมหยิกขาวยืนอยู่เหลือน้ำ ด้านหลังเขาเป็นบุรุษชุดดำร่างกำยำยืนอยู่ด้วยความเคารพ

“ไฮด์!”  บุรุษหนุ่มผมขาวพูดเย็นชา

“ขอรับท่าน” บุรุษชุดดำคำนับ

บุรุษหนุ่มผมขาวพูดอย่างจริงจัง“แจ้งคุณชายอินนิโกทันที บอกเขาว่าพบกลุ่มที่มีสหายเก่าสองคนอยู่ข้างในนั้นแล้วตราบใดที่คุณชายรู้ว่าอสูรโลหะผ่านที่ของเราไปเขาจะตัดสินใจได้ง่ายว่าตำแหน่งต่อไปมันจะมุ่งหน้าไปที่ไหน”

“ขอรับ, ท่าน”

บุรุษชุดดำพยักหน้าเล็กน้อย

หลายร้อยล้านกิโลเมตรห่างจากจุดที่บุรุษหนุ่มผมขาวอยู่ในเมืองเรดออร์คิด มีโรงแรมแห่งหนึ่งสั่งจองไว้โดยกลุ่มคนร้อยคน

ในลานว่างในโรงแรมยังมีบุรุษหนุ่มผมยาวสีแดงดูท่าทางชั่วร้ายนั่งอยู่บนเก้าอี้กำลังพลิกดูตำราเล่มใหญ่  บ่าวที่อยู่ใกล้ๆ เรียนด้วยความเคารพ  “คุณชาย, ไฮด์รอพบท่านอยู่ข้างนอกขอรับ”

“ไฮด์?” บุรุษหนุ่มผมแดงขมวดคิ้ว “ไฮด์คือใคร?”

“หนึ่งในผู้ส่งสารของเราขอรับ”  ผู้รับใช้กล่าวด้วยความเคารพ

ในแดนนรกปกติการส่งสารจะดำเนินการโดยคนที่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตำแหน่งต่างๆ

ตัวอย่างเช่นร่างแยกนั้นอาจอยู่ในแคว้นไนท์บลาส ขณะที่อีกร่างแยกหนึ่งอาจอยู่ในแคว้นเรนโบว์  แม้ว่าจะระยะห่างเป็นพันล้านกิโลเมตร  เนื่องจากร่างแยกทั้งสองเป็นคนเดียวกันเมื่อร่างแยกหนึ่งรู้  อีกร่างหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปพันล้านกิโลเมตรก็รู้ไปด้วย

นี่เป็นรูปแบบการสื่อสารธรรมดาในแดนนรก

“ในที่สุดเราก็พบสหายเก่าสองคนนั้นใช่ไหม?”  บุรุษหนุ่มดีใจทันที  “รีบพาเขาเข้ามา”

“ขอรับ”

บุรุษชุดดำล่ำสันซึ่งมีนามว่าไฮด์เข้ามาในลานว่างคุกเข่าข้างหนึ่งแสดงความเคารพ  “คุณชายอินนิโก,ท่านแพ็ดเก็ทสั่งให้ข้ามาแจ้งบอกคุณชายว่าอสูรโลหะที่โดยสารสหายเก่าสองคนได้ผ่านตำแหน่งของเขาไป”

“โอว์?”

อินนิโกดีใจทันทีพอเขาพลิกมือปรากฏแผนที่โดยละเอียดขนาดใหญ่อยู่บนโต๊ะ

“ส่งมาโดยแพ็ดเก็ทหรือ? อย่างนั้นดูเหมือนว่ากลุ่มที่สองคนนั้นอยู่คงจะเดินทางผ่านเทือกเขานิสวานแห่งนี้สินะ  ในเมื่อพวกเขาเลือกเส้นทางนี้  อย่างนั้นก็...”  อินนิโกจ้องมองแผนที่ หน้าของเขาปรากฏรอยยิ้ม

“ในที่สุดข่ายที่ข้ากางเอาไว้ก็พบตัวสหายเก่าทั้งสอง”

อินนิโกพยักหน้าเล็กน้อย  “ข้าไม่รู้ว่าพวกอสูรที่สองคนนั้นรับสมัครมาด้วยแข็งแกร่งเพียงไหน  ตอนนี้ข้าต้องไปตรวจสอบพวกเขาดูก่อน”

“แจ้งกลับไปที่ไวโอนัซทันที ให้เขาเตรียมกองกำลังไปอยู่ใกล้ๆแม่น้ำบูลู สหายเก่าทั้งสองจะต้องผ่านไปทางเขาแน่นอน” อินนิโกสั่งคนใช้ของเขาทันที

“ขอรับ, คุณชาย”  ผู้รับใช้รับคำและเดินออกไปทันที

ตอนนี้คนเดียวที่เหลืออยู่ในลานว่างก็คืออินนิโก

อินนิโกหรี่ตาลงเล็กน้อยและพึมพำ  “สหายเก่าสองคนนั้น พวกเขาเอาสมบัติของประมุขตระกูลของพวกเขาและหนีไปทั่วทวีปเรดบุด  พวกเขาต้องมีจุดมุ่งหมายที่สำคัญแน่”  และจากนั้นอินนิโกแค่นเสียงเย็นชา  “แต่ไม่สำคัญว่ามีจุดมุ่งหมายปลายทางยังไง  ทันทีที่ข้าได้สมบัติประหลาดที่สองคนนั้นเอาไปข้าจะได้ผลประโยชน์มากมายมหาศาล”

หน้าของอินนิโกยิ้ม

“ตระกูลบอยด์เป็นตระกูลเก่าแก่  พวกเขาจะสั่งสมสมบัติไว้มากมายเพียงไหน?”  ตาของอินนิโกเต็มไปด้วยแผนการที่วางไว้

“อินนิโก” จู่ๆ เสียงชราดังขึ้น ชายชราผมหงอกสวมชุดเขียวเข้ามาในลานว่าง

“โอว, อาจารย์” อินนิโกรีบกล่าว

ชายชราผมขาวชุดเขียวส่ายศีรษะ  “อินนิโก เจ้าพาคนมามากมายเจ้าคงต้องใช้เงินทองไปมาก  ถ้าลงท้ายแล้วเจ้าไม่ได้อะไรขึ้นมาอย่างนั้นก็คง....”

“อาจารย์” อินนิโกพูดเบาๆ  “ไม่ต้องห่วง  ถ้าข้าล้มเหลวสมบัติที่ข้าสั่งสมมาในช่วงหลายปีนี้ก็จะหมดไป แต่อย่างมากก็เท่านั้น  แต่ถ้าข้าสำเร็จเล่า  อาจารย์!  ตระกูลบอยด์ก็จบสิ้นแล้ว  แต่สหายเก่าทั้งสองยังเอาสมบัติหนีไปได้”

“สมบัติมากมายมหาศาลที่ตระกูลบอยด์ครอบครองมาหลายปี” หัวใจของอินนิโกสั่นสะท้านหลังจากแค่คิดเรื่องนี้

แต่ชายชราชุดเขียวยังคงขมวดคิ้ว  “อินนิโก, คิดดูนะ  ถ้าเจ้ามีสมบัติมากมายมหาศาลขนาดนั้น  ทำไมเจ้าถึงไม่ซ่อนตัว?  แต่กลับเชิญอสูรเหล่านั้นมาช่วยคุ้มกันแทน ดูเหมือนว่าพวกเขาตั้งใจจะกลับไปที่ทวีปเจดโฟลท”

อินนิโกหงุดหงิด“เรื่องนี้ข้าก็อยากรู้ด้วยเช่นกัน”

“ถ้าข้าอยู่ในรองเท้าของพวกเขา  ข้าคงจะหนีหายไปไกลแสนไกลนานแล้ว”  อินนิโกหัวเราะ  “อย่างไรก็ตาม อาจารย์, ไม่ว่ายังไงตอนนี้เราพบร่องรอยพวกเขาแล้ว ตราบใดที่เราฆ่าพวกเขาทั้งสองคนและยึดแหวนเก็บสมบัติของพวกเขามาได้...”

“ข้าหวังว่าเจ้าจะทำได้สำเร็จหรอกนะ”  ชายชราชุดเขียวกล่าว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด