ตอนที่แล้วข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 46 ตราประทับผสานหยินหยางศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 48 ขั้นแรกในการควบคุมหอจันทร์ทมิฬ

ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 47 เหยื่อล่อ


ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 47 เหยื่อล่อ

ฉู่เซวียนหยุดการรวมพลังวิญญาณเข้ากับกระจกหมื่นสวรรค์ หลังจากที่เขาพยายามสุ่มเชื่อมต่อมาสองสามวัน ในที่สุดเขาก็สามารถติดต่อกับยอดฝีมือคนอื่นได้

เป็นยอดฝีมือขอบเขตสูงสุดที่เรียกตนว่าตู้หยวนจากแผ่นดินซีโจว

ฉู่เซวียนได้ปลอมตัวเป็นยอดฝีมืออาวุโส ด้วยท่าทีที่สง่างามของเขาจึงทำให้อีกฝ่ายตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ฉู่เซวียนได้ติดหนึ่งในตราประทับของกระจกหมื่นสวรรค์ไว้บนร่างของตู้หยวนเพื่อให้เขาสามารถค้นหาอีกฝ่ายได้ตลอดเวลา

จากการสนทนาเมื่อครู่นี้ ฉู่เซวียนพบว่าแผ่นดินหนานโจวที่เขาอยู่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเป๋ยจากเก้าดินแดน

ตู้หยวนเองก็อยู่ในดินแดนเป๋ยเช่นกัน

ตัวเขานั้นไม่มีภูมิหลังที่น่าเกรงขามหรือขุมอำนาจใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเขาเป็นเพียงผู้พิทักษ์ของตระกูลหนึ่งที่อยู่ในแผ่นดินซีโจว

เนื่องจากเมื่อตอนเขายังเป็นเด็ก เขาได้รับความช่วยเหลือจากหัวหน้าตระกูลคนก่อน ด้วยเหตุนี้เขาจึงจำเป็นต้องปกป้องความเป็นอยู่ของตระกูลนี้

ตู้หยวนเป็นคนที่ช่างกล่าว ทว่าเขากลับไม่ได้มีความเฉลียวฉลาดหรือมีเล่ห์เหลี่ยมแบบผู้ฝึกยุทธ์อื่นๆ และด้วยลักษณะที่สง่างามของฉู่เซวียน มันทำให้เขามองว่าการโต้ตอบก่อนหน้านี้เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่

เขาเคารพฉู่เซวียนเป็นอย่างมาก

ยังเหลือตราประทับกระจกสวรรค์เหลืออยู่อีกหนึ่งอัน และฉู่เซวียนตัดสินใจที่จะใช้ตราประทับนี้อย่างระมัดระวัง

เมื่อใช้เขาตราประทับทั้งสามนี้หมดแล้ว หากเขาต้องการทำตราประทับกับเป้าหมายใหม่ เขาจำเป็นจะต้องได้ดึงหนึ่งตราประทับออก

ทว่าปัจจุบันนั้นฉู่เซวียนไม่มีความตั้งใจที่จะเรียกคืนหนึ่งในตราประทับบนตัวเหรินชางเหอหรือตัวตู้หยวน

ฉู่เซวียนวางกระจกหมื่นสวรรค์ลง เขาเตรียมที่จะกลับไปนอนที่ห้องของเขา

ทว่าทันใดนั้นเขาก็พบว่ามีใครบางคนแทรกซึมเข้ามาในอาณาเขตตระกูลฉู่

ไม่ใช่คนจากลัทธิมาร

คนผู้นี้เป็นเพียงขอบเขตวิญญาณขั้นที่สอง ทว่ากลับมีสมบัติปกปิดตัวตนและมีอาวุธวิญญาณประเภทตรวจจับบางอย่างในมือ ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นสมบัติชั้นยอดระดับสูง

แม้แต่ตระกูลฉู่ก็ยากที่จะมีสมบัติดังกล่าว

มันไม่มีทางที่คนผู้นี้จะมาจากลัทธิมาร

ดวงตาของฉู่เซวียนเป็นประกาย อาจเป็นสายลับจากหอจันทร์ทมิฬ!

เวลานี้เขาค่อนข้างรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับความจริงที่ว่าเขาไม่มีข้ารับใช้ที่มีความสามารถในการจัดการหอจันทร์ทมิฬในนามของเขาได้

ทว่าใครจะรู้ว่าสายลับจากหอจันทร์ทมิฬกลับมาเคาะถึงประตูหน้าบ้านของเขาทันที?

สายลับคนนี้มาที่นี่เพื่อตรวจสอบอาณาเขตของตระกูลฉู่เนื่องจากได้รับการว่าจ้างหรือ?

สิ่งนี้ได้รับการว่าจ้างจากหนึ่งในผู้นำของลัทธิมารหรือ?

ฉู่เซวียนรู้สึกสับสน มีบางอย่างผิดปกติกับสมองของผู้นำลัทธิมารเหล่านี้หรือไม่?

ทำไมคนพวกนี้ถึงได้มาตามตระกูลฉู่อยู่เรื่อย?

เป็นเพราะตระกูลฉู่เปิดโปงสายลับและทำลายแผนการของพวกเขาในตอนนั้นหรือ?

เส้าหู่กำลังตรวจสอบอาณาเขตของตระกูลฉู่อย่างรอบคอบ ทุกครั้งที่เขาปฏิบัติภารกิจ เขาจะระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก

แม้ว่าเขาจะมีสมบัติปกปิดตัวตนระดับสูง หรือการป้องกันของตระกูลฉู่ที่ค่อนข้างหละหลวม แต่เขาก็ยังจำเป็นต้องป้องกันไว้

เป้าหมายของเขาคือการบรรลุตำแหน่งเจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอด

เจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอดทุกคนนั้นล้วนได้รับเงินเดือนมากกว่าสองเท่าของเจ้าหน้าที่ข่าวลับทั่วไป และสมบัติที่พวกเขาได้รับนั้นยิ่งดีมากกว่าเสียอีก

พวกเขาเหล่านั้นมีความสุขกับทรัพยากรที่ได้รับอย่างมากมาย

ในขณะที่เขากำลังตรวจสอบอย่างรอบคอบอยู่นั้น เขาก็ยังได้เตรียมพร้อมที่จะใช้งานไข่มุกมิติหลบหนีเพื่อหลบหนีอีกด้วย

การฝึกอย่างเข้มงวดของหอจันทร์ทมิฬนั้น เจ้าหน้าที่ข่าวลับทุกคนพร้อมที่จะละทิ้งสมบัติหลบหนีของตนตลอดเวลา

พวกเขาจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตัวตนของหอจันทร์ทมิฬถึงแม้ว่าจะเสียค่าใช้จ่ายอันมหาศาลก็ตาม หากมันจำเป็นจริงๆ พวกเขาก็พร้อมทำลายตัวเองเช่นกัน!

เส้าหู่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับตระกูลฉู่ที่จะสามารถจับเขาได้หรือไม่ หากเขาถูกตรวจพบ เขาคงจะใช้ไข่มุกมิติหลบหนีเพื่อหลบหนีไปไกลแล้ว

ขณะที่เขากำลังสำรวจอาณาเขตโดยรอบ จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าผังอาณาเขตของตระกูลฉู่นั้นค่อนข้างผิดปกติ

มีต้นไม้ใหญ่ปลูกอยู่บนเนินดินเล็กๆ ?

พวกคนสังเกตุการณ์เองก็ยืนอยู่บนกิ่งไม้และมองไปรอบๆ เหมือนกับคนโง่

และสิ่งที่น่าขันยิ่งกว่านั้นก็คือพวกเขาขุดหลุมและแอบซ่อนตัวอยู่ในนั้น

ขณะที่เขากำลังเดินไปรอบๆ ก็ได้มีภูเขาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

ทันทีที่เขาเห็นภูเขาขนาดใหญ่เส้าหู่ก็ตกตะลึง

อาณาเขตตระกูลฉู่มีภูเขาขนาดใหญ่นี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!

อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติกันแน่

เขาควรจะไปดูรอบๆ หรือปีนขึ้นภูเขานี้หรือไม่?

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เส้าหู่ก็ตัดสินใจที่จะลองปีนเขานี้ดู

เขาสงสัยเป็นอย่างมากว่าเหตุใดถึงมีภูเขาลูกใหญ่นี้ในอาณาเขตตระกูลฉู่

จากที่ดูภายนอกจะเห็นได้ชัดว่าไม่มีภูเขาในอาณาเขตตระกูลฉู่

ตามข้อมูลที่ได้รับมาก็เช่นกัน อาณาเขตของตระกูลฉู่มันครอบคลุมบริเวณโดยรอบเพียงสิบสองลี้เท่านั้น

ทว่าภูเขาลูกนี้เพียงลูกเดียวก็ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าสิบสองลี้แล้ว

เขาครุ่นคิดกับตัวเองภายในใจว่ามีบางอย่างผิดปกติกับตระกูลฉู่ ทว่าเขากลับไม่สามารถตรวจสอบสิ่งผิดปกติได้ด้วยประสาทสัมผัสของเขา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ดูเหมือนว่าเขาจะตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว

ฉู่เซวียนดื่มชาของเขาและเฝ้ามองดูเส้าหู่ที่กำลังนั่งยองๆ อยู่นิ่งๆ เหมือนก้อนหินอยู่ด้านนอกบ้านและยิ้ม

ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตวิญญาณจะสามารถตรวจสอบผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตจักรพรรดิได้อย่างไร

อีกฝ่ายเชื่อว่าตนเองกำลังตรวจสอบอาณาเขตของตระกูลฉู่อยู่ ทว่าในความเป็นจริงแล้ว เขากำลังนั่งยองๆ อยู่อยู่ด้านนอกบ้านของฉู่เซวียน

ในสายตาของคนทั่วไปจะมองว่าชายคนนี้นั้นไม่ใช่คน แต่เป็นก้อนหิน

แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือในขอบเขตจริงแท้ก็ไม่สามารถรู้ความจริงได้

ฉู่เซวียนไม่ได้สนใจเกี่ยวกับจุดประสงค์เบื้องหลังของการมาเยือนของหอจันทร์ทมิฬ ตอนนี้เขากำลังตกปลาตัวใหญ่

ตามความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับกฎของหอจันทร์ทมิฬ เนื่องจากพวกเขายอมรับการว่าจ้างแล้ว พวกเขาย่อมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทำให้สำเร็จ มิฉะนั้น ชื่อเสียงของหอจันทร์ทมิฬจะเสียหายหรือความสามารถของพวกเขาอาจจะถูกตั้งคำถามได้

หากเจ้าหน้าที่ข่าวลับที่มาล้มเหลว พวกเขาจะส่งเจ้าหน้าที่ข่าวลับที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามา

หากเขาทำเช่นนี้ต่อไป ในที่สุดเขาก็จะได้ปลาตัวใหญ่ที่เขาพอใจ

เวลานี้เขาไม่จำเป็นต้องจับปลาตัวใหญ่เกินไปนัก เพราะน้ำในหอจันทร์ทมิฬนั้นไหลลึกมาก หากเขาจับปลาตัวใหญ่เกินไป เขากลัวว่าตัวเขาจะถูกลากลงไปในน้ำได้

ค่อยๆ หย่อนเบ็ดลงไปในน้ำลึกทีละขั้นทีละขั้น

สักวันเขาจะตกปลาที่ตัวใหญ่ได้ในที่สุด

ฉู่เซวียนอดทนรอให้ปลาตัวที่สองมากินเหยื่อ

สามวันผ่านไป

เจ้าหน้าที่ข่าวลับที่ส่งไปไม่ได้กลับมา

ว่านฉางขมวดคิ้ว มีบางอย่างเกิดขึ้นหรือ?

หรือตระกูลฉู่จะแสร้งทำเป็นอ่อนแอจากภายนอกซึ่งเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ข่าวลับต้องใช้เวลาตรวจสอบให้ชัดเจน?

ภารกิจของหอจันทร์ทมิฬจะต้องเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นมันจะกระทบต่อความสามารถและความแข็งแกร่งของหอจันทร์ทมิฬได้

และในฐานะของจ้าวหอจันทร์ทมิฬ ยิ่งภารกิจสำเร็จเร็วเท่าไร มันจะแสดงถึงระดับความสามารถของเขาเท่านั้น ซึ่งมันมีผลต่อโอกาสในการเลื่อนระดับของเขาโดยตรง

ดังนั้นว่านฉางจึงได้สั่งให้เส้าหู่กลับมา

ไม่ว่าภารกิจจะเสร็จหรือไม่ก็ตาม เมื่อได้รับคำสั่งแล้วก็ต้องกลับมารายงานความคืบหน้า

ผ่านไปอีกวัน

เส้าหู่ยังไม่กลับมา

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!

ว่านฉางขมวดคิ้ว ตระกูลฉู่จับตัวเส้าหู่ได้หรือ?

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอด แต่เขาก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่มือฉกาจเมื่อกล่าวถึงภารกิจลับเช่นนี้

ว่านฉางได้ส่งเจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอดไปปฏิบัติภารกิจและตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเส้าหู่ทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอดได้ลงมือ ว่านฉางก็รู้สึกผ่อนคลาย

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตระกูลฉู่ก็ไม่สามารถตรวจพบหรือจับเจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอดได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอดคนนี้จะเพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งใหม่ก็ตามที

หนึ่งวันผ่านไป เจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอดนั้นก็ยังไม่ได้กลับมารายงานข้อมูลใด ๆ

ว่านฉางเองก็ไม่รีบร้อน

เนื่องจากเหตุการณ์ของเส้าหู่ ตระกูลฉู่จะต้องระมัดระวังตัวอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงคาดว่าเจ้าหน้าที่ข่าวลับชั้นยอดจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่านี้เล็กน้อยเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ

ลูกค้าที่ซึ่งเป็นหู่ฉวนจ้าวลัทธิของลัทธิมารของแคว้นจันทราม่วงก็ได้มาเป็นการส่วนตัว

“ทางเราได้มอบหมายภารกิจให้หอจันทร์ทมิฬไปจัดการเมื่อสองสามวันก่อน เหตุใดจึงไม่มีความคืบหน้า?” หู่ฉวนถามด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง

“จ้าวลัทธิหู่ ท่านไม่ต้องกังวลไป ทางหอจันทร์ทมิฬของเรานั้นจะจัดการเรื่องนี้ให้รวดเร็วที่สุด!” ว่านฉางกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ท่านรออีกเพียงสองสามวันเท่านั้น การตรวจสอบของเราจะให้ผลลัพธ์แก่ท่านแน่นอน”

หอจันทร์ทมิฬนั้นมีสาขาอยู่ทุกหนทุกแห่ง ลูกค้าสามารถว่าจ้างหอจันทร์ทมิฬสาขาใดก็ได้ ตราบใดที่มันไม่เกินความสามารถของสาขานั้น ภารกิจก็จะถูกโอนไปยังสาขาของหอจันทร์ทมิฬในสถานที่ที่มีภารกิจ

เมื่อมีความยากของภารกิจนั้นเกินความสามารถของสาขานั้นๆ พวกระดับสูงจึงจะมีการแทรกแซงมาทำแทน

ดังนั้นหอจันทร์ทมิฬจึงเป็นที่รู้จักในประสิทธิภาพความสำเร็จมาโดยตลอด

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด