ตอนที่แล้วตอนที่ 477 เมืองอัลเคด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 479 ผู้อาวุโสอัน

ตอนที่ 478 วายร้ายหลังฉาก


ไป๋ซือซือมองดูศัตรูที่กำลังเข้ามา  นางไม่ได้เตรียมตัวมาสู้เลยแม้แต่น้อย นางมองดูถังเทียน ใจของนางยังคงงุนงง เป็นไปได้ยังไงที่คนผู้นี้ดึงดูดแต่เรื่องต่อสู้เข้ามาทุกที่ๆ เขาไป?

ถังเทียนยืนอยู่บนหอประตูเมือง ไม่สนใจนักสู้ที่กำลังแห่เข้ามาเหมือนสายฟ้า  เขาถาม “เสี่ยวเฮ่อ, บอกข้าที, เสี่ยวซิ่วซิ่วหลงรักเด็กหญิงนั้น (โลลิคอน) หรือเปล่า?”

อาเฮ่อร้อง โอว จากนั้นตอบ “วิเวียนโตขึ้นจะเป็นสาวงดงามมากแน่นอน”

“ข้าคิดว่าเชียนฮุ่ยสวยกว่าอยู่ดี!”  ถังเทียนพูดตามตรง

“ถ้าวิเวียนโตขึ้นแล้วยังงดงาม เขาจะไม่ทะเลาะกับเจ้าเพื่อแย่งเชียนฮุ่ย” อาเฮ่อพูดอย่างไม่ลังเล

“ถูกต้อง!”  ถังเทียนผงกหัว และจากนั้นโกรธขึ้นทันที “ถ้าเสี่ยวซิ่วซิ่วกล้าแตะต้องเชียนฮุ่ย รอให้เขากลับมาก่อน ข้าเล่นงานเขาแน่...”

ติงม่านตั้งข้อสังเกตในใจว่านางจะไม่รุกรานท่านอาเฮ่อในอนาคตแน่  เพราะเขาน่ากลัวเกินไป

ทันใดนั้น จิ่งหาวหน้าเปลี่ยน เขาเงยหน้ามอง “ระวังนะ มีคนจากสมาพันธ์ชาวยุทธอยู่ด้วย”

สมาพันธ์ชาวยุทธ!

หน้าของพวกเขาเปลี่ยน  เพราะคนของสมาพันธ์ชาวยุทธอยู่ที่นี่จริงๆ ใจพวกเขาสั่นสะท้านเมื่อคิดเรื่องนั้น ต่างคนต่างมองหน้ากัน ดูเหมือนว่าจะมีการสมคบคิดซ่อนอยู่เบื้องหลัง  ถังเทียนตะโกนด้วยความโกรธ “เพราะพวกสมาพันธ์ชาวยุทธบังอาจสยายกรงเล็บมายังถิ่นของข้านี่เอง  ฆ่ามันให้หมด!”

เสียงชราดังขึ้นได้ยินทั่วพื้นที่ เป็นเสียงที่แฝงด้วยพลังปราณเต็มเปี่ยม

“จิ่งหาว, สมาคมชาวยุทธดูแลเจ้าอย่างดี  แต่เราไม่คาดเลยว่าเจ้ากลับหันหลังให้เรา”

สีหน้าของจิ่งหาวเรียบเฉย  “เราเดินกันคนละทางแล้ว  ดังนั้นข้าไม่อาจร่วมงานกับท่านได้”

“ช่างเป็นข้ออ้างที่ดีเหลือเกินนะ เดินคนละเส้นทาง” ชายชราชุดขาวลอยตัวอยู่ในท้องฟ้า เสียงของเขาหนักแน่น  “อย่างนั้นเราจะดูฝีมือของเจ้า”

อาเฮ่อสังเกตดูพวกนักสู้ที่กรูเข้ามาเหมือนผึ้ง ใจของเขาคิดอย่างรวดเร็ว

การปรากฏตัวของสมาพันธ์ชาวยุทธไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เห็นได้ชัดว่าเจ็ดดาวเจ็ดเมืองเดิมทีมีข้อตกลงกับพรรคพญาหมี และเพราะหกเมืองทำลายข้อตกลงกระทันหันและฆ่าเจ้าเมืองอัลเคดเชื่อได้ว่าสมาพันธ์ชาวยุทธต้องทำอะไรบางอย่างลงไป

สำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธเพื่อให้เจ็ดดาวเกิดความแตกแยก พวกเขาต้องมีเป้าหมายอย่างแน่นอน นั่นคือรับมือกลุ่มดาวหมีใหญ่

และ...

ความหนาแน่นของเจ็ดดาวเหนือ มีสูงกว่าข้างนอกมาก นั่นหมายความว่ามาตรฐานของนักสู้มีแนวโน้มว่าไม่ต่ำทราม  เมื่อเห็นพวกเขาแล้ว  อาเฮ่อตระหนักว่ามีหลายคนมีพลังระดับนักสู้ทอง

สมาพันธ์ชาวยุทธเป็นวิญญาณที่น่ารังเกียจล่องลอยอยู่ทุกที่จริงๆ  ข้าคงเป็นตัวบัดซบแน่ถ้าพวกเขาไม่ตาย

เช้ง!

เสียงบรรเลงของไป๋ซือซือดังขึ้นมาอย่างฉับพลันทันทีใช้พลังโจมตีที่หนาวยะเยือก

แสงอาทิตย์สลัว เสียงบรรเลงครอบคลุมไปทั้งพื้นที่ นักสู้ทุกคนที่พลังปราณแท้อ่อนแอเลือดลมปราณทะลัก  พวกเขากลายสภาพเป็นเฉื่อยชาทันที

นักสู้ประเภทสายดนตรีเกิดมาเพื่ออยู่ในสนามรบ  แม้ว่าพลังโจมตีของพวกเขาจะไม่แข็งแกร่ง  แต่เมื่อมาถึงพื้นที่ซึ่งส่งผล นักสู้อื่นก็ไม่สามารถเทียบกับพวกเขาได้

นักสู้ประเภทสายดนตรีมีวิธีที่ดีที่สุดใช้จัดการกับกระสุนมนุษย์หน่วยหน้ากล้าตายทั้งหลาย

จากกลุ่มคนที่ถูกขัดขวาง มีสองสามคนที่พุ่งมาข้างหน้า มือธนูสองสามคนยิงธนูออกมาติดต่อกัน เสียงสายดีดธนูแสบแก้วหู มีแสงสิบสายส่งเสียงหวีดหวิวแหวกอากาศพุ่งตรงเข้าหาไป๋ซือซือ

ในฐานะเซียนไป๋ซือซือไม่ถูกการโจมตีดังกล่าวรบกวน มือที่ว่างเปล่าของนางดีดสายเบาๆ  และลูกธนูที่กำลังพุ่งมาหานางซึ่งกำลังจะถึงตัวนางถูกทำลายทีละนิ้วๆ เหมือนกับว่ากระทบกับโล่ล่องหนและแตกกระจายไปทุกแห่ง

ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาทุกที

“ฆ่า!”

ถังเทียนคำราม  เขาพุ่งเข้าหาแถวศัตรูเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่

เสียงพลังป้องกันแตกทำลาย  ก่อนเงาของเขาจะหายไปจากหอรบประตูเมือง  เขาปรากฏตัวที่ด้านข้างนักสู้คนหนึ่งทันที ใช้วิชาหมัดมวยพื้นฐาน เขาก็ทำลายโล่ของคู่ต่อสู้ได้ อีกฝ่ายมัวแต่ตกใจหลังจากโล่แตกทำลายเป็นเสี่ยง ถังทียนใช้อีกมือหนึ่งกดเข้าที่อกของเขา

นักสู้ผู้นั้นรู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายที่โกรธเกรี้ยวกระแทกใส่กระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว

ศัตรูที่อยู่ด้านหลังเขาคาดไม่ถึงว่าเพื่อนร่วมหน่วยเดียวของเขาจะไม่สามารถต้านทานหมัดของถังเทียนได้ และเมื่อสหายร่วมหน่วยกระเด็นเข้ามาถึง  เขาเหยียดมือรับไว้ทันที  เมื่อมือของเขาแตะตัวสหายร่วมหน่วย สีหน้าเขาเปลี่ยนทันที กร๊อบ.. ข้อมือเขาหักและร่างของสหายร่วมกลุ่มปลิวเข้าหาเขา ราวกับว่าถูกค้อนหวดฟาดอย่างแรง เขากระอักโลหิตและหมดสติทันที

การวิ่งเข้าใส่ของถังเทียนนั้นดุร้ายมาก นอกจากนี้หมัดเหล็กกลืนแสงของหยาหยาและร่มดาวหมีของเสี่ยวเอ้อยังอยู่ข้างๆ ตัวเขา หนึ่งตัวใหญ่กับสองตัวเล็ก ไม่มีใครต้านอยู่

อาเฮ่อแตกต่างจากคนอื่น  เขาเต้นเหมือนกับกระเรียนดำ ด้วยความคล่องแคล่วจนมิอาจบรรยายได้ ภาพเงาลวงตาตามหลังปรากฏขึ้นมากกมายทุกที่ ซึ่งสามารถโจมตีได้จริงๆ ไม่ว่าเงาลวงตาดำผ่านไปตรงที่ใด  ศัตรูล้วนกระเด็นจนไม่อาจยืนอยู่ได้

ในพริบตาเดียว ประตูทางเข้าด้านตะวันออกถูกถังเทียนเบิกทางได้

“เสี่ยวซิ่วซิ่ว!”

เมื่อถังเทียนตะโกน ประตูเมืองก็ระเบิดออกและบุรุษหนุ่มชุดขาวกวัดแกว่งหอกเงินขี่พาหนะอย่างหนึ่งพุ่งออกมาทันที

ม้าภูตหิมะที่หลิงซิ่วขี่นั้นแข็งแกร่งและรวดเร็วปานสายฟ้า  ด้วยการเร่งความเร็วของมัน ทันทำลายกำแพงความเร็วเสียงเร่งความเร็วผ่านประตูเมืองไป  หลิงซิ่วหนีไปไกลแล้ว

“แย่แล้ว! กุมารีศักดิ์สิทธิ์อยู่บนหลังของเขา”

“ตามจับเขา!”

ใครบางคนตะโกนและทันใดนั้นนักสู้กลุ่มใหญ่ไล่ตามออกไป

ถังเทียนจับตามองหนึ่งในคนกลุ่มนั้น สัญชาตญาณของเขาคมกล้า และเขารู้ได้ทันทีว่านั่นคือนักสู้ระดับเซียน!

เขาฉวยโอกาสจากจำนวนคนที่เล็ดรอดออกไป

อีกฝ่ายหนึ่งเดิมทีต้องการจะลอบโจมตี  แต่เขาคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะใช้กลยุทธเดินหน้าและสกัดไว้ทันที  เมื่อปล่อยให้ถังเทียนได้โจมตีก่อน  ต่อให้เป็นนักสู้ชั้นเซียน พวกเขาก็ลนลานทันที

ปัง ปัง ปัง!

หมัดของถังเทียนระดมต่อยใส่รวดเร็วราวกับสายฝน  หมัดของเขาโจมตีใส่คู่ต่อสู้โดยตรง

รังสีแตกกระจายนับไม่ถ้วนอยู่รอบๆ ตัวเขา

ไม่มีใครทันสังเกตว่าเสี่ยวเอ้อลอยเข้าไปในตัวของถังเทียนเงียบๆ

ซี่.....!

รังสีที่แตกกระจายอยู่รอบตัวถังเทียนยังคงเข้ามารวมกันเกิดเป็นพลังงานเกลียวที่หมุนด้วยความเร็วอย่างน่าประหลาดและคลุมตัวถังเทียนโดยสิ้นเชิง  ถังเทียนยืดแขนทั้งสองออก พลังงานเกลียวมารวมอยู่ที่ฝ่ามือของเขาบรรจบรวมและเปลี่ยนสภาพเป็นดอกสว่าน

เขารวบรวมพลังร่างกายของเขากระตุ้นพลังเกลียวและกระโจนใส่ศัตรูของเขา

หน้าของเขาเปลี่ยน แสงสีแดงนับไม่ถ้วนเริ่มฉายอยู่รอบๆ เขาเหมือนกับฝน และแสงทั้งหมดเข้าไปรวมอยู่ในหมัดของเขา ทำให้หมัดของกลายเป็นสีแดงจัดเหมือนกับพระอาทิตย์สองดวง

หมัดตะวันแดง!

พลังงานเกลียวที่น่าทึ่งส่งเสียงแหลมหวีดหวิว ปะทะใส่กับหมัดตะวันแดงของคู่ต่อสู้

ปัง!

รังสีแพรวพราวปะทุออกทันใด เหมือนกับพระอาทิตย์ขนาดเล็กระเบิดในใจกลางสนามต่อสู้ พลังที่น่าทึ่งทำให้นักสู้ทุกคนในระยะ 60 เมตรถูกกวาดกระเด็น

หน้าของเซียนนักสู้กลายเป็นขาวซีด เลือดไหลออกจากปากของเขา  ถังเทียนเองก็ไม่ได้ดูดีเท่าใดนัก เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาเต็มไปด้วยรูพรุน  แขนของเขามีควันขึ้น

ในช่วงที่แลกพลังโจมตีนั้น ถังเทียนฉวยโอกาสเอาเปรียบ  แต่จะเอาชนะให้ได้ก็ไม่ง่ายนัก  พลังชีวิตของเซียนแข็งแกร่งและไม่แตกดับได้ง่ายๆ

แต่ร่างดำมาปรากฏตัวอยู่ข้างเซียนบรอนซ์ผู้นั้น

อาเฮ่อ!

เซียนตะวันแดงคาดไม่ถึงว่าอาเฮ่อจะลอบโจมตี อาเฮ่อเหยียดมือทำให้เซียนตะวันแดงรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ  เขารู้สึกเหมือนกับว่าทั่งทั้งร่างตกลงไปในกาวเหนียวซึ่งหนักขึ้นทุกทีจนยากขยับตัว

สนามพลังวิญญาณอะไรกันนี่?

เซียนตะวันแดงเริ่มแตกตื่น เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับสนามพลังวิญญาณที่แปลกประหลาด อากาศรอบด้านเขาเต็มไปด้วยความเหนียวหนืดและความรู้สึกเฉื่อยชา  เขามองดูกระบี่ในมือของอาเฮ่อ สนามพลังวิญญาณของคนผู้นี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับกระบี่

ร้ายกาจนัก!

เวลานี้เขาไม่ทันสังเกตว่าหยาหยาอยู่ที่ขาของเขา

เมื่อเห็นมีโอกาส หยาหยากระโดดทันทีและปล่อยหมัด 7-8 หมัดในอึดใจเดียว พลังหมัดเหล็กกลืนแสง

อากาศและแสงรอบๆ หมัดดูเหมือนจะถูกหุ้ม เซียนตะวันแดงคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้รับความเสียหาย  แม้ว่าเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีไว้ได้  แต่พลังโจมตีที่รุนแรงก็ทำให้เขาเผยจุดอ่อนออกมา

ทันทีที่หยาหยาเคลื่อนไหว ถังเทียนก็ลงมือด้วยเช่นกัน  เมื่อเขาเผยจุดอ่อนตอนต้านรับหมัดเหล็กกลืนแสง  วิชาไม้ตายของเขาถูกใช้อย่างเงียบงัน

ความถี่ที่น่ากลัวในการกระหน่ำใส่จุดอ่อนของเซียนตะวันแดง ทำให้พลังป้องกันของเขาพังทลายย่อยยับ  และหมัดของถังเทียนกระหน่ำใส่ร่างของเขาราวกับฝนกระหน่ำ ทำให้ร่างของเขาสั่นสะท้านรุนแรงจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย

เหมือนกับกระต่ายที่ถูกเหยี่ยวจับ  เมื่อเซียนนักสู้ตาย  นักสู้ที่อยู่รอบๆ พากันกลัวตาย ชั่วเวลาต่อมาก็พากันแตกกระจายหนีหายไปกันหมด

หลิงซิ่วฉวยโอกาสเร่งความเร็ว  ร่างของเขาหายลับไปในเส้นขอบฟ้า

พอหลิงซิ่วหายไป ถังเทียนก็เพ่งการต่อสู้มากขึ้น ไม่มีใครเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้  แต่ถังเทียนกำลังพบสิ่งที่เขามองหา  ในช่วงเวลาที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อบรรลุความก้าวหน้า  แต่ไม่พบคู่ต่อสู้ที่เหมาะสม  ดังนั้นเขาจึงต้องมองหาการต่อสู้เพิ่มขึ้น  เหลียงฟงและพวกเซียนที่เหลือถูกเขาทรมานติดต่อกันจนย่ำแย่แล้ว

ความรู้สึกในสนามรบและสนามฝึกฝนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แต่ถังเทียนชอบที่จะอยู่ในสนามรบ

น่าเพลิดเพลินจะตาย!

ถังเทียนกู่ร้องและพุ่งเข้าใส่กลุ่มคน

“ภูตกระบี่!  เจ้าสร้างภูตกระบี่ได้จริงๆ!”  ผู้อาวุโสสมาพันธ์ชาวยุทธรู้สึกเหลือเชื่อ แขนของเขาหายไปข้างหนึ่ง บาดแผลของเขาตรงเรียบสมบูรณ์แบบ แม้บาดแผลจะมีโลหิตฉีดพุ่งออกมา แต่เขาก็ยังไม่รู้ตัว ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจและเหลือเชื่อ  เนื่องจากเขาตกตะลึงกับรังสีกระบี่ของจิ่งหาว

เขาเข้าใจความหมายของภูตกระบี่อย่างสมบูรณ์

สนามพลังวิญญาณที่น่ากลัวขนาดนั้นปรากฏอยู่ในร่างของคนทรยศสมาพันธ์ชาวยุทธ

ไม่มีทาง!

คนแบบนั้น  เราต้องกำจัดเขาให้ได้

ถ้าเราปล่อยให้เขาเติบโตก้าวหน้า  เขาจะเป็นอันตรายต่อสมาพันธ์ชาวยุทธทั้งหมด

เขาได้ยินพรสวรรค์ของจิ่งหาวมาแล้ว แต่มักจะหัวเราะไม่สนใจอยู่เสมอ  แต่พอได้เห็นกับตาตนเอง เขาจึงได้รู้ว่าพรสวรรค์ของจิ่งหาวที่ไม่มีใครรู้ยังแข็งแกร่งมากกว่าข่าวลืออยู่หลายเท่า และ..จิ่งหาว ถังเทียนและสหายสองสามคน ล้วนแต่ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น

เขาส่ายศีรษะและทิ้งความคิดที่ไม่จำเป็นไว้เบื้องหลัง ตั้งใจมองจิ่งหาว

ข้าไม่ยอมปล่อยให้จิ่งหาวได้เติบโตต่อไปแน่  เพราะสำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธแล้ว เขาคือหายนะ

ติงม่านวิ่งหนีอย่างสุดฝีเท้า  นางเป็นเซียนเภสัช และพลังของนางที่จะส่งผลคุกคามในสนามรบนั้นน่าสงสารมาก   นางได้แต่กลับไปส่งข้อความ เนื่องจากจิ่งหาวเปิดเผยสถานะของสมาพันธ์ชาวยุทธแล้ว  อาเฮ่อส่งติงม่านไปขอความช่วยเหลือทันที

การรบจะเข้มข้นตึงเครียดขึ้น  หลิงซิ่วขี่ม้าห้อตะบึงออกไปจากเมืองอัลเคด  แต่ยังคงมีนักสู้นับไม่ถ้วนหลั่งไหลไล่ตามเขาตั้งแต่เมืองอัลเคด

เราไม่อาจเสียเมืองอัลเคดได้!

เพราะประตูดวงดาวอยู่ในเมืองอัลเคด  เมื่อสูญเสียประตูดวงดาวไป จะเป็นภัยคุกคามกลุ่มดาวหมีใหญ่อย่างรุนแรง

โชคดีที่ประตูดวงดาวอยู่ห่างจากเมืองศีรษะพญาหมีใหม่ไม่ไกล สำหรับเซียน ระยะทางขนาดนั้นไม่มีอะไร  แต่ติงม่านรู้ว่า ในเมืองอัลเคดมีอันตราย  หัวใจนางตึงเครียดมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด