ตอนที่แล้วตอนที่ 470 เปิดประตูดวงดาวเจ็ดดาวเหนือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 472 หัวใจสองดวง

ตอนที่ 471 เสียงสั่น  


“ทุกอย่างเรียบร้อยไหม?”  เชียนฮุ่ยถาม นางนั่งตัวตรง เครื่องแบบสีมะกอกของนางไม่มีจุด นางมีผมยาวสลวย ใบหน้างดงามมีร่องรอยเหนื่อยล้า

“ทุกอย่างเรียบร้อย” เสี่ยวหลานพูดอย่างตื่นเต้น  “ได้ร่วมสู้กับท่านผู้บัญชาการเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่สุด มันง่ายเหมือนกับหั่นผัก น่าพอใจมาก”

เชียนฮุ่ยยิ้ม  “ในฐานะสุภาพสตรี เจ้าต้องไม่ดุร้ายเกินไป”

เสี่ยวหลานไม่พอใจคำพูดเหล่านั้น “รุนแรงอะไรกัน? เรากำลังร่วมศึกสงคราม ถ้าข้าไม่ฆ่า อย่างนั้นจะให้ข้าทำอะไร? ทำกับข้าวเหรอ?  แม่ทัพจ๋า ปล่อยข้าเถอะนะ ข้ายอมตายในสนามรบดีกว่าจะยอมใช้ชีวิตแบบนั้น”

เชียนฮุ่ยยิ้ม  แต่ไม่ได้พูดอะไร  ทุกคนมีความชอบและอัธยาศัยที่ต่างกัน

ความอ่อนโยนนุ่มนวลแฝงอยู่ในดวงตาลึกๆ ของนาง  ความทรงจำที่นางชื่นชอบที่สุดก็คือช่วงเวลาที่อยู่ที่เมืองซิงฟง ดาวอู่อัน  หลังจากนั้นเมื่อตระกูลซ่างกวนตกอยู่ในอันตรายในกลุ่มดาวเพอร์ซูส นางไม่สามารถทนเห็นตระกูลของนางตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น นางไม่มีทางเลือก ได้แต่เดินหน้า แต่ตอนนี้นางนำทัพใหญ่เพื่อถังเทียน

เมื่อใดก็ตามที่นางคิดถึงความลับของพี่เทียน สีหน้าของเชียนฮุ่ยจะเคร่งขรึม

สองสามปีที่แล้ว นางกวาดไปทั่วสมรภูมิโบราณ ได้รับรางวัลมากมาย และเบาะแสที่เลือนลางเริ่มปรากฏ

เกี่ยวกับสถานะของบิดาของพี่เทียน  นางคาดเดาบางอย่างได้  แต่นางต้องการได้เบาะแสเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือติดต่อกับพี่เทียน

เมื่อนางคิดเรื่องนั้น  นางหน้าแดงโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นเรื่องยากที่นางจะทำใจให้สงบอยู่ได้

นางสูดหายใจลึก หลับตาและอธิษฐานในใจ  หญิงสาวที่หนักแน่นมั่นคงมองดูเหมือนสตรีธรรมดาในเวลานั้น

หลังจากนั้นนางลืมตา ความลังเลในดวงตานางหายไป  ความหลักแหลมกลับคืนมาอีกครั้งตามปกติ

นางยืนขึ้นและสั่งเสียงเบา  “ใช้จุดนี้เป็นศูนย์กลาง ภายในรัศมีร้อยเมตร ทุกอย่างจำเป็นต้องขุดขึ้นมา”

หัวใจของเสี่ยวหลานสั่นสะท้าน “ได้ค่ะ”

ขุนพลวิญญาณนับไม่ถ้วน มารวมกันในที่ซึ่งนางระบุไว้และเริ่มขุด

สองชั่วโมงผ่านไป  ประตูดวงดาวบรอนซ์บานหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าเชียนฮุ่ย  ประตูดวงดาวบรอนซ์แห่งกองทัพดาวกางเขนใต้  และถ้าถังเทียนปรากฏ เขาจะจำได้อย่างแน่นอน  ประตูบรอนซ์นั้นเหมือนกับประตูดวงดาวบรอนซ์ของค่ายหมายเลขเจ็ด

นี่คือประตูดวงดาวของกองทัพดาวกางเขนใต้ที่ 62 เป็นประตูที่ซ่างกวนเชียนฮุ่ยพบ

เชียนฮุ่ยกำลังคิดหาวิธีติดต่อถังเทียนทุกวันทุกคืน และเมื่อนางพบเสี่ยวหลาน เชียนฮุ่ยมีความคิดอย่างหนึ่งทันที  เสี่ยวหลานเคยใช้วิทยายุทธจากกองทัพกลุ่มดาวคนแบกงู และเนื่องจากกองทัพของกลุ่มดาวคนแบกงูมีขุนพลวิญญาณที่ฉลาด แล้วขุนพลวิญญาณของกลุ่มดาวกางเขนใต้ที่ฉลาดพอกันจะต้องมีแน่

ตอนนี้นางกำลังอยู่ในสนามรบของสามมหาอำนาจใหญ่ มีขุนพลวิญญาณนับไม่ถ้วนลอยละล่องอยู่ที่นั่น  แต่ส่วนใหญ่จะมีระดับต่ำไม่ค่อยฉลาด เพื่อตามหาขุนพลวิญญาณที่ฉลาดจากกองทัพกลุ่มดาวกางเขนใต้ ซ่างกวนเชียนฮุ่ยพาเสี่ยวหลานสำรวจไปหลายที่และในที่สุดก็พบขุนพบวิญญาณที่ฉลาดจากกลุ่มดาวกางเขนใต้

ขุนพลวิญญาณตนนี้นามว่า อาซิ่น

เสี่ยวหลานไม่ชอบเขาเลยและมักจะบ่นอยู่เสมอ “ทำไมกองทัพดาวกางเขนใต้ถึงมีแต่ขุนพลวิญญาณที่น่าขนลุกอย่างนั้น? เขาไม่ใช่ไส้ศึกจากกองทัพดาวแมงป่องใช่ไหม?”

แต่หลังจากเขาตายแล้ว ขุนพลวิญญาณที่ถือกำเนิดใหม่จะมีเกราะเครื่องแบบของกองทัพดาวกางเขนใต้ซึ่งไม่สามารถหลอกกันได้  เขาสามารถแกล้งทำกันได้ตอนมีชีวิต  แต่เมื่อเขากลายเป็นขุนพลวิญญาณเมื่อเขาตายเขาจะมีบุคลิกและความคิดที่แท้จริงคงเหลือปรากฏอยู่

เชียนฮุ่ยรู้ว่าอาซิ่นแข็งแกร่งยามเมื่อเขายังมีชีวิต  เพราะกลุ่มของอาซิ่นทำให้นางลำบากมากในตอนแรกที่พวกเขาพบกัน แม้มีความจริงว่านางมีกองกำลังมากกว่าของเขาถึงห้าเท่า

กลยุทธของอาซิ่นเจ้าเล่ห์และผ่านการวางแผน ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเขาโดยไม่มีผลอะไร  หลังจากรบกันอย่างหนักสามวัน  ในที่สุดเชียนฮุ่ยก็เอาชนะกลุ่มของเขาและจับอาซิ่นเป็นเชลย

ตอนแรกอาซิ่นไม่สนใจซ่างกวนเชียนฮุ่ย จนกระทั่งเมื่อนางถามเรื่องป้ายบรอนซ์ ทัศนคติของอาซิ่นจึงเปลี่ยนไป

ในที่สุดเชียนฮุ่ยก็เข้าใจหลังจากนางพูดคุยกับอาซิ่น  ป้ายบรอนซ์ที่ถังเทียนมีความจริงไม่ใช่สมบัติของกลุ่มดาวกางเขน  แต่เป็นของผู้บัญชาการกองทัพดาวกางเขนใต้ และในช่วงที่วิกฤติที่สุดสามารถเคลื่อนย้ายผนึกประตูดวงดาวกองทัพดาวกางเขนใต้ได้

ตราบใดที่พวกเขาสามารถหาประตูดวงดาวกองทัพกางเขนใต้ที่สมบูรณ์ อย่างนั้นพวกเขาอาจสามารถติดต่อกับป้ายนั้นได้

ด้วยความช่วยเหลือของอาซิ่น  เชียนฮุ่ยเดินทางสำรวจค้นหาประตูดวงดาวมากขึ้น  อาซิ่นมีแผน เสี่ยวหลานไม่กลัวและในสมรภูมิโบราณ เชียรฮุ่ยจะไร้เทียมทาน

พวกเขาพบประตูดวงดาวหลายบาน  แต่ประตูเหล่านั้นเก่าเกินไปหรือไม่ก็ผุกร่อนเกือบหมด  แม้ว่าจะเป็นส่วนเล็กน้อยแต่ก็ใช้ไม่ได้

รูปลักษณ์ของอาซิ่นดูดี อ่อนโยนและไม่มีราศีผู้นำทหารแต่เหมือนกับกวีหรือศิลปินมากกว่า

เขาตรวจดูประตูดวงดาว ก้มๆ เงยๆ อยู่ชั่วขณะ “มันใช้ส่งไม่ได้”

ซ่างกวนเชียนฮุ่ยมีสีหน้าหมองลง

“แต่เราสามารถส่งสัญญาณเสียงได้”  อาซิ่นยิ้ม

ซ่างกวนเชียนฮุ่ยสั่น  นางเงยหน้าอีกครั้ง พูดอย่างใจเย็น “เสี่ยวหลาน สั่งสอนไส้ศึกกลุ่มดาวแมงป่องนี้สิ”

เสี่ยวหลานตื่นเต้นโห่ร้อง สาวน้อยผมสั้นลากดาบยักษ์พอๆ กับบานประตูวิ่งเข้าหาอาซิ่น

หน้าของอาซิ่นซีดขาว  เขาเป็นผู้บัญชาการทหาร  แต่ไม่ใช่ผู้บัญชาการประเภทบุกตะลุยข้างหน้า ฝีมือต่อสู้ของเขาแย่กว่าเสี่ยวหลามาก

ข้าไม่สามารถสู้ตรงๆ ได้  ดังนั้นข้าจึงทำได้แต่เพียงอาศัยสติปัญญา

ตุ้บ อาซิ่นคุกเข่ากับพื้นน้ำตานองหน้า ความเสียใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

“ไว้ชีวิตข้าเถิด ผู้บัญชาการ, ข้าผิดไปแล้ว, ผิดไปแล้ว....”

เชียนฮุ่ยเบือนหน้าไปอีกทาง  นางทำเป็นไม่ได้ยินคำขอร้องขอความเมตตาจากอาซิ่น  หน้าของนางแดง ใจของนางเต้นเร็ว ข้ากำลังจะได้คุยกับพี่เทียนแล้ว  ข้าจะคุยว่าไงดี...

ห้านาทีต่อมา  อาซิ่นถูกดาบยักษ์หวดจนกระทั่งตาเหลือกถูกเสี่ยวหลานลากกลับมาอยู่ต่อหน้าเชียนฮุ่ยด้วยท่าทีพึงพอใจ  “ท่านแม่ทัพ, ถ้าไส้ศึกทัพดาวแมงป่องนี้ประพฤติไม่เข้าท่าอีก ให้ข้าสั่งสอนเขาอีกนะ”

อาซิ่นฉลาด เขาโดดขึ้นทันที  “ท่านแม่ทัพ ให้ข้าซ่อมประตูดวงดาวให้นะ!”

หลังจากอาซิ่นเข้ามาจัดการแล้ว  ในที่สุดประตูดวงดาวก็มีแสงรัศมีอ่อนๆ

ถังเทียนเบื่อหน่าย  ทุกคนหมกมุ่นอยู่กับโครงการพญาหมี  แม้แต่การผสานสมบัติเซียนก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ  หลังจากนั้น ก็มีอาการเต้นกระตุกอยู่ในกระดูกหมีเดียวดายซึ่งถังเทียนรู้สึกได้ และส่งคนไปตรวจสอบดู และพบประตูดวงดาวใหม่จริงๆ

สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ ประตูดวงดาวเชื่อมโยงกับเจ็ดดาวเหนือซึ่งถูกปิดมาหลายปีแล้ว

แม้ว่าจะทำให้เขาตื่นเต้น  แต่เจ็ดดาวเหนือเป็นแกนสำคัญของกลุ่มดาวหมีใหญ่  แต่ประตูดวงดาวเข้าเจ็ดดาวเหนือหายสาบสูญไปหลายปีแล้ว เพื่อจะได้เปิดใหม่ ถังเทียนคาดหมายเต็มที่อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสนใจเรื่องเขา

เขาเตรียมตัวไปสำรวจเจ็ดดาวเหนือตามลำพัง  แต่โส่วจินห้ามเขาไว้  ถ้าฝ่าบาทไปตามลำพังเอง ข้าขอตายดีกว่า  เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใจถังเทียนมึนชา และเขาได้แต่เก็บแผนพับไว้ก่อน

เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลกระจายไป โส่วจินสร้างค่ายใกล้ๆ ประตูดวงดาวเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจมาก ถังอี้อาสาสำรวจเจ็ดดาวเหนือ  แต่ถูกถังเทียนปฏิเสธ  การสำรวจดินแดนที่ไม่คุ้นเคยไม่เหมาะกับกองทัพในทางปฏิบัติ กองทัพมีเป้าหมายยิ่งใหญ่กว่า และพวกเขามีข้อจำกัดมากกว่านักสู้

หยาหยากับเสี่ยวเอ้อเล่นกันอย่างสนุกสนาน ด้วยการสอนของหยาหยา ในที่สุดเสี่ยวเอ้อก็เรียนรู้วิธีใช้พลังเกลียวจนได้

ถังเทียนส่ายหัวต่อเนื่อง ทำไมจิตวิญญาณยุทธของหนุ่มชาวฟ้านี้ถึงได้โง่และงี่เง่านักนะ?

ช่างเถอะ จิตวิญญาณยุทธที่โง่อย่างนั้น ไม่ใช่ง่ายๆ ที่จะเชี่ยวชาญพลังงานเกลียว  ถังเทียนคร้านจะสนใจมากขึ้น  เขาไม่ต้องการให้เจ้านี่เชี่ยวชาญวิทยายุทธ  ดังนั้นเขาแค่ปล่อยให้เสี่ยวเอ้อเล่นกับหยาหยา

เวลาฝึกฝนของเขามีค่ามาก

ลักษณะของประตูเจ็ดดาวเหนือ ทำให้พลังดวงดาวปั่นป่วนออกมาจากเจ็ดดาวเหนือ  การรวมตัวของกลุ่มดาวหมีใหญ่ทำให้ความเข้มข้นพลังดวงดาวของกลุ่มดาวหมีใหญ่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อดีตกลุ่มดาวอันโดรเมดาและกลุ่มดาวมังกรตอนนี้มีชื่อว่าภูมิภาคอันโดรเมดาและภูมิภาคมังกรก็มีความเข้มข้นของพลังดวงดาวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้ประชาชนทั้งสองกลุ่มดาวนั้นร่าเริงและมีความสุข

กลุ่มดาวหมีใหญ่ปัจจุบันนี้กว้างใหญ่ไพศาลแต่มีประชากรเบาบาง  แน่นอนถังเทียนขอให้หัวหม่าเอ๋อปล่อยให้ชาวเผ่าหมาป่าอพยพมากลุ่มดาวหมีใหญ่ได้

โส่วจินจัดการกิจการภายในได้สมบูรณ์แบบ  ผี่ผาเป็นผู้ช่วยของเขา  ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกังวล อาการป่วยของผี่ผาได้ติงม่านช่วยรักษาทำให้ผี่ผามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นบ้างและดูอ่อนแอบอบบางน้อยกว่าที่เคยเป็นมา

ไม่มีใครกล้าดูแคลนผี่ผา นางคือคนที่ดูแลพยาบาลฝ่าบาทเมื่อตอนเขาบาดเจ็บ คนแบบนี้ใครจะกล้ารุกรานนาง?

เมื่อไม่มีอะไรให้เขากังวล ดังนั้นในช่วงตลอดเวลานี้ ถังเทียนจึงตั้งสมาธิฝึกฝน  ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อะไร ความแข็งแรงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่เขาต้องพึ่งพามากที่สุด

เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกิจการภายใน ไม่มีการรบต่อสู้ และกลุ่มดาวหมีใหญ่สงบสุขมาก  ถังเทียนมีชื่อเสียงโด่งดัง  ดังนั้นกลุ่มดาวบ้านใกล้เรือนเคียงที่ไหนจะกล้ารุกรานเขา?

นอกเหนือจากกลุ่มดาวหมีใหญ่แล้ว กลุ่มดาวอื่นกำลังวุ่นติดพันกับการรบ  การรบพุ่งกันระหว่างสมาพันธ์ชาวยุทธและกลุ่มดาวราชสีห์ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด  สงครามที่น่าเศร้ายังคงขยายตัวต่อไป

กลุ่มดาวกลางๆ จากสิบตำหนักระนาบกลางที่พัวพันกับสงคราม มีซากศพท่วมแผ่นดินธารโลหิตหลั่งไหล

ทุกคนรู้ จุดสูงสุดในการรบยังอยู่อีกไกล กลุ่มดาวอื่นของสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคายังคงเงียบต่อไป  แต่สมาพันธ์ชาวยุทธและกลุ่มดาวเลโอไม่เคยถอดใจจะเอาชนะกลุ่มมหาอำนาจเหล่านี้

สิบตำหนักระนาบกลาง เป็นแค่การชิมลางเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับถังเทียน พวกนั้นอยู่ไกลเกินกว่าจะตั้งตัว

ขณะที่ทุกคนกำลังหมกมุ่นอยู่กับโครงการพญาหมี เป็นเรื่องยากที่เขาจะไปพบพวกเขา  อย่าว่าแต่ลากพวกเขาไปกลุ่มดาวกางเขนใต้  เขาไม่ได้หยิ่งในขอบเขตที่เขาเชื่อว่าเขาสามารถบุกเข้ากลุ่มดาวกางเขนใต้ตามลำพังได้

ไม่ว่าจะยินดีหรือไม่ก็ตาม  ตอนนี้เขาเป็นเจ้ากลุ่มดาวหมีใหญ่ไปแล้ว  ถ้าหนีไปในลักษณะนั้น  เขาคงถูกโจมตีแน่นอน และสามารถใช้กับกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้

เขาคิดว่าถนนมุ่งสู่กลุ่มดาวเพอซูสน่าจะมีมากขึ้น

นอกจากฝึกแล้ว เขาคิดถึงการฝึกที่ยังไม่สำเร็จที่เขาทิ้งไว้ในค่ายทหาร และไปเดินเล่นที่นั่น

เป็นเวลานานแล้วตั้งแต่เขามาเยี่ยมค่ายทหารครั้งสุดท้าย ทำให้เขารู้สึกสงสัย

การฝึกปัจจุบันในค่ายทหารเป็นเรื่องหมูๆ สำหรับเขา ความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ได้ทำคะแนนระดับดีในทุกหัวข้อทำให้เขาดีใจและพอใจ

หลังจากได้เหงื่อแล้ว เขารู้สึกดีใจจนอธิบายไม่ถูก

ในอดีตการฝึกฝนเคยยากลำบากมาก  อย่างไรก็ตาม เขาสามารถทำให้พวกเขาผ่อนคลายได้

ถังเทียนปลาบปลื้มเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว  เขาเติบโตมาก เมื่อเขาอยู่กับเชียนฮุ่ย เขายังคงฝึกวิทยายุทธพื้นฐานอยู่เลย

ทันใดนั้น ประตูดวงดาวบรอนซ์ด้านหลังของเขามีไฟสว่างขึ้น

“พี่เทียน...”

เสียงที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด ปรากฏขึ้นในความฝันนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยความรู้สึกที่หวั่นไหวเหมือนกับว่าเสียงนั้นผ่านมานานนับปีไม่ถ้ว้น ดังขึ้นอยู่ด้านหลังเขา

เท้าของถังเทียนตรึงนิ่งอยู่กับพื้น

ในทันใดนั้น หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด