ตอนที่แล้วตอนที่ 468 พลังเกลียวอยู่ไหน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 470 เปิดประตูดวงดาวเจ็ดดาวเหนือ

ตอนที่ 469 รู้วิธีเลี้ยวบ้างไหม?


ข้าอาจใช้พลังเหล่านี้ได้

ตาของถังเทียนเป็นประกายเหมือนดวงดาวในท้องฟ้า ความคิดนั่นให้เบาะแสความหวังของเขา   การถูกดาบวงพระจันทร์ของฟงเย่ไล่ต้อนทำให้ถังเทียนไม่พอใจมาก  ที่สำคัญคือเขายินดีจะทดลองความคิดอย่างหนึ่ง

ถังเทียนเริ่มทดสอบดู เพื่อใช้ประโยชน์จากพลังงานที่ลอยฟ่องอยู่  มีทางเดียวเขาสามารถใช้จิตวิญญาณยุทธ  นักสู้ธรรมดา แม้แต่เซียนนักสู้ไม่เคยคิดจะใช้จิตวิญญาณยุทธควบคุมพลัง เนื่องจากสามัญสำนึกที่ว่าจิตวิญญาณยุทธไม่สามารถควบคุมพลังได้

ก่อนที่นักสู้จะกลายเป็นชั้นเซียน  ปราณแท้จะถูกควบคุมโดยเส้นชีพจรที่ซับซ้อน แต่หลังจากเข้าสู่ระดับเซียนแล้ว  พลังจะถูกควบคุมโดยสนามพลังวิญญาณ

เป็นสนามพลังวิญญาณและไม่ใช่จิตวิญญาณยุทธ  ทั้งสองอย่างนั้นมีหลักการทำงานที่ต่างกัน

จิตวิญญาณยุทธคือพลังจิตวิญญาณที่ถูกพลังสร้างขึ้นมา ในขณะที่สนามพลังวิญญาณ คือการก่อตัวพื้นที่ด้วยพลังของจิตวิญญาณยุทธที่จำลองกฎธรรมชาติ  ในพื้นที่นี้การปรับปราณแท้เป็นไปตามกฎที่มีผลของตัวนักสู้เอง

ก่อนที่จิตวิญญาณยุทธจะสามารถสร้างสนามพลังวิญญาณ  นักสู้สามารถสร้างชุดกฎที่เอามาใช้ควบคุมปราณแท้ได้

นั่นคือเหตุผลที่เซียนนักสู้คิดว่าถังเทียนเป็นตัวประหลาดที่ไม่มีปราณแท้อยู่ภายในตัว

ในสนามพลังวิญญาณหลายอย่าง เซียนนักสู้พึ่งพาพลังภายนอกแทนที่จะเป็นปราณแท้ในตัวพวกเขา  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พบว่าแปลกเกินไปที่ถังเทียนไม่มีปราณแท้

ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งมีเซียนนักสู้คนหนึ่งชื่อหวังซานซึ่งได้รับขนานนามว่าราชันย์ระเบิด เพราะสนามพลังวิญญาณของเขาอยู่นอกสารบบ เขาสามารถควบคุมพลังภายในหินดวงดาวและจากนั้นใช้หินดวงดาวนั้นทำระเบิด  ไม่มีใครกล้าตอแยเขา เนื่องจากพลังที่อยู่ในหินดวงดาวระดับสูงทรงพลังมาก  พลังระเบิดของหินดวงดาวเหล่านั้นน่าทึ่ง  นอกจากนี้เซียนนักสู้ยังร่ำรวยและมีอิทธิพล  แต่ละครั้งที่เขาเคลื่อนไหว  เขาสามารถระเบิดหินดวงดาวได้พันๆ ก้อนในพริบตา พลังระเบิดในครั้งหนึ่งสามารถทำลายเมืองทั้งเมืองในพริบตา

ถ้าถังเทียนสามารถเข้าใจเคล็ดเช่นนั้นได้ มันจะถูกใช้เหมือนอาวุธล้อมได้ และสงครามใดๆ ที่พวกเขาต้องสู้  พวกเขาก็แค่ส่งถังเทียนไปคนเดียว และนั่นคงจะเพียงพอแล้วสำหรับการต่อสู้ใดๆ

แม้ว่าจิตวิญญาณยุทธของถังเทียนจะบริสุทธิ์มาก  แต่มันไม่ได้มาจากสนามพลังวิญญาณ

นี่ทำให้ทุกคนสับสนมาก เพราะคนธรรมดา สนามพลังวิญญาณเป็นเรื่องลึกลับ แต่ในสายตาเซียนสนามพลังวิญญาณไม่ใช่เรื่องลับ  เพื่อให้เกิดการก่อตัวสนามพลังวิญญาณมีเงื่อนไขอยู่สองประการคือ ประการแรกความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณยุทธ และอีกประการหนึ่งก็คือความเข้าใจวิทยายุทธระดับสูง

แต่การค้นคว้าสนามพลังวิญญาณที่กระทำโดยเซียนนักสู้ไม่ชัดเจนว่าจำกัดอยู่เพียงแค่นั้น

พวกเขาพบว่าถ้าจิตวิญญาณยุทธมีความบริสุทธิ์ในระดับที่แน่นอน  การก่อตัวของสนามพลังวิญญาณค่อนข้างง่าย อย่างไรก็ตามสนามพลังวิญญาณที่สำเร็จด้วยวิธีนั้นจะไม่ค่อยแข็งแกร่งทรงพลัง  นอกจากนี้ เมื่อจิตวิญญาณยุทธถูกขัดเกลาจนได้ระดับที่แน่นอน ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะใช้พัฒนาวิชาต่อสู้

แล้วจิตวิญญาณยุทธของถังเทียนบริสุทธิ์มากเพียงไหน?

บริสุทธิ์มาก และมากกว่าที่พวกเขาคิด

เป็นเวลานานแล้วที่เซียนนักสู้เข้าใจว่า จิตวิญญาณยุทธที่แข็งแกร่ง ยิ่งมีรูปแบบคล้ายมนุษย์มาก การก่อตัวก็ยิ่งแข็งแกร่งมาก ลักษณะเช่นนี้จะเห็นได้หลังจากตายแล้ว ขุนพลวิญญาณจะถูกสร้างจากจิตวิญญาณยุทธและขุนพลวิญญาณทั้งหมดจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์

จิตวิญญาณยุทธของถังเทียนไม่เพียงแต่มีรูปร่างอย่างมนุษย์เท่านั้น  แต่ยังมีคุณสมบัติที่แตกต่าง มีความซับซ้อนเป็นประวัติการณ์  และพวกเขาได้ทดสอบดูแล้วซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงการคาดเดาของพวกเขาว่าจริง จิตวิญญาณยุทธของถังเทียนนั้นแทบจะสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม จิตวิญญาณยุทธที่บริสุทธิ์ขนาดนั้น กลับไม่สามารถสร้างสนามพลังวิญญาณได้

แม้แต่พลังกายเป็นศูนย์อย่างลึกลับก็ยังไม่ลึกลับเท่านี้   และนั่นทำให้เซียนนักสู้หงุดหงิดกันมาก  เนื่องจากไม่มีใครเคยเห็นร่างที่มีพลังกายเป็นศูนย์มาก่อน เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนไม่สามารถเข้าใจวิธีที่มันเป็นไปได้  อย่างไรก็ตาม สนามพลังวิญญาณก็คือบางอย่างที่นักสู้ระดับเซียนศึกษากันทั้งชีวิต  แต่ความรู้และกฎใช้ไม่ได้กับถังเทียนอย่างสิ้นเชิง

นอกจากเป็นตัวประหลาดแล้ว ทุกคนไม่สามารถคิดหาคำที่ดีกว่านี้มาอธิบายตัวของเขา

ถังเทียนโค่นเหออี้หมิงภายใน 6.8 วินาที  ทำให้เซียนทุกคนแทบบ้า มันดูเหมือนกับตัวตลก เพื่อเป้าหมายเป็นเซียนนักสู้  พวกเขาทุกคนใช้ความพยายามมากมาย  แต่ถังเทียนกลับคว่ำอีกฝ่ายได้ง่ายทำให้พวกเขาไม่อาจยอมรับได้

เมื่อถังเทียนถูกฟังเยี่ยไล่ต้อน  นักสู้ระดับเซียนถอนหายใจโล่งอกและยิ้มให้กัน

และนั่นคือพลังของเซียน

เหออี้หมิงต้องได้รับผลกระทบจากอาการบาดเจ็บ ดังนั้นภายใต้การดำเนินการเขาจึงแพ้ถังเทียนได้ง่าย

ฟงเยี่ยควบคุมกระแสการต่อสู้ได้  ปราณแท้ของเขาไม่เคยหมดสิ้น  นี่คือจุดที่ทำให้เซียนนักสู้ทรงพลัง  สนามพลังวิญญาณสามารถดูดกลืนพลังที่ขัดเกลาปราณแท้  ทุกคนที่กลายเป็นเซียนจะรู้สึกได้ว่าพลังปราณแท้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

พลังของพวกเขาเกือบทั้งหมดพวกเขาเน้นไปที่การสร้างและการขัดเกลาสนามพลังวิญญาณทั้งหมด

เหลียงฟงและคนที่อยู่รอบตัวเขาตั้งใจจะแนะนำถังเทียนให้เน้นที่การสร้างและปรับแต่งสนามพลังวิญญาณของเขา

ทันใดนั้น ใครบางคนร้องเอ๊ะ

เสียงเอ๊ะดังมาจากเซียนเภสัชติงม่าน  นางมีความรู้สึกอย่างเด่นชัดว่าในท่ามกลางกระแสพลังที่แพรวพราวนั้น  มีบางอย่างก่อตัวขึ้น

ในที่นั้นไม่มีใครเลยที่เป็นคนธรรมดา  ดังนั้นเสียงเอ๊ะของติงม่านที่จู่ๆก็ดังขึ้นจึงดึงดูดความสนใจของทุกคน

ถังเทียนใช้หมัดของเขาโจมตีอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาพยายามค้นหาทางใช้จิตวิญญาณยุทธของเขาควบคุมรังสีที่กระจัดกระจาย

ทำยังไงจิตวิญญาณยุทธของเขาจึงจะสามารถควบคุมพลังงานที่ไม่ใช่ของข้าได้?  ไม่มีใครบอกคำตอบแก่เขาเรื่องนั้นมาก่อน  ดังนั้นถังเทียนตัดสินใจดึงดูดพลังงานก่อนอย่างอื่น

มาหาข้า  มาหาข้า....

ถังเทียนพึมพำกับจิตวิญญาณยุทธร่างมนุษย์ในใจเขา

จิตวิญญาณยุทธร่างมนุษย์เคลื่อนไหวทันที  มันยกแขนขวาและกางฝ่ามือ

ถังเทียนดีใจ เจ้าตัวเล็กนี่ฉลาดมาก

รังสีที่ลอยกระจัดกระจายเบาบางค่อยๆ ลอยเข้าหาเขา

หนึ่ง...

สีหน้าของถังเทียนแทบค้าง  แม้ว่าเขาจะไม่ได้คาดหวังว่าดึงดูดครั้งเดียวจะได้ถึงพัน แต่ก็ได้ผลแค่เพียงนิดเดียว

ก่อนที่รัศมีที่กระจัดกระจายจะมาถึงถังเทียนมันก็หายไปในอากาศเสียก่อน

อีกครั้งน่ะ

ถังเทียนคิดเอาเองว่าดึงดูดให้มากขึ้น ให้มากขึ้นทีละนิด...

รัศมีสองสายค่อยๆ ลอยเข้ามา

ถังเทียนโกรธ เจ้างี่เง่า ปล่อยพลังของเจ้ามาให้ข้าทั้งหมด!

เหมือนกับว่าจิตวิญญาณยุทธร่างมนุษย์สามารถรู้สึกได้ถึงความร้อนรนของถังเทียน  เขามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยยกมือขึ้นอีกข้างหนึ่ง และรังสีสี่สายลอยเข้ามา

ตอนนี้ดาบวงพระจันทร์ที่รุนแรงและคล่องแคล่ว ซึ่งมีรังสีกระจายตัวเหมือนกับหมอกลอยฝ่าอากาศและแตกกระจายทันที  ขณะที่รังสีที่แตกกระจายบางส่วนแตกสลายไปโดยไม่ได้รับอิทธิพลจากกระแสปราณและค่อยๆ ลอยเข้าหาถังเทียน

และครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้ถังเทียนดุด่า ฝ่ามือของจิตวิญญาณยุทธร่างมนุษย์ยกขึ้นอีกครั้ง

รังสีที่แตกกระจายสองสายลอยเข้ามา

ดีมาก ทำต่อไป!

ถังเทียนทุ่มเทสมาธิและความสนใจทั้งหมดไปที่กระแสดาบวงพระจันทร์ที่ลอยเข้ามาอยู่ต่อหน้าเขา  รังสีดาบผันผวน แต่หลังจากโจมตีหลายครั้ง ถังเทียนก็เข้าใจบางอย่าง

การโจมตีของเขาแต่ละครั้งเข้าเป้าจุดที่อ่อนที่สุดของสายธารรังสีดาบ

ฟงเยี่ยปล่อยรังสีดาบนับไม่ถ้วนไม่เคยหยุด ดังนั้นจำนวนของรังสีจึงทำให้เกิดจุดอ่อน นั่นเป็นความคิดที่โง่ แต่ก็มีผลอย่างมากแน่นอน

จุดอ่อนในพริบตาเหล่านี้เป็นเพียงข้อบกพร่องเล็กน้อยที่จับได้ยากมาก และไม่มีประโยชน์กับการสู้

ในทางกลับกัน ถังเทียนทำตัวเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ไม่รู้จักเหนื่อยล้า  เขาไม่เคยพลาดจากจุดใดๆ จากสายธารรังสีดาบเลย  ความถี่ของวิชาหมัดพื้นฐานของเขามีมากและหมัดที่เขาปล่อยออกมาก็น่าทึ่งมากพอกัน

ข้อได้เปรียบเล็กน้อยเริ่มสร้างขึ้น  ผลสะสมไม่อาจมองข้าม

ถังเทียนยืนหยัดมั่นคง เหมือนกับว่าเขาตรึงเท้าลงไปในพื้นกำลังดิ้นรนอยู่ในรังสีดาบวงพระจันทร์

สายธารรังสีดาบที่อำมหิตโถมเข้ามาข้างหน้าเขา  รังสีที่แตกกระจายในลักษณะระเบิดออกนั้นเป็นภาพที่ลานตางดงาม

ฟงเยี่ยมีความชื่นชมถังเทียน  เขาเคยพบนักสู้ที่มีร่างกายที่ดีเยี่ยมมาก่อน  ตัวอย่างเช่นนักสู้ขององค์การวิญญาณมืด  พวกเขาดูดซับพลังสายเลือด  จึงทำให้ร่างกายของพวกเขาเทียบได้กับถังเทียน

อย่างไรก็ตาม ใช้วิชาหมัดพื้นฐาน และความสามารถสู้กับ ‘พระจันทร์เดือด’ ของตัวเขาเองเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เขานับเป็นหนุ่มชาวฟ้าได้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าคิดว่าพระจันทร์เดือดมีเพียงแค่นั้น อย่างนั้นเจ้าก็ประเมินข้าต่ำไป

ฟงเยี่ยมีสีหน้าเครียด ตาของเขาเป็นประกาย  ระลอกพระจันทร์เริ่มปรากฏมากขึ้นกลายเป็นฟองกลมหนาแน่นและใหญ่โตลอยอยู่รอบตัวเขาและเริ่มระเบิด  ถ้าพระจันทร์เดือดก่อนนั้นเป็นแค่เหมือนไอระเหย  อย่างนั้นตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นเหมือนน้ำเดือด

ในพื้นที่เดือดนั้น ความเคลื่อนไหวของฟงเยี่ยพร่าเลือน

อาเฮ่อและหลิงซิ่วตะลึงกับพลังของฟงเยี่ย  พลังงานในพื้นที่รอบตัวฟงเยี่ยกลับมีสภาพที่ไม่มั่นคงอย่างมากและเต็มไปด้วยอันตราย

สีหน้าของเหลียงฟงและคนที่เหลือเคร่งเครียด  พวกเขารู้สึกได้ถึงความลึกล้ำ  พื้นที่รอบตัวฟงเยี่ยไม่แน่นอนทันที  ไม่มีใครเคยคิดเรื่องนั้น ฟงเยี่ยที่ดูธรรมดาจะมีความสำเร็จถึงระดับนั้น

เจ้าผู้นี้....

เซียนนักสู้คนอื่นตกตะลึงกับพลังของฟงเยี่ยเช่นกัน สำหรับนักสู้ธรรมดา นักสู้ระดับเซียนเป็นระดับที่เกินเอื้อมในสายตาพวกเขา  ระดับเซียนคือระดับที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก  อย่างไรก็ตาม ในหมู่นักสู้ระดับเซียนก็ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องพลังอยู่

“รีบดูจอมห้าวถังสิ!”

ใครบางคนตะโกน  ทุกคนสะดุ้ง มีอะไรเกิดขึ้นกับถังเทียนอีก?

สายตาของทุกคนหันไปมองถังเทียน และตกตะลึงทันที

รังสีดาบสุดท้ายปะทะใส่โล่ป้องกันของถังเทียน มันระเบิดเป็นชิ้นทำให้ถังเทียนเผยตัวชัดเจน

รอบตัวของเขามีเส้นสายคาดแพรวพราวมากมาย

รังสีที่กระจัดกระจายจากครั้งก่อน ถูกดึงดูดเข้าไปอยู่ในเส้นสายคาดเหล่านั้นก่อนจะหายไป เส้นสายเหล่านั้นพันล้อมรอบตัวถังเทียนเหมือนวงแหวนของดาวเทียมในท้องฟ้า

แต่ละสายแสงกำลังหมุนโคจรด้วยความเร็วสูงจนเกิดเสียงหวีดหวิว

ภายในสายคาดแสง ถังเทียนหลุดคำด่าออกมา

“เจ้าโง่เอ๊ย, ให้เคลื่อนไหวแบบบิดเกลียว! ไม่ใช่หมุนขวาง

“ไม่ใช่แบบนั้น!  ต้องทำแบบนี้!”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่... นี่เจ้ารู้วิธีเลี้ยวหรือเปล่า....”

……

ทุกคนตะลึง พวกเขามองดูสายคาดแสงแพรวพราวเหล่านั้น อะไร นั่นอะไรกัน...

ฟงเยี่ยสังเกตได้ว่าถังเทียนแตกต่างออกไป  แต่เขาไม่มีเวลาคิด  เป็นเรื่องยากที่เขาจะควบคุมสถานการณ์ได้ เขาค่อยๆ โบกดาบวงพระจันทร์ในมือของเขา

ปัง!

รังสีแสงสายธารปรากฏว่าหมองลงกว่าแต่ก่อน  ดูเหมือนว่าพลังจะน้อยลงมากกว่าเก่า

สายธารรังสีดาบที่ระเบิดออกไป  เซียนนักสู้ทุกคนรู้สึกตัวกันได้หมด  สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย รังสีดาบวงพระจันทร์ในปัจจุบันนี้ ไม่ได้เป็นรูปจันทร์โค้งอย่างสมบูรณ์  แต่เป็นรังสีดาบที่แตกกระจัดกระจาย

แม้ว่ารังสีดาบไม่สามารถทนต่อพลังงานที่น่ากลัวได้และแตกกระจาย...

เซียนนักสู้ขยับเตรียมพร้อมลงมือ ไม่ว่ายังไงพวกเขาจะต้องช่วยถังเทียน ถ้าเขาตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ดี

สายธารรังสีดาบที่หมองและอันตรายระเบิดเข้าใส่ถังเทียนที่มีสายแถบแสงวนอยู่รอบตัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด