ตอนที่แล้วตอนที่ 14-29 เพลิงสำนึกผิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-31 ภารกิจคุ้มกัน

ตอนที่ 14-30 ตรวจสอบผลงาน


ในหอประชุมใหญ่ชั้นหนึ่งของปราสาทอสูรมีคนค่อนข้างมากรวมตัวกันรวมทั้งกลุ่มของลินลี่ย์ด้วย

“แม่นางยูนะ!” บีบียืนอยู่ข้างหน้าเคาน์เตอร์หัวเราะทักทายพนักงานสาวยูนะ

ยูนะมองดูบีบีด้วยอาการค่อนข้างประหลาดใจและดีใจและยินต่อลินลี่ย์กับเดเลียที่อยู่ด้านหลังของเขา “ลินลี่ย์, ข้าเพิ่งจะถอนหายใจนึกว่าในกลุ่มเจ้าจะมีคนรอดมากี่คน ไม่นึกเลยว่าพวกเจ้าทั้งสามคนจะรอดกลับมาได้หมด  ขอแสดงความยินดีด้วยจริงๆ”

“เราค่อนข้างโชคดี”  เมื่อใดก็ตามที่ลินลี่ย์คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนอกเมืองรอยัลวิงเขายังรู้สึกกลัว

เมื่อเขาเผชิญหน้ากับไวนีเซน  ลินลี่ย์พบว่าเขาไม่มีความสามารถต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย  ความแตกต่างในเรื่องพลังของพวกเขามากเกินไป

“ยูนะ, เราอยู่ที่นี่มานานแล้ว  เมื่อไหร่เราจะมีโอกาสพิสูจน์ได้ว่าเราประสบความสำเร็จในการสอบ?”  บีบีพูดอย่างค่อนข้างกระวนกระวาย กลุ่มของลินลี่ย์รออยู่ที่ชั้นหนึ่งค่อนข้างนานแล้ว  ยูนะหัวเราะและกล่าว  “อย่าใจร้อน ตอนนี้พวกเจ้าเป็นอสูรแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องง่ายๆ กับการติดเหรียญตราให้พวกเจ้า  ยังมีกระบวนการในเรื่องนี้อีก”

ขณะต่อมา....

“คนที่ประสบความสำเร็จในการสอบเป็นอสูรที่ปราสาทจันทราให้ขึ้นไปที่ชั้นสอง!” ทันใดนั้นบุรุษร่างกำยำผมสั้นสีทองเดินลงมาจากบันไดชั้นที่สองของปราสาทอสูร

“รีบๆ เลย” ยูนะพูดพร้อมกับหัวเราะ

“แม่นางยูนะ งั้นเราจะขึ้นไปเดี๋ยวนี้” บีบีหัวเราะ

ทันใดนั้นคนในกลุ่มลินลี่ย์ยี่สิบกว่าคนเดินขึ้นบันไดไปชั้นที่สองของปราสาทอสูร หอประชุมหลักของชั้นที่สองนี้เล็กกว่าหอประชุมใหญ่ชั้นแรก  และมีห้องหลายห้องที่นี่เช่นกัน  กลุ่มของลินลี่ย์ถูกบุรุษล่ำสันผมสั้นสีทองพาไปที่ห้องดำ

ภายในห้องดำมีคนนั่งอยู่สามคน

“พวกเจ้าทุกคนจงก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวและเอาแหวนจันทราออกมาขณะรับตราอสูร”  หนึ่งในพวกเขาเป็นชายวัยกลางคนชุดดำพูดขึ้นเสียงชัดเจน

ทันใดนั้นผู้เข้าสอบก้าวมาข้างหน้าทีละคนและเอาแหวนจันทราออกมาแลกเริ่มกระบวนการแต่งตั้งอสูร แต่เห็นได้ชัดเจนว่าพิธีการซับซ้อนมากโชคดีที่บุรุษชุดดำดำเนินการได้ค่อนข้างเร็ว และเขาสามารถดำเนินกับแต่ละคนในเวลาไม่กี่นาที

“คนต่อไป!”บุรุษชุดดำกล่าว

ถึงรอบของลินลี่ย์

ลินลี่ย์ยื่นแหวนจันทราของเขาพร้อมกับการผนึกตราอสูรก็เสร็จเช่นกัน

“ชื่อ” บุรุษชุดดำกล่าว

“ลินลี่ย์” ลินลี่ย์กล่าว

และจากนั้นลินลี่ย์รู้สึกว่าตลอดทั้งร่างสั่น ดังนั้นบุรุษชุดดำเรียกสนามพลังเทพของเขาและใช้ตรึงลินลี่ย์ขณะป้องกันบุคคลภายนอก

“ข้าต้องประทับรัศมีวิญญาณของเจ้า” บุรุษชุดดำดึงลูกปัดสีเขียวขนาดปลายเล็บพร้อมกับการพลิกมือ จากนั้นใส่ลูกปัดสีขียวที่ตัวลินลี่ย์ ลูกปัดเขียวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาในระดับที่เห็นได้

ขณะต่อมาลูกปัดทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นสีเทา

“รัศมีวิญญาณ? อะไรกันนี่?”  ลินลี่ย์ถามอย่างสงสัย

ผู้อาวุโสชุดดำมองดูเขาจากนั้นพูดอย่างสงบ “นี่คือสิ่งที่เรียกกันว่า ‘หินสะท้อนวิญญาณ’ มันสามารถดูซับรอยพิมพ์ของรัศมีวิญญาณได้  ยอดฝีมือทั้งหมดมีรัศมีวิญญาณแตกต่างกัน  ตราบใดที่เรามี ‘หินสะท้อนวิญญาณ’ กับรัศมีวิญญาณของเจ้า เราจะสามารถยืนยันสถานะของเจ้าได้”

ลินลี่ย์อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้

งั้นก็มีของแบบนี้อยู่ในโลกจริงๆ

อย่างไรก็ตามค่อยสมเหตุผล เมื่อเขาอยู่ในทวีปยูลาน นักเล่นแร่แปรธาตุบางคนสามารถสร้างสิ่งของที่ทำให้ลินลี่ย์ประหลาดใจได้ ในแดนนรกทำให้มีความรู้สึกว่าของหลายอย่างที่มีความซับซ้อนมีอยู่

“นี่คือตรานักสู้อสูรของเจ้า  ขณะนี้ นี่คือตราอสูรชั้นสองของเจ้าจงผูกสัญญาด้วยเลือดของเจ้า” บุรุษชุดดำสั่ง

เมื่อเห็นเหรียญตราอสูรลินลี่ย์อดทำตาเป็นประกายไม่ได้ นี่คือข้อพิสูจน์ว่าเขาเป็นอสูรคนหนึ่งแล้วในตอนนี้

“ตราอสูรชั้นสอง?”  ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ  ตราอสูรชั้นสองนี้คือเหรียญตราสีฟ้าเป็นสิ่งที่ลินลี่ย์ไม่เคยเห็นอสูรใส่มาก่อน

บุรุษชุดดำหัวเราะอย่างใจเย็น “ตราอสูรชั้นสองนี้จะเก็บไว้ที่ปราสาทอสูรของเรา เมื่อตราอสูรชั้นสองของเจ้ากลายเป็นวัตถุไร้เจ้าของ  เราจะได้รู้ว่าเจ้าตาย”

ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้ว

นี่เป็นเพียงของเล่นใช้ตัดสินว่าคนยังอยู่หรือตาย

เขาผูกสัญญาด้วยเลือดทันทีจากนั้นติดตราอสูรหลักไว้ที่อกเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลินลี่ย์ ลินลี่ย์หลอมรวมตราอสูรนี้เข้ากับเกราะชีพจรป้องกันของเขา ที่สำคัญชุดนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าผลผลิตของเกราะชีพจรป้องกัน

ข้างนอกปราสาทอสูร

“ลินลี่ย์, ในอนาคต เจ้าจะรั้งอยู่ในเมืองรอยัลวิงไหม?”  เรจินาพูดกับลินลี่ย์  “ข้าเป็นหนี้เจ้าสองแสนศิลาดำ ขอเวลาสักหน่อยแล้วข้าจะใช้คืนให้” เรจิน่าไม่อยากเป็นหนี้คนอื่น

“ไม่จำเป็น เราจะออกจากเมืองรอยัลวิงในไม่ช้า” ลินลี่ย์พูดตามตรง

“จากไป? เจ้าจะไปไหน?” เรจิน่ารีบกล่าว “ไกลหรือเปล่า?”

ลินลี่ย์เดเลียและบีบีมองกันเอง จากนั้นบีบีหัวเราะให้เรจิน่า  “เรจิน่าเราสามคนต้องการเดินทางไปทั่วทวีปเรดบุด และจากนั้นจะข้ามทะเลหมอกดาวและไปทั่วแดนนรกนี้เจ้าถามเรา แล้วอย่างนี้เราไปไกลหรือเปล่า?”

เรจิน่าตกใจหนัก

แม้แต่เทพชั้นสูงหลายคนในแดนนรกก็ยังไม่เคยไปเยี่ยมทวีปอื่น

ที่สำคัญห้าทวีปแต่ละทวีปของแดนนรกกว้างใหญ่ไพศาลมาก พอที่จะสลักโลกเล็กๆ เป็นของตนเองได้ไม่มีเหตุผลพิเศษ คนโดยทั่วไปจะไม่เสี่ยงไปทวีปอื่น

“อย่างนั้น ข้า..แต่ข้า..” เรจินาไม่รู้ว่านางควรจะจ่ายหนี้สองแสนศิลาดำยังไง

“เฮ้ เฮ้ ไม่ต้องรีบร้อน  เมื่อเราพบกันอีก ค่อยใช้คืนเราก็ได้”  บีบีหัวเราะขณะพูด

“ก็ได้ ขอบคุณจริงๆที่พวกเจ้าช่วยข้าในครั้งนี้” เรจิน่ามองดูตราอสูรที่อกนาง  นางอดรู้สึกว่ายิ่งใหญ่ไม่ได้  นางกลายเป็นอสูรคนหนึ่ง..นี่คือสิ่งที่นางใฝ่ฝันมาหลายปีแล้ว

ลินลี่ย์เดเลียและบีบีอำลาเรจินาและจากนั้นไปที่ร้านอาหารเลี้ยงฉลองชัยชนะก่อนจากนั้นกลับไปที่พักของพวกเขา ค่าเช่าห้องที่กลุ่มของลินลี่ย์จ่ายคำนวณปีต่อปี

ภายในลานว่างของที่พักของลินลี่ย์  ทั้งสามคนนั่งอยู่บนโต๊ะหิน

“ตอนนี้เราต้องมาคำนวณให้ดีถึงความมั่งคั่งที่เรามี”  บีบีพูดอย่างตื่นเต้น  เพียงเขาพลิกมือแหวนมิติก็ร่วงลงบนโต๊ะส่งเสียงดังแหวนทั้งเจ็ดวงส่องแสงภายใต้ดวงอาทิตย์สีแดงเลือดสะท้อนแสง

“ข้าก็มีบางส่วน”เดเลียหัวเราะขณะที่แหวนมิติสองวงร่วงลงบนโต๊ะหิน

เมื่อเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้

ปฏิบัติการปราสาทจันทราภายใต้คำสั่งของอสูร กลุ่มของลินลี่ย์ช่วยงานในฐานะเป็นหน่วยหน้ากล้าตายและต้องถูกธนูสังหารเทพโจมตีถึงสองระลอก  บีบียังรวบรวมศพเทพแท้ได้สี่ศพขณะที่เดเลียรวบรวมได้สองศพ หลังจากพวกเขาร่วมสู้รบหลายครั้ง

และไม่นานนี้ที่ด้านนอกเมืองรอยัลวิงหลังจากฟังประกาศจากไวนีเซน  ทุกคนก็เริ่มสู้รบกันเอง

เทพแท้เกือบร้อยคนสู้กันเองจนตายเหลืออยู่เพียงราวๆ สามสิบคน ลำพังกลุ่มของลินลี่ย์ฆ่าได้มากกว่าสิบคน เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะรวบรวมศพเหล่านี้ไว้ได้มากเช่นกัน

“พี่ใหญ่, ท่านมีมากที่สุด”  บีบีกล่าว

ลินลี่ย์พลิกมือแหวนเก็บของสิบเอ็ดวงร่วงลงบนโต๊ะหิน บรรดาแหวนสิบเอ็ดวงมีสามวงได้รับจากภายในปราสาทจันทรา  ขณะที่อีกแปดวงได้รับมาตอนการต่อสู้ชุลมุน แต่บรรดาแหวนที่มีค่ามากที่สุดก็คือแหวนจันทราดำ!

“สมบัติของแหวนจันทราดำนี้เป็นไปได้ว่าจะมากกว่าแหวนวงอื่นรวมกัน!” ลินลี่ย์ถอนหายใจ

นี่คือแหวนจันทราของนักรบชุดดำที่ตายไป

นักรบชุดดำเป็นเทพชั้นสูงกันทุกคน  นอกจากนี้พวกเขายังค่อนข้างฝีมือดี เป็นธรรมดาที่สมบัติของพวกเขาจะมีความสำคัญเช่นกัน

“เราตรวจสอบสมบัติในแหวนจันทราดำนี้แล้วเงินศิลาดำจำนวนหนึ่ง และเฉพาะเงินอะซูไรท์ก็มีมูลค่าเก้าสิบล้านแล้ว  นอกจากนี้ยังมีมุกวิญญาณทองและสมบัติอื่นๆซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าร้อยล้านศิลาดำ” บีบีพูดอย่างตื่นเต้น  “ตอนนี้เรามาตรวจสอบแหวนอื่นกันก่อน”

พวกเขาตรวจสอบแหวนของนักสู้ชุดดำในตอนแรก

แต่แหวนวงอื่นนอกจากสองสามวงแรกเพิ่งถูกตรวจสอบ

“มาเริ่มนับสินค้าของเรากัน”ลินลี่ย์และเดเลียกระตือรือร้นขึ้นมาบ้างเช่นกัน

บนโต๊ะมีกองแหวนมิติเก็บสมบัติ  กลุ่มของลินลี่ย์แบ่งออกเป็นสามกองและเริ่มผูกสัญญาเลือดเพื่อตรวจสอบรายการภายใน  พวกเขาดึงเงินศิลาดำของมากองใหญ่

“โว้ว, ดีจริง เทพแท้คนไหนเป็นเจ้าของแหวนวงนี้?เขามีเงินมากมายนัก!”  บีบีร้องออกมาอย่างประหลาดใจ

ลินลี่ย์และเดเลียเงยหน้าขึ้นมอง

“มากมายยังไง?” ลินลี่ย์กล่าวด้วยความอยากรู้

“พี่ใหญ่, สมบัติของเทพนี้เกินกว่าสิบล้าน”บีบีพูดขึ้นทันที “และแหวนมิตินี้ยังมีประกายเทพแท้อยู่อีกสองสามชิ้น”

แม้แต่พวกเทพที่เข้าร่วมสอบเป็นอสูรโดยทั่วไปก็ค่อนข้างเป็นเทพที่ทรงพลังอยู่แล้วแทบทุกคนจะมีสมบัติติดตัวสองสามแสนศิลาดำ มีเพียงไม่กี่คนที่มีมากกว่าล้านสำหรับพวกที่มีมากกว่าสิบล้านจะหาได้ยากมาก  ลินลี่ย์เองตรวจสอบแหวนมิติเก็บของอยู่สี่วงแต่สมบัติทั้งหมดที่เขาพบเจอแค่สองแสนศิลาดำ

“บีบี! หยุดนับได้แล้วตรวจดูของในแหวนวงต่อไปเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะ

พอถึงเวลานี้เดเลียร้องขึ้นประหลาดใจ

“อะไรกันนี่?” ลินลี่ย์กับบีบีมองดูทั้งคู่

หน้าของเดเลียยิ้มตลอด  “ลินลี่ย์,ลองเดาซิว่าสมบัติในแหวนนี้มูลค่าทั้งหมดเท่าใด”

บีบีคาดเดา“สิบล้าน?”

เดเลียยิ้มและส่ายศีรษะ

“สิบล้านต่ำเกินไป หรือว่าสูงเกินไป?”  ลินลี่ย์รีบถาม

“แน่นอนว่าต่ำเกินไป  ไม่ใช่แค่สิบล้าน”  เดเลียกล่าว ลินลี่ย์อดตกใจไม่ได้ “ในนี้มีมากเท่าใดกันแน่?”

เดเลียยิ้ม  “เงินศิลาดำกับอะซูไรท์รวมกันมีค่าแปดแสน”

“แปดแสนเหรอ?” บีบีจ้องมอง  “แต่ท่านบอกว่ามีมากกว่าสิบล้านไม่ใช่หรือ?”

เดเลียหัวเราะ“ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น แม้ว่าเงินศิลาดำและอะซูไรท์จะมีมากขนาดนั้น  อย่างไรก็ตาม แหวนมิติเก็บของนี้มี...” เดเลียหัวเราะและพลิกมือแสดงให้เห็นประกายเทพเหมือนอัญมณีดำสองเม็ด!

พวกเขาสามารถรู้สึกได้จากประกายเทพเหล่านี้

“ประกายเทพชั้นสูง และมีสองชิ้นด้วยหรือ?”  ลินลี่ย์กลั้นหายใจด้วยความรู้สึกทึ่ง

เดเลียหัวเราะและพยักหน้า  “ใช่แล้ว ชิ้นหนึ่งเป็นสายธาตุลม  ขณะที่อีกชิ้นหนึ่งเป็นสายธาตุมืด”

ลินลี่ย์อดรู้สึกดีใจไม่ได้  แต่จากนั้นเขาประหลาดใจ  “ประกายเทพชั้นสูงสองชิ้นเทพแท้ไปเอามาได้ยังไง?”

เดเลียอดหยอกล้อเขาไม่ได้  “ลินลี่ย์, ไม่ต้องพูดถึงเขาก็ได้  ขนาดเราก็มีประกายเทพชั้นสูงไม่ใช่หรือ?  ทั้งที่เรายังมาถึงแดนนรกไม่นานแต่เราก็มีประกายเทพชั้นสูงของนักสู้ชุดดำแล้ว ทำไมคนอื่นจะมีบ้างไม่ได้?”

“ก็สมเหตุผลนะ” ลินลี่ย์ต้องยอมรับเรื่องนี้

สิ่งที่เขาสามารถทำได้  คนอื่นก็สามารถทำได้ เพียงแต่..นี่เป็นผลประโยชน์ใหญ่ของกลุ่มลินลี่ย์

ขณะต่อมาลินลี่ย์และอีกสองคนได้ทำการประเมินสิ่งของในแหวนมิติเก็บของทั้งหมด แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่สนใจมองดูของเล่นอย่างอื่น  กลุ่มของลินลี่ย์เพียงนับสิ่งที่คำนวณได้ง่ายอย่างเงินศิลาดำ อะซูไลท์ ประกายเทพและสิ่งของอื่นๆ

“เราได้ของมูลค่ารวม  120 ล้านศิลาดำ!  แต่แน่นอน นั่นยังไม่นับประกายเทพชั้นสูงทั้งสี่ชิ้นที่เรามี”  ลินลี่ย์กล่าว

ประกายเทพชั้นสูงทั้งสี่หนึ่งนั้นได้มาจากทวีปยูลาน, ของนักรบชุดดำอีกหนึ่ง และจากในแหวนมิติอีกสองชิ้น

“เดเลีย” ลินลี่ย์มองดูเดเลีย “เดิมทีข้าต้องการซื้อประกายเทพชั้นสูงให้เจ้า แต่ข้าไม่นึกเลยว่าเราจะได้รับประกายเทพชั้นสูงด้วยตัวเองได้จะดีที่สุดเจ้ารีบหลอมรวมประกายเทพนี้ซะ” ลินลี่ย์ให้ประกายเทพชั้นสูงธาตุลมกับเดเลีย

ตั้งแต่เดเลียเริ่มต้นเส้นทางหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์ ลินลี่ย์จึงต้องช่วยให้นางยกระดับจนไปถึงเทพชั้นสูงให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้

สำหรับลินลี่ย์และบีบีพวกเขาอาศัยการรู้แจ้งซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ทำสำเร็จได้ในวันเดียว

“ตกลง” เดเลียพยักหน้าเล็กน้อย

บีบีที่อยู่ใกล้พลิกดูของหลายอย่างที่ไม่ได้ให้ความสนใจก่อนหน้านั้น  ที่สำคัญเมื่อตรวจสิ่งของ พวกเขาไม่ได้ตรวจทุกอย่างอย่างระมัดระวัง  ตัวอย่างเช่น...ลินลี่ย์และอีกสองคนไม่ได้เปิดดูหนังสือเล่มใดๆ อย่างใกล้ชิด

“พี่ใหญ่, ลองดูซิ นี่อะไร”  บีบีค่อนข้างประหลาดใจและดีใจทันที

ลินลี่ย์งงและหันมาดู  เขาเห็นบีบีถือหนังสือเล่มหนาในมือและที่หน้าปกมีคำว่า ‘บทสรุปเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุทั้งเจ็ด”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด