ตอนที่แล้วตอนที่ 466 ความเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 468 พลังเกลียวอยู่ไหน

ตอนที่ 467 พลังกายเป็นศูนย์


ท้องฟ้าเปิดแล้วเพราะถังเทียนได้รับยกย่องว่าเป็นพญาหมี

ตั้งแต่เริ่มต้นพญาหมีกลายเป็นโครงการลับระดับสุดยอด

ผู้คนรอบตัวถังเทียนมีความกระตือรือร้นและหลงใหลโครงการพญาหมี

ผู้เฒ่าเฟ่ยจากเมืองสามวิญญาณได้จัดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญโลหิตวิทยานำโดยหวังซวนเนื่องจากไม่มีพลังปราณแท้เลยอย่างนั้นพลังสายเลือดจึงกลายเป็นวิธีต่อสู้ขั้นต้นของถังเทียนและการผสมผสานพลังสายเลือดและจิตวิญญาณยุทธก็คือขอบเขตความเชี่ยวชาญขององค์การวิญญาณมืด  นอกจากนี้ ไม่ใช่เพียงแค่นั้นผู้เฒ่าเฟ่ยยังรู้สึกว่างบประมาณของห้องค้นคว้าโลหิตวิทยายังไม่เพียงพอไม่ว่าต้องใช้โอกาสยังไงก็ตาม จะปล่อยถังเทียนให้หลุดมือไปไม่ได้

การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ไม่ใช่แค่เพียงผู้เฒ่าเฟ่ยเท่านั้น

สามเซียนนักสู้ที่ยอมแพ้ไปเมื่อเร็วๆนี้ผู้ที่อย่างน้อยที่สุดก็หาโอกาสให้ได้มีส่วนร่วม  ถ้าพวกเขาสามารถคลี่คลายสถานการณ์ให้ถังเทียนก็จะช่วยอนาคตของพวกเขาได้มาก พวกเขารู้ว่าสภาพของถังเทียนหาได้ยากมาก สำหรับเซียนนักสู้ถือเป็นวัตถุค้นคว้าอย่างดีที่สุด

กลุ่มเซียนนักสู้ทั้งสามคนขยายคนเพิ่มขึ้นกลายเป็นเก้าคนทันทีได้คนใหม่มาเพิ่มอีกหกคน เป็นนักสู้ระดับเซียนสองคนคือเซียนหอกกุ้ยซินเหินและเซียนเภสัชติงม่าน  อีกสี่คนเป็นนักสู้สายจิตวิญญาณซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องจิตวิญญาณยุทธ คนหนึ่งมีอายุมากแล้วเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่ทฤษฎีการศึกษา  อีกคนคือท่านไกว้ที่ดูบ้าและมีแนวคิดที่แปลกประหลาดและอาจารย์สอนยุทธที่มาจากกลุ่มดาวเซ็กแทนส์

ปกติเหลียงฟงไม่ยอมจะล้าหลังอยู่แล้วขนาดโต้วหย่ง, เหออี้หมิง, ไป๋ซือซือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร  แต่เหลียงฟงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้หรือก่อนหน้านี้เขายังมีอำนาจ มีสถานะ แต่บัดนี้สามเซียนปรากฏตัวขึ้น แรงกดดันของเขาเพิ่มขึ้นทันที เขากัดฟันเชิญสหายที่ดีที่สุดของเขามา นั่นคือเซียนดาบฟงเยี่ย

ในช่วงเวลาสั้นๆจำนวนเซียนนักสู้ในกลุ่มดาวหมีใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดคนทันที

กุ้ยซินเหิน,ติงม่านและฟงเยี่ยที่เพิ่งมาใหม่มีความเชี่ยวชาญในงานพวกเขาเอง พวกเขาทุกคนมาจากกลุ่มดาวชั้นกลางหรือไม่ก็เป็นเซียนนักสู้จากกลุ่มดาวเล็ก

การรบอย่างต่อเนื่องทำให้ถังเทียนถูกจับตา  แม้ว่าเทียบกับคนอื่นๆอาณาเขตของเขาจะเล็กก็ตาม และมีข้อบกพร่องมากมาย แม้แต่คนที่มองถังเทียนด้วยความรังเกียจ พวกเขาก็อดยอมรับไม่ได้ ในสวรรค์วิถีปัจจุบันนี้ ถังเทียนเป็นตัวละครหลัก

นอกจากนี้ในสายของคนมากมาย ข้อด้อยบกพร่องของถังเทียนกลับมีเสน่ห์ เขาไม่ได้มีคนอยู่ข้างตัวมากมายซึ่งก็หมายความว่ามีตำแหน่งให้เติมเต็มหมายความว่ามีโอกาสมากขึ้น

เทียบกันแล้วมหาอำนาจอื่นมีระบบคุมอำนาจที่มั่นคงมาก  คิดจะเข้าถึงแกนกลางผู้มีอำนาจปกครองเป็นเรื่องที่ยากมาก  ขณะที่ใจกลางอำนาจรอบตัวถังเทียนไม่เป็นรูปเป็นร่าง สำหรับคนเหล่านี้นับว่าน่าดึงดูดอย่างมิต้องสงสัย

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ถังเทียนกลายเป็นหัวหน้าองค์กรที่ทรงพลังที่สุดในสวรรค์วิถี

ภายในกลุ่มงานใหญ่มีคนหนึ่งที่ไม่ธรรมดา นั่นคือเฉินจื่อหลินจากสำนักยุทธอมตะ เขาเป็นศิษย์ไม่มีชื่อเสียงจากสำนักยุทธอมตะและอย่างน้อยก็มีชื่อเสียงอยู่ในวงการ อย่างไรก็ตามเขาผ่านการทดสอบของหลงโส่วจิงและปิงและได้เข้าร่วมกับหน่วยงานลับ

พญาหมีคือโครงการสุดยอดของกลุ่มถังไม่ใช่เรื่องแปลก  เนื่องจากถังเทียนได้กำจัดทำลายกองทัพระดับตำหนักระนาบกลางถึงสามกองทัพพลังที่น่ากลัวและตื่นตะลึงนี้ไม่เพียงแต่สร้างความหวาดกลัวให้กับสวรรค์วิถีเท่านั้นแต่ทำให้ปิงและพวกเห็นศักยภาพสะสมที่น่ากลัวบนตัวถังเทียนอีกด้วย

แม้ว่าพายุวังวนกระบี่จะมีขนาดมโหฬารแม้ว่าจะมีกระดูกหมีเดียวดายช่วยเหลือ แต่พลังที่น่ากลัวซึ่งถังเทียนแสดงออกมาเป็นยุทธปัจจัยแม้ว่าพลังนั้นจะอ่อนลงสองสามเท่าแต่ก็ยังเป็นยุทธปัจจัยสำคัญอยู่ดี

นอกจากนี้  ถังเทียนยังไม่กลายเป็นระดับเซียนถ้าเขากลายเป็นเซียนนักสู้ พลังของเขาจะเปลี่ยนสภาพไปอย่างไร?

มหาอำนาจใดๆมีอำนาจของระดับกลยุทธสูงส่ง จะไม่มีทางตระหนี่กำลังพล พลังตนและแหล่งเงินทุนเลย

พายุวังวนกระบี่ที่ใหญ่เป็นประวัติการณ์ได้สร้างเป็นจิตวิญญาณยุทธรูปร่างมนุษย์ที่บริสุทธิ์เป็นประวัติการณ์  ทุกคนกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็น  ถ้าถังเทียนก้าวเข้าสู่ระดับเซียน สนามพลังวิญญาณของเขาจะเป็นอย่างไร

ทั่วทั้งสวรรค์วิถียังคงไม่สงบ  กองพลที่หกของกลุ่มดาวราชสีห์บุกจู่โจมสาขาทองที่เก้าของสมาพันธ์ชาวยุทธแบบไม่ให้ตั้งตัว  สาขาทองที่เก้าถูกกำจัดในที่นั้นเอง จากนั้นพวกเขาแกล้งล่าถอยเตรียมลอบโจมตีและสร้างความเสียหายหนักให้กับสาขาทองที่เจ็ดที่ออกมาแก้แค้นแล้วจากไปง่ายๆ

จากนั้นแม่ทัพต้วนชิงที่ทำตัวไม่โดดเด่นกลับมีชื่อเสียงขึ้นมาทันที

กองพลที่สี่ของกลุ่มดาวเลโอนภายใต้การนำของออกุสต์บุกโจมตีดาวสุนัขเล็กอย่างอุกอาจ และใช้เวลาเพียงไม่กี่วันกลุ่มดาวสุนัขเล็กก็ตกอยู่ในอันตรายจวนตัว สมาพันธ์ชาวยุทธเข้ามาช่วยเหลือ แต่คาดไม่ถึง  พวกเขาถูกกองพลที่ห้าที่ซุ่มรออยู่ฆ่าตายและถูกกำจัดหมดสิ้น

ในวันที่สิบสองเจ้ากลุ่มดาวสุนัขเล็กก็ตกไปในเงื้อมมือของพวกเขาออกุสท์ผู้ได้ชื่อว่าไม่เกรงกลัวอะไรบังคบให้เจ้ากลุ่มดาวสุนัขเล็กดูดพลังดวงดาวพื่อโจมตีสมบัติเซียนทำให้พลังดวงดาวของกลุ่มดาวสุนัขเล็กปั่นป่วนวุ่นวาย

หลังจากกองทัพใหญ่ทั้งสองถอนกำลังออกไป  พลังของกลุ่มดาวสุนัขเล็กก็ล่มสลาย หลังจากวันนั้นประตูดวงดาวของกลุ่มดาวสุนัขเล็กก็หายไปอย่างสิ้นเชิง

จากนั้นเป็นต้นมากลุ่มดาวสุนัขเล็กหนึ่งในตำหนักระนาบกลางถูกกำจัดออกไปจากสวรรค์วิถีไม่เคยพบเห็นอีกเลย

ในช่วงพันปีที่ผ่านมันมันเป็นกลุ่มดาวแรกที่หายไปจากสวรรค์วิถี

ในช่วงเวลานั้นสวรรค์วิถีพากันเงียบเสียงหมด

หลังจากกลุ่มดาวนายพรานพ่ายแพ้  เมื่อพญาราชสีห์ทำการเคลื่อนไหวมันทรงพลังราวกับสายฟ้าฟาด  เขาใช้เลือดที่แข็งแกร่งการกระทำที่เยือกเย็นบอกกลุ่มดาวต่างๆของสวรรค์วิถีว่าเขาสร้างกลุ่มดาวจากโลหิตและเพลิงไม่กลัวการท้าทายใดๆ ทั้งนั้น

กลุ่มดาวที่ได้รับการยกย่องจากสมาพันธ์ชาวยุทธพากันเก็บตัวอยู่เงียบๆด้วยความกลัวทันที

อย่างไรก็ตามความขัดแย้งภายนอกไม่มีอะไรเกี่ยวกับกลุ่มดาวหมีใหญ่  เนื่องจากพวกเขาหล่อเลี้ยงพญาหมีอยู่เงียบๆ

ถังเทียนกำลังหอบหายใจ  ก่อนนั้นเขาพูดไว้ก่อนให้ทุกคนที่โกรธแค้นเขาระบายใส่เขาได้ตามชอบใจ  แค้นของทุกคนมีมากเท่าที่เขาพอใจแน่นอน

ถังเทียนเป็นเหมือนหนูทดลองถูกขอร้องให้ดำเนินการทดสอบที่ซับซ้อนและแปลกประหลาดครั้งแล้วครั้งเล่า

เมื่อเห็นถังเทียนซึ่งหลั่งเหงื่อพรั่งพรูราวกับฝนตก  หวังซวนอดอุทานไม่ได้  “ร่างแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวหรือนี่”

ด้านข้างเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญโลหิตวิทยามีสีหน้าเหลือเชื่อไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น หน้าของคนอื่นก็เขียวคล้ำ  ตั้งแต่ถังเทียนฟื้นฟูเต็มที่เขามีสภาพร่างกายที่ดูมีอำนาจมาก

“สัตว์ประหลาดแท้ๆ”  เหลียงฟงพึมพำกับตัวเอง

หวังซวนชำเลืองมองบันทึกในมือของเขา  เขาเห็นด้วยกับคำว่า “สัตว์ประหลาด”จากส่วนลึกของหัวใจ  แต่แน่นอนเขาไม่โง่พอจะเห็นด้วย เหลียงฟงเป็นเซียนนักสู้พูดคำนั้นออกมาเขาก็ต้องระวังตัวเอง

“คุณภาพร่างกายของเจ้านายพูดอย่างไม่เกรงใจไม่ด้อยไปกว่าพลังสายเลือดระดับทองเลย”หวังซวนสรุป “นี่คือร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเห็นมา พลังทำลายของเจ้านายจากการโจมตีเต็มกำลังสามารถกระแทกเป้าบรอนซ์หมายเลขสิบสามลึกลงไปถึงสิบสองเซ็นติเมตร  ในเรื่องของการระเบิดพลังออกมา ระยะเร่ง 50เมตรของเจ้านายก็บรรลุความเร็วเหนือเสียงได้ ในเรื่องความอดทน เกินกว่าระดับ 90% สูงกว่าภูตอสูรดวงดาวที่รู้จักกันทุกตัว”

แม้ว่าการทดสอบเหล่านี้จะมองเห็นจากสายตามากมาย  แต่เมื่อได้ยินข้อสรุปของหวังซวนทุกคนก็ยังอดชื่นชมไม่ได้

อาวุธจักรกลเหมายเลขสิบสามที่ห้องค้นคว้าผลิตออกมาเป็นบรอนซ์ที่แข็งแกร่งทนทานที่สุดเป้าหมายของการผลิตหนาสิบเซนติเมตรซึ่งมีแต่นักสู้ระดับเซียนเท่านั้นจึงจะทำลายได้

ขณะที่วิ่งระดับความเร็วเสียงคือหนึ่งในสัญลัญลักษณ์ของนักสู้ระดับเซียน

สัตว์ประหลาดชัดๆ!

เขาเป็นสัตว์ประหลาดแท้ๆ100%

มีแต่คำนั้นเท่านั้นจึงจะเหมาะกับเขา

ไม่มีใครคาดการณ์ผลลัพธ์ทั้งหมดนี้ ทุกคนคิดว่าจิตวิญญาณยุทธของถังเทียนถูกขัดเกลาจนอยู่ในระดับที่บริสุทธิ์ที่สุด แต่ไม่มีใครคิดว่าร่างของถังเทียนจะกลายเป็นดุดันผิดธรรมดา  เรื่องนี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจอย่างมาก  ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มแทงเข็มเข้าในตัวถังเทียนและทดสอบตามมาอย่างเข็มงวดเป็นชุด  และผลที่ได้ก็น่าประหลาดใจ

หวังซวนทำสีหน้าแปลกประหลาด “และการเพิ่มขึ้นของพลังของเจ้านายไม่สัมพันธ์กับพลังสายเลือด  เพราะร่างกายของเจ้านายไม่มีสายเลือดเลย

ทุกคนสะดุ้งฮือฮา

“มันเป็นไปได้ยังไง?  แม้ว่าปราณแท้สามารถขัดเกลาร่างกายได้  แต่นั่นเป็นเพียงมาตรฐานอย่างต่ำ  ร่างกายที่แข็งแก่งนี้ นอกจากพลังสายเลือดแล้วข้าไม่สามารถคิดหาวิธีอื่น” ติงม่านเป็นคนกล่าว ในฐานะเป็นเซียนเภสัช นางมีอำนาจพอในสายงานนี้

ถึงตอนนี้ผู้เฒ่าเฟ่ยซึ่งอยู่ข้างๆ หวังซวนยืนขึ้นและกล่าว “เราได้ตรวจดูสภาพร่างกายของเจ้านายแล้วไม่มีเส้นชีพจรอยู่เลย

เพียงแค่นั้นทุกคนก็เงียบสงัด

ความแข็งแกร่งเชี่ยวชาญของกลุ่มนักโลหิตวิทยาค่อนข้างดีมากแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความทะเยอทะยานในองค์การวิญญาณมืด  แต่พลังความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวนั้นโดดเด่น  และผู้เฒ่าเฟ่ยยังได้เลือกมือดีมาช่วย  ดังนั้นทุกคนมีความเชี่ยวชาญหลายอย่าง  เป็นไปได้ว่าคนๆ เดียวอาจผิดพลาดกันได้  แต่ด้วยจำนวนคนมากมายกลับได้ผลอย่างเดียวอย่างนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน

อาเฮ่อพูดขึ้นทันที  “ข้าเคยได้ยินมาก่อนว่ามีวิธีการนอกรีตใช้ขัดเกลาร่างกายก่อนที่จะใช้วิชาวังวนกระบี่วิญญาณ”

จิ่งหาวชำเลืองมองดูด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดเลยว่าอาเฮ่อจะรู้และได้เห็นเรื่องที่ยากอย่างน้น  และเขาพยักหน้า  “มีวิชาอย่างนั้นแน่ เรียกว่ากระบี่ขัดเกลาร่าง  แต่เป็นวิชาต่อสู้ของสำนักเล็กๆและสาบสูญการสืบทอดไปแล้ว”

ติงม่านอ้าปาก  “ขอข้าตรวจดูก่อน”

ถังเทียนที่แทบจะเหนื่อยล้าถูกติงม่านเรียกมาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

พอตรวจได้ถังเทียนก็เผลอหลับ

ยิ่งนางตรวจมากเท่าใดสีหน้าของติงม่านก็เขียวคล้ำมากขึ้น

ติงม่านยืนขึ้นหลังจากที่นางตรวจสอบและพูดอย่างจริงจัง “ร่างของเขาแปลกประหลาดมากไม่มีเส้นชีพจรเลย แม้แต่ปราณแท้ที่เคยกลมกลืนกับร่างของเขาก็หายไป  ร่างของเขาสะอาดมากกว่าทารก  ปัจจุบันนี้เขามีพลังกายแค่ศูนย์”

พลังกายศูนย์!

ทุกคนตะลึง  พลังกายศูนย์ ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน

ตั้งแต่เริ่มต้นของการฝึกทุกคนมีความเชื่อโดยทั่วไปว่าปราณแท้คือเหตุผลสำคัญสำหรับพลังของนักสู้  นี่ยังเป็นเหตุผลหลักในปัจจุบันของวิชาต่อสู้รวมทั้งสายเลือดไม่มีทางพ้นจากหมวดนี้ไปได้ ความบริสุทธิ์ของพลังสายเลือดคือสิ่งที่ทำให้อุดมไปด้วยปราณแท้

ระบบของวิทยายุทธขยายตัวออกมาจากสิ่งที่พื้นฐานที่สุดซึ่งเป็นความสามารถในการใช้พลังงานและพลังงานที่เปลี่ยนแปลงในร่างกายซึ่งจะมีความได้เปรียบโดยธรรมชาติ  ดังนั้นเราจะเปลี่ยนพลังงานในร่างกายได้อย่างไรนี่คืออุดมการณ์หลัก

วิทยายุทธมีความแตกต่างกันไปในสำนักนิกายต่างๆ  แต่แนวคิดพื้นฐานไม่มีความต่างกัน

ถังเทียนเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่มีพลังงานในร่างกายเป็นศูนย์

แม้แต่ทารกก็ไม่มีปราณแท้ในร่างเป็นศูนย์ ต่อให้ท่านไม่ได้ฝึกวิทยายุทธและอยู่ไปตามธรรมชาติก็ตาม  พลังงานในอากาศก็ยังไหลเข้ามาในสะสมอยู่ในร่างท่าน  เมื่อมารดาตั้งครรภ์ พลังจะส่งผ่านจากพ่อแม่และสะสมอยู่ในร่างกายทารกอ่อน

ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน จะมีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์ถ้าไม่มีพลังงานนั้นอยู่ภายใน?

พลังร่างกายของถังเทียนเป็นศูนย์ เพียงแค่วันนี้ก็พลิกคว่ำระบบวิชาต่อสู้ไปอย่างสิ้นเชิง

เงียบสงัดราวป่าช้า  แต่ละคนต่างพยายามจะสลายความตื่นตกใจในใจออกไปและจากนั้นทุกคนจึงตระหนักว่าบนใบหน้าของพวกเขามีทั้งความกลัว คาดหมายสูญเสียและตื่นเต้น

“ดูเหมือนว่าเราได้ค้นพบบางอย่างที่น่าประทับใจมาก”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด