ตอนที่แล้วตอนที่ 455 - โง่จัง, เจ้าตายไปแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 457 - ใครเข้ามาใกล้ขนาดนั้น?

ตอนที่ 456 - อย่าบังคับให้ต้องฆ่า


“เจ้าฆ่านีโอจริงๆ หรือนี่?” มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ผู้สนิทกับนีโอคำราม พวกเขาทั้งสองทั้งประหลาดใจและโกรธเกรี้ยว

“ข้าขอบอกอีกครั้ง” น้ำทะเลใต้เท้าของเย่ว์หยางถูกย้อมเป็นสีเลือด ชิ้นส่วนร่างของมนุษย์ฉลามนีโอลอยผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำ เลือดย้อมน้ำทะเลจนเป็นสีเข้มเหมือนจะเหมือนเป็นโรงฆ่าสัตว์ เย่ว์หยางตัดหัวได้ฉับไวหมดจดในท่วงท่าเดียว มนุษย์ฉลามนีโอไม่มีโอกาสได้สั่งเสียอะไรขณะที่ตายทั้งที่ยังตะลึง เย่ว์หยางเคร่งเครียดเอาจริงมากยิ่งขึ้น ดาบวิเศษฮุยจินและดาบจันทร์เสี้ยวในมือเย่ว์หยางเปล่งกลิ่นอายแห่งความตายสร้างความหวาดหวั่นให้กับมนุษย์กลายพันธุ์ เขามองดูนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้ถูกลดระดับไปเป็นมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ และพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชัดเจนผิดธรรมดา “ทุกท่าน, ข้าไม่ต้องการพูดเรื่องหลักการของชีวิต ข้าเชื่อว่าทุกคนก็รู้ดีเช่นกันว่า โลกนี้หมอบราบคาบแก้วให้กับคนที่แข็งแกร่งที่สุด นั่นเหตุผลที่ข้าต้องทำให้ชัดเจนไปเลยว่า อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีจะต้องตกเป็นของข้า พวกท่านอย่าพยายามขัดขวางข้าเลย มิฉะนั้น ข้าจะไม่ลังเลใจเปลี่ยนสถานที่นี้ให้เป็นโรงฆ่าสัตว์”

ถ้าคำพูดที่หยิ่งผยองดังกล่าวมาจากปากนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งที่ไม่ใช่เย่ว์หยาง นักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้นั้นคงโดนมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ถ่มน้ำลายใส่จนจมน้ำตายไปแล้ว

เรื่องจึงกลายเป็นว่า เมื่อเย่ว์หยางอ้างถึงอุทกแม่พระธรณีหมื่นปีต่อหน้าพวกมนุษย์กลายพันธุ์ทุกตน ทั่วท้องทะเลจึงเงียบเหมือนแดนคนตาย

ไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธ

ทุกคนต่างตกใจกับกิริยาท่าทางที่เขาแสดงออก

เมื่อได้เห็นเย่ว์หยางเหี้ยมหาญและทรงพลัง หัวใจเจี้ยงอิงเริ่มเต้นรัว หน้าของนางเป็นสีชมพูด้วยความตื่นเต้น

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดและการกระทำของบุรุษผู้นี้ถือดียิ่งนัก แต่เขาก็มีพลังคอยหนุนหลังอยู่ดี

เมื่อเขาบอกว่าจะฆ่าโดยไม่ปราณี เขาก็ตัดศีรษะคู่ต่อสู้ทันที

นอกจากเขาแล้ว ใครๆ อื่นในโลกจะห้าวหาญขนาดนั้น?

ยิ่งกว่านั้น เขาทำทุกอย่างเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของนาง เขาจู่โจมทำร้ายหลังจากที่นางถูกศัตรูดูถูก ขณะที่คิดอย่างนั้นหัวใจของเจี้ยงอิงอิ่มเอมยินดี นางรู้สึกดีจริงๆ ที่ได้รับการปกป้อง

นางรู้แล้วว่าเขาไม่ได้อ่อนแอ หลังจากปะทะฝีมือกับเขาก่อนนั้น

ข่าวลือเกี่ยวกับคุณชายสามตระกูลเย่ว์กลายเป็นตำนานแล้ว

นักสู้ปราณก่อกำเนิดวัยยี่สิบปี ศิษย์ของจื้อจุน สามารถขับไล่ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำ บุกวังมารตามลำพัง เรื่องเหล่านี้ไม่เพียงแต่แพร่กระจายไปทั่วทวีปมังกรทะยานเท่านั้น แต่แพร่กระจายไปทั่วทั้งหอทงเทียน แม้ว่าจะไม่ได้รับการยืนยันจากสมาคมนักรบ การยืนยันเรื่องเหล่านั้นว่าเป็นความจริง แต่คำพูดเหล่านั้นไม่ใช่คำพูดลอยๆ แน่นอน สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ จักรพรรดิมังกรที่ไม่มีผู้ใดเคยพบ ในฐานะหนึ่งในห้าจักรพรรดิแห่งหอทงเทียน ก็ยังบอกตรงๆ ว่าคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์จะเป็นจื้อจุนคนต่อไป และเผ่าปีศาจบูรพาจะเป็นพันธมิตรกับเขาเสมอ

เงื่อนไขเช่นนี้ไม่เคยมีในทั่วหอทงเทียน

แม้ว่าเจี้ยงอิงจะรู้ว่าเย่ว์หยางนั้นแข็งแกร่งมาก แต่นางรู้ตัวว่านางยังคงประเมินเขาต่ำอยู่

แม้ว่านางจะรู้เขาเมื่อเขาสู้หาญสู้กับซุ่นเทียนที่ร่วมมือองค์ชายเงาดำ บุกเดี่ยวเข้าวังปีศาจสู้กับราชาจ้าวปีศาจ นางไม่เคยนึกภาพออกเลยว่าเย่ว์หยางจะสามารถฆ่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกอย่างมนุษย์ฉลามในดาบเดียว

แม้แต่พลังเขี้ยวมังกรไร้เขาของนางที่เพิ่งจู่โจมใส่มนุษย์ฉลามนีโอ เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าใดนัก

เพียงท่วงท่าเดียว เย่ว์หยางฆ่าเขาในวินาทีเดียว

ความแตกต่างของฝีมือระหว่างพวกเขาช่างใหญ่หลวงนัก

“ฆ่ามนุษย์ฉลามนีโอได้ ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะมีความสามารถรับเอาอุทกแม่พระธรณีหมื่นปีได้ เจ้าต้องรู้ว่าเขาเป็นผู้อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเรา” มนุษย์ปูยักษ์พูดอย่างรอบคอบหลังจากใคร่ครวญเลือกคำตอบ เพราะกลัวว่าจะไปยั่วยุเย่ว์หยาง

“ใช่, ใช่แล้ว! อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีเป็นของสำคัญต่อพวกเรามาก ไม่ว่าเราจะสามารถกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมของเราได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับมัน ถ้าเจ้าเอาไป เจ้าก็เหมือนกับฆ่าพวกเราทั้งหมด”

ความจริงเขารู้ว่าเขาจะไม่มีส่วนแบ่งอุทกแม่พระธรณี แต่เขาไม่สบายใจเพราะแพ้พนันอัญมณีทะเลลึก

สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คือเดิมพันนั้น เป็นเหมือนโดนเย่ว์หยางตบหน้า

บรรดามนุษย์มัจฉาทั้งหมด เขาเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุด เมื่อเทียบกับมนุษย์ฉลามนีโอ เขายังด้อยกว่าเยอะ แต่ก็ยังทำเสียงดัง “เรามีคนสามสิบเจ็บคน ขณะที่พวกเจ้ามีกันแค่สอง ดังนั้นจะเป็นยังไง เจ้าสู้ได้ดีหรือเปล่า? เราขอปฏิเสธสู้กันตัวต่อตัวกับเจ้าแต่จะใช้วิธีรุมสู้แทน เจ้าคิดว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งอย่างเจ้าสามารถต้านรับพวกเราทั้งสามสิบเจ็ดคนได้หรือ? ต่อให้เจ้ามีอาวุธวิเศษก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มี หัวหน้าของเราก็มีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ จี๋ฟงแสดงให้เขาเห็นหน่อยเลยว่าเราไม่ใช่จะจัดการได้ง่ายๆ”

“…..” มนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงพูดไม่ออก เขาคิดว่าถ้าเจ้าโง่นี่ต้องการสร้างความลำบาก ก็ควรรู้จักเวลาเสียบ้าง?

“อะแฮ่ม, พ่อหนุ่ม ถ้าเจ้าต้องการได้รับอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี เจ้าจำเป็นต้องพิสูจน์ก่อนว่า เจ้ามีความแข็งแกร่งพอ” หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังตัดสินใจพูด เขาไม่ชอบใจพฤติกรรมหยิ่งยโสของเย่ว์หยาง เมื่อเขาบอกว่าต้องการอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี

พวกเขาบังเอิญค้นพบสัญญาณการปรากฏตัวของอุทกแม่พระธรณีจึงรอคอยมาแล้วหลายร้อยปี

และตอนนี้ เด็กหนุ่มผู้อยู่ต่อหน้าพวกเขานี้ ต้องการจะได้ไปครอง

ถ้าเขาถามถึงสมบัติธรรมดา ก็คงไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาขอกลับเป็นอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี เป็นสมบัติชั้นดีที่สุดจะช่วยให้พวกเขากลับคืนร่างเป็นมนุษย์ พวกเขาจะปล่อยให้เย่ว์หยางได้สมบัตินั้นไปได้ยังไง?

นัยน์ตาเย่ว์หยางทอประกายวูบ ดูเหมือนเขารู้อยู่นานแล้วว่าพวกเขาจะต้องพูดแบบนี้

เขาค่อยๆ เก็บดาบวิเศษฮุยจินและดาบจันทร์เสี้ยว แล้วสูดลมหายใจลึกทั้งที่มือว่างเปล่า

พอเห็นเขามีความเคลื่อนไหวอย่างนั้น เจี้ยงอิงก็เหาะขึ้นไปบนฟ้าสูงกว่าเดิมและมองดูสถานการณ์แต่ไกล ความเคลื่อนไหวของนางทำให้มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์สับสน นางออกจากพื้นที่ต่อสู้ ปล่อยให้เด็กหนุ่มนี้สู้ตายกับทุกคนหรือ นัยน์ตาของมนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงเยือกเย็น เขาคว้าคอมนุษย์ปลาตีนและเหวี่ยงออกไปไกลและหนีตามออกมาจากวงล้อม

หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกมีปฏิกิริยาว่องไว โบกมือตะโกนให้ทุกคนออกมา

อย่างไรก็ตาม มนุษย์กลายพันธุ์สองคนที่มีความสนิทกับมนุษย์ฉลามนีโอคิดว่าหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกต้องการให้จู่โจม คิดว่าทุกคนควรจู่โจมเย่ว์หยางพร้อมกัน

พวกเขาเริ่มตะโกนอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นใช้พลังปราณก่อกำเนิดระดับหก โถมตัวเข้าใส่เย่ว์หยาง

ผลของการเข้าใจผิด พวกเขาไม่ได้ยินหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกตะโกนสั่งให้ทุกคนถอยพร้อมกัน… อีกด้านหนึ่งเย่ว์หยางปลดปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดระดับสอง คลื่นกระแทกที่น่ากลัวถูกปลดปล่อยออกมาเหมือนภูเขาไฟระเบิดสั่นสะเทือนไปทั้งท้องทะเล คลื่นสูงร้อยเมตรก่อตัวเป็นกำแพงคลื่นใหญ่และถูกผลักออกมาจากเย่ว์หยาง ที่อยู่ใจกลางพายุก็คือเย่ว์หยาง รัศมีของเขางวดลงจนอยู่ในระดับชุดยาว เผยให้เห็นรูปร่างที่ยอดเยี่ยมของเขาที่ไม่มีบุรุษใดเทียบเท่า

เปลวเพลิงที่โหมไหม้ พายุน้ำแข็งและสายฟ้าและอัสนีบาตดูเหมือนกับว่าจะทำลายทั่วทั้งพื้นที่มิติทั้งหมด

พายุหมุนรุนแรงน่ากลัวก่อตัวขึ้นในอากาศทำให้น้ำในทะเลกลายเป็นน้ำวน เป็นการแสดงปรากฏการณ์ประหลาดที่มีแต่ธรรมชาติเท่านั้นจึงจะสร้างสรรได้

“ถ้าพวกเจ้ายังคิดว่า ข้ายังทำได้ไม่น่าประทับใจพอ, เอาอย่างนี้เป็นไง?” หลังจากปลดปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดระดับสองแล้ว เย่ว์หยางยืดตัวคว้ามนุษย์กลายพันธุ์สองคนที่วิ่งเข้ามาหาเขา เหมือนกับยักษ์ที่จับปลาได้สองตัวด้วยมือเปล่า เย่ว์หยางจับมนุษย์มัจฉานักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกด้วยมือเปล่าทำให้พวกเขาขยับไม่ได้

“มาตายพร้อมกันเถอะ” มนุษย์มัจฉาทั้งสองไม่คิดว่าจะหนีรอด จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย พวกเขาต้องการตายพร้อมกับศัตรู

“ช้าก่อน” แต่เมื่อหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกตะโกน ก็สายไปเสียแล้ว

“พวกเขาต้องการหาที่ตายจริงๆ” เย่ว์หยางแค่ต้องการหยามให้พวกเขาอับอาย เขาเพียงต้องการทุบตีพวกเขาหลังจากที่จับได้ ไม่เคยต้องการฆ่า อย่างไรก็ตาม ศัตรูของเขาไม่เพียงไม่ดิ้นรน พวกเขากลับเข้ามาใกล้ด้วยความพยายามจะทำลายตัวเอง เย่ว์หยางตวาดลั่นในท่ามกลางสายฟ้าพิโรธ สายฟ้าฟาดลงใส่พื้นผิวทะเลจนแก้วหูแทบแตก

บัวเพลิงนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้น และกลายเป็นบัวเพลิงฟ้าพิโรธ

เพลิงอมฤต ในมืออีกขึ้นหนึ่งพุ่งเป็นลำเพลิงขึ้นไปในท้องฟ้า

ในทันใดนั้น เย่ว์หยางเพิ่งปลดปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดระดับสาม ซึ่งตอนนี้มีความแข็งแกร่งพอๆ กับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปด

พอเห็นพฤติกรรมที่มนุษย์กลายพันธุ์ต้องการจะทำลายตัวเอง เย่ว์หยางทุบศีรษะของพวกเขาด้วยความโกรธ และบดศีรษะของพวกเขาเหมือนกับเป็นแตงโมเน่า พอเขาเหยียดมือออก อสูรทองน้อยลึกลับแปลงร่างเป็นกระบี่และตัดใส่เอวของมนุษย์กลายพันธุ์ขาดเป็นสองท่อน จากนั้นเขาใช้มือซ้ายซึ่งมีเพลิงอมฤตลุกไหม้ ดึงเม็ดพลังออกมาจากท้องของพวกเขา ยิ่งกว่านั้นเขารีบกลั่นเม็ดพลังให้บริสุทธิ์จนเม็ดพลังเหล่านั้นไม่สามารถระเบิดได้

เย่ว์หยางเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมา วงแหวนของอสูรโลกขยายจากเดิมห้าสิบเมตร เพิ่มขึ้นเป็นหกสิบเมตร

พลังงานทั้งหมดถูกอสูรโลกดูดซับไว้และเปลี่ยนเป็นพลังงานพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อการเติบโตต่อไป

หน้าของหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกซีดราวกับคนตาย ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่ามนุษย์หนุ่มผู้นี้ไร้เทียมทาน

ถ้าฝ่ายตรงข้ามของเขากล้ามาชิงอุทกแม่พระธรณีหมื่นปีด้วยกำลังเพียงสองคน พวกเขาคงไม่ได้พยายามชิงไปโดยหวังโชคช่วย แต่พวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ต่างหวาดกลัวกันทุกคน

แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ฉลามนีโอเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ไม่ต่างกันมาก ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึก, มนุษย์ปลากระโทงดาบจี๋ฟงและปลาวาฬจาง มีพลังนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปด ขณะพวกที่เหลือเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเจ็ดหรือระดับหกบ้าง บางคนก็เป็นระดับห้า ต่อหน้าศัตรูที่ทรงพลังขนาดนั้น พวกเขาไม่มีหวังได้ชัยชนะสักนิด

แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสาม แต่เขามีความสามารถที่เหนือล้ำกว่าหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึก

เขาเป็นเจ้าของวงจักรล้างโลกและเพลิงอมฤต ต่อให้ไม่นับอาวุธทั้งสองที่สามารถทำลายทุกชีวิตได้ฉับพลัน บุรุษผู้นั้นยังมีอสูรทงเทียนซึ่งตัดสองสหายขาดในฉับเดียว ยิ่งกว่านั้น เขายังมีคัมภีร์อัญเชิญที่ประหลาดมาก มันใหญ่และหนักกว่าคัมภีร์อัญเชิญอื่น และมีอักษรรูนสวรรค์มากมายมีรัศมีพิเศษ ถ้าคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ดูไม่เหมือนคัมภีร์เล่มนี้ ทุกคนคงเข้าใจผิดว่านั่นคือคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์

ถ้าพวกเขาคิดจะสู้จริงๆ พวกเขาอาจไม่ชนะก็ได้ แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะร่วมกันสู้พร้อมกัน

ยิ่งกว่านั้น ใครยินดีจะทิ้งชีวิตและออกไปสู้เล่า? อย่างน้อยเขาคงไม่ส่งตัวเองไปตายแน่

พวกมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์มองดูรอบๆ และสังเกตว่าหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกที่แข็งแกร่งที่สุด, มนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงและปลาวาฬจางไม่มีแผนเคลื่อนไหว ยังคงอยู่กับที่

มีแต่มนุษย์ปลาตีนที่เจ็บตัวจากแรงคลื่นกระแทก กระโดดออกมาร่ำร้อง “เดี๋ยวก่อน, ข้าพนันว่าเจ้าไม่รู้วิธีไปรับเอาอุทกแม่พระธรณีมาก่อน เจ้าต้องผ่านน้ำวนยักษ์ในทะเลลึกห้าแห่ง น้ำวนเหล่านั้นอยู่ใต้น้ำทั้งหมด ดังนั้นถ้าเจ้าเก่งแต่สู้ในอากาศ แล้วสู้ในน้ำล่ะ เจ้าเป็นยังไงบ้าง? เราเชี่ยวชาญในการต่อสู้ทางน้ำตามธรรมชาติอยู่แล้ว นอกจากนี้ มีเพียงห้าคนที่สามารถเข้าน้ำวนได้ ถ้าเราส่งคนห้าคนเข้าไปขวางทาง เจ้าจะไม่มีทางเข้าไปได้เลยตลอดชีวิต ถ้าเจ้ายังไม่ร่วมมือกับเรา เจ้าอาจจะไม่ได้รับอุทกแม่พระธรณี ถ้าเจ้าต้องการร่วมมือ ก็ต้องขอโทษข้าก่อน ข้าจะพูดยังไงดี เด็กน้อย, ยังไงๆ ข้าก็ยังเป็นรุ่นอาวุโสของเจ้าอยู่ดี”

“ท่านต้องการให้ข้าขอโทษงั้นหรือ? แน่ใจนะ” ด้วยคำตอบที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็ง มนุษย์ปลาตีนถึงกับอดสั่นมิได้

เสี่ยวเหวินหลีลอยออกมาจากคัมภีร์โลก

ที่ด้านหลังเธอมีเมดูซ่าศิลา, นางเงือกวายุ, นาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็ง….

ภาพนี้สร้างความตกตะลึงให้กับมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ทั้งหมด หลายอย่างกลับกลายเป็นอย่างนี้ได้ยังไง คนผู้นี้ไม่เพียงแต่สู้ในอากาศได้อย่างดีที่สุด แต่กลับสู้ในน้ำได้ดีอีกด้วย พอเห็นธนูทองในมือของเมดูซ่าศิลา, สังข์พายุในมือของนางเงือกวายุ, บอลสายฟ้าของนาคาสายฟ้าและดาบน้ำแข็งในมือของอสรพิษน้ำแข็ง มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ตัวสั่นด้วยความกลัว

ต่อให้มีสิบชีวิตก็ไม่พอทำสงครามทางน้ำกับคนผู้นี้ได้

มนุษย์ปลาตีนตัวอ่อนลงเหมือนวุ้นในบ่อทันทีทันใด ฟันของเขากระทบกันกึกๆ เหมือนคนเป็นไข้จับสั่นถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง

เมื่อเห็นมนุษย์ปลาตีนที่อยู่ต่อหน้าเขาสั่นเทิ้มด้วยความกลัว เย่ว์หยางพูดอย่างจริงใจว่า “ท่านผู้อาวุโส, อย่าบีบบังคับให้ข้าต้องฆ่าท่านได้ไหม, ข้าจะไม่เปลี่ยนความตั้งใจตัวเอง ข้าจะขอรับอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี”

****************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด