ตอนที่แล้วตอนที่ 14-20  กองหน้ากล้าตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-22 โกเลมมัจจุราช

ตอนที่ 14-21 ชุลมุนวุ่นวาย


ทางเดินขึ้นเต็มไปด้วยหมอกชมพูและมีสิ่งที่ซ่อนรออยู่ข้างหน้าพวกเขา

“แครก...”

ชุดธาตุดินที่คลุมตัวลินลี่ย์เพียงแต่ครอบคลุมร่างเกือบทั้งหมดอย่างไรก็ตามในตอนนี้มือของลินลี่ย์ก็คลุมไปด้วยชั้นพลังสีเหลืองด้วยเช่นกัน  คอของเขาและแม้แต่หน้าของเก็ยังคลุมไปด้วยเยื่อชั้นพลังสีเหลืองดินเช่นกัน

นี่เป็นส่วนของเกราะชีพจรป้องกันของเขาทั้งหมด

มีเพียงจุดเปิดเผยเพียงจุดเดียวก็คือดวงตาของเขา

ไม่เพียงแต่ลินลี่ย์เท่านั้นหลังจากถูกธนูลอบยิงโจมตี เทพแท้ทั้งหมดในกลุ่มของลินลี่ย์เข้าใจว่าเมื่อธนูเหล่านั้นยิงออกมาหนาแน่นจะครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ยิงมาด้วยความเร็วสูงมากจนไม่มีเวลาตั้งตัวแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าเงื่อนไขเดียวก็คือปกป้องทั้งตัว!

หัวแขน ขา คอ... ทั่วทั้งร่างต้องได้รับการปกป้อง!

แม้ว่าในกลุ่มจะมีคนเกินแปดสิบคน  แต่ทุกคนคืบหน้าผ่านไปตามระเบียงเงียบๆโดยไม่ได้ส่งเสียงแม้แต่น้อย มีแต่เสียงที่น่าหงุดหงิดของแคลมป์ตันดังขึ้นเป็นครั้งคราว ‘ไปข้างหน้าเร็วๆ เข้า!”  แต่เสียงตะคอกของเขาดังก้องไปทั้งทางเดิน  ทำให้ทั้งปราสาทดูเหมือนจะมีแต่ความเงียบ

“อ๊า...” เสียงร้องโหยหวนหลายเสียงดังขึ้นพร้อมกัน ขณะเดียวกันจากที่ไกลมีเสียงตะโกนกร้าวสาปแช่งด้วยความโกรธดังขึ้นให้ได้ยิน

กลุ่มของลินลี่ย์อดหยุดเดินหน้าไม่ได้

“กลุ่มอื่นก็ยังถูกลอบทำร้ายเช่นกัน”  ทุกคนเข้าใจ

“งั้นนี่คือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเจ้าปราสาทที่ปล่อยหมอกพิษนี้สินะ”  ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจ  เพราะหมอกชมพูมีอยู่ทั่วทุกที่ ลินลี่ย์และคนอื่นไม่กล้าใช้สำนึกเทพของพวกเขาค้นหา  ที่สำคัญถ้าหมอกชมพูปนเปื้อนกับวิญญาณแม้แต่เล็กน้อย ก็จะส่งผลทันที

ต่อให้พวกเขาไม่บ้าแต่ประสิทธิภาพในการสู้รบของพวกเขาลดลง

กลุ่มของลินลี่ย์ไม่กล้าใช้สำนึกเทพของพวกเขา  และศัตรูก็ไม่ใช่เหมือนกัน  อย่างไรก็ตาม ศัตรูคุ้นเคยกับพื้นที่ในปราสาทมากกว่า และเป็นไปได้ที่พวกเขากำลังนอนรออยู่ในพื้นที่ลับนี่ทำให้ฝ่ายลินลี่ย์เสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง

“พวกเจ้าที่อยู่ข้างหน้ารีบด้วย!” เสียงตะคอกดังมาจากอสูรที่อยู่ด้านหลัง “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้ากันแน่? หรือว่ากลัวจนแข้งขาอ่อนหมดแล้ว?”

กลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าโกรธจัด  ด้านหน้าของกลุ่มคือพื้นที่อันตรายที่สุด  และพวกเขาถูกเร่งให้เพิ่มความเร็ว?  นี่เท่ากับบังคับให้พวกเขาไปตายหรือเปล่า?  แต่พวกเขาไม่กล้าขัดขืนพวกอสูร ที่สำคัญอสูรที่อยู่ในภารกิจนี้ล้วนเป็นเทพชั้นสูง

“ถึงทางเลี้ยวแล้ว!”

กลุ่มเดินมาถึงทางเลี้ยวที่ระเบียงทางเดินและพวกเขาทุกคนเดินไปในทางเลี้ยวต่างๆ

ทหารชุดทองสิบคนที่หมอบซ่อนอยู่ในความมืดเหนี่ยวธนูรออยู่แล้ว

“เกี่ยวกับเวลา พวกเขาเลี้ยวไปแล้ว!” หัวหน้ากลุ่มทหารชุดทองพูดเบาๆ “ทุกคนเตรียมโจมตี!”

“เข้าใจแล้วหัวหน้า”  ดวงตาของทหารชุดทองฉายประกาย  พวกเขาถือธนูเตรียมพร้อมยิง  ธนูห้าดอกอยู่ในมือของพวกเขา  พวกเขาจะยิงธนูครั้งละห้าดอก สำหรับทหารชุดทองเหล่านี้แม้ว่าจะคำนวณได้ถูกต้อง  อย่างไรก็ตาม..

พวกเขาต้องยิงสุ่มโดยมองไม่เห็นเพราะระเบียงทางเดินเป็นแนวตรง แน่นอนว่าทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำก็คือยิงเป็นแนวตรง

“พวกเจ้ารู้สึกแย่มากจริงๆ”  หัวหน้าใช้เพียงธนูดอกเดียว

“ใครก็ตามที่โดนธนูของท่านหัวหน้ายิงใส่  จะต้องตายอย่างแน่นอน”

หัวหน้าหน่วยหัวเราะอย่างใจเย็น

ความจริงตามรายงานข่าวกรองของปราสาทอสูรไม่ได้แม่นยำเสียทีเดียว  ปราสาททะเลสาบจันทราพวกทหารชุดดำทั้งหมดเป็นเทพชั้นสูงที่ทรงพลัง เรื่องนั้นก็จริง  แต่ทหารชุดทอง...

พวกเขาไม่ใช่เทพแท้ทั้งหมด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนใหญ่ของพวกเขาเป็นเทพแท้ ขณะที่มีส่วนน้อยที่เป็นเทพชั้นสูง พวกเขาไม่ได้เป็นทหารชุดดำเพราะพวกเขาถูกส่งไปเป็นหัวหน้าหน่วยของทหารชุดทอง

ทหารชุดทองในทางกลับกันมีเพียงสองระดับ  สมาชิกธรรมดาและหัวหน้ากลุ่ม กล่าวโดยทั่วไปกลุ่มหัวหน้าจะฟังคำสั่งทหารชุดดำ  ทหารชุดดำทั้งสิบจะรับผิดชอบดูแลทหารชุดทองทั้งหมดหัวหน้าของกลุ่มทหารชุดทองผู้หมอบรอลอบโจมตีกลุ่มของลินลี่ย์เป็นเทพชั้นสูง!

อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้กลายเป็นเทพผ่านการหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์

“หลังจากข้าเปิดม่านผนังแล้ว ฟังสัญญาณจากข้าจากนั้นยิงทันที

“ควั่บ!”  ทันใดนั้นในความมืดผนังหินเปิดออกอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าทันทีมองเห็นทหารชุดทองสิบคนซ่อนอยู่ด้านหลัง

แต่เพราะหมอกชมพูอำพรางไว้ กลุ่มของลินลี่ย์จึงไม่รู้ว่าที่ท้ายระเบียงทางเดินมีทหารชุดทองสิบคน

บุรุษชุดทองจ้องผ่านหมอกชมพูข้างหน้าอย่างเย็นชา

“ยิง!” หัวหน้าหน่วยสั่งผ่านสำนึกเทพกับพวกเขาทั้งหมด  เพราะเขาเป็นคนเปิดผนังหิน  เขาจึงเป็นคนสุดท้ายที่จะยิง

“ควั่บ!”  “ควั่บ!”  “ควั่บ!”  .....

ทันใดนั้นธนูหกสิบดอกพุ่งออกมาเหมือนกับพายุฝนครอบคลุมไปทั้งทางเดินทันทีที่พวกเขายิงเสร็จ ผนังหินก็ปิดลงทันที  จากด้านนอกไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าผนังหินนี้มีการเคลื่อนไหว

กลุ่มของลินลี่ย์ตอนนี้เดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง

ลินลี่ย์จ้องมองอย่างระมัดระวังแต่ทันใดนั้นม่านตาของลินลี่ย์หดแคบและสีหน้าของเขาเปลี่ยน....

ห่าธนูหนาแน่นกำลังพุ่งแหวกอากาศใส่ลินลี่ย์และกลุ่มคนข้างหน้าอย่างไร้ความปราณีและผ่านช่องว่างไปถึงคนด้านหลัง ธนูเหล่านี้ดูเหมือนยิงออกมาอย่างรวดเร็ว และบางครั้งลินลี่ย์และพวกก็มองเห็นลูกธนู มีระยะห่างเพียงไม่กี่สิบเมตร

ระยะห่างไม่กี่สิบเมตรไม่เพียงพอให้ลินลี่ย์และพวกพ้องได้หลบทันเวลา

“เดเลีย!”

ในช่วงเวลาสั้นๆลินลี่ย์ทำได้แต่เพียงเคลื่อนไหวครั้งเดียวเขาเหยียดแขนพยายามบังอยู่ด้านหน้าเดเลียป้องกันนางจากลูกธนู

“ฉึก!” “ฉึก!”

แม้ว่าลินลี่ย์จะไม่ใช่คนแรกที่อยู่ด้านหน้าแต่ธนูสองดอกก็พุ่งใส่ร่างของเขา ธนูกระทบใส่ร่างของลินลี่ย์เหมือนกับสายฟ้า แต่ชุดธาตุดินบนตัวลินลี่ย์เปล่งระลอกพลังเทพนับไม่ถ้วนและสลายพลังของลูกธนูได้ทันที

บีบีก็ถูกธนูยิงใส่ดอกหนึ่งด้วยเช่นกัน

“แคล้ง!”เสียงโลหะกระทบดังขึ้นสามารถได้ยินได้ และธนูที่ยิงมาระเบิดและแตกเป็นชิ้นๆ ร่วงลงพื้น

“อ่อนเกินไป” บีบีหัวเราะดีใจ

“เราปลอดภัยกันหมด” ลินลี่ย์สามารถบอกได้ทันทีว่าเดเลียและบีบีปลอดภัยทั้งคู่  เขารู้สึกโล่งใจไม่ได้

แต่หลังจากนั้นหน้าของลินลี่ย์ก็เปลี่ยนไปทันที  ในสายตาของเขาเขาเห็นธนูที่น่ากลัวดอกหนึ่งยิงมาแต่ไกล!

“มีธนูอีกดอกกำลังพุ่งมาถึง!”

นี่คือธนูซึ่งถูกยิงออกมาเป็นดอกสุดท้าย!

แต่นี่เป็นธนูที่น่ากลัวที่สุด  ธนูของเทพชั้นสูง! ธนูสังหารเทพเปล่งพลังที่น่ากลัวขณะพุ่งตัดอากาศแหวกมิติทำให้มิติเป็นระลอก ทำให้ลินลี่ย์ไม่มีโอกาสตั้งตัวขณะที่มันปะทะโดยตรงเข้าที่หน้าอกของลินลี่ย์

“ปัง!”

พลังทะลุทะลวงของธนูดอกนี้รุนแรงมาก  แม้แต่ระลอกพลังนับไม่ถ้วนของพลังเทพของเขาพยายามจะลดสลายพลังโจมตีทะลุทะลวง  แต่ในที่สุดพลังทะลุทะลวงก็ทะลุผ่านไปได้

“อ๊า!”  ลินลี่ย์คุกเข่ากับพื้นข้างหนึ่งอย่างไร้พลัง

บีบีที่เก็บรวบรวมศพที่อยู่ใกล้ๆหันขวับทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยน “พี่ใหญ่!”  เดเลียที่เพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกตกใจทันที

“ฮึ่ม.. ในที่สุด..ก็ตายหรือเปล่า?”  ที่ด้านหลังของหน่วยเจ้าโล้นแคลมป์ตันจ้องมองลินลี่ย์ตลอดเวลา เมื่อเขาเห็นลินลี่ย์คุกเข่าข้างหนึ่ง ใบหน้าของเขามีรอยยิ้ม  “ข้าไม่ต้องฆ่าเจ้า ก็มีคนอื่นฆ่าเจ้าฮ่าฮ่า...”

เขาตื่นเต้นดีใจ

ตัวธนูเองไม่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริงก็คือพิษที่อาบอยู่บนลูกธนู

กระแสพลังสีเทาเข้าโจมตีสมองของลินลี่ย์พลังทะลุทะลวงตรงเข้าหาวิญญาณของลินลี่ย์!

“ปัง!”

มันปะทะกับเยื่อพลังใสอย่างรุนแรง เยื่อพลังเกล็ดใสก็คือสมบัติมหาเทพสำหรับป้องกันวิญญาณ  นอกจากจะเข้าไปถึงแล้ว ส่วนอื่นๆของพลังป้องกันไม่ได้เสียหายและกระแสพลังงานทะลุทะลวงสีเทาก็เหือดหายไปมากกว่าครึ่งจากการปะทะกัน

พลังงานสีเทาที่ยังเหลือเหมือนกับว่ามันมีจิตใจเป็นของตนเองซึ่งรู้ว่าเยื่อพลังโปร่งใสยากจะรับมือได้ ทันใดนั้นมันแตกกระจายกลายเป็นจุดแสงสีเทาซึ่งครอบคลุมเยื่อพลังไว้ ตามธรรมดาพลังที่รุกล้ำเข้ามาจะถูกลินลี่ย์ใช้พลังจิตปิดคลุมไว้เหมือนเป็นผ้าพันแผล

“นี่มันอะไรกัน?”  ลินลี่ย์ตกใจ เขารู้สึกว่าจุดสีเทามีจิตใจ

“ควั่บ!”

ทันใดนั้นจุดสีเทาทั้งหมดเหมือนกับพบว่าผ้าพันแผลนั้นอ่อนแอและเริ่มโจมตีผ้าพันแผลอย่างบ้าคลั่งทันที  ส่วนที่เหลือของพลังทั้งหมดเริ่มรุกล้ำเข้าไปในทะเลจิตสำนึกของลินลี่ย์

ขณะนั้นเอง...

จุดสีเทาหลายจุดแบ่งออกเป็นสาม  จุดสีเทาอ่อนเหล่านี้บุกเข้าโจมตีประกายเทพของลินลี่ย์ร่างแยกธาตุลม และร่างหลักของเขาทันที

“มันโจมตีวิญญาณของข้าพร้อมกัน!”  ลินลี่ย์ตกใจหนัก

แต่แม้ว่าเขาจะตกใจแต่ลินลี่ย์ยังคงควบคุมพลังจิตในทะเลจิตสำนึกสร้างชีพจรป้องกัน! ระลอกพลังจิตมหาศาลปะทะกับจุดแสงสีเทา ครู่ต่อมา จุดสีเทาทั้งหมดก็ดับไปขณะที่พลังจิตของลินลี่ย์ใช้หมดไปกว่าครึ่งเช่นกัน

“นั่นอันตรายมากจริงๆ”

ตอนนี้ลินลี่ย์ถอนหายใจโล่งอก

“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่!”

“ลินลี่ย์!  ลินลี่ย์!”  เดเลียและบีบีอยู่ข้างเขาทั้งคู่และร้องเรียกเขาเบาๆ

แม้ว่าจะใช้เวลาอธิบายกันยาวนานเกี่ยวกับพิษที่เข้าสู่ร่างกายของเขา แต่ความจริงสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเวลาเพียงหนึ่งหรือสองวินาทีหลังจากนั้นลินลี่ย์ก็ลืมตา

“ข้าไม่เป็นไร” ลินลี่ย์ยิ้มให้พวกเขา

เพียงแต่ตอนนี้เดเลียและบีบีจึงได้ถอนหายใจโล่งอก  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์รู้สึกไม่สบายใจ  “พิษนั่นน่ากลัวจริงๆ  มิน่าเล่าสมาชิกที่ปราสาทเรดบุดจึงบอกว่าธนูสังหารเทพนี้สามารถฆ่าเทพแท้ได้เกือบทั้งหมด  แปลกประหลาดเกินไป น่ากลัวเกินไป”

ขณะที่ลินลี่ย์เห็นอยู่นั้นพิษของธนูสังหารเทพมีเจตจำนงเป็นของตนเอง

แม้ว่ามันจะไม่สามารถคิดได้จริงๆ แต่มันมีความสามารถหลบจุดแข็งและแสวงหาจุดอ่อนได้

“อย่างไรก็ตาม สำหรับพิษนี้ วิญญาณมีพลังดึงดูดมันอย่างทรงพลัง” ลินลี่ย์รู้เรื่องนี้เพราะว่าพิษสามารถคิดได้ มันจะเพ่งความพยายามไปที่การทำลายวิญญาณดวงหนึ่ง  แต่พิษนี้ไม่ทำอย่างนั้น มันพยายามโจมตีวิญญาณทั้งสามของลินลี่ย์พร้อมกัน!”

“เขายังไม่ตายอีกหรือ?”  แคลมป์ตันที่ด้านหลังของกลุ่มเห็นลินลี่ย์ยืนขึ้นอีก  เขาอดถลึงตามองไม่ได้และจากนั้นหน้าของเขาดูดุร้าย  “ฮึ่ม...เขารอดชีวิตได้อีกครั้ง  ข้าต้องการดูนักว่าเขายังจะรอดไปได้อีกกี่ครั้ง ต่อให้เจ้ารอดพลังโจมตีวิญญาณของธนูสังหารเทพ  ข้าคิดว่าเจ้าคงใช้พลังจิตไปจนเกือบหมดสิ้น”

“เร็วเข้า!”  แคลมป์ตันตะโกนอีกครั้ง

คราวนี้คนในหน่วยตายไปราวๆ สิบคน หลังจากถูกลอบทำร้ายสองครั้งมีเทพแท้เหลืออยู่เพียงหกสิบ กลุ่มลินลี่ย์สามคนในตอนนี้อยู่หน้าสุดของหน่วย

“พี่ใหญ่, เราไม่อาจปล่อยไปอย่างนี้ได้อีก” บีบีเริ่มกังวล

“ข้ารู้” ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้ดี

ใครจะรู้ว่าศัตรูวางแผนจะใช้กลอุบายอะไรอีก?  ถ้าพวกเขายังคงอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ที่ทำได้แต่เพียงป้องกัน ในไม่ช้าเมื่อการป้องกันของพวกเขาไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไปพวกเขาจบสิ้นแน่

“เราอยู่ที่ชั้นสามแล้ว!”  กลุ่มของลินลี่ย์เริ่มนำลงบันได

“ทุกคน, ระวังให้ดี”  เทพแท้คนหนึ่งร้องขึ้น “ชั้นที่สามจะต้องอันตรายมากกว่าชั้นที่สองแน่นอน”

ในห้องกว้างใหญ่บนชั้นที่สามของปราสาททหารชุดทองเดินเข้ามาจากด้านบนผ่านประตูลับ

“เจ้านายของเราโหดจริงๆ ในครั้งนี้  เขาเอาโกเลมมัจจุราชออกมาใช้ด้วย”  ทหารชุดทองตื่นเต้นมาก

“แต่เรามีโกเลมมัจจุราชทั้งหมดแค่ยี่สิบตัวเท่านั้น  หน่วยของเราโชคดีมากแล้วที่มีอยู่ตัวหนึ่ง”

หัวหน้าหน่วยชุดทองหัวเราะอย่างใจเย็น  “อีริค, เจ้าสามารถควบคุมโกเลมมัจจุราชได้  ข้าไม่ต้องการมัน!” ที่สำคัญคือหัวหน้าหน่วยชุดทองเป็นเทพชั้นสูง  แม้ว่าโกเลมมัจจุราชจะทรงพลังมากแต่ก็เพียงเสมอกับเขา

ชั้นที่สามใหญ่โตมาก  และชั้นของปราสาทก็ดูยุ่งเหยิงมาก จนเมื่อคนหนึ่งเดินเขาอาจจะลืมเส้นทางที่เดินมาก็ได้ พวกเขาได้แต่เลือกเดินสุ่มๆ

“เราไม่อาจปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!”  ลินลี่ย์เดินช้าๆแต่ข้างหน้ามีแต่หมอกสีชมพู ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรปรากฏข้างหน้า

ทันใดนั้น...

“หยุดนะ!”เสียงดังลั่นตะโกนออกมา

“พี่น้อง, หนี!”

จู่ๆเสียงดังสับสนที่สามารถได้ยินมาจากทุกที่ในปราสาทคนในกลุ่มของลินลี่ย์กว่าหกสิบคนตะลึงกันหมด

แววดีใจปรากฏอยู่ในใบหน้าลินลี่ย์

ลินลี่ย์แผ่สำนึกเทพคลุมคนสี่สิบถึงห้าสิบคนข้างหน้าเขา  “พี่น้อง, ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราจะตายกันหมด เราต้องแยกย้ายกระจายตัวกันหนี วิธีนั้น เราจะไม่ถูกจับและถูกคนในปราสาทฆ่ากวาดล้าง!”

“พี่น้อง, หนี!”  จู่ๆ ลินลี่ย์ตะโกนเสียงดังทันที

ในขณะเดียวกันเทพแท้ทุกคนเหมือนกับผ่านการฝึกฝนมาด้วยกัน ต่างรีบหนีเข้าไปในห้องใกล้ๆ ทันทีหรือเข้าลึกไปในหมอกชมพูตามทางผ่าน

ในพริบตาเดียว!

เทพแท้มากกว่าหกสิบคนเผ่นหนีหายไปหมด

อสูรสามคนในกลุ่มของแคลมป์ตันได้แต่ตะลึง

“เรา...เราควรจะไล่ตามใครดี?”  แคลมป์ตันหันไปมองอสูรอีกสองคนข้างตัวเขา

“ตามตูดข้ามาสิโว้ย!”  อสูรคนหนึ่งสบถด่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด