ตอนที่แล้วตอนที่ 14-15 อสูรรอยัลวิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-17  หลอมรวมเคล็ดความรู้เพิ่มพลัง

ตอนที่ 14-16 ระดับเทพแท้!


กลุ่มของลินลี่ย์สามคนออกจากปราสาทอสูรกลับไปยังที่พักของตนเอง

“ฮึ่ม!”  บีบีขว้างหมวกฟางลงบนโต๊ะและพูดด้วยความโกรธ “ข้าต้องทนอัดอั้นอารมณ์เมื่ออยู่ที่แดนนรกนี่จริงๆ  เจ้าหัวล้านนั่นไม่กล้ารุกรานคนมีพลังแข็งแกร่ง  ดังนั้นเขาจึงหันมาเหยียดหยามเราแทน  ถ้าเราอยู่ข้างนอกเมือง ต่อให้ต้องทุ่มเทชีวิตข้าจะต้องล้มเขาให้ได้”

เดเลียเม้มปากและหัวเราะ  “จะล้มเขาหรือ? บีบี!  คนหัวโล้นนั่นเป็นเทพชั้นสูง  เจ้าจะล้มเขาได้หรือ?”

“เป็นเทพชั้นสูงแล้วจะเป็นไงเล่า?”  บีบีเชิดหน้า แต่จากนั้นก็ก้มหน้าอีกครั้ง  “โอวเอ่อ.. เทพชั้นสูง..”

เมื่อเห็นบีบีทำท่าเช่นนี้ลินลี่ย์และเดเลียเริ่มหัวเราะทั้งคู่

“ปู่นะปู่.. เขามีประกายเทพชั้นสูงหลายชิ้นแต่ห้ามข้าไม่ให้ใช้เลย เขาต้องการให้ข้าบรรลุพลังด้วยตนเอง มิฉะนั้นข้าคงกลายเป็นเทพชั้นสูงไปนานแล้ว”  บีบีมองดูลินลี่ย์  “พูดเรื่องนี้พอแล้ว, พี่ใหญ่! เราจะสอบเป็นอสูรเมื่อไหร่?  อีก20-30 ปีข้างหน้าใช่ไหม?”

ลินลี่ย์พยักหน้า

“ตอนนี้ข้ายังไม่มั่นใจว่าความสามารถของข้าจะสามารถผ่านการสอบเป็นอสูรได้  ไม่ต้องรีบ ในอีกไม่กี่สิบปีข้าจะถึงระดับเทพแท้ในกฎของธาตุดินได้แน่ เมื่อถึงเวลานั้นโอกาสสำเร็จของเราจะมีนัยสำคัญ”  ลินลี่ย์อดคิดถึงกฎธรรมชาติธาตุลมไม่ได้

ลินลี่ย์ไม่กล้าย่อหย่อนในการฝึกฝนสายธาตุลม

อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ลินลี่ย์ยังมีความเข้าใจแค่ในส่วนด้าน‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ ของเคล็ดลึกลับเท่านั้น

“ข้าเชี่ยวชาญการเต้นชีพจรโลกมานานแล้ว  และแก่นธาตุดินเป็นความรู้ลึกลับที่ง่ายที่สุดของกฎธาตุดิน โดยปกติความเร็วในการหลอมรวมเคล็ดความรู้ทั้งสองจึงค่อนข้างเร็ว แต่สัจธรรมแห่งความเร็วจำเป็นต้องได้รับการรู้แจ้งอย่างต่อเนื่องในเคล็ดความรู้ลึกลับที่แตกต่างทั้งสองขณะที่หลอมรวมด้วยกัน  ความเร็วในการหลอมรวมจึงช้ามาก”

ลินลี่ย์ถอนหายใจกับตนเอง

ถ้าเขาเองสามารถถึงระดับเทพแท้ได้ในทั้งกฎธาตุลมและกฎธาตุดินพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

“แค่เพียงไม่กี่สิบปี ไม่ต้องรีบร้อน”  บีบีหัวเราะ “ไม่มีอันตรายในเมืองรอยัลวิงอยู่แล้ว และนี่เป็นเมืองที่ใหญ่มาก  ข้ามีหลายที่ที่ต้องการจะเที่ยวสำรวจ  โอว..จริงสิ พี่ใหญ่! ในเผ่ามังกรดำข้ามักจะได้ยินคนชื่นชมว่าอาหารเมืองรอยัลวิงนั้นเลิศรส  พรุ่งนี้เราไปลิ้มลองกันดีไหม?”

ถ้าเกี่ยวกับอาหารเลิศรสลินลี่ย์ค่อนข้างกระตือรือร้นเช่นกัน

อาหารเลิศรสในแดนนรกถูกปรุงด้วยวัตถุดิบส่วนผสมที่ล้ำค่าเป็นของแท้และมีคุณภาพตามธรรมชาติสูง

“ก็ได้ เราจะไปลิ้มอาหารเลิศรสพรุ่งนี้”

ก็ต้องไปบ้างเป็นครั้งคราว

ทางเข้าภัตตาคารเมืองรอยัลวิง

“ที่นี่ดูดีจริงๆ”  กลุ่มของลินลี่ย์มองดูด้านนอกภัตตาคารนี้ที่ตกแต่งไว้อย่างเลิศหรู พวกเขาพึงพอใจผลักเปิดประตูเดินเข้าไปข้างใน เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์เข้ามาบริกรของโรงแรมเข้ามาต้อนรับทันที บีบีชำเลืองมองบริกรและใช้สัมผัสเทพคุยกับลินลี่ย์  “พี่ใหญ่, บริกรผู้นี้เป็นระดับเทพแท้”

ในใจของเขาลินลี่ย์รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องตลก

เทพแท้รอให้บริการเขาหรือ?

แต่ในเมืองรอยัลวิงเทพแท้พบเห็นได้โดยทั่วไป ไม่ใช่เรื่องแปลกเกินไปที่บริกรจะเป็นเทพแท้

“ลูกค้าผู้มีเกียรติทั้งสาม เชิญตามข้ามา” บริกรยิ้มเต็มหน้าขณะที่เขาเดินนำกลุ่มของลินลี่ย์

“ซ่า.. ซ่า...”

ในภัตตาคารมีภูเขาจำลองและน้ำพุ  น้ำพุฉีดพุ่งไปข้างหน้า และกระแสของน้ำพุแบ่งภัตตาคารออกเป็นหลายพื้นที่

กลุ่มของลินลี่ย์เลือกมุมหนึ่งของภัตตาคารแล้วนั่งลง แค่เพียงพลิกมือบริกรก็ดึงเมนูรายการอาหารเลิศรสออกมา  เขายิ้มและวางเมนูลงบนโต๊ะ  “หลังจากท่านเลือกอาหารแล้วโปรดเรียกข้าอีกครั้ง”

หลังจากพูดแล้วบริกรถอยออกมาไปอยู่ที่มุมอื่น

“ข้าไม่เคยเห็นราคาค่าอาหารในแดนนรกมาก่อน”  บีบีพลิกเมนูดูอย่างตื่นเต้น

ลินลี่ย์ก็ค่อนข้างสงสัยเช่นกัน

“โอว...แพงเป็นบ้า”  บีบีพลิกหน้ารายการอาหารดูอย่างต่อเนื่อง  “พี่ใหญ่!  อาหารจานถูกที่สุดก็ราคายี่สิบศิลาดำแล้ว”  ขณะที่พูดบีบีถลึงตามองดูรายการอาหาร  “อาหารแนะนำแต่ละอย่างเลิศรสทั้งนั้นอธิบายได้ชัดเจนถึงคุณค่าทุกจาน โอว..จานนี้ราคาเจ็ดร้อยศิลาดำ แพงมากกก”

หลังจากอ่านหมดแล้วบีบีส่งเมนูให้ลินลี่ย์และเดเลียและยิ้มแหย

ลินลี่ย์และเดเลียเริ่มอ่านรายการอาหารด้วยกัน

“นี่, ลินลี่ย์! ดูสิจานนี้ปรุงจากฟีนิกซ์ไฟนรก ราคาสามสิบศิลาดำ ราคาไม่ถือว่าแพงนะ”  เดเลียชี้อาหารจานหนึ่ง

ลินลี่ย์พลิกอ่านเมนูเช่นกันเขาอดถอนหายใจไม่ได้

“ตราบเท่าที่เรามีเงินเจ้าสามารถกินอสูรเวทระดับเซียนหรือระดับเทพก็ยังได้  แม้ว่าวัตถุดิบเหล่านั้นจะมาจากพิภพอื่น”  ลินลี่ย์ดูคำอธิบายอาหารเลิศรสแต่ละจานแล้วอดถอนหายใจไม่ได้  “เดเลีย!  เจ้ากับบีบีเลือกรายการอาหารเถอะ  ข้าจะสั่งด้วย”

พวกเขาสั่งรวมหกจาน

“บีบี!  เจ้าเลือกแต่ของแพงเชียวนะ”  ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ

หกจานราคารวม215 ศิลาดำ ก็ต้องเข้าใจว่าในแดนนรก สมบัติเทียมเทพมีค่าไม่ถึงสิบศิลา  ขณะที่ประกายเทียมเทพไม่ถึงร้อยศิลาดำ  แต่เฉพาะอาหารหกจานนี้ราคารวม 215 ศิลาดำ

โชคดีที่เงินสุทธิที่สามคนมีนั้นรวมกันแล้วหลายล้าน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจราคาที่แพงมากขึ้นเป็นธรรมดา

“สองจานนี้จะต้องใช้เวลานานแน่นอน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจานนี้ปิ้งอย่างเดียวก็ทำได้ช้ามาก กินเวลาไปตั้งหกชั่วโมง”  บริกรยิ้มขณะอธิบาย

“เข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้า

เมื่อสั่งอาหารจะมีคำอธิบายถึงรายการอาหารแต่ละอย่าง  ที่สำคัญกลุ่มของลินลี่ย์ไม่รีบร้อนพวกเขานั่งและรอได้ทั้งวันถ้าจำเป็น

“พี่ใหญ่,ใช้ชีวิตอย่างคนมีเงินในแดนนรกก็ดีเหมือนกัน” บีบีถอนหายใจ  “เมื่อเรากลับไปมาตุภูมิของเรา  เป็นไปได้ยังไงที่จะได้กินอาหารอย่างนี้?”  ตอนนี้บีบีรู้สึกว่าเขากำลังเสวยสุข  เขาชอบกินยิ่งนัก

ลินลี่ย์มองไปนอกหน้าต่าง

หน้าต่างโลหะของภัตตาคารใสกระจ่างสามารถเห็นทุกอย่างข้างนอกได้

“เมืองเหล่านี้เป็นเพียงพื้นที่ปลอดภัยในทั่วทั้งแดนนรก”  ลินลี่ย์บอกกับตัวเอง  “ในเมืองรอยัลวิง เราสามารถคลายใจและนั่งสำราญกับอาหารเงียบๆได้  แต่ถ้าเราอยู่นอกเมือง  ทุกขณะล้วนเต็มไปด้วยภยันตรายบางทีอาจต้องสูญเสียชีวิตเราก็ได้”

แคว้นไนท์บลาสที่ใหญ่โตกว้างขวางมีเส้นรอบอาณาเขตเป็นพันล้านกิโลเมตร

แต่มีเมืองเพียงสิบเมือง

ใครๆก็สามารถบอกได้จากตรงนี้ว่าในแดนนรกยอดฝีมือทุกคนล้วนแต่ใช้ชีวิตเสี่ยงต่ออันตราย  มีอยู่น้อยคนนักที่จะใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย

“ต่อให้เจ้าต้องการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายเจ้าก็ต้องมีเงินให้มากมายเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้” ลินลี่ย์เข้าใจว่าขณะที่เมืองรอยัลวิงสะดวกสบายมาก  เงินที่พวกเขาใช้ออกไปก็ต้องมีจำนวนมากอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน

อาหารมาถึงแล้วและกลุ่มของลินลี่ย์เริ่มสำราญกับอาหารอร่อยเลิศรสเหล่านี้

“อืม!”  ขณะที่บีบีกิน ตาของเขาเริ่มเป็นประกายอย่างมีความสุข

เดเลียและลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่าการได้กินอาหารเลิศรสเหล่านี้เป็นความสำราญใจอย่างหนึ่งแน่นอน

“เฮ้อออ” บีบีพูดด้วยสีหน้าอิ่มเอม “พี่ใหญ่, ได้กินอาหารมื้อนี้แล้ว ต่อไปในอนาคต ข้าคงไม่สามารถกินอาหารบ้านเกิดเราได้  โอย มันอร่อยเป็นบ้า  นี่สร้างความสำราญกับตัวเองที่ดีที่สุด”  บีบียังคงกินไปพลางพูดชมอาหารไม่หยุด

ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้

“ลินลี่ย์” เดเลียสะกิดลินลี่ย์เบาๆ

“หือ?” ลินลี่ย์มองอย่างสงสัย  เดเลียพูดเบาๆ “ลินลี่ย์, มองดูนอกหน้าต่างสิ”

ลินลี่ย์มองดูข้างนอกหน้าต่างทันที  เขาเห็นกลุ่มคนข้างนอกบนท้องถนนรวมตัวเป็นกลุ่มอยู่ข้างนอกมองเข้ามาในภัตตาคารมีแววริษยาในดวงตา

“นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก  มีคนอยู่หลายคนที่เพิ่งจะเข้ามาในเมืองรอยัลวิง”  ลินลี่ย์พูดอ่อนโยน  “เดเลีย! วิถีแบบนี้ก็เป็นเหมือนเมื่อเรามาถึงเมืองรอยัลวิงครั้งแรกและเห็นสถานที่นี้ครั้งแรก เรามองดูทุกที่ด้วยความสงสัยและคาดหวังไม่ใช่หรือ?”

แดนนรกเป็นดินแดนที่โหดร้าย

ถ้าท่านมีเงินท่านสามารถสำราญกับอาหารเลิศรสได้ทุกอย่าง

แต่ในแดนนรกคนเกือบทั้งหมดต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด

แต่แน่นอนที่ลำบากที่สุดก็คือพวกเซียน เซียนหลายคนที่มาจากแดนโลกธาตุเข้าสู่แดนนรก  แต่หลังจากมาถึงแล้ว พวกเขาพบว่าพวกเขาเป็นชนชั้นต่ำต้อยที่สุดในที่นี้  ชีวิตของพวกเขาอาจจบลงได้ทุกเมื่อ...สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการได้รับประกายเทียมเทพ

แต่ประกายเทียมเทพยังมีราคาไม่เทียบเท่ากับอาหารบนโต๊ะต่อหน้าลินลี่ย์

“พี่ใหญ่, ขอแสดงความยินดีด้วยที่ได้เป็นอสูร  วันนี้เราสองคนจะฉลองกัน”มีเสียงดังมาจากด้านหลัง  เมื่อได้ยินคำว่า‘อสูร’ ลินลี่ย์อดฟังอย่างระมัดระวังไม่ได้

“ฮ่าฮ่า, เวลานี้อันตรายจริงๆ โชคดีที่ข้ามีฝีมือในกฎธาตุลม” เสียงทุ้มหนักแน่นดังขึ้น “เพียงแต่สหายรักของข้าหลายคนล้มเหลว อนิจจา ก่อนหน้านี้เรายังพูดกันอยู่เลยว่าเราทุกคนจะทำสำเร็จด้วยกัน  จะฉลองด้วยกันทั้งหมด”  ขณะที่บุรุษคนหนึ่งพูด เสียงของเขาเบาลง

เมื่อได้ยินเช่นนี้อารมณ์ที่ของลินลี่ย์ตกลงเช่นกัน

การสอบเป็นอสูรโหดร้ายจริงๆ

“เดเลีย! ในช่วง20-30 ปีข้างหน้านี้ไป เจ้าจำเป็นต้องเน้นการฝึกกฎธรรมชาติธาตุลม  เมื่อถึงเวลา ถ้ามีอันตรายใดๆ ปรากฏขึ้นอย่างน้อยเจ้ายังจะมีโอกาสดีที่จะอยู่รอดได้” ลินลี่ย์กังวลห่วงใยเดเลีย เมื่อเขากลายเป็นเทพแท้ คนที่อ่อนแอที่สุดในสามคนจะกลายเป็นเดเลีย

“ได้เลย” เดเลียพยักหน้าเล็กน้อย

สำหรับพลังของบีบีลินลี่ย์ค่อนข้างจะมั่นใจอยู่ในใจ

“โชคดี ที่เดเลียได้เรียนรู้เคล็ดลึกลับเกี่ยวกับร่างเงาที่เนฟพยายามใช้ฆ่าลินลี่ย์ โดยใช้วิชาแยกร่าง

เวลาผ่านไปลินลี่ย์ เดเลีย และบีบีใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในเมืองรอยัลวิง  พริบตาเดียวผ่านไป 32 ปี  การฝึกของลินลี่ย์มาถึงระยะสุดท้ายนานแล้ว  และเขาเตรียมจะบรรลุระดับเคล็ดลึกลับได้ทุกเมื่อ

ภายในที่ว่างด้านใน

บีบีสวมหมวกฟางทำหน้าตาเบื่อหน่ายขณะบ่น  “พี่ใหญ่บอกว่าเขามาถึงสภาวะคอขวดเมื่อสองปีที่แล้วและเขาปิดประตูฝึกตั้งแต่นั้นก็ยังไม่ออกมา นี่ก็สองปีแล้ว... เขาบอกว่าเคล็ดลึกลับแก่นธาตุดินเป็นเคล็ดที่ง่ายที่สุดของกฎธาตุดินไม่ใช่หรือ? แต่เขายังไม่บรรลุระดับใหม่หลังจากผ่านไปสองปีได้สักที”

ความจริงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปกับการรู้แจ้งเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุดิน

แต่สิ่งที่ลินลี่ย์กำลังทำก็คือการได้รับการรู้แจ้งในเคล็ดความรู้แก่นธาตุดินขณะหลอมรวมเข้ากับเคล็ดความรู้ลึกลับอีกอย่างหนึ่ง

“พี่ใหญ่อยู่ในระหว่างการฝึกปรือ  แต่เดเลียก็ฝึกอยู่ข้างๆ เขาเช่นกัน  ข้าเบื่อจะตายอยู่แล้ว”  บีบีถอนหายใจยาว  แค่เพียงพลิงมือบีบีดึงประกายเทพแท้ออกมาจากนั้นโยนเข้าปากและกลืนลงไป

“เป็นเพราะปู่เบรุต อึ๊ก....เขาให้ประกายเทพข้ามาเต็มกระสอบแล้วบอกให้ข้ากินให้หมด  แต่ประกายเทพเหล่านี้พอกินไปแล้ว มันย่อยยาก”

บีบีระบายลมหายใจยาว

“ประกายเทพตั้งมากมายต้องใช้เวลากี่ปีกว่าข้าจะกินได้หมด? ก็ได้ เมื่อพี่ใหญ่เงินหมด ข้าจะขายประกายเทพเหล่านี้ออกไป”  บีบีพึมพำกับตัวเอง

แต่ทันใดนั้น....

“ครืน.....”

ระลอกคลื่นเฉพาะไม่เหมือนใครปรากฏขึ้นขณะที่กฎธรรมชาติชะลอลงมาที่ห้องซึ่งลินลี่ย์อาศัยอยู่ นี่เป็นเรื่องที่ปรากฏได้โดยทั่วไปในแดนนรก  ดังนั้นจึงไม่มีใครให้ความสนใจ  แต่นี่... ทำให้บีบีดีใจอย่างมาก

“ในที่สุด, พี่ใหญ่ก็บรรลุระดับใหม่ได้แล้วหรือ?”

บีบียินดีขณะพุ่งเข้าไปในห้องของลินลี่ย์

“แอ๊ดดด!”  บีบีผลักเปิดประตู

เดเลียอยู่ภายในห้องเห็นบีบีและใช้สายตานางบอกใบ้ไม่ให้ส่งเสียง  บีบีรีบพยักหน้า  กลั้นหายใจ เขาเงยหน้ามองลินลี่ย์  ผู้ถูกกฎธรรมชาติล้อมรอบลอยอยู่ในกลางอากาศ

ลินลี่ย์ยังคงหลับตา  แต่ทันใดนั้น...

ประกายเทียมเทพสายธาตุดินของลินลี่ย์ดูเหมือนกลายเป็นสภาพมิใช่วัตถุมันออกมาจากหน้าผากลินลี่ย์ จากนั้นลอยอยู่เหนือศีรษะลินลี่ย์ แก่นธาตุดินขนาดมหึมาม้วนอยู่รอบประกายเทพ ภายใต้การควบคุมของกฎธรรมชาติ ประกายเทพของลินลี่ย์ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนรูป...

เปลี่ยนจากประกายเทียมเทพไปเป็นประกายเทพแท้!

แก่นธาตุดินหายไปและประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งแสงสีดินในตอนนี้มีรัศมีทรงพลังอย่างเห็นได้ชัด

“ครืนนน...”

ประกายเทพสีดินเหลืองหมุนรอบตัวช้าลง  จากนั้นก็กลับเข้าไปในร่างของลินลี่ย์

ครู่ต่อมา....

“กฎธรรมชาติหายไปแล้ว  ทำไมพี่ใหญ่ถึงยังไม่ลืมตา?  เขาทำอะไร?” บีบีไม่สามารถอดทนรอต่อไป  เขาอดพูดไม่ได้  เดเลียได้แต่จ้องเขาจากนั้นเตือนทางสำนึกเทพ  “บีบี! อย่าเพิ่งส่งเสียง”

ลินลี่ย์ได้ยินเสียงของบีบีจึงลืมตาขึ้นและหัวเราะขณะมองบีบี  “ข้าเพิ่งถึงระดับเทพแท้ ดังนั้นข้าต้องการสัมผัสว่าข้ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง เท่านั้นเอง”

ขณะนั้นเองลินลี่ย์หลอมรวมชีพจรโลกและแก่นธาตุดินเข้าสู่ระดับเทพแท้เต็มที่!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด