ตอนที่แล้วChapter 68 : ฉายา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 70 : บ้านแห่งความตะกละ

Chapter 69 : ตำราหุ่นเชิดศิลา


หลังจากเดินลงบันไดและเดินผ่านทางเดินสั้นๆมาแล้วโจวเฉินก็มาถึงสถานที่ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นจตุรัสใต้ดิน

สถานที่แห่งนี้ดูโอ่โถงไม่น้อยดูๆไปแล้วน่าจะยัดสนามฟุตบอลได้มากกว่าร้อยสนาม เสาศิลาขนาดใหญ่จำนวนมากตั้งเรียงรายค้ำยันเพดานเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างประหลาดหรืออาจจะเรียกว่ารูปปั้นหินที่ดูทั้งสง่างามและซีดเซียวในเวลาเดียวกัน

หลังจากสังเกตอยู่ซักพักโจวเฉินก็พบว่ามีบางอย่างขยับอยู่ภายใต้กองหินซึ่งอยู่ห่างออกไปดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปดู

หลังจากเขาและหญิงสาวผมยาวเดินเข้ามาใกล้คนทั้งสองก็สังเกตุเห็นทหารศิลาโบราณสองกลุ่มกำลังเดินลาดตะเวนอยู่ด้านหลังสิ่งก่อสร้างรูปทรงลูกบาศก์ที่ทำจากหิน

ในแต่ละกลุ่มนั้นจะมีทหารศิลาอยู่ราวๆยี่สิบตัว ทหารศิลาทุกตัวในมือกระชับทวนยาวเอาไว้และเดินกลับไปกลับมาในลักษณะที่ค่อนข้างเป็นระเบียบไม่น้อย

ตรงกลางระหว่างกลุ่มลาดตระเวนทั้งสองนั้นมีกล่องไม้วางอยู่ใบหนึ่ง

‘เราต้องเอากล่องนี้มาให้ได้แต่ดูเหมือนการจะรับมือกับทหารศิลาจำนวนขนาดนี้จะค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน สู้กับพวกมันตรงๆไม่ได้เด็ดขาด’

โจวเฉินเคยสู้กับนักรบศิลาที่ใช้กระบี่คู่มาก่อนตอนที่อยู่ชั้นหนึ่งและรู้ดีว่าค่อนข้างเป็นปัญหา พวกมันทั้งอึด ทึก ทน ทรงพลังและแทบจะไม่มีจุดอ่อนตายตัว

แม้ว่าทหารศิลาพวกนี้จะดูแล้วอ่อนแอกว่านักรบศิลาแต่ด้วยจำนวนที่มากมายของพวกมัน โจวเฉินก็ยังรู้สึกว่าคงเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากอยู่ดี

หลังจากหลบอยู่หลังเสาหินและตรวจสอบการเคลื่อนไหวของพวกมันอยู่ซักพักโจวเฉินจึงตัดสินใจได้ เขาวางแผนว่าจะพุ่งเข้าไปคว้าหีบสมบัติมาทันทีที่ทหารศิลาทั้งสองกลุ่มอยู่ห่างจากกันที่สุด

แผนการนี้ค่อนข้างเรียบง่ายแต่ก็คุ้มที่จะลอง แม้ว่าจะล้มเหลวก็ยังมีช่องพอให้หลบหนี

สามนาทีให้หลังเมื่อกลุ่มลาดตระเวนทั้งสองกลุ่มอยู่ห่างจากกันโจวเฉินก็เปิดใช้งานสกิลย่างก้าวสายลมและพุ่งตัวออกไปทันที

ในสภาวะที่ถูกหนุนเสริมด้วยย่างก้าวแห่งสายลมโจวเฉินจะมีความเร็วสูงมาก ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเขาก็ข้ามพ้นระยะร้อยเมตรและเข้าใกล้หีบสมบัติได้แล้ว หน่วยลาดตระเวนทั้งสองกลุ่มยังอยู่ห่างจากเขาออกไปราวๆ30เมตรและดูเหมือนจะยังไม่มีปฏิกริยาตอบสนองใดๆ

โจวเฉินเข้าใกล้ตัวหีบสมบัติขึ้นเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงขณะที่คอยตรวจสอบสถานการณ์ของทั้งสองฝั่งไปด้วย เมื่อเขาอยู่ห่างจากหีบสมบัติราวสามเมตรเขาก็พลันรู้สึกได้ว่าพื้นดินใต้เท้าของเขามันไร้น้ำหนัก พร้อมกับเสียงอื้ออึงที่ดังขึ้นแผ่นหินใต้เท้าของเขาก็พลันล่วงหล่นลงไปอย่างรวดเร็ว

“เป็นกับดักจริงๆด้วยสินะ”

โจวเฉินไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด หีบสมบัติที่ถูกวางอยู่บนพื้นเช่นนี้ถ้าไม่มีกับดักอยู่รอบๆสิถึงจะแปลก

โจวเฉินรีบเปิดใช้งานสกิลลอยตัวของย่างก้าวสายลมในทันทีและลอยตัวข้ามหลุมเข้าไปหาหีบสมบัติ

จากนั้นเขาก็ยื่นหอกออกไปกระตุกหีบสมบัติให้ลอยขึ้นและพุ่งเข้าไปคว้าเอาไว้

หลังจากได้หีบสมบัติมาเขาก็ถอยทันที โจวเฉินลอยข้ามหลุมและหลบหนีออกมาอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกันเขาก็สังเกตเห้นแล้วว่าทหารศิลาทั้งสองฝั่งนั้นกำลังเริ่มไล่ล่าเขาแล้ว ความเร็วของพวกมันไม่ได้เชื่องช้าเลยดังนั้นระหว่างที่วิ่งไปเขาจึงเปิดหีบเพื่อเอาของข้างในออกมา

สิ่งที่อยู่ด้านในกล่องไม้ใบนี้คือหนังสือเล่มหนึ่ง โจวเฉินโยนมันเข้าไปในช่องเก็บของอย่างลวกๆและออกวิ่งต่อด้วยแรงทั้งหมดที่มี

กลุ่มทหารศิลาทั้งสองกลุ่มวิ่งเร็วกว่าคนทั่วไปมาก พวกมันทั้งหมดไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละแต่ก็เป็นฝั่งเขาที่ไวกว่า หรือจะกล่าวให้ถูกก็คือเขาเร็วกว่าพวกมันถึงสองเท่า หลังจากวิ่งต่อมาได้นาทีนึงโจวเฉินก็สลัดพวกทหารศิลาหลุดในที่สุด เขาไปหลบอยู่ด้านหลังสิ่งก่อสร้างประหลาดที่ทำจากหินและหยิบหนังสือที่ได้มาออกมาดู

[ตำราหุ่นเชิดศิลา]

[ประเภท : หนังสือระดับทองแดงขั้นต่ำ]

[คำอธิบาย : หนังสือเล่มนี้คือส่วนแรกของตำราหุ่นเชิดศิลา มันบันทึกความรู้เกี่ยวกับหุ่นเชิดศิลาเอาไว้มากมาย หลังจากเรียนรู้มันท่านจะสามารถสร้างหุ่นเชิดศิลาระดับทองแดงขั้นต่ำขึ้นมาได้]

“หนังสือเหนือธรรมชาติรึไงเนี่ย? ประเภทอสูรอัญเชิญงั้นสิ? น่าสนใจ...”

โจวเฉินเกิดความสนใจขึ้นมาทันควัน ยังไงซะนี่ก็เป็นหนังสือเล่มแรกซึ่งเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติที่เขาได้รับมา

เขาเปิดหนังสือที่เล่มค่อนข้างหนาขึ้นมาดูและพบว่าภายในหนังสือนั้นเต็มไปด้วยตัวหนังสือและรูปภาพมากมายภายใน ตัวหนังสือถูกเขียนเอาไว้ด้วยภาษาทั่วไปของจักรวรรดิมังกรเขาจึงเริ่มเกิดความไม่เชื่อถือขึ้นมา

“จักรวรรดิมังกรจะมีหนังสือแบบนี้ได้ยังไง? กระทั่งภาษาโบราณของจักรวรรดิมังกรก็ยังไม่ใช่ด้วยซ้ำ อย่าบอกนะว่านี่เป็นเวอร์ชั่นแปลภาษาจากทางระบบ?”

ไม่ว่าจะไร้สาระแค่ไหนแต่โจวเฉินรู้สึกว่าตราบใดที่มีระบบเข้ามามีเอี่ยวด้วยอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

“ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหุ่นเชิดศิลา...”

“วัตถุดิบประเภทศิลาที่โดดเด่นและเหมาะสมสำหรับการเลือกนำมาใช้...”

“วิธีการประมวลศิลา...”

“การประดิษฐ์วงจรพื้นฐาน...”

“การผลิตและติดตั้งแกนพลังงาน...”

...

หลังจากเปิดดูผ่านๆโจวเฉินก็พบว่าหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาค่อนข้างกว้างมาก มันปกคลุมทุกๆด้านที่เกี่ยวกับเจ้าหุ่นเชิดศิลาตัวนี้

“อย่างที่คิด..หุ่นเชิดศิลานี่มันหมายถึงทั้งนักรบศิลาและทหารศิลา เรียนรู้ไว้ยังไงก็คงมีประโยชน์ รอมีเวลาแล้วค่อยจัดการแล้วกัน”

หลังจากอ่านหนังสืออยู่ซักพักโจวเฉินก็ตัดสินใจได้ เขาจะศึกษาหนังสือเล่มนี้แต่ก็ไม่ใช่เป้าหมายหลักของเขา อาจจะกล่าวได้ว่าเขาเพียงแค่อยากเปิดมุมมองใหม่ๆเท่านั้น

ในตอนที่โจวเฉินกำลังจะเก็บหนังสือกลับเข้าไปในช่องเก็บของ คนผู้หนึ่งก็วิ่งตามมาถึงพร้อมกับหอบหายใจอย่างหนักหน่วง คนที่ว่าก็คือหญิงสาวผมยาวนั่นเอง

“ทำไมจู่ๆเธอถึงวิ่งมาแบบนี้? คงไม่ใช่ว่าถูกทหารศิลาพวกนั้นไล่มาอีกคนนะ?”

โจวเฉินถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเพราะว่าสตรีผู้นี้หลบอยู่ด้านหลังเพื่อความปลอดภัยในตอนที่เขาออกไปแย่งหีบสมบัติ ทหารศิลาพวกนั้นจึงไม่น่าจะตรวจพบเธอ

"นายวิ่งเร็วเกินไปฉันเลยอ้อมๆอ้อมมาเพื่อไล่ตามนายจนเกือบจะหลงกันแล้วเนี่ย"

หญิงสาวตอบกลับขณะหยุดพักหายใจ

“อ่อ...”

โจวเฉินเข้าใจแล้ว ความเร็วของเขาเร็วกว่าเซอร์ไวเวอร์ทั่วๆไปมาก แม้ว่าเขาจะวิ่งเพียงไม่กี่นาทีแต่ก็ยังคงเป็นระยะทางที่ไกลมากอยู่ดีไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เจ้าหล่อนอ้อมไปอ้อมมาอีกด้วย

“ตำราหุ่นเชิดศิละ...เป็นหนังสือสกิลประจำอาชีพหรอ?”

สายตาของหญิงสาวกวาดมองมาที่ปกหนังสือในมือของโจวเฉินและเอ่ยถามขึ้นมา

“อาหาร? นี่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับอาชีพนะ เป็นแค่หนังสือความรู้เท่านั้นและฉันก็วางแผนว่าจะเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

โจวเฉินรู้สึกว่าต่อให้อีกฝ่ายเห็นหนังสือเล่มนี้ไปก็ไม่มีปัญหาจึงตอบกลับทันที

“ฉันเคยเห็นโพสต์อะไรแบบนี้ในฟอรั่มมาก่อน หนังสือประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพอยู่ด้วย เป็นของมีค่ามากๆ”

หญิงสาวมองหนังสือเล่มหนาในมือโจวเฉินและเอ่ยต่อ “นายขายฉบับคัดลอกให้ฉันได้ไหม? ฉันจะจ่ายเป็นไอเทมหรือเงินสกุลของจักวรรดิมังกรก็ได้”

“เธอสนใจไอ้นี่ด้วยหรอ?”

โจวเฉินจ้องไปที่หญิงสาว

“เอาจริงๆการจะมานั่งเรียนรู้มันก็ใช้เวลาและฉันยังไม่มีหนังสืออีกส่วนด้วย ถ้าเธอให้ราคาที่เหมาะสมจริงๆฉันก็จะขายให้เลย”

โจวเฉินรู้สึกว่าเขาน่าจะทำฉบับคัดลอกของหนังสือนี้และขายพวกมันได้เพราะเขารู้ดีว่าของสิ่งนี้ไม่มีทางที่จะมีแค่เขาคนเดียวที่ครอบครอง แม้ว่าตอนนี้อาจจะยังมีแค่เขาแต่ในอนาคตอาจจะมีคนอื่นได้มาอีกก็ได้ การขายมันตั้งแต่เนิ่นๆน่าจะทำกำไรให้เขาได้มากกว่า

“ฉันสามารถเสนอได้ทั้งอาวุธระดับทองแดงขั้นกลางหรือไม่ก็เงินจำนวนสองล้านเหรียญมังกร”

หญิงสาวผมยาวเสนอราคาทันทีเมื่อเห็นว่าโจวเฉินตอบตกลง

‘คนรวยเรอะ?’

โจวเฉินตกตะลึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด