ตอนที่แล้วChapter 65 : เข้าสู่ชั้นที่สอง – กระหายเลือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 67 : ฟื้นคืนชีพ

Chapter 66 : โพชั่นฟื้นฟู


ภายใต้การนำของโจวเฉิน เขาและอีกสองคนจึงค่อยๆออกเดินไปบนทางเดินอันมืดมิด จากนั้นพวกเขาก็ได้เข้าปะทะกับฝูงอสูรโลหิตห้าตัว อสูรหมาล่าเนื้อสองหัวสามตัวและสามารถกวาดล้างพวกมันทั้งหมดลงได้

มอนสเตอร์หมาล่าเนื้อสองตัวนี้มีพลังต่อสู้เหนือกว่าอสูรโลหิต พวกมันดุร้ายเป็นอย่างมาก โชคไม่ดีนักที่พวกมันต้องมาเจอเข้ากับโจวเฉินที่ชื่นชอบการเข่นฆ่ามอนสเตอร์ชนิดใหม่ๆและใช้เวลาเพียงไม่นานนักพวกมันก็ถูกหอกของเขาแทงจนทะลุ

ยังไงก็ตามเขากลับไม่ได้สกิลติดตัวใดๆเลยจากการสังหารมอนสเตอร์เหล่านี้

‘มอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวที่ชั้นสองมีเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่นี่น่าจะเป็นชั้นสำหรับทดสอบพลังต่อสู้ของพวกเรางั้นสินะ?’

โจวเฉินคิดกับตัวเองขณะเดินหน้าต่อ

หลังจากนั้นซักพักเขาก็มาถึงสุดทางของเส้นทางเดินสายนี้

ที่สุดปลายของเส้นทางนั้นคือหน้าผาที่มืดสนิทและมีสะพานไม้ทอดยาวถูกแขวนเอาไว้ บนสะพ้านไม้นั้นปรากฏเงาร่างที่ดูดัร้ายให้เห็นอยู่ลางๆ

“สู้บนสะพานไม้เนี่ยนะ? มีทั้งข้อดีแล้วก็ข้อเสียเลยนา....”

โจวเฉินสังเกตอยู่ซักพักและตัดสินใจพุ่งไปยังสะพานไม้เพื่อสู้กับมอนสเตอร์พวกนั้น

มอนสเตอร์พวกนี้มีลักษณะผสมผสานระหว่างมนุษย์และแมงมุม ร่างกายส่วนบนของพวกมันคล้ายกับมนุษย์แต่มีท่อนล่างเป็นแมงมุม พวกมันเคลื่อนไหวบนสะพานไม้ได้อย่างรวดเร็วและกระทั่งสามารถปีนป่านไปทั่วสะพานได้ทั้งบนและล่างด้วยขาทั้งแปดข้างของพวกมัน

โชคดีที่พวกมันไม่มีความสามารถในการพ่นใย ไม่อย่างนั้นแล้วการรับมือกับพวกมันในสภาพแวดล้อมเช่นนี้คงเป็นเรื่องยากอยู่บ้าง

หอกเจาะทะลุหน้าอกของมนุษย์แมงมุมและส่งร่างของมันปลิวออกไปจากสะพานไม้ โจวเฉินยื่นเท้าเตะมนุษย์แมงมุมอีกตัวที่โผล่หัวออกมาจากใต้สะพานจนมันเกือบจะพลัดตกลงไปในหน้าผา

เมื่อเห็นว่าโจวเฉินไม่ใช่เป้าหมายที่รับมือได้ง่ายนัก มอนสเตอร์พวกนี้จึงปล่อยเขาและหนีกลับลงไปใต้สะพานเพื่อไต่ไปโจมตีคนทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างหลังแทน

หญิงสาวผมยาวและชายหนุ่มร่างบางเองก็เริ่มต่อสู้แล้วเช่นกัน พวกเขาย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อกดจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย ขณะเดียวกันก็พยายามประคองสมดุลของร่างกายเอาไว้และใช้อาวุธในมือโจมตีใส่พวกมันไปด้วย

ยังไงก็ตามสุดท้ายแล้วคนที่แบกรับแรงกดดันมากที่สุดก็ยังคงเป็นโจวเฉินที่อยู่แนวหน้าอยู่ดีแต่ท่าทีของเขากลับดูเหมือนไม่มีอะไรถ่วงรั้ง เขาต่อสู้บนสะพานไม้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพราวกับยืนอยู่บนพื้นดินประหนึ่งว่าตัวเขาไม่กังวลเลยว่าจะพลัดตกลงไปด้านล่าง

ไม่กี่นาทีให้หลังโจวเฉินก็มาถึงอีกฝั่งหนึ่งของสะพานในที่สุด สุดปลายทางนั้นมีมอนสเตอร์คล้ายๆกันรออยู่แต่ก็ถูกเขาสังหารทิ้งอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีสกิลติดตัวอีกแล้ว...น่าเบื่อ...”

โจวเฉินหันกลับไปมองคนทั้งสองด้านหลังและพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้พลาดท่าแต่อย่างใด นอกจากบริเวณขากางเกงที่ฉีกขาดแล้วก็ไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็น

“สองคนนี้ใช้ได้อยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่สำคัญหรอก”

ตราบใดที่ทั้งสองคนนี้ไม่เข้ามายุ่งกับผลประโยชน์ของเขา โจวเฉินก็ไม่คิดจะว่ากล่าวที่อีกฝ่ายจะตามเขามา

หลังจากวนเวียนอยู่ในพื้นที่โซนหน้าผาอยู่ซักพักโจวเฉินก็สังเกตเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า บนต้นไม้นั้นมีใยสีขาวและรังใหมมากมายถูกห้อยเอาไว้ หนึ่งในรังใหมนั้นยังไม่สมบูรณ์ดีจนเผยให้เห็นขอบของกล่องบางอย่าง

“ในที่สุดก็เจอหีบสมบัติซักที”

โจวเฉินตื่นเต้นยิ่งนัก หลังจากตรวจสอบอยู่ซักพักเขาจึงเปิดใช้งานสกิลย่างก้าวสายลมเพื่อกระโดดขึ้นไปฟันรังใหมที่มีหีบสมบัติอยู่ภายในให้ตกลงมาบนพื้น

ในขณะที่เขาทำเช่นนี้รังใหมอีกลูกหนึ่งที่อยู่บนต้นไม้ใหญ่ก็พลันมีปฏิกิริยาขึ้นมา รังใหมนั้นแยกออกพร้อมกับปากกว้างๆที่ยืดขยายออกมาพ่นใยสีขาวเข้าใส่โจวเฉิน

โจวเฉินที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศกลับไม่ได้ตื่นตระหนก เขาเปิดใช้งานความสามารถลอยตัวของสกิลย่างก้าวสายลมเพื่อหลบเลี่ยงใยที่ถูกยิงออกมาในทันที ในเวลาเดียวกันเขาก็ลอยตัวผ่านรังใหมขนาดใหญ่ที่มอนสเตอร์ตนนั้นซ่อนตัวอยู่และแทงหอกใส่อย่างไม่ลังเล

[พรสวรรค์ช่วงชิงสกิลติดตัวทำงาน : ท่านได้ทำการช่วงชิงสกิลของราชินีมนุษย์แมงมุม ‘เสริมแกร่งความเร็ว(ระดับ1)’ ระบบตรวจพบว่าสกิลนี้ทรงพลังกว่าสกิลเดิมที่ท่านครอบครองอยู่จึงทำการแทนที่โดยอัตโนมัติ]

[พรสวรรค์ช่วงชิงสกิลติดตัวทำงาน : ท่านได้ทำการช่วงชิงสกิลติดตัวของราชินีมนุษย์แมงมุม ‘เสริมแกร่งความสามารถในการสืบพันธุ์(ระดับ1)’ ต้องการดูดซับหรือไม่?]

“ไม่โว้ย!”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โจวเฉินได้เห็นสกิลนี้ เขาจึงเลือกทิ้งมันไปอย่างไม่ลังเล

“เจ้าตัวนี้เร็วขนาดนั้นเลยหรอ? ทำไมเราถึงรู้สึกว่ามันก็แค่ตัวไร้สมองตัวหนึ่งกันนะ...”

โจวเฉินสับสนยิ่งนักเพราะเขาไม่คิดเลยว่าเจ้ามอนสเตอร์ที่ซ่อนอยู่ในรังใหมนั้นจะมีสกิลเสริมความเร็วที่ทรงพลังถึงขั้นนี้ ยังไงก็ตามเนื่องจากเจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้ตายลงไปแล้วเขาจึงไม่มีโอกาสได้ทดสอบความเร็วของมัน

หลังจากล่อนลงบนพื้นโจวเฉินก็เดินตรงไปยังรังใหมที่ห่อหุ้มหีบสมบัติเอาไว้และใช้มีดมาเชเต้ค่อยๆแซะรังใหมออกจากตัวหีบสมบัติ

ในระหว่างกระบวนการทั้งหมดนั้นชายหนุ่มร่างบางและหญิงสาวผมยาวที่ทำตัวประหนึ่งลูกไล่ของเขาไม่ได้เดินเข้ามาใกล้แต่อย่างใด พวกเขายืนมองโจวเฉินอยู่ไกลๆด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงราวกับว่าสิ่งที่โจวเฉินแสดงออกมานั้นค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ

โจวเฉินค่อนข้างพอใจกับท่าทีของอีกฝ่ายซึ่งลดปัญหาในการเกิดสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดได้มากโข

เขาเปิดหีบสมบัติขึ้นและพบกับโพชั่นสีฟ้าภายใน

[โพชั่นฟื้นฟูพลังงาน]

[ประเภท : โพชั่นระดับทองแดงขั้นต่ำ]

[คำอธิบาย : หลังจากดื่มเข้าไปจะฟื้นฟูพลังจิตวิญญาญและพลังกายที่สูญเสียไปอย่างรวดเร็ว]

“โพชั่นที่ใช้สำหรับฟื้นฟูพลังจิต มีประโยชน์กับเราไม่น้อยเลย”

สกิลย่างก้าวสายลมที่โจวเฉินใช้อยู่บ่อยๆนั้นจำเป็นต้องใช้พลังจิตในการเปิดใช้งานแต่เขากลับไม่มีวิธีฟื้นฟูมัน ดังนั้นโพชั่นนี้จึงตอบโจทย์สำหรับเขามากทีเดียว

หลังจากโจวเฉินเก็บโพชั่นสีฟ้าลงไปในช่องเก็บของ ชายร่างบางก็เดินเข้ามาหาแล้วกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงตกตะลึง “พี่ชายไม่คิดเลยนะว่าคุณจะบินได้ด้วย! บอกได้ไหมว่าทำได้ยังไง?”

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงรุกโชน

โจวเฉินยิ้มบางๆแล้วเอ่ยตอบ

“นี่เป็นสกิลที่ฉันได้มาจากการฆ่ามอนสเตอร์ ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับโชคล้วนๆ บางทีเมื่อไหร่ที่โชคของนายมาถึงนายอาจจะได้ความสามารถนี้มาก็ได้”

โจวเฉินอธิบายที่มาที่ไปของสกิลอย่างคร่าว เรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับแต่อย่างใดเพราะว่ามันมีข้อมูลมากมายอยู่บนฟอรั่มอยู่แล้ว

“สกิลทรงพลังแบบนี้สามารถดร็อปจากมอนสเตอร์ได้ด้วย?!”

ดวงตาของชายร่างบางเมื่อได้ยินคำกล่าวของโจวเฉินก็ยิ่งเปล่งประกาย

“บอสฉันตัดสินใจแล้วว่าจะขอแยกตัวไป บางทีฉันอาจจะโชคดีก็ได้”

“แล้วแต่นายแล้วกันถ้ายังไงก็ขอให้โชคดี!”

ภายใต้การให้กำลังใจเล็กน้อยของโจวเฉิน ชายร่างบางก็หมุนตัวและเดินจากไปเพียงลำพัง

หญิงสาวผมยาวไม่ได้กล่าวสิ่งใดและยังคงยืนอยูไม่ไกลออกไปนักราวกับเจ้าหล่อนจะเกาะติดโจวเฉินต่อไป

“เธอไม่อยากได้หีบสมบัติบ้างหรือไง?”

โจวเฉินถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

“ไม่สำคัญหรอก ฉันอยากจะรอดชีวิตมากกว่า”

หญิงสาวผมยาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“เทอนี่ค่อนข้างเอื่อยเฉื่อยดีนะ....”

โจวเฉินพูดไม่ออกขึ้นมาเล็กน้อย เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้เพราะเธอคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนที่นั่งลงข้างๆประตูเพื่อรอให้เขากลับมาเปิดมัน...เธอไม่ได้ออกไปล่ามอนสเตอร์และทำเพียงแค่รออย่างเกียจคร้าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด