ตอนที่แล้วตอนที่ 14-10 สามปราสาทแห่งเมืองรอยัลวิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-12 กลั่นกรองได้ในทันที

ตอนที่14-11 ชั้นที่สาม


ในปราสาทเรดบุดมีผู้คนมากมาย

ประตูใหญ่ของปราสาทเรดบุดกว้างอย่างน้อยร้อยเมตรมีกลุ่มผู้คนเข้าออก  ทุกคนคิดว่าสามารถทำธุรกิจกับกองทัพเรดบุดได้จะยอดเยี่ยมเพียงไหน

คนของกลุ่มลินลี่ย์เห็นปราสาทเรดบุดจากที่ไกล

“หืม..กองทัพเรดบุด?”  ลินลี่ย์สังเกตพวกเขาได้แต่ไกล ที่ประตูของปราสาทเรดบุดมีทหารมากกว่าสิบคนสวมเครื่องแบบสีม่วงมีชุดคลุมสีม่วงทับด้านนอกเช่นกัน นักรบทุกคนมีตราสีม่วงที่ไม่เหมือนใครอยู่กลางหน้าผากของพวกเขาเป็นกองทัพเรดบุดนั่นเอง!

ดีบาลาที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะ “มีปราสาทเรดบุดอยู่ทั่วทวีปเรดบุดเจ้าครองปราสาทเหล่านี้ก็คือมหาเทพผู้ปกครองเรดบุด ตามปกติพวกเขาจะได้รับการปกป้องโดยกองทัพเรดบุด  ความจริงทหารของกองทัพเรดบุดที่นี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการแสดงพลัง  ที่สำคัญภายในเมืองรอยัลวิง  ใครจะกล้าก่อเรื่องยุ่งยาก?  ยกเว้นแต่พวกเบื่อหน่ายชีวิต”

“เฮ้, พ่อบ้านเอ็ดมอนด์นั่นไงทำไมพวกเขาตรงไปที่ด้านหลังเล่า?” สายตาของบีบีคมกล้า เขาพบว่ากลุ่มคนของเอ็ดมอนด์มุ่งหน้าไปที่ด้านหลังปราสาทเรดบุดและไม่ได้ไปที่ประตูหลัก

ลินลี่ย์ก็สังเกตเรื่องนี้ได้เช่นกัน

ความจริงแม้ว่าหลายคนจะผ่านเข้าไปประตูใหญ่ของปราสาทเรดบุดแต่มีน้อยคนที่เข้าปราสาทเรดบุดตรงผ่านไปที่ด้านหลัง แต่จำนวนไม่ได้ด้อยกว่าพวกที่ผ่านประตูหลักในความเป็นจริง

“ลินลี่ย์, ปราสาทเรดบุดแบ่งเป็นด้านหน้าประตูใหญ่และประด้านหลัง พวกคนที่เข้าไปโดยผ่านประตูใหญ่เข้าปราสาทเรดบุดทั้งหมดไปเพื่อซื้อของ ขณะที่คนที่เข้าไปโดยผ่านประตูหลังเป็นเพราะพวกเขาต้องการขายสมบัติตนเองให้ปราสาทเรดบุด!” เด็กหนุ่มดีบาลาอธิบายพลางหัวเราะ

ลินลี่ย์เข้าใจ

อย่างนั้นปราสาทเรดบุดไม่ใช่แค่จัดขายเท่านั้น  แต่ยังรับซื้ออีกด้วย

“รีบไปเถอะ” ดีบาลากระตุ้นเตือน

ลินลี่ย์จูงมือเดเลียเดินหน้าไปพร้อมกับบีบีไหลไปตามกระแสของผู้คนผ่านเข้าประตูหลังปราสาทเรดบุด หลังจากเดินหลายกิโลเมตรกลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงประตูหลังได้ในที่สุด

ความจริง...

ประตูด้านหลังมีความกว้างเกินกว่าร้อยเมตรเช่นกัน  และมีผู้คนผ่านเข้าไปมากมาย

เดเลียหัวเราะ “เกือบทุกคนที่มาขายของเป็นคนของเผ่าและสำนักที่ตั้งอยู่ด้านนอกเมืองรอยัลวิง  มีน้อยคนจริงๆ ที่จะมาที่นี่  เรดบุดรับซื้อราคา 70% ขณะที่ขายราคา 100%  ทำกำไร 30%ปราสาทเรดบุดนี้เป็นแหล่งกินทองจริงๆ”

“ไม่มีโอกาสที่คนอื่นจะได้ร่วมทำในธุรกิจนี้”  ลินลี่ย์หัวเราะ เบื้องหลังของปราสาทเรดบุดยังคงเป็นมหาเทพผู้ทรงพลานุภาพ!

จากนั้นกลุ่มของลินลี่ย์ติดตามสมาชิกคนอื่นของเผ่ามังกรดำเข้าไปในปราสาทเรดบุด แม้ว่าจะมีคนเกือบสองร้อยคนในกลุ่มของเผ่ามังกรดำ  แต่เมื่อเข้าไปในปราสาทเรดบุด พวกเขาเป็นเพียงคนจำนวนน้อยนิดของอาคันตุกะที่เข้ามาทั้งหมด

“ที่นี่ใหญ่โตมาก!”  ลินลี่ย์ถอนหายใจตกใจ

กลุ่มของลินลี่ย์เมื่อเข้าไปในปราสาทเรดบุดชั้นที่หนึ่งก็พบว่าโถงหลักของชั้นแรกมีขนาดกว้างราวหนึ่งหรือสองพันเมตร ความกว้างแบบนี้ถือว่าเป็นจำนวนรวมที่ฟุ่มเฟือยมาก  คนมากกว่าหมื่นคนผ่านเข้าไปได้โดยไม่มีความรู้สึกว่าคับแคบ

“มีเทพไม่กี่คนที่มาขายของพวกเขาที่นี่”  บีบีตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

“โถงใหญ่ชั้นแรกมีไว้สำหรับพวกที่มาขายประกายเทียมเทพ  สมบัติระดับเทียมเทพ และของอื่นๆ ที่มีราคาราวๆร้อยศิลาดำ”  ดีบาลาพูดถึงธรรมเนียมพลางอธิบายให้กลุ่มของลินลี่ย์  “ตัวอย่างเช่นข้าตั้งใจมาขายประกายเทพแท้ในครั้งนี้ ดังนั้นข้าจะต้องไปที่ชั้นสอง  ในโถงใหญ่ของชั้นสอง วัตถุสมบัติต่างๆเช่นประกายเทพแท้หรือสมบัติเทพแท้จะขายได้ราคาราวๆ หมื่นศิลาดำ สำหรับชั้นสามนั่นเป็นชั้นสำหรับขายสมบัติเทพชั้นสูง ประกายเทพชั้นสูงและวัตถุล้ำค่ำอื่นๆที่ตีราคาได้ตั้งแต่ล้านศิลาดำขึ้นไป”

กลุ่มของลินลี่ย์ติดตามชาวเผ่ามังกรดำขึ้นไปที่โถงใหญ่ของชั้นสอง

แต่แน่นอนว่าคนในเผ่ามังกรดำมากกว่าครึ่งจะอยู่ที่โถงใหญ่ชั้นแรกคนเหล่านี้ทุกคนมาขายที่ราคาค่อนข้างถูก

“ลินลี่ย์! ดูสิ,มีเคาน์เตอร์ขายหลายอย่างตรงนั้นในหอโถงใหญ่ด้วย มีคนมากมายนั่งอยู่ตรงนั้น  คนเหล่านั้นเป็นผู้รับซื้อให้ปราสาทเรดบุด  ฮ่าฮ่า ดูให้ดีล่ะ ข้าจะไปขายของบางส่วนก่อน”  ดีบาลาโบกมือให้กลุ่มของลินลี่ย์  จากนั้นตรงไปที่หนึ่งในเคาน์เตอร์ขายในโถงใหญ่ชั้นสอง

หลังจากดีบาลาออกไปแล้ว  ลินลี่ย์และพวกอีกสองคนมองหน้ากัน

“ไปที่ชั้นสามกันเถอะ!”  ลินลี่ย์กล่าว

กลุ่มของลินลี่ย์มีสมบัติอยู่สองสามชิ้นสมบัติเทพชั้นสูงสองชิ้นและประกายเทพชั้นสูงอีกหนึ่งชิ้น  ทั้งหมดนี้ล้วนแต่มีคุณค่าราคามากมาย

บันไดจากโถงชั้นหนึ่งขึ้นมาโถงชั้นสองมีขนาดใหญ่โตอลังการมาก แต่บันไดจากโถงใหญ่ชั้นสองขึ้นไปโถงชั้นสามมีขนาดเล็กกว่ามาก  แม้แต่ประตูทางเข้าโถงก็มีขนาดเล็กลงและจำนวนคนที่เข้าไปก็ลดลงมาก

เห็นได้ชัดว่าจำนวนคนที่กำลังขายของมีค่ามีจำนวนน้อยกว่าพวกที่ขายของในชั้นแรกและชั้นที่สอง

“เอ็ดมอนด์!”  ลินลี่ย์แหงนหน้ามองด้านบน เอ็ดมอนด์พาบริวารสามคนตรงเข้าไปที่ทางเดินขึ้นสู่ชั้นสาม  ที่ทางเดินขึ้นชั้นสามพนักงานคนหนึ่งในชุดยาวสีม่วงกำลังพูดคุยบางอย่างกับเอ็ดมอนด์ จากนั้นเอ็ดมอนด์ควักเอาประกายศักดิ์สิทธิ์ออกมาชิ้นหนึ่ง

“ทำไมเอ็ดมอนด์เอาประกายศักดิ์สิทธิ์ออกมา?”  ลินลี่ย์ค่อนข้างงง

และตอนนั้นเองบุรุษชุดม่วงอนุญาตให้พวกเขาผ่านเข้าไป  เอ็ดมอนด์พาบริวารสามคนเข้าไปในชั้นที่สาม

เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์ไปถึงทางเดินเข้าชั้นที่สาม...

บุรุษชุดม่วงยื่นมือกันเอาไว้ห้ามมิให้กลุ่มของลินลี่ย์ผ่านเข้าไป

“หือ?” กลุ่มของลินลี่ย์มองดูบุรุษนั้นด้วยความสงสัย

“พวกเจ้ามาขายอะไร?  เอามาให้ข้าดูก่อน”  บุรุษชุดม่วงกล่าว  เมื่อเห็นท่าทีงงงวยของกลุ่มลินลี่ย์  เขาหัวเราะอย่างอารมณ์เย็น  “นี่เป็นครั้งแรกของพวกเจ้าใช่ไหม?  ชั้นสามนี้จะต่างจากชั้นล่างๆ ที่ผ่านมา ทุกคนที่จะเข้าไปจะต้องแสดงของที่จะนำเข้าไปให้ตรวจสอบก่อน  มิฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า”

ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้วเมื่อนึกย้อนถึงสิ่งที่เอ็ดมอนด์เพิ่งทำไปตอนนี้เขารู้แล้วว่าทั้งหมดนั้นเกี่ยวกับอะไร

แต่ขณะนั้นเองเด็กหนุ่มสองคนเดินผ่านลินลี่ย์ไปโดยไม่สนใจบุรุษชุดม่วงมุ่งตรงขึ้นชั้นสาม

“เฮ้, พวกเขาไม่ต้องแสดงของได้ยังไง?”บีบีพูดด้วยความสับสน

บุรุษชุดม่วงเป็นคนที่อดทนและค่อนข้างอารมณ์ดี  เขาหัวเราะอย่างใจเย็นและกล่าว  “เจ้าไม่สังเกตบ้างหรือ?  พวกเขาทุกคนติดตราอสูรที่หน้าอกเขา  พวกเป็นนักสู้อสูร!  ในฐานะนักสู้อสูรเรามีความเชื่อมั่นในชื่อเสียงของพวกเขา เมื่อพวกเขามา พวกเขาก็จะต้องมีของมีค่าสองสามชิ้นมาขายด้วยแน่นอน  ไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาจะต้องถูกตรวจสอบ”

ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ  “อสูร, พวกเขาไม่ต้องจ่ายค่ายธรรมเนียมเมื่อตอนเข้าเมือง และพวกเขาไม่ต้องถูกตรวจสอบเมื่อเข้าปราสาทเรดบุดชั้นสาม  สถานะของพวกเขาช่างแตกต่างจริงๆ”

ขณะที่คิดถึงเรื่องของเขาเองนี้ลินลี่ย์พลิกมือดึงมีดดำเล่มหนึ่งออกมา มีดดำนี้เป็นสมบัติเทพชั้นสูงซึ่งแอดกินส์เหลือทิ้งไว้ให้หลังจากร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ธาตุมืดของเขาถูกสังหาร

“เข้าไปได้” บุรุษชุดม่วงพยักหน้า

พวกเขาเข้าไปในปราสาทเรดบุดชั้นที่สาม  ที่โถงใหญ่ชั้นนี้มีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด  แต่ก็มีขนาดกว้างหลายร้อยเมตร เพียงแต่คนที่นี่มีจำนวนน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

“นั่นคือสถานที่รับซื้อสิ่งของๆ พวกเขา!” บีบีวิ่งตรงขึ้นไปขณะที่พวกเขาทั้งสามคนตรงไปที่เคาน์เตอร์สำหรับขาย

แต่ขณะนั้นเอง...

“ท่านเอ็ดมอนด์, ดูสิ!”  พ่อบ้านของเผ่ามังกรดำเอ็ดมอนด์และบริวารของเขาสามคนสังเกตเห็นกลุ่มของลินลี่ย์  “ท่านเอ็ดมอนด์,พวกเขาเป็นสมาชิกของเผ่าเราไม่ใช่หรือ? สามคนนั้นอยู่ในกลุ่มห้าคนที่เพิ่งเดินทางมาเมืองรอยัลวิงเป็นครั้งแรกใช่ไหม?  พวกเขาขึ้นมาที่ชั้นสามจริงๆ!”

เอ็ดมอนด์มองดูลินลี่ย์และพวกอีกสองคนแต่ไกล

มีเพียงห้าคนที่เดินทางมาเมืองรอยัลวิงพร้อมกับเผ่ามังกรดำเป็นการเดินทางครั้งแรกของพวกเขา  เอ็ดมอนด์เคยเห็นพวกเขาทุกคน เป็นธรรมดาว่าเขานึกออกและจำกลุ่มของลินลี่ย์ได้

“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะมีโชคดีด้วย”  เอ็ดมอนด์หรี่ตาและประกายเย็นชาวาบผ่านในดวงตาของเขา “ดูเหมือนว่าความสามารถในการกำกับดูแลภายในของเผ่าเรายังไม่เพียงพอนะ”

ในแดนนรกเมื่อความมั่งคั่งของผู้ใดมากถึงระดับหนึ่ง ก็จะมีคนอื่นต้องการ

ถ้าท่านต้องการเพลิดเพลินกับโชคชะตาเงินล้านศิลาดำซึ่งท่านสามารถใช้ได้นานนับร้อยล้านปีอย่างสงบสุข ท่านอาจพบว่ายอดฝีมือคนอื่นอาจจะชิงมันไปจากท่านทั้งหมด

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งที่สองที่กลุ่มของเอ็ดมอนด์ทำเรื่องแบบนี้

“อย่าห่วงเลย, ใต้เท้า ในเมื่อตอนนี้เรารู้แล้วสามคนนี้ไม่มีทางหลบพ้นไปจากท่านได้ เมื่อเราออกจากเมืองรอยัลวิง ตอนนั้นเราสามารถเคลื่อนไหวเองได้”  เทพแท้ที่อยู่ใกล้พูดเป็นนัย

เอ็ดมอนด์พยักหน้า

ทุกคนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในชั้นสามมีสมบัติที่มีค่าอย่างน้อยก็ล้านศิลาดำ แม้แต่เทพชั้นสูงอย่างเอ็ดมอนด์ก็ยังต้องการมีโชคดังกล่าว

แถวของเคาน์เตอร์ด้านข้างของโถงใหญ่ชั้นสามมีเจ้าหน้าที่ชุดม่วงนั่งอยู่ทุกเคาน์เตอร์ กลุ่มของลินลี่ย์เดินเข้าไปที่หน้าร้านหนึ่ง ที่มีชายชราผมขาวดูแล

“หืม?” ชายชราผมขาวชุดม่วงเงยหน้าและยิ้มให้อย่างใจเย็น  “พวกเจ้ามาขายอะไรกัน?  เอาออกมาได้เลย”

ลินลี่ย์และอีกสองคนมองหน้ากันและจากนั้นเขาพลิกมือดึงมีดดำออกมาให้ชายชรา “นี่คือสมบัติเทพชั้นสูง”

แม้ว่ากลุ่มของลินลี่ย์ยังมีหอกคอร์เตซและประกายเทพชั้นสูง แต่นี่คือการเดินทางมาเมืองรอยัลวิงครั้งแรกของกลุ่มลินลี่ย์  มีหลายอย่างที่พวกเขายังไม่รู้  กลุ่มของลินลี่ย์จึงยังไม่รีบ  ที่สำคัญ... ถ้าพวกเขาต้องการใช้เงินจริงๆพวกเขาสามารถมาอีกครั้งก็ได้

นอกจากนี้...

ปราสาทเรดบุดไม่ใช่เป็นสถานที่เดียวซึ่งรับซื้อสินค้ายังคงมีปราสาททรายดำอีกด้วย เพียงแต่ต้องมีการวางแผนและการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในปราสาททรายดำซึ่งค่อนข้างจะสับสนและวุ่นวาย  หากไม่ทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ดีลินลี่ย์คงไม่รีบไปที่นั่น

“มีดเล่มนี้ทำมาได้ดีจริงๆ”  ชายชราชุดม่วงพยักหน้าชื่นชม  “เป็นสมบัติเทพชั้นสูงอย่างแน่นอน และเจ้าของคนก่อนน่าจะเป็นเทพชั้นสูงที่ฝึกฝนมาทางสายกฎธาตุมืดและใช้มีดเล่มนี้ฆ่ายอดฝีมือมาบ้างแล้ว มันมีกลิ่นอายอำมหิตหนาแน่นเลยทีเดียว ไม่เลว เราจะรับซื้อมีดเล่มนี้ไว้ที่ราคาเจ็ดแสนห้าหมื่นศิลาดำ  เจ้ายินดีจะขายหรือไม่?”  ชายชราชุดม่วงตัดสินใจ

ลินลี่ย์พยักหน้า  “ตกลงตามนั้น”

ด้วยการคำนวณของเขา ลินลี่ย์วางแผนจะขายสมบัตินี้ที่ราคาเจ็ดแสนศิลาดำซึ่งนับว่าเป็นราคาที่ดี ดังนั้นราคาเจ็ดแสนห้าหมื่นศิลาดำนี้จึงทำให้ลินลี่ย์พอใจมาก  ลินลี่ย์เข้าใจว่า....บางทีมีดเล่มนี้เป็นสมบัติเทพชั้นสูงที่ยอดเยี่ยมและบางทีเขาอาจได้ประโยชน์บ้างเล็กน้อย

แต่ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจเรื่องจำนวนเล็กน้อยนั้นเท่าใดนัก

“นี่คือจำนวนร้อยอะซูไรท์ (ผลึกน้ำเงิน)เทียบเท่ากับแสนศิลาดำ  สองแสน,สามแสน...”  ขณะเขาพูดชายชราชุดม่วงก็นำแท่งผลึกน้ำเงินออกมากองใหญ่

ลินลี่ย์เข้าใจทันที

“อย่างที่ข้าคิดไว้!” เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์ฆ่าเทพแท้เหล่านั้น พวกเขาได้รับหินผลึกสีฟ้าสองสามแท่งเวลานั้นลินลี่ย์วิเคราะห์ว่าศิลาผลึกสีฟ้านั้นเป็นสกุลเงินแบบหนึ่ง  เพราะกลิ่นอายคล้ายกับกลิ่นอายของศิลาดำ   เพียงแต่เข้มข้นมากกว่า

เบี้ยอะซูไรท์มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดหนึ่งเซ็นติเมตร

อย่างไรก็ตามเบี้ยอะซูไรท์ที่ชายชราชุดม่วงนำออกมานี้เป็นแผ่นยาวสิบเซนติเมตรและกว้างหนึ่งเซนติเมตร แน่นอนว่าแผงอะซูไรท์ใหญ่นี้มีค่าเท่าอะซูไรท์เล็กร้อยชิ้น  กล่าวอย่างหนึ่งก็คือ มีราคาแสนศิลาดำ

แผงอะซูไรท์เจ็ดแผนและหินอะซูไรท์ยาวห้าชิ้น

“เจ็ดแสน...ห้าหมื่น.. จำนวนถูกต้อง”  ชายชราชุดม่วงยื่นให้ลินลี่ย์

“เอ่อ..ข้าอยากถามนอกเหนือจากใช้เบี้ยเหล่านี้ซื้อวัตถุสิ่งของ ศิลาดำและอะซูไรท์เหล่านี้มีวัตถุประสงค์การใช้อย่างอื่นอีกไหม?”ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่ากลิ่นอายเฉพาะของอะซูไรท์และศิลาดำมีวัตถุประสงค์การใช้ที่พิเศษ

ชายชราชุดม่วงตาทอประกายวูบชำเลืองมองดูลินลี่ย์  เขาหัวเราะอย่างใจเย็น  “ไม่มีประโยชน์อะไรที่เจ้าจะรู้ข้อมูลนี้  ดังนั้นไม่จำเป็นที่เจ้าจะถาม”

ลินลี่ย์สงสัยแต่เนื่องจากบุรุษนี้ไม่ยินดีจะบอก  ลินลี่ย์ไม่กดดันถามข้อสงสัยนี้

“ถ้าเจ้าผ่านประตูโถงใหญ่นั่นเข้าไป  เจ้าจะไปถึงโถงใหญ่อีกด้านหนึ่งถ้าเจ้าต้องการซื้อหาสิ่งใด เจ้าสามารถผ่านตรงไปที่โถงใหญ่นั้น”  ชายชราชุดม่วงกล่าว

ลินลี่ย์คาดเดาเรื่องนี้ไว้นานแล้ว

นี่เป็นเพราะประตูใหญ่ของปราสาทเรดบุดเปิดให้ผู้คนได้จับจ่ายซื้อหาสิ่งของ ขณะที่ประตูด้านหลังเปิดให้ผู้คนได้ขายของกับพนักงานของปราสาท

เป็นสิ่งก่อสร้างเดียวแต่มีสองด้าน

“เราไปดูกันเถอะ”  เดเลียสงสัยมาก

“ข้าก็สงสัยว่าแดนนรกจะมีอะไรขายบ้าง”  บีบีตื่นเต้นเช่นกัน  ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้า จากนั้นเดินผ่านระเบียบชั้นสามไปที่อีกฟากหนึ่งของโถงชั้นสาม

จากที่ไกล..

“หือ? พวกเขากำลังไปที่โถงใหญ่อีกฟากหนึ่ง?” เอ็ดมอนด์สังเกตเห็นเช่นนี้อดขมวดคิ้วไม่ได้

เขาสั่งบริวารของเขาทันที  “ไปรอที่ประตูใหญ่  และเจ้าไปที่ประตูหลัง  จับตาดูสามคนนั่นไว้”

“ขอรับ ใต้เท้า”

เทพแท้ทั้งสองออกไปทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด