ตอนที่แล้วตอนที่ 456 สัญญาณเตือนภัย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 458 สุนทรพจน์ปลุกใจ

ตอนที่ 457 ปล้นและทุ่งพิษ


กลุ่มดาววาฬ

บรรยากาศภายในวังเต็มไปด้วยความสุขชื่นมื่นและความมั่งคั่งมีอาคันตะกะผู้มีเกียรติและสาวงามอยู่ภายในมากมาย

แต่หัวข้อที่พูดกันมากที่สุดในงานเลี้ยงก็คือสงครามในกลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นครั้งแรกที่สงครามเกิดขึ้นโดยกลุ่มดาววาฬหลังจากผ่านมาหลายปีมาก  ในช่วงสองสามวันแรก ทุกคนยังคงกระวนกระวาย  แต่ในไม่นานสงครามขยายออกไปทันทีทำให้ความคิดของทุกคนเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น

นอกจากกองพลวาฬน้ำเงินถูกตรึงไว้  ความเร็วของพวกเขาช้าลง กองพลวาฬขาวและกองพลวาฬดำเป็นกองกำลังไร้ผู้ต่อต้านยังคงยึดดาวอื่นอย่างต่อเนื่อง

ในแค่พริบตาเดียวกลุ่มดาวหมีใหญ่เกือบครึ่งก็ถูกยึดครองในกลุ่มดาววาฬชัยชนะเช่นนั้นทำให้พวกเขาโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น

ในพื้นที่ซึ่งศิษย์รุ่นเยาว์ครอบครัวตระกูลสูงส่งอยู่รวมกันยากที่พวกเขาจะไม่มองหาสาวงามแต่ทั้งหมดซุบซิบคุยกันอย่างมีความสุขว่าพวกเขาควรจะเอาองครักษ์ส่วนตัวไปด้วยเพื่อสร้างความสำเร็จทางทหารที่กลุ่มดาวหมีใหญ่

มีความสำเร็จทางทหารก็หมายความว่ามีอนาคตที่ดี ทำไมพวกเขาต้องกลัวว่าจะไม่มีสาวงามอยู่กับพวกเขาเมื่อพวกเขาทำการใหญ่เล่า?

ศิษย์ตระกูลใหญ่ทั้งหมดต่างคุยกันเองในหมู่ของพวกเขาและแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในที่พวกเขารู้แก่กันและกัน

“ขอแสดงความยินดีด้วยฝ่าบาท!” ชายชราชุดขาวยิ้มขณะแสดงความเคารพกงชิง

กงชิงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  แม้ว่าเขาจะอายุมากกว่าหกสิบปี  แต่เขากลับดูเหมือนคนอายุราวๆ สี่สิบปียังดูหนุ่มและแข็งแรง บุคลิกของเขาเหมือนกับบัณฑิตผู้ทรงภูมิขณะที่เขาลุกจากที่นั่งเพื่อทักทายตอบ  “ข้าต้องขอบคุณผู้เฒ่าจางจริงๆ  ไม่มีรายงานของท่านใครจะรู้กันเล่าว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่ที่กล้าหาญจะอ่อนแอมากจริงๆ”

ผู้เฒ่าจางหัวเราะ  “ถังเทียนผู้นี้  แม้ว่าเขาจะอาละวาดมามากแต่ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง  แต่เมื่อหลายอย่างมาถึงจุดสุดโต่งเขากลับเคลื่อนไหวในทางตรงกันข้าม เขากำลังจะถูกลบล้างความสำเร็จเขาไม่ระมัดระวังเหมือนอย่างที่เคยเป็น ดังนั้นจึงกลายเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบของเรา”

กงชิงจิบไวน์แดง“ผู้เฒ่าจางมีความคิดเรื่องเมืองสามวิญญาณยังไงบ้าง?   ถ้าเราไม่ลงมือตอนนี้จะไม่ง่ายสำหรับพวกเขาหรอกหรือ?”

ผู้เฒ่าจางตอบ“เมืองสามวิญญาณปัจจุบันนี้เหมือนขนมหวานอยู่แล้ว ถ้ามีคนต้องการกินมัน ก็ยังมีคนต้องการทำลายมันด้วย”

กงชิงประหลาดใจเล็กน้อย  เขาพยายามคลี่คลายปริศนาคำพูดนั้นและค่อยยิ้มตามมา  “ดูเหมือนข้าจะคิดมากเกินไป”

“กลุ่มดาวหมีใหญ่ครึ่งหนึ่งอยู่ในเงื้อมมือของฝ่าบาทแล้วด้วยการควบรวมสองกลุ่มดาวเข้าด้วยกันกลุ่มดาววาฬจะกลายเป็นกลุ่มดาวระดับตำหนักระนาบสุริยุปราคาได้”ผู้เฒ่าจางแสดงความยินดี

กงชิงมีความสุข  แต่หน้าของเขายังคงสงบอยู่  “ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเช่นนั้น จริงสิสถานการณ์ของกลุ่มดาวนายพรานเป็นยังไงบ้าง? มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มดาวราชสีห์บ้างไหม?”

สีหน้าของผู้เฒ่าจางเคร่งเครียดเล็กน้อยและกล่าว“มันคือกองภูเขาเนื้อ แม่น้ำโลหิตอย่างแท้จริง ถังเทียนโชคดีมากเยี่ยนหย่งเลี่ยทุ่มสรรพกำลังเข้ากลุ่มดาวนายพรานทั้งหมด  ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องใช้ความพยายามมากมาย  เรากลับตรงกันข้ามไม่ต้องทำอย่างกลุ่มดาวนายพราน แต่สถานการณ์ก็ยังดี แต่ความเสียหายของเรามากมายไปบ้าง แต่เรามีการสนับสนุนใหม่”

กงชิงสะดุ้ง“สงสัยจริงว่าใครกัน?”

ผู้เฒ่าจางส่ายศีรษะ  “ข้าต้องขออภัยฝ่าบาท  ข้ายังเปิดเผยไม่ได้ว่าเป็นใคร”

กงชิงไม่ใส่ใจและได้แต่ยิ้มขณะยกแก้วเหล้า “พันธมิตรของเรามากขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นถึงความนิยมของสมาพันธ์ชาวยุทธ!  ผู้อาวุโส ไม่ต้องกังวลหลังจากครอบครองกลุ่มดาวหมีใหญ่แล้ว อย่างนั้นเราจะทุ่มกำลังไปสนับสนุนสมาพันธ์ชาวยุทธที่กลุ่มดาวนายพราน”

ทั้งสองฝ่ายหัวเราะดื่มฉลองให้กัน

******

เมืองสามวิญญาณ

ปิงยืนอยู่ใกล้ขอบเวทีของห้องทำงานโลหิตวิทยาและพูดปลุกใจ

“...งั้น..จุดวิกฤติของศึกนี้ ข้าคงต้องขอร้องทุกคน แค่เพียงให้พวกท่านทุกคนผลิตพิษที่มีผลเพียงพอสามารถรักษาพื้นที่ของเราในสนามรบได้...”

เหล่าผู้เฒ่าในแผนกโลหิตวิทยาของเมืองสามวิญญาณตื่นเต้นเลือดลมพลุกพล่านเหมือนกินยาโด๊ป  ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตทุกคนมีความรู้สึกเดียวกันคือเป็นเดือดเป็นแค้น

นักโลหิตวิทยาแต่ละคนมีความคิดห้าวหาญอยู่อย่างเดียวคือถึงคราวแสดงฝีมือของพวกเราแล้ว!

ในที่สุดโอกาสก็มาถึงพวกเรา!

แผนกเพื่อนบ้านที่ติดกันก็แค่กลุ่มเดรัจฉานแค่ขายขยะได้ 500 พันล้านเหรียญกลับขยี้ผลสำเร็จของงานเราจนเหลือศูนย์...

การตกอยู่ใต้เงามืดของแผนกเหล็กความอัปยศอดสูและความเศร้าที่เราต้องทน!

ได้โอกาสแสดงฝีมืออย่างยากลำบากมากแล้วทุกคนจะไม่ทุ่มสุดกำลังได้ยังไง?

ยาพิษเป็นกองพะเนินดุจภูเขาถูกรวบรวมมาในพริบตา

ถังโฉ่วยืนอยู่ด้านข้างปิงมองดูพวกเขาอย่างเย็นชา “ในฐานะผู้บัญชาการทหารการใช้แผนรบที่น่ารังเกียจและโหดร้ายนั้น เป็นเรื่องน่ารังเกียจจริงๆ”

“เสี่ยวโฉ่วโฉ่ว,อย่าเพิ่งคิดอย่างนั้น” ปิงหัวเราะพลางเคาะขี้เถ้าบุหรี่ “เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่ข้าชอบที่สุดในคนรุ่นนี้คืออะไร? ทุกคนที่นี่ไม่รู้ว่าข้าเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียง!  ฮ่าฮ่า ในที่สุดข้าก็สามารถทำตามต้องการได้”

ถังโฉ่วตอบอย่างเย็นชา“ผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงต้องตระหนี่ตัวและไม่หยิ่งและจริงใจในช่วงเวลาสงครามไม่ใช่หรือ? ใต้เท้าโปรดปฏิบัติตัวอย่างมีศักดิ์ศรีด้วยเถิด”

ปิงหัวเราะลั่นเอามือวางบนไหล่ของถังโฉ่ว อีกข้างหนึ่งถือบุหรี่โบกอยู่ในอากาศ  “ไม่ต้องรบกวนคนอื่น  เป็นมนุษย์สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความยืดหยุ่น ขอเพียงยืดหยุ่นได้เจ้าสามารถอยู่ในเส้นทางแห่งชัยชนะอย่างแท้จริง...”

ถังโฉ่วขัดจังหวะคำพูดปิง  “เป็นมนุษย์? ใต้เท้า โปรดจำไว้ว่าท่านเป็นขุนพลวิญญาณ”

ปิงซึมเซาแต่แล้วกลับหัวเราะอีกครั้ง “ฮ่าฮ่าฮ่า เสี่ยวโฉ่วโฉ่ว เจ้าน่ะมีอารมณ์ขันมากขึ้นทุกทีเลยนะ และนั่นเป็นเรื่องดี!  วางใจได้น่า เราจะชนะในไม่ช้า”

“แม้ว่าผู้บัญชาการของข้าจะเน่าเปื่อยและย่อยสลายไปแล้วก็ตามแต่การแสวงหาของข้าบนเส้นทางของผู้บัญชาการจะไม่มีทางเปลี่ยน!”  ถังโฉ่วพูดออกมาอย่างไม่สบายใจและเดินออกไป

“เน่าเปื่อยและย่อยสลาย...”  ตาของปิงเบิกกว้างเขาไม่อยากเชื่อหูและยังตะลึงต่อไปก่อนจะตะโกนไล่หลังถังโฉ่ว  “เฮ้, กลับมานี่ก่อน! เจ้ามาอธิบายให้ข้าฟังก่อนเรื่องเน่าเปื่อยและย่อยสลาย!”

เมื่อเห็นถังโฉ่วลับหายไปปิงได้แต่หัวเราะเบาๆ อัดควันบุหรี่ลึกยาว และจากนั้นพึมพำ “เจ้าเด็กนั่นมีทักษะและต้องการขัดคำสั่งอยู่บ้าง  เฮ้อ ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นผู้ปกครอง พวกเด็กเหล่านี้ ก็มีแต่ถังโฉ่วที่สอนได้!  เฮ้อ, นี่คือวิธีการที่ดี  ความจริงข้า... อนาถาเกินไป ....เอ๊ย..เป็นอัจฉริยะมากเกินไป!”

********

จำนวนหนึ่งล้านคน?

ไม่มีใครรู้ดีกว่าฝูเยี่ยนหน้าของเขาเขียวคล้ำจนดูเหมือนรีดน้ำออกไปได้สองกิโลกรัม  ความคิดจะปฏิเสธถังเทียนไม่ยอมให้เข้ากลุ่มดาววาฬมาจากเขา  เมื่อถังเทียนยึดกลุ่มดาวหมีใหญ่ ใครๆก็สามารถคิดถึงอารมณ์ของเขา  ดังนั้นเขาจึงมีส่วนร่วมในการรณรงค์มากที่สุด

แต่..

เมื่อเขาเห็นร่างหลายร่างหายเข้าไปในป่าข้างหน้าและสารสีเขียวประหลาดถูกปล่อยในแหล่งน้ำข้างหน้า ความโกรธแผดเผาเขาจนรู้สึกปวดตับ

เขาไม่สามารถหันหลังกลับได้  เขารู้ว่าทหารด้านหลังเขาจะไม่สามารถเจ็บตัวเพราะน้ำสีเขียวข้างหน้าพวกเขาเป็นแน่

มันจะอยู่อย่างนั้นอีกกี่วัน?

นับตั้งแต่เริ่มสู้กันเมื่อห้าวันที่แล้ว พวกเขาเริ่มพบกับการตอบโต้อย่างโหดร้ายประเภทต่างๆ  การโจมตี และวางยาพิษ

อีกฝ่ายหนึ่งไปมาเหมือนกับสายลมมีกำลังคน 300-500 คน ฝูเยี่ยนแทบคิดว่าเขาเข้าไปในรังโจร ไม่ นั่นผิดแล้วสถานที่ถูกเปลี่ยนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกโจร!

จำนวนโจรมีมากขนาดทำให้ขนลุกได้และกลยุทธของโจรยิ่งน่ารังเกียจและเจ้าเล่ห์มาก

แหล่งน้ำทั้งหมดถูกวางยาพิษ  สำหรับนักสู้ผู้แข็งแกร่งกว่าพวกเขาสามารถใช้ปราณแท้ป้องกันชีพจรของพวกเขา แต่นักสู้ธรรมดาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ทางกองทัพได้จัดสรรผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดซึ่งมีความรู้ดีเรื่องยาพิษมาด้วย  แต่มีพิษรูปแบบต่างๆ มากเกินไปและแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดก็ยังถูกวางยาพิษไปด้วย  ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกได้แต่เรียกร้องให้หยุดทัพ

ตั้งแต่เริ่มฝูเยี่ยนต้องการกำจัดโจรให้หมดไป แต่เขาก็ต้องตระหนักโดยเร็วว่าตราบเท่าที่เขาส่งคนสองสามคนไปรับมือ พวกเขาจะถูกฆ่าหมด ถ้าส่งไปมากพวกเขาจะวิ่งหนี  ฝูเยี่ยนไม่มีทางเลือกได้แต่ส่งยอดฝีมือของเขาเข้าไปต้องการกำจัดพวกเขาให้หมด   ตอนเริ่มแรกดูเหมือนกับว่าพวกยอดฝีมือเป็นเหมือนนกอินทรีไล่จับไก่กวาดล้างทุกอย่างที่เขาบินผ่านไปตามเส้นทาง ทำให้ฝูเยี่ยนตื่นเต้น  แต่หลังจากนั้นยอดฝีมือที่บินอยู่ในท้องฟ้าพุ่งผ่านก้อนเมฆต่างกันร่วงลงมายังพื้นทรายกระแทกจนเละ

หลังจากนั้นยอดฝีมือของกองทัพไม่กล้าลงมืออีกเลย

พวกเขาก้าวไปแต่ละก้าวจะต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก อะไรก็ตามที่ปรากฏออกมาจากพื้นอย่างกระทันหัน จะเป็นอะไรที่คุ้มค่าหรือไม่พวกเขาต้องอาศัยโชค กองทัพมีคนขาหักเกินกว่ายี่สิบคนแล้ว บางส่วนก็โดนพิษบางส่วนก็ขาหักเพราะกลไกกับดัก บางส่วนก็โดนระเบิดจากอสูรทำลายล้าง

แม้ว่าจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายจะไม่มาก  แต่ผลกระทบต่อกำลังใจมีมากแน่นอน

หนองน้ำเขียวชอุ่มด้านหน้าทำให้ทุกคนต้องหยุด  ตอนแรกเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพบหนองน้ำพวกเขาจะเหาะข้ามไปเลย เนื่องจากบินข้ามง่ายๆ โดยใช้วิชาตัวเบา  แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อกลุ่มเล็กๆบินเหนือหนองน้ำ แต่ในทันใดนั้นพวกเขาจะร่วงลงไปในน้ำเหมือนกับเกี๊ยวในหม้อต้มและไม่กี่นาทีก็เหลือแต่กระดูกบนผิวน้ำ

หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าใช้วิชาตัวเบาข้ามหนองน้ำอีกเลย

หนองน้ำดูเหมือนจะใหญ่ไปหน่อย...

ฝูเยี่ยนหันมามองทุกคน  พวกเขาทุกคนมีใบหน้าเขียวและอ่อนล้าเจ้าพวกบ้านี่ไม่ยอมให้พวกเขาได้หลับนอน เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาตั้งค่าย  จะมีธนูห่าใหญ่ยิงออกมาอย่างแม่นยำ  หลังจากถูกคุกคามอยู่สองสามคืนในที่สุดทุกคนก็คุ้น ใช้โล่กันข้างบนเวลานอน ยังไงก็ยังใช้กันฝนได้

ในที่สุดหนึ่งในห่าลูกธนู มีถุงยาพิษปะปนอยู่ด้วย แม้ว่านักสู้สามารถป้องกันได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีอยู่สองถุงที่ตกลงในค่ายสังหารคนไปสามสิบคน

ไม่มีใครกล้าหลับหลังจากนั้น

พวกเขาเป็นทหารมือดีทุกคนมีพลังยุทธระดับแปด  ไม่ได้หลับนอนไม่กี่วันก็ไม่เป็นไรพวกเขาพอทนได้ แต่หลังจากผ่านไปห้าวัน ฝูเยี่ยนจึงค่อยรู้ความหมายของบุรุษเหล็กมนุษย์เหล็กที่ไม่ได้หลับนอน

ที่สำคัญยิ่งกว่าภายใต้สถานการณ์ที่เหนื่อยล้าและตึงเครียดพวกเขายังต้องทนต่อเจ้าพวกระยำอย่างต่อเนื่องที่คอยมาเยาะเย้ยท้าทายถากถางจากกลุ่มนักสู้ระดับหก

มีสี่กรณีแล้วที่นักสู้สูญเสียการควบคุมตนเองทำร้ายสหายกลุ่มเดียวกันไปหกคน

ฝูเยี่ยนกำลังจะร้องไห้  เขาไม่เคยพบสถานการณ์ เช่นนั้น ฝ่ายตรงข้ามน่ารังเกียจหยาบคายและไร้ยางอาย

เขาเหม่อมองไปไกลและทันใดนั้นคิดว่าระยะทางไปสถาบันไข่หมีช่างไกลยิ่งนัก

“หยุด! เราจะตั้งค่ายที่นี่  ตรวจสอบน้ำด้วย! เราจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มหนึ่งพัก อีกกลุ่มหนึ่งเฝ้าคุ้มกัน ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีอะไร พวกเจ้าทุกคนต้องร่วมใจสู้!” ฝูเยี่ยนยังคงมีกำลังแต่เขารู้ว่า ถ้าทหารภายใต้บัญชาของเขาไม่ได้พัก อาจเกิดการกบฏขึ้นได้สถานการณ์ปัจจุบันของเขาเป็นเรื่องเพ้อฝันชัดๆ ด้วยระยะทางห่างป่าอย่างน้อยสิบลี้ในรัศมีหกลี้รอบตัวพวกเขาเป็นพื้นที่ราบ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มองเห็นไม่ทางที่ใครจะซ่อนตัวได้

ทหารทุกคนถอนหายใจโล่งอก  ในที่สุด พวกเขาก็สามารถหลับได้อย่างสงบเสียที

ฝูเยี่ยนรู้สึกว่าเพียงทางเดียวที่จะไปต่อได้ก็คือขอความช่วยเหลือจากเจ้ากลุ่มดาวและขอความช่วยเหลือจากสมาพันธ์ชาวยุทธ

พวกเขาจะมีทางเดียว...

ฝูเยี่ยนไม่มั่นใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด