ตอนที่แล้วตอนที่ 449 การตื่นขึ้นของแมงป่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 451 การสนับสนุนของปิงและคำขอของจิ่งหาว

ตอนที่ 450 อดีตของเซรีน


มีคนมาเคาะประตู

ปิงคาบบุหรี่ อั้นไม่ให้ควันลอยออกมา  เขาสังเกตมองบุรุษตรงข้ามเขาอย่างเงียบ

บุรุษวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี  ชุดของเขาดูเหมือนจะราคาแพงราศีไม่ธรรมดากำลังดื่มชาอย่างเมินเฉยไม่สนใจอะไร ข้างๆ เขาเป็นสุภาพสตรีงดงามที่ดูแล้วมีพลังไม่ต่ำทราม

“ข้าบอกแล้วไงว่าอย่ากวนใจข้าเวลานี้!  พวกเจ้าทุกคนทำเหมือนกับคำพูดข้าเป็นแค่ลมเป่าหู..”

เซรีนโวยวายเสียงดังลอดออกมานอกประตู  เห็นได้ชัดว่านางไม่พอใจ เกือบจะโมโหด้วยซ้ำ

ปิงสังเกตแววเย้ยหยันแว่บผ่านหน้าของหญิงสาวผู้งดงามผู้อยู่ด้านหลังบุรุษวัยกลางคน  โอว ชักน่าสนใจเสียแล้ว...

เซรีนถลันเข้ามาและคำรามลั่น  “อีตาหน้าไพ่, เจ้าตายแน่ถ้าไม่อธิบายให้ดิ...”

เสียงของนางชะงักทันที

“หลานเซรีน”บุรุษวัยกลางคนยิ้ม และวางแก้วชาลง “ทำไมล่ะ? จำลุงรองไม่ได้หรือไง?”

เซรีนหน้าเขียวคล้ำ  “มาที่นี่ทำไม?”

“บังเอิญว่าข้ามาทำธุระแถวๆนี้ ดังนั้นข้าเลยแวะมาเยี่ยมเจ้า พ่อเจ้าคิดถึงเจ้ามากและหวังว่าเจ้าจะกลับไปเยี่ยมเขา”  บุรุษวัยกลางคนยิ้มอย่างใจดีและอ่อนโยน

เซรีนแค่นเสียง  “ข้าถูกตะเพิดออกมาจากครอบครัวเมื่อตอนข้าสิบสองขวบและได้ขีดเส้นคั่นระหว่างข้ากับพวกท่านแล้ว ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกท่าน เชิญไปได้แล้ว”

บุรุษวัยกลางคนสีหน้าเขียวคล้ำสตรีงดงามที่อยู่ด้านหลังเขาทนไม่ได้อีกต่อไป นางด่า “สามหาวนัก, นังแพศยาที่ถูกขับออกจากตระกูลยังกล้าพูดเรื่องเหลวไหลอีก!”

ปราณรอบตัวนางถูกปลดปล่อยดังปังทำให้อุณหภูมิในห้องตกลงทันที

เซรีนยิ้มทันทีและพูด“ตวนมู่, ตบนาง”

ตวนมู่รู้สึกตกใจอยู่แล้วเมื่อสุภาพสตรีผู้นั้นด่าเซรีนสมองของสตรีผู้นี้กระทบกระเทือนหรือเปล่า? ความจริงนางกล้าด่าเจ๊เซรีน ความกล้าของนางช่างน่านับถือ...

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเซรีน  เขาสั่นทันที หลังจากรั้งอยู่ในฐานมานานเขาจับอารมณ์และบุคลิกของนางได้ เจ๊ใหญ่โกรธแล้ว!

ถ้าข้าไม่ตบแม่นางคนนี้สักสองสามทีในวันนี้...

ตวนมู่สั่น

ตวนมู่ไม่คิดอะไรต่อร่างของเขาหายวับมาปรากฏอยู่ข้างสตรีนางนั้นเหมือนภูตพราย

สุภาพสตรีนั้นโกรธจนหัวเราะในสายตานาง สถานะของเซรีนก็แค่ก้อนหินชั้นต่ำ แต่ยังกล้าพล่ามคำพูดว่าตบนาง รังสีอำมหิตของนางคุกรุ่นและนางเริ่มเคลื่อนไหว

ควั่บฝ่ามือข้างหนึ่งแหวกผ่านม่านควัน และยึดตัวบุรุษวัยกลางคนไว้

บุรุษวัยกลางคนโกรธ  “เด็กน้อย เจ้ากล้า....”

โดยไม่ต้องใช้แรงปิงดึงบุรุษวัยกลางคนเข้ามาหาเขา ปากเขายังคาบบุหรี่และตบหน้าของบุรุษวัยกลางคนสองฉาด“คนฉลาดต้องยอมอ่อนข้อกันบ้าง บังอาจเรียกว่าข้าเด็กน้อย ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย”

สตรีงดงามตกตะลึงนางระมัดระวังอยู่ที่ตัวตวนมู่ ไม่เคยคาดเลยว่าขุนพลวิญญาณจะลงมือทันทีเจ้านายนางถูกจับ สถานการณ์ของนางเสียเปรียบทันที นางไม่กล้าโต้ตอบ

นางกรีดร้องใส่  “พวกเจ้าบ้ากันทุกคน...”

เผียะ เผียะ เผียะเสียงตบดังกลบเสียงด่าของนาง

ปิงเองก็ตบบุรุษวัยกลางคนไปหลายที ใบหน้าที่งามสง่าของบุรุษวัยกลางคนบวมเหมือนหัวหมูทำให้เขาสั่นด้วยความโกรธ เขาไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนั้นมาก่อน

“จุ๊จุ๊ ทาสที่เหมือนหมูมีแต่จะฉุดเจ้านายต่ำลงเท่านั้น” ปิงแตะแก้มที่บวมของบุรุษกลางคนและส่งสารข้อความรู้สึกจากใจของเขา

เขาเงยหน้าทันทีทำให้หญิงงามผู้นั้นประหลาดใจ “เจ้านายของเจ้าถูกหยามหยัน แล้วเจ้าจะไม่รู้สึกอะไรได้ยังไง?”

สตรีงามนั้นทั้งแตกตื่นและโกรธนางพุ่งเข้าหาปิงโดยไม่สนใจอะไรในโลก

ร่างของตวนมู่เข้ามาขวางหญิงงามนั้นไว้

ปิงแสดงความเสียใจต่อบุรุษวัยกลางคน “บริวารของเจ้าไม่มีความอ่อนโยนต่อเจ้าแม้แต่น้อย”

เผียะ เผียะ เผียะบุรุษวัยกลางคนถูกตบอีกสามครั้งจนวิญญาณแทบหลุดลอย

สตรีงามหยุดพูดนางตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่นางรู้ว่าถ้านางดิ้นรน เจ้านายนางจะต้องได้รับความอัปยศ  นางยอมให้ตวนมู่มัดนาง  สายตานางแสดงความไม่พอใจ  นางกัดฟันและกล่าว “พวกเจ้าทุกคนจะต้องเสียใจ”

“ขอบคุณที่เจ้ากังวลห่วงใย!”  ปิงงับบุหรี่และคำนับล้อเลียน

ทั้งสองคนถูกมัดแน่น  บุรุษวัยกลางคนแก้มแดงและถูกจัดให้ยืนที่มุม

ปิงเคาะขี้บุหรี่และพูดกับเซรีน“เจ้าต้องการให้จัดการใช่ไหม?”

เซรีนมองดูปิง“ท่านรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใคร?”

“ไม่รู้สิ”ปิงตอบอย่างเฉยเมย  “แน่นอน  มันยังไม่สายจนเกินไปที่เจ้าจะพูดตอนนี้ โอวเจ้ากำลังบอกข้าถึงผลที่จะตามมาน่ะหรือ? อย่าไปรำคาญเรื่องแบบนั้นเลย  เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อขอความสนับสนุนจุ๊จุ๊ ดีแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่เชือดเลี้ยงสุนัข ถ้าเจ้าเด็กบ้าถังอยู่ที่นี่ พวกเขากลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว การกระทำของข้ายังถือว่าใจดีมากแล้ว”

“พวกเขาคือกลุ่มอิทธิพลใหญ่”  เซรีนขบริมฝีปาก  ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน  นางรู้ว่าปิงยืนยันสนับสนุนนาง  แต่...

ปิงหัวเราะลั่น  “พวกเขาใหญ่กว่าสมาพันธ์ชาวยุทธไหม?”

เซรีนแข็งชะงัก จากนั้นจึงหัวเราะ  “ไม่ใหญ่ขนาดนั้น”

ท่าทางหวาดหวั่นหายไปจากใบหน้านาง  นั่นก็จริงขนาดสมาพันธ์ชาวยุทธทุกคนยังไม่สนใจ ตระกูลที่น่าเกลียด พวกเขาจะต้องไปกลัวอะไร?

“เจ้าคือช่างใหญ่วิศวกรจักรกลของพวกเรามันนานเท่าใดแล้วตั้งแต่ออกมา? เฮ้, เราจะได้รับเงินก้อนโตก็ขึ้นอยู่กับเจ้า! มาหาข้าได้ มาขอความกรุณาได้เลย หึหึ!”

พอเสียงหึหึของปิงดังเขามีรังสีฆ่าฟัน และเดินเข้าหาคนทั้งสองและพ่นควันใส่หน้าพวกเขา“  พวกสุดท้ายที่กล้าทำแบบนี้จะต้องถูกข้าซ้อมจนต้องร้องเรียกหาแม่กันเลยทีเดียว  แย่หน่อยที่จอมห้าวถังไม่อยู่ที่นี่ โอวเขาจะทำอะไรได้?   เขาจะจับพวกเจ้าทั้งสองคนแขวน  เจ้านั่นชอบทำแบบนั้นเสียด้วย  ไม่ไม่ ข้าจะต้องตอกย้ำเป้าหมายที่สูงขึ้นไปในตัวเขา”

“ใต้เท้าทำไมท่านต้องทำให้ข้าขายหน้า ท่านต้องการอะไร? ว่ามาให้ชัด” บุรุษวัยกลางคนถามเสียงเบา

แผนการของเขาลึกซึ้ง  เขาสงบจิตใจจากความโกรธและตระหนักได้ทันทีว่าการระเบิดอารมณ์โกรธของปิงมีความหมายลึกซึ้ง  ในการสู้กันระหว่างบริวาร  ใครก็ตามจะชอบโจมตีอย่างนั้น นั่นด้อยเกินไป

“เหตุผล?”  ปิงชำเลืองมองบุรุษวัยกลางคนอย่างชื่นชม  “เหตุผลง่ายๆ ระบายอารมณ์ให้เซรีน”

สีหน้าของบุรุษวัยกลางคนค้าง

“ความรู้สึกของสหายพวกเจ้าทุกคนต้องได้รับการเอาใจใส่ แม้ว่าข้าไม่รู้เรื่องความขัดแย้งของพวกเจ้าทั้งสอง แต่เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเรากำลังช่วยนาง”  ปิงหัวเราะเบาๆ และกล่าว  “นางคือวิศวกรจักรกลใหญ่ของเราได้ระบายความโกรธให้นาง ช่วยให้นางอารมณ์ดีทำงานมีประสิทธิภาพ  จากนั้นเราสามารถทำเงินได้  น้องชาย ช่วงสองสามปีมานี้ ช่างทำมาหากินลำบาก!”

“ถึงกระนั้นก็เถอะใต้เท้า, ท่านดูจะไม่สนใจมากเกินไปแล้ว!” บุรุษวัยกลางคนลดเสียงเบา “แม้ว่าเซรีนจะมีความสำเร็จวิชาจักรกลบ้างเล็กๆ น้อยๆแต่ความแข็งแกร่งของตระกูลหานไม่ใช่สิ่งที่ช่างจักรกลเล็กคนหนึ่งจะเทียบได้ถ้าใต้เท้ายินดีจะปล่อยเซรีนให้ตระกูลหาน ตระกูลหานจะจ่ายรางวัลให้ใต้เท้าจนจุใจแน่นอน”

ปิงพ่นควันเป็นวงออกมาอย่างไม่ใส่ใจทำตาปริบๆ ใส่เซรีน “โอว.. คนมีอิทธิพลท้องที่”

เซรีนตอบอย่างเฉื่อยชา“ตระกูลอีวานแห่งกลุ่มดาววัว (ทอรัส)หนึ่งในตระกูลที่โดดเด่นในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย่อมมีอิทธิพลแน่นอน”

“ฟังดูเข้มแข็งดีนี่!”  หน้าของปิงมีแววประหลาดใจ

ใบหน้าของหญิงงามมีท่าทางเย่อหยิ่ง  บุรุษวัยกลางคนนั่งมั่นคงกว่าเดิม  เพื่อยืดเอวและหลังให้ตรง

“อย่างนั้นทั้งสองคนนี้คงแลกค่าไถ่ก้อนโตได้แน่”

ทั้งสองคนชะงักอีกครั้ง ทันใดนั้นพวกเขารู้สึกหนาวยะเยือกตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  พวกเขาเพิ่งสังเกต  สายตาที่บ่งบอกอารมณ์ของปิงดูเหมือนเขากำลังจะกลืนกินพวกเขา

แววเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าเซรีน  “แลกค่าไถ่พันแปดร้อยล้านก็คงไม่เป็นปัญหา”

แววตื่นเต้นของปิงตกลงทันที  เขาพูดอย่างเฉื่อยชา  “ได้แค่นิดเดียวเอง  ดูเหมือนสถานะของสองคนนี้ไม่สูงขนาดนั้น  แต่ไม่ว่ายุงจะเล็กขนาดไหนก็ตามมันก็ยังสด  เอาตามนั้นก็แล้วกัน”

บุรุษวัยกลางคนมีสีหน้าบิดเบี้ยวเขารู้สึกอับอายอีกครั้ง ในที่สุดก็ควบคุมตัวเองไม่ได้หลุดคำผรุสวาท “เซรีน ในท้ายที่สุดเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้าก็ยังเป็นของตระกูลอีวานอยู่ดี  ไม่สำนึกถึงบุญคุณผู้ให้กำเนิดยังไม่พอเจ้ายังบังอาจละเมิดผู้อาวุโสของเจ้า อย่างนั้น...”

เผียะ!

เสียงตบดังขึ้นขัดจังหวะบุรุษวัยกลางคนอีกครั้ง

เซรีนพูดเสียงเย็นชา“พูดให้ชัด, ท่านเป็นญาติอาวุโสของใคร!  ตอนข้าสิบสองปี แค่เพียงปีที่สองหลังจากแม่ข้าตาย  พวกเจ้าทุกคนขับไล่ไสส่งข้าออกจากตระกูล  ข้าไม่มีสถานะ ถ้าข้าไม่พบเจ้านาย ข้าคงตายอยู่ข้างถนนไปแล้ว  ทำไม?ตอนนี้พวกเจ้ากลายเป็นผู้อาวุโสของข้าแล้วหรือ?”

เซรีนตะโกนทันที “ตวนมู่!”

ตวนมู่สั่น “ขอรับเจ้านาย!”

“แขวนพวกเขา!”  เซรีนสั่งอย่างดุดัน

“ได้เลย!”  ตวนมู่ลากทั้งสองคนออกไปข้างนอกทันที

“เซรีน, กล้าดียังไง!”  บุรุษวัยกลางคนทั้งตกใจและโกรธ

“ตระกูลอีวานจะไม่ยอมปล่อยพวกเจ้าแน่”สตรีงามกรี๊ดลั่น

ไม่มีอะไรต้องพูดต่อตวนมู่ทำให้พวกเขาสลบทั้งสองคน ข้าไม่เคยถูกลากเข้าปัญหาแบบนั้นเลย... ไม่เคยเลย....

เงียบในห้องกลับเงียบลงอีกครั้ง

ความโกรธของเซรีนค่อยๆคลายลง นางสังเกตว่าปิงจ้องมองนางแปลกๆ อยู่ครึ่งค่อนวัน เมื่อคิดถึงท่าทีซื่อๆของลุงหน้าไพ่ก่อนนั้น นางโพล่งออกมา “พูดความในใจเจ้ามาได้เลย!”

“จุ๊ จุ๊ เถอะน่า, เซรีน รสนิยมของเจ้าใกล้เคียงเจ้าบ้าถัง  เขาทำให้รสนิยมของทุกคนตกต่ำหรือเปล่านะ?”ปิงทำเป็นลูบคางล้อเลียน

เซรีนนั่งตัวตรง “เราไปป่วนตระกูลอีวานเข้าให้แล้ว ท่านรู้ไหมในกลุ่มดาววัวอีกชื่อหนึ่งของตระกูลอีวานเรียกกันว่าอะไร?  ตระกูลมาเฟีย พวกเขาจะต้องแก้แค้นอย่างไร้ยางอายเสมอ”

“ฮ่าฮ่า,เซรีนน้อย, ถ้าเจ้ากำลังเปรียบเทียบกับผู้ที่เป็นยิ่งกว่ามาเฟีย  มีคนไม่มากนักหรอกที่เอาชนะเราได้”  ปิงหัวเราะลั่น

“ข้าจริงจังนะ”  เซรีนพูดเสียงอ่อน “พลังของตระกูลอีวานแข็งแกร่งกว่าที่ท่านคิด  รากฐานของพวกเขาในภูมิภาควิญญาณนั้นลึกซึ้ง

ปิงหัวเราะอีกครั้ง  “ไม่มีปัญหา, ข้ารู้”

******

“เชิญทางนี้”  นักสู้ผู้นำทางกล่าวอย่างสุภาพ

ฮัวเฉินหวินมองขึ้นๆ ลงๆกะขนาดพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว ขนาดของเมืองสามวิญญาณนั้นใหญ่ สายตาของเขามองดูสนามฝึก

ภายใต้แสงสว่างพื้นที่ฝึกฝนดูมีชีวิตชีวา มีอาวุธจักรกลหลายเครื่องกำลังฝึกฝนอยู่

โอ, ไม่ใช่อาวุธจักรกลแต่เป็นอาวุธจักรกลวิญญาณ

เขาหยุดชั่วขณะหยุดมองพวกเขา นักสู้ที่นำทางไม่ได้กระตุ้นเตือนเขา ขณะที่เขารออยู่ด้านข้างอย่างอดทน

เป็นอาวุธจักรกลวิญญาณอย่างที่คาดเลย  ฮัวเฉินหวินสามารถประเมินได้อย่างรวดเร็ว อาวุธจักรกลรูปแบบใหม่นี้เทียบกับอาวุธจักรกลแบบเดิมแล้วแข็งแกร่งมากกว่า

เมื่อนึกถึงว่าอาวุธจักรกลวิญญาณถูกสร้างโดยวิศวกรจักรกลใหญ่นามว่าเซรีน  และเซรีนเป็นสตรีคนหนึ่งหัวใจของฮัวเฉินหวินเต็มไปด้วยความอยากรู้และคาดหวัง

ทันใดนั้นเขาสังเกตว่าภายในพื้นที่ฝึกมีบุรุษหนึ่ง สตรีหนึ่งถูกแขวนอยู่  เขาอดถามไม่ได้ “นั่นอะไร?”

นักสู้ที่นำทางชำเลืองมองดูและแค่นเสียง“ข่าวลือว่าพวกเขามาจากตระกูลอีวานอ้างว่าเป็นผู้อาวุโสของแม่นางเซรีน ฮึ่ม..แม่นางเซรีนน่าสงสารจริงๆ ถูกไล่ออกจากบ้านตอนอายุสิบสองปี อดอยากเกือบตาย  แต่พอตอนนี้นางมีชื่อเสียงโด่งดัง  สุนัขเหล่านี้กลับวิ่งมาหานาง”

เมื่อเห็นคนทั้งสองนี้  สายตาของนักสู้นั้นแข็งกร้าวทันที

ตระกูลอีวาน....

เซรีนมาจากตระกูลอีวานจริงๆ!

ฮัวเฉินหวินตระหนักได้ทันทีว่าเรื่องคงจะไม่ง่ายเสียแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด