ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0130
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0132

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0131


บทที่ 40 เมืองสุสาน (3)

* * *

ห้าวันก่อนก่อนคังซอนฮูจะกลับจากใต้ เสียงแผดร้องก้องกังวานไปทั่วโลก

ท้องฟ้าสั่นสะเทือนอยู่ครู่หนึ่ง

เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด แต่ผู้คนกลับไม่แตกตื่นมากนัก คล้ายกับเริ่มคุ้นชินโลกใบนี้

โอจีฮเยที่เข้าเวรห้องวิเคราะห์บูรณาการมาตลอดทั้งคืน พูดขณะเห็นจองจีฮุนเดินเข้ามาในช่วงเช้า

“วันนี้เข้างานเร็วจัง เพิ่งเลิกงานไปสี่ชั่วโมงเองไม่ใช่หรือ”

จองจีฮุนแค่พยักหน้ารับ พลางยกรายงานขึ้นมาอ่าน

“คังซอนฮูไม่ได้พูดอะไรเลยหรือ”

“ใช่ ตรงกันข้าม… เขาเอาแต่จดจ่ออยู่กับบางสิ่ง”

“คนแบบนี้น่าสนใจจะตาย คุณไม่คิดงั้นหรือ”

“ถ้าบอกว่าคิดก็คงจะโกหก แต่นิสัยแบบนี้ทำให้เขาเก็บความลับมิดชิด”

“ในโพรไฟล์อาจเขียนไว้แบบนั้น… แต่ในความเป็นจริง ดูเขาเป็นพวกสนุกกับชีวิตพอสมควร… ร่าเริงกว่าที่คิดมากทีเดียว”

“นั่นก็จริง”

“สรุปแล้วเขาเป็นยังไงกันแน่? พวกหลายบุคลิก?”

“…ก็อาจเป็นไปได้”

จองจีฮุนยืนอ่านรายงานอย่างตั้งใจ พยายามบันทึกข้อมูลลงในความทรงจำ ก่อนจะโยนเอกสารใส่เครื่องทำลาย

นี่คือขั้นตอนปกติสำหรับกำจัดเอกสารลับ

จากนั้นก็หันไปทางเพื่อนร่วมงานที่เอ่ยปากชวนคุย เมื่อเห็นเส้นผมอีกฝ่ายกระดกขึ้นมาเหมือนตูดเป็ด จองจีฮุนอดขำไม่ได้

“คุณทำงานหนักน่าดูเลยนะ”

“เริ่มชินแล้วล่ะ นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ห้องวิเคราะห์บูรณาการ แถมยังเป็นทีมหนึ่ง ฉันก็ตัดสินใจใช้ชีวิตแบบพวกหัวกะทิ… เมื่อลองมาคิดดู นี่ไม่ใช่ความกดดัน แต่เป็นโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน”

จองจีฮุนที่ยืนฟัง ทำเพียงยิ้มอ่อน

ถึงโอจีฮเยจะเป็นรุ่นน้อง แต่เธอก็กล้าพูดทุกสิ่งที่คิด กลับกัน นิสัยแบบนี้ต่างหากที่ทำให้ได้เข้ามาอยู่ในห้องวิเคราะห์บูรณาการ เพราะต้องคอยตรวจสอบทุกสิ่งพลางรักษาสติให้มั่นคง

จองจีฮุนยืนครุ่นคิดขณะไล่ยัดเอกสารลงในเครื่องทำลายทีละแผ่น

ทันใดนั้น โอจีฮเยจ้องโทรศัพท์พลางถอนหายใจยาว

ขณะเดียวกัน โทรศัพท์จองจีฮุนก็ได้รับแจ้งแบบเดียวกัน

<กำหนดสถานการณ์ ‘เฝ้าระวัง’ — คอยจับตามองปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในต่างโลก>

「 (สถานที่สังเกตการณ์)

ทางตะวันตกของเบสแคมป์ ระยะห่างหนึ่งร้อยกิโลเมตรหรือมากกว่า

(เนื้อหา)

การตกของวัตถุคล้ายขนนกที่มีความสูงกว่าห้าร้อยเมตร ยืนยันแล้วว่าไม่มีความเสียหายต่อเบสแคมป์และพลเมือง

(ระเบียบปฏิบัติ)

ส่งทีมตรวจสอบเข้าไป โดยต้องมีเจ้าหน้าที่จากห้องวิเคราะห์บูรณาการอย่างน้อยหนึ่งคน」

“ฉันยังกลับบ้านไม่ได้สินะเนี่ย”

อ่านเนื้อหาจบ การยังรักษาสติไว้ได้และทำแค่ตัดพ้อ คือเครื่องยืนยันว่าเธอเป็นอัจฉริยะที่เหมาะจะทำงานในห้องวิเคราะห์บูรณาการ

จองจีฮุนหยิบแจ็กเกตสูทที่แขวนบนเก้าอี้และพูด

“รายงานเบื้องบนให้ด้วย”

“คุณจะไปเอง?”

จองจีฮุนพยักหน้าและเดินออกจากสำนักงานด้วยฝีก้าวเร่งรีบ

* * *

ขนนกยักษ์ปักพื้นทำมุมตั้งฉากกับเส้นขอบฟ้า

ใกล้กันมียอดเขาคอยเปรียบเทียบ เกิดเป็นภาพที่แปลกตาอย่างบอกไม่ถูก

ฝุ่นคละคลุ้งผุดตามมาทีหลัง แผ่นดินสะเทือนแผ่วเบา

ทั้งลิลี่และฉันมิอาจละสายตาจากฉากดังกล่าว

ลิลี่พูดขึ้นก่อน

“…เทพใกล้เข้ามาแล้ว”

ฉันนำกล้องส่องทางไกลออกมาส่องขนนกอย่างเอาจริงเอาจัง

คลื่นพลังงานสีม่วงแผ่ไปตามผิวขนนกสีดำ จนดูคล้ายท้องฟ้ายามค่ำคืน

ขนนกทั้งเส้นดูราวกับจอภาพขนาดมหึมาที่ลอยอยู่กลางอวกาศ

ก้มมองเข็มชี้ทองคำอีกครั้ง การที่ปลายเข็มสั่นมากกว่าปกติ แปลว่าระยะทางใกล้เข้ามาทุกที

ชาโซฮีเปิดประตูออกมา ผมเปียกชุ่มเหมือนสาหร่าย

เธอพยายามใช้ผ้าขนหนูเช็ดลวกๆ

“นั่นมันอะไร…?”

“ขนนก”

“ฉันรู้แล้วว่าเป็นขนนก แต่นกอะไรมีขนใหญ่ขนาดนี้”

“ที่นี่ต่างโลก”

จินซอยอนและซอจีอามองขนนกด้วยสีหน้าต่างกันไป

“ยักษ์ในสุสาน… ขนนกยักษ์… ฉันจะบ้าตาย…!”

“ไหนบอกว่าชอบสำรวจต่างโลกไง? นี่แหละต่างโลก”

“เธอยังอารมณ์ดีได้อีกหรือ แค่ขนยังขนาดเท่านี้ คิดว่านกจะตัวเท่าไหน? แค่บินมาใกล้ๆ ก็พินาศกันหมดแล้ว!”

“นั่นไม่ใช่นก”

ลิลี่พูดขึ้น

สายตากำลังจดจ่ออยู่กับขนนก

เธอสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบความตื่นเต้น

“…แต่เป็นเทพ”

“เทพ?”

จินซอยอนที่เพิ่งมาถึง ถามต่อไป

“…หนึ่งในเก้าเทวราชา เหยี่ยวที่บินมาจากความมืดมิดไร้สิ้นสุด… ตำนานที่เธอเคยเล่าให้ฟัง?”

ลิลี่พยักหน้า

“…ได้ยินว่านกตัวนั้นบินมาทุกพันปี… ผ่านมาแล้วพันปี?”

“ระบุให้ชัดก็คือ เหยี่ยวจะบินมาหลังจากได้ยินเสียงระฆังบอกยุคสมัย… ระฆังนั่นจะดังทุกพันปี”

ซอจีอาหันมาจ้องฉัน

“เอลโรคร่าเบลล่า… ระฆังที่ที่รักสั่นใช่ไหม”

สักสี่เดือนก่อนได้มั้ง… ผ่านมานานขนาดนี้แล้วหรือ

จินซอยอนถามขณะจ้องขนนก

“…จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเหยี่ยวมาเยือนในทุกพันปี”

ถูกต้อง

นั่นแหละประเด็น ฉันสงสัยมาสักพักแล้ว

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันต้องเป็นเรื่องเจ๋งๆ แน่”

จินซอยอนพูดไม่ออก ทำเพียงหันมาจ้องฉัน

แววตาของเธอแฝงอารมณ์ซับซ้อน ด้วยเหตุผลบางประการ ฉันรู้สึกว่าเธอไม่สนุกด้วย

แต่สิ่งที่ฉันสนใจไม่ใช่ความรู้สึกของเธอ จึงเข้าประเด็นทันที

“ซอยอน”

“…”

“ซอยอน?”

“อ้อ… ค่ะ”

จินซอยอนที่เหม่อไปสักพัก หันมาทางฉัน

“OWIC มีข้อมูลเกี่ยวกับตำนานของต่างโลกบ้างไหม”

“เอ่อ… คงต้องกลับไปตรวจสอบ หัวข้อนี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตงานของฉัน”

จากนั้น เธอมองสลับระหว่างลิลี่และซอจีอา

“ชาวต่างโลกน่าจะรู้ดีกว่าบริษัทไม่ใช่หรือคะ”

นั่นก็จริง แต่ข้อมูลจากบริษัทอาจมีประโยชน์ในสถานการณ์แบบนี้

เวลาเดียวกัน เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น

เมื่อหันกลับไปมอง จองจีฮุนเดินเข้ามาใกล้และโค้งศีรษะ

“ผมจะตรวจสอบให้เอง”

“ไม่มีปัญหาแน่นะ”

“สบายมากครับ เป็นงานของผมพอดี”

จากนั้นก็มองไปทางขนนก

“เบื้องบนเพิ่งมอบหมายให้ผมตรวจสอบเรื่องนี้”

ฉันพยักหน้ารับ

ถ้ามีเป้าหมายร่วมกัน ก็ไม่จำเป็นต้องกังวล

ฉันเองก็ต้องเร่งมือเหมือนกัน

* * *

ผ่านไปสองสัปดาห์

รองประธานสมาคมฮาวนด์ และพาธไฟน์เดอร์ระดับสอง โดจุนฮยอก กำลังเดินไปตามถนนของเบสแคมป์พลางระงับความตื่นเต้น

ในอ้อมแขนเต็มไปด้วยเอกสารผลการสำรวจตลอดสองปี

โดจุนฮยอกอยากพบ ‘เขา’ มาตลอด

บุคคลที่ถ้าฮาวนด์คนใดไม่รู้จักชื่อ จะถูกมองว่าเป็นสปายทันที

โดจุนฮยอกตื่นเต้นเพราะกำลังเดินไปหาชายคนนั้น

เหตุผลที่ไม่เคยเจอหน้าอีกฝ่ายมาก่อน เพราะทางนั้นอยู่ไม่ติดบ้าน

นี่คือโอกาสอันหายาก ที่เกิดจากการแนะนำของซอจีอา

“นายกับแจนมินรวบรวมข้อมูลตำนานต่างโลกไว้ใช่ไหม? ฉันพาไปเจอคังซอนฮูได้นะ”

“หา? ได้จริงหรือ?”

“มีอะไรที่ฉันทำไม่ได้”

“แต่ได้ยินมาว่าเขาเกลียดฮาวนด์…”

“พวกเราดื่มเหล้าด้วยกันประจำ ถ้าไปกับฉันต้องไม่เป็นไรอยู่แล้ว และเขาจะชอบมากถ้านายพกข้อมูลไปเยอะๆ”

ไม่เคยคิดเลยว่า การรักษาความสัมพันธ์กับซอจีอาจะมอบผลตอบแทนล้ำค่าเช่นนี้

สมแล้วที่คนโบราณกล่าวไว้ว่า ถ้าเราทำดีกับใครสักคน อีกฝ่ายจะตอบแทนไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ

ขณะครุ่นคิด เขาเดินตามหลังซอจีอา รู้ตัวอีกทีก็มาถึงอาคารไม้สองชั้นแล้ว

ในลานกว้างมีชายคนหนึ่งกำลังกางเอกสารพลางพูดคุยกับแวมไพร์

เมื่อสบตากับคังซอนฮู โดจุนฮยอกโค้งเก้าสิบองศาพร้อมกับตะโกน

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ!”

“…ใคร?”

“ฮาวนด์ระดับสี่ โดจุนฮยอกครับ! ผมมาที่นี่เพราะได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ซอจีอา!”

“อ้อ… คนที่เธอเล่าให้ฟังสินะ”

คังซอนฮูมองซอจีอา

เอลฟ์สาวพยักหน้ารับ

“ได้ยินว่าคุณอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับตำนานของต่างโลก นั่นคือเหตุผลที่ผมมาหาครับ!”

“ไฟแรงชะมัด แต่ไม่ต้องตะโกนก็ได้… ยังกับได้เข้ากรมอีกครั้ง”

ดูเหมือนว่าคังซอนฮูจะชอบท่าทีขึงขังและน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำของอีกฝ่าย

ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ชายชาวเกาหลีที่เคยเข้ากรมทหาร ไม่มีทางรังเกียจรุ่นน้องที่ทำตัวนอบน้อม

อันที่จริง คังซอนฮูอาจเป็นรุ่นน้องในแง่อายุงาน แต่ความสำเร็จที่ผ่านมาทำให้อายุงานไร้ความหมาย

เมื่อโดจุนฮยอกพยายามสาธยายว่าตนชื่นชมคังซอนฮูมากแค่ไหน ชายหนุ่มรีบปรามและบอกให้เข้าประเด็นทันที ขณะเดียวกันก็หันไปยิ้มแห้งๆ ให้ซอจีอาที่กำลังยืนหัวเราะอยู่ด้านหลัง

“นี่คือตำนานอย่างละเอียดที่ผมเคยค้นคว้ามา”

เป็นข้อมูลล้ำค่าที่ได้จากการร่วมมือกับ OWIC เพื่อสำรวจหมู่บ้านห่างไกล

คังซอนฮูถึงกับชมเชยด้วยคำว่า ‘ไฟแรงดีนี่’

แต่นอกเหนือจากนั้น สีหน้าชายหนุ่มยังคงเฉยเมย

“…นี่คือข้อมูลจากหมู่บ้านทางใต้?”

“อะไรนะครับ? อ…อ้อ! ใช่ครับ”

“หมู่บ้านที่พวกเอลฟ์อาศัยอยู่?”

“ค…ครับ คุณรู้จักด้วยหรือ”

“…หืม”

แม้อีกฝ่ายจะเย็นชาผิดคาด แต่โดจุนฮยอกยังคงไม่ประหม่า

เขาคิดไว้แล้วว่าคังซอนฮูอาจมีข้อมูลส่วนนี้ จึงไม่ยอมแพ้และยื่นส่วนถัดไปให้

“จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้ ในต่างโลกจะมีศาสนาชื่อศาสนจักรเทวราชา พวกเขามีข้อมูลเกี่ยวกับตำนานเก้าเทพมากมาย”

“อาฮะ”

“คุณจำคณะจาริกแสวงบุญที่เคยแวะมาเยือนหมู่บ้านได้ไหมครับ? ระหว่างไวลด์ฮันต์น่ะ”

คังซอนฮูพยักหน้า

“ตอนนั้นคณะแสวงบุญเคยเล่าว่า ศาสนจักรเทวราชาวางแผนรับมือเหตุการณ์ตามตำนานที่จะเกิดในยุคสมัยนี้”

“…โฮ่”

คังซอนฮูเผยท่าทีประหลาดใจเล็กๆ

ได้เห็นแบบนั้น โดจุนฮยอกตื่นเต้นปนยินดี

ถ้าทำให้อีกฝ่ายชื่นชอบได้ ก็อาจสนิทกันมากขึ้นในอนาคต

เขาเบื่ออาชีพฮาวนด์ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นกึ่งอาชญากรเต็มที

“เรามีแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับศาสนจักรเทวราชามากมาย หากคุณคังซอนฮูต้องการ ผมสามารถรวบรวมข้อมูลเชิงลึกผ่านเครือข่ายฮาวนด์ได้ทันทีครับ”

“จริงหรือ”

“ครับ! ยิ่งถ้าขอร้องในนามคุณ ผมเชื่อว่าเราจะมีกำลังคนเพิ่มขึ้นมาก และคุณคังซอนฮูจะรวบรวมข้อมูลได้เร็วกว่าการทำงานคนเดียว”

โดจุนฮยอกมั่นใจ หากอีกฝ่ายอนุญาต พวกตนสามารถแก้ไขปัญหาที่คังซอนฮูกำลังติดขัดเพราะต้องเคลื่อนไหวตามลำพัง

ไม่ว่าจะมองมุมใดก็เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ

โดจุนฮยอกหวังว่างานชิ้นนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคังซอนฮู

เวลาเดียวกัน เสียงสัญญาณเตือนภัยสั้นๆ ดังขึ้นจากในหมู่บ้าน

เป็นสัญญาณแจ้งเตือนการมาเยือนของชาวต่างโลก สื่อเป็นนัยว่า จงทำตัวตามปกติ แต่อย่างเปิดเผยข้อมูลของโลก

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมช่วงนี้ชาวต่างโลกผ่านมาบ่อยนัก?

นั่นคือสิ่งที่คังซอนฮูสงสัย

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ชาวต่างโลกที่มาเยือน ตรงมายังสำนักงานของคังซอนฮูทันที

เมื่อระยะห่างสั้นลง รูปลักษณ์ของอีกฝ่ายยิ่งชัดเจน

ทุกคนขี่ม้าและห้อยดาบไว้ข้างเอว แค่ดูก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่นักเดินทางทั่วไป

เกราะหนังหนาๆ ที่อีกฝ่ายสวมอยู่ สื่อเป็นนัยว่ามาจากพื้นที่หนาวเย็น

ตัวแทนคนกลุ่มนี้คือนักบวชหญิงผมแดง

คังซอนฮูรู้จักใบหน้านั้น

“…น้องสาวนักบุญหญิงสินะ”

น้องสาวของนักบุญหญิง เอลลี่·วีว่าซิสซิโม่ ยิ้มและคุกเข่าต่อหน้าคังซอนฮู

เวลาเดียวกัน เหล่าอัศวินผู้พิทักษ์ของศาสนจักรเทวราชา ต่างทำความเคารพแบบเดียวกับเธอ

“ในนามของนักบุญหญิงแห่งศาสนจักรเทวราชาและอาร์ชบิชอปประจำภาคใต้ เบลล่า·วีว่าซิสซิโม่ พวกเราถูกส่งมาที่นี่เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้ท่านคังซอนฮู”

“เบลล่าส่งมาหรือ”

“ใช่… ท่านอาร์ชบิชอปทราบดี ว่าท่านกำลังค้นหาเหยี่ยวที่บินจากความมืดมิดไร้สิ้นสุด”

ขณะเดียวกัน เอลลี่เงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส

“…ขอบคุณที่ช่วยให้ท่านพี่หลุดพ้นจากความเศร้า”

คังซอนฮูยิ้มตอบและพยักหน้า

ภาพเหตุการณ์ทั้งหมด โดจุนฮยอกเห็นเต็มสองตา

ลูกหลานดวงดาว อัศวินผู้พิทักษ์แห่งศาสนจักรเทวราชา และผู้แสวงบุญ กำลังคุกเข่าต่อหน้าคังซอนฮูอย่างนอบน้อม

เดาได้ไม่ยากว่าสิ่งนี้หมายความเช่นไร

เขากำลังอับอายที่เมื่อครู่กล้าอวดโอ่ว่า ตนมีข้อมูลของศาสนจักรมากมาย

บุคคลสำคัญของศาสนจักรเทวราชากำลังส่งยิ้มให้คังซอนฮู แถมอัศวินผู้พิทักษ์ยังคุกเข่าจนแทบจะกราบ

ตนกำลังอวดรู้ต่อหน้าใคร?

“…ผม”

คังซอนฮูหันกลับมามอง

“ผมขอโทษที่ทำตัวอวดรู้”

ซอจีอาหัวเราะพลางตบบ่าโดจุนฮยอก

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (4/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด