ตอนที่ 13-45 มณฑลฟ้าคราม
ซีซาร์ที่อยู่ใกล้ๆ กรอกเหล้าเข้าปากในอึกเดียวจากนั้นกล่าว “ไปแดนนรกน่ะหรือ? แอดกินส์และเทพของเขาตายหมดแล้ว ขณะที่ลอร์ดเบรุตอนุญาตให้เฉพาะลอร์ดบลูไฟร์เข้าสุสานเทพเจ้าเท่านั้น อย่างนั้นข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วยดีกว่า”
เทพสงครามและมหาพรตไม่มีพูดอะไรกันต่อไป แต่ทุกคนรู้ว่าเทพสงครามจะติดตามทารอส
“ลินลี่ย์, แล้วเจ้าล่ะ จะเอายังไง?” ซีซาร์มองดูลินลี่ย์ “มากับเราเถอะ ในทวีปยูลานไม่มีอะไรน่าสนใจเหลืออยู่แล้ว”
“ข้าน่ะหรือ?” ลินลี่ย์ชำเลืองมองเดเลียที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นหัวเราะให้ซีซาร์ “ข้ายังไม่เร่งรีบ พวกท่านทุกคนฝึกฝนกันมาหลายพันปีแล้ว ขณะที่ข้าฝึกมายังไม่ถึงร้อยปีเลยนอกจากนี้บีบียังอยู่ในไพรทมิฬอีกด้วย”
“น่าเสียดาย” ซีซาร์ถอนหายใจ
ทารอส ไดลินเทพสงครามและซีซาร์เริ่มคุยกันเองเกี่ยวกับกิจกรรมของแดนนรก
เมื่อเห็นพวกเขาลินลี่ย์ต้องยอมรับว่าในใจของเขาอิจฉาพวกเขา
“แดนนรก....”
ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความคิดต่างๆ เกี่ยวกับแดนนรก
คืนนี้วันที่สามหลังจากจัดงานเลี้ยง ทารอสและคนอื่นๆจะไปจากทวีปยูลาน คนกลุ่มมากมาชุมนุมที่ปราสาทเลือดมังกรเฟนกับดิ๊กซี่รวมอยู่ในกลุ่มนั้น ทุกคนมาส่งอาจารย์ของตนเอง
“ไดลิน, เจ้าจะพาลูกทั้งสองไปกับเจ้าด้วยไหม?” ซีซาร์หัวเราะขณะกล่าว
ไดลินพยักหน้าเหมือนกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ “แน่นอน!” ลูกทั้งสองของไดลินราชสีห์ทองหกตา ก่อนจะเข้าสุสานของเทพเจ้า ไดลินได้ขอประกายศักดิ์สิทธิ์ชิ้นหนึ่งให้ลูกชายของเขา หลังจากนั้นเมื่อไดลินออกจากสุสานเทพเจ้าเขากลายเป็นเทพแท้
เมื่อเทพแห่งพิภพจองจำเกบาโดสเข้ามาในทวีป ไดลินได้ฆ่าเทียมเทพตนหนึ่งและชิงเอาประกายศักดิ์สิทธิ์มาให้บุตรอีกคนหนึ่ง
“อาจารย์” ดิ๊กซี่และศิษย์คนอื่นค่อนข้างไม่เต็มใจจะแยกจากมหาพรต แคทเธอรีน
“จงฝึกฝนให้ดี” มหาพรตพูดอย่างอ่อนโยน “เจ้าเองก็เป็นเซียนแล้วในตอนนี้ เมื่อเจ้าเข้าถึงระดับเทพ ถ้าเจ้าไม่ต้องการจะอยู่ในทวีปยูลานต่อไป ก็จงไปพิภพชั้นสูงนั่นคือสถานที่ซึ่งเทพที่แท้จริงควรจะอยู่”
“อาจารย์, ท่านจะไปที่ไหน?” ดิ๊กซี่รีบถาม
“ข้า...ข้าไปในที่แตกต่างจากพวกเขา ข้าตั้งใจจะไปพิภพแห่งชีวิต” มหาพรตตอบอย่างสงบ
“ดีล่ะทุกคน ออกเดินทางกันเถอะ” ทารอสมองดูรอบๆแล้วกล่าว
และจากนั้นในท่ามกลางสายตาของลินลี่ย์และคนอื่นๆ ยอดฝีมือกลุ่มนี้ก็บินออกจากปราสาทเลือดมังกรด้วยความเร็วสูงมุ่งหน้าสู่ดินแดนน้ำแข็งขั้วโลกและหายลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว
“ซีซาร์และไดลินก็จากไปด้วย” ลินลี่ย์กล่าวเบาๆ เดเลียมองดูอยู่ข้างเขา
ข่าวว่าบลูไฟร์กำลังจะเข้าสุสานเทพเจ้าด้วยตัวเองแพร่สะพัดไปทั่วทวีปยูลานอย่างรวดเร็วการแพร่ข่าวผ่านลินลี่ย์เป็นความตั้งใจของเบรุต นอกจากนี้ แอดกินส์และสี่เทพของเขาตายกันหมดนี่จึงมีผลกระทบใหญ่ต่อเหล่าเทพของทวีปยูลาน
นอกจากเทพสองสามตนแล้ว เทพส่วนใหญ่ทั้งหมดเลือกจะปล่อยวางเรื่องสุสานเทพเจ้าและมุ่งหน้าสู่ดินแดนพิภพชั้นสูง
ผ่านไปสิบหกปีหลังจากแอดกินส์ตาย ในที่สุดวอร์ตันก็หลอมรวมกับประกายเทียมเทพของเขาได้สำเร็จ ตอนนี้เขาเป็นเทพด้วยเช่นกัน สำหรับเดเลีย สิบเก้าปีต่อมาหลังแอดกินส์ตาย ในที่สุดนางก็หลอมรวมกับประกายเทพแท้ธาตุลมได้สำเร็จกลายเป็นเทพแท้
ศักราชยูลานที่ 10092 ปลายฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เหลืองค่อยๆร่วงลง
“ครืนน...” ทั่วทั้งโลกดูเหมือนจะสั่นสะเทือนแผ่วเบา และระลอกเฉพาะไม่เหมือนใครแผ่กระจายออกไป ลินลี่ย์คุ้นเคยมากกับความรู้สึกถึงระลอกเช่นนี้
ลินลี่ย์กำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ เขาหันไปมองทางทิศเหนือ เขาขมวดคิ้วและกล่าว “ฮึ่ม?มีอีกคนที่กลายเป็นเทพด้วยพลังตนเองหรือ?”ระลอกคลื่นนั้นสร้างโดยพลังกฎธรรมชาติ เพียงแต่เมื่อบุคคลกลายเป็นเทพด้วยตนเอง กฎธรรมชาติจักรวาลจะชะลอตัวลงมา
“ลินลี่ย์, มาหาข้าที่บ้าน” เสียงของเบรุตดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
ลินลี่ย์งุนงง แต่เขาบินออกจากปราสาทเลือดมังกรทันทีมุ่งหน้าสู่ไพรทมิฬ
ขณะที่ลินลี่ย์เข้าไปในโลหะปราสาทเขาได้ยินเสียงใครคนหนึ่งดังขึ้น “พี่ใหญ่!” เสียงบีบีดังมาก ลินลี่ย์เงยหน้าดูและอดตกใจไม่ได้ “บีบี, เจ้า..” เขาพบด้วยความทึ่งว่า เขาไม่สามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายของบีบีแม้แต่น้อย
เมื่อคิดถึงกฎธรรมชาติที่ชะลอลงมาและระลอกคลื่นที่เพิ่งเกิดขึ้น ลินลี่ย์เข้าใจได้ทันที “บีบี,เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพราะเจ้าใช่ไหม?”
“ถูกแล้ว” บีบีกล่าวอย่างซาบซึ้ง “พี่ใหญ่ข้าใช้เวลาตั้งยี่สิบปีในที่สุดก็เชี่ยวชาญเคล็ดความรู้ลึกลับของแก่นธาตุมืดได้ ข้าเชี่ยวชาญแก่นความรู้ลึกลับสองรูปแบบดังนั้นข้าจึงกลายเป็นเทพแท้”
“โอว, นั่นน่าประทับใจมาก” ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ
ในบรรดาเทพกฎธรรมชาติธาตุลมมีเคล็ดความรู้ลึกลับเก้าอย่างและผู้ฝึกจะต้องเชี่ยวชาญถึงสามเคล็ดก่อนจึงจะเป็นเทพแท้ได้ หรือบางทีโดยการเชี่ยวชาญผ่านการหลอมรวมสองเคล็ดเข้าด้วยกันผู้นั้นก็อาจกลายเป็นเทพแท้ได้ ธาตุดิน ไฟน้ำ และธาตุมืดมีเคล็ดความลึกลับอยู่เพียงหก ถ้าผู้ฝึกเชี่ยวชาญเพียงสองเคล็ด เขาจะกลายเป็นเทพแท้
“ลินลี่ย์! เข้ามา” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากห้องนั่งเล่น
ลินลี่ย์กับบีบีเข้าไปในห้องนั่งเล่นพร้อมกันเบรุตกำลังนั่งลูบเคราหัวเราะมองดูบีบี “ข้าให้ประโยชน์กับเจ้ามากมายและเงื่อนไขที่ดีเลิศ และเจ้ายังทำได้เพียงเรียนรู้พื้นฐานแก่นธาตุมืดทั้งหมดเท่านั้นแต่เจ้ายังต้องใช้เวลาตั้งยี่สิบปี ถ้าข้าทำเงื่อนไขเดียวกันกับลินลี่ย์แล้ว มีแนวโน้มว่าใช้เวลาปีเดียวก็คงเพียงพอ เจ้ายังจะภูมิใจได้อยู่หรือ?”
“เขาเป็นพี่ใหญ่ของข้า แน่นอนพี่ใหญ่ก็ต้องทรงพลังมากกว่าข้า” บีบีไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย
เบรุตได้แต่ส่ายหัวและหัวเราะ จากนั้นมองดูลินลี่ย์ “ลินลี่ย์ นั่งลงก่อน” ลินลี่ย์นั่งลงข้างๆ ตามคำสั่ง
เบรุตระบายลมหายใจ “ลินลี่ย์, กระบวนการฝึกของเจ้าเป็นยังไงบ้าง? เมื่อไหร่เจ้าจะกลายเป็นเทพแท้?”
“ข้ายังไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ข้าอยู่ในระหว่างแนวคิดที่ว่าการหลอมรวมเคล็ดลึกลับสองเคล็ด ‘การเต้นชีพจรโลก’ และ ‘แก่นธาตุดิน’มีแนวโน้มว่าอีกไม่กี่สิบปีข้าน่าจะหลอมรวมเคล็ดลึกลับเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกันได้” ลินลี่ย์ไม่พยายามปิดบังอะไร
เบรุตอดถอนหายใจชมเชยไม่ได้ “รู้แจ้งขณะหลอมรวมน่ะหรือ? เจ้ามีปัญญาฉลาดทีเดียวไม่สุ่มสี่สุ่มห้าเร่งร้อนฝึกฝน”
“ข้ากำลังทำตามที่ท่านลีย์ลินแนะนำไว้” ลินลี่ย์กล่าว
“ดีแล้ว” เบรุตระบายลมหายใจยาว “ถึงเวลาที่ข้าควรบอกเรื่องราวให้เจ้าสักสองสามเรื่อง ลินลี่ย์, ในอดีต เจ้าสงสัยไหมว่าทำไมสี่ตระกูลสุดยอดนักรบถึงได้จู่ๆก็หายไปกะทันหัน?”
ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
“คำตอบก็ง่ายๆ สี่ตระกูลสุดยอดนักรบถูกยอดฝีมือของแดนนรกเอาตัวไปในแดนนรก” เบรุตพูดพลางหัวเราะ “จะพูดให้ถูกก็คือสี่ตระกูลสุดยอดนักรบของพวกเจ้าควรจะเป็นสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนนรกมากกว่า”
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน เขาพูดด้วยความประหลาดใจ “สี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์?”
“สี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็คือยอดโดมของสี่ตระกูลสุดยอดนักรบของเจ้านั่นเอง!” เบรุตถอนหายใจ “ศิษย์ทุกคน ถ้าพวกเขาต้องการได้รับการชำระและเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องกลับไปที่สี่ตระกูลสุดยอดอสูรศักดิ์สิทธิ์เพื่อดำเนินการพิธีชุบตัว”
“ชำระและเปลี่ยนแปลง? พิธีชุบตัว?” ตอนนี้ลินลี่ย์ยิ่งงงมากกว่าเดิม
เบรุตพยักหน้า “ลินลี่ย์ ! เจ้าไม่ได้เห็นหรอกหรือว่าพวกเจ้าลูกหลานของสี่ตระกูลนักรบสุดยอดมีระดับความเข้าใจกฎธรรมชาติที่ต่ำมาก? ตัวอย่างเช่นบรรพบุรุษของเจ้าแทบจะไม่เข้าใจหรือรู้สึกถึงกฎธรรมชาติเลย เมื่อพวกเขาได้รับการรู้แจ้งบางอย่าง พวกเขาจะมีความก้าวหน้าที่ช้ามาก”
ลินลี่ย์รีบพยักหน้า
วอร์ตันน้องชายของเขาเองก็มีระดับการรู้แจ้งที่ต่ำ
“อัตราการปรับตัวให้เข้ากับกฎธรรมชาติต่ำมากจนดูด้อยกว่ามนุษย์ที่ทรงพลังหลายคนแล้วเป็นไปได้ยังไงที่คนในตระกูลของเจ้าถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์? เหตุผลที่การฝึกฝนทำได้ช้าเพราะคนเหล่านี้ไม่เคยผ่านพิธีชุบตัวเลย” เบรุตถอนหายใจ “พิธีชุบตัวของสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์ลึกลับมาก เมื่อข้าคิดดูแล้วก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่าย พิธีชุบตัวของสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นพิธีที่มีชื่อเสียงในแดนนรกมาก”
เบรุตชำเลืองมองลินลี่ย์ ขณะที่เบรุตมองดู...
ลินลี่ย์มีระดับการฝึกฝนที่รวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจอยู่แล้ว เมื่อเขาผ่านพิธีการชุบตัว อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่น่ากลัว!
“ลินลี่ย์,เจ้าต้องการกลับไปยังสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์เพื่อพบบรรพบุรุษของเจ้าบ้างไหม?” แววอารมณ์ดีปรากฏอยู่ในสายตาของเบรุต
ลินลี่ย์ลังเลใจ ไม่รู้จะพูดยังไงดี
ที่สำคัญถ้าเขาต้องไปจากแผ่นดินยูลาน จะเป็นเรื่องยากกว่าเขาจะกลับมา นอกจากนี้ลินลี่ย์ต้องการให้เกียรติกับความคิดเห็นของเดเลีย
“เป็นลูกผู้ชายไม่ควรจะลังเลเกินไป” เบรุตดุ “ยิ่งกว่านั้น, นี่เป็นทวีปยูลาน คนมีพรสวรรค์อย่างเจ้าจะอยู่ในโลกธาตุแห่งเดียวได้ยังไง? แดนนรกไร้ขอบเขตแดนเป็นที่ซึ่งยอดฝีมือชุมนุมกันอยู่ราวกับก้อนเมฆเป็นที่เหมาะสมกับเจ้าอย่างแท้จริง!”
ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน
“พี่ใหญ่, แดนนรกน่าสนใจจริงๆ นะ, อย่างเช่นปราสาทโลหะของปู่ข้าก็หาซื้อมาในแดนนรกนี่แหละ” บีบีรีบกล่าว บีบีอยากรู้อยากเห็นและกระตือรือร้นจะไปเยี่ยมดินแดนชั้นสูงอย่างแดนนรกเช่นเดียวกัน
“สี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ในมณฑลฟ้าครามของทวีปเขาโลหิตแห่งแดนนรก” เบรุตกล่าว “ไม่ว่าเจ้าจะไปหรือไม่ ก็ขึ้นกับตัวเจ้าเอง”
ลินลี่ย์คำนับทันที “ขอรับ, ลอร์ดเบรุต”
“บีบี, ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์มองดูบีบี
“โอว ได้เลย” บีบีพยักหน้า
เมื่อเห็นสีหน้าของบีบี ลินลี่ย์ลอบระบายลมหายใจ บีบีเติบโตมาพร้อมกับเขา ทั้งสองมีสายเลือดเหมือนกันและชอบท้าทายเสี่ยงอันตราย ลินลี่ย์รู้ว่าบีบีลึกๆแล้วปรารถนาจะไปแดนนรก แต่ถ้าลินลี่ย์ไปแดนนรก เขาจะต้องโน้มน้าวเดเลีย!
ภายในปราสาทเลือดมังกร
เดเลียมองลินลี่ย์ที่อยู่ใกล้ๆ นางรู้ว่าลินลี่ย์กำลังคิดอะไร โดยเฉพาะในช่วงสามวันที่ผ่านมามักจะแสดงแรงปรารถนาและความสับสนใจสายตาของเขาเป็นครั้งคราว
“ลินลี่ย์” เดเลียกัดฟันนางทันทีและตัดสินใจ
“หือ?” ลินลี่ย์ชำเลืองมองเดเลียที่อยู่ข้างๆ อย่างงุนงง
เดเลียมองดูเขาและจงใจถอนหายใจยาว “ลินลี่ย์,เจ้ามีความรู้สึกว่าชีวิตในทวีปยูลานไม่ตื่นเต้นอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”
“ก็ถูกหรอกนะ” ตาของลินลี่ย์เป็นประกายทันที “เดเลีย, ข้ามีความรู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน เจ้าคิดว่าเราควรจะ...” พูดไปได้ครึ่งเดียว ลินลี่ย์ก็ชะงัก เขาเห็นแววขำขันปรากฏอยู่ในใบหน้าของเดเลีย “เดเลีย, ขอบคุณ”
ลินลี่ย์เข้าใจแล้วว่าเดเลียหมายความว่ายังไง
เดเลียกำลังจะอนุมัติตามที่เขาต้องการ!
“ความจริงข้าพอใจมากแล้วในช่วงชีวิตที่สงบสุขที่เรามีในยี่สิบปีที่ผ่านมา” เดเลียพูดอ่อนโยน
เดเลีพูดพลางถอนใจ “ลินลี่ย์! ลินลี่ย์ที่ข้ารู้จักเป็นคนที่ดิ้นพยายามและเติมเต็มความปรารถนาในใจอยู่เสมอ ข้าชอบส่วนดีนี้ของเจ้า ในทวีปยูลานที่ไม่มีอะไรให้เจ้าท้าทายแล้วพลังใจของเจ้าพลังใจของเจ้ากำลังตกลงช้าๆ จนแทบจะเรี่ยพื้นอยู่แล้ว นอกจากนี้ลึกๆ ในใจข้า ข้ายังต้องการมีชีวิตที่ตื่นเต้นบ้างเหมือนกัน”
“และอีกอย่าง ข้ากลายเป็นเทพแท้แล้ว” เดเลียมองลินลี่ย์ “อย่างน้อยที่สุดข้าก็มีความสามารถในการหนีที่ยอดเยี่ยม ข้าจะไม่กลายเป็นภาระถ่วงเจ้าแน่นอน!”
ลินลี่ย์หัวเราะขณะรั้งตัวเดเลียเข้ามาไว้ในอ้อมกอด “เดเลีย, อย่างนั้นเราไปเที่ยวแดนนรกด้วยกัน”
“เที่ยวแดนนรกด้วยกัน!” เดเลียพูดอ่อนโยน
“แล้วข้าเล่า! ข้าไปด้วยๆ!” บีบีรีบตะโกนเสียงดังทันที “ข้าจะไปแดนนรกด้วย, ข้าไปด้วย!!!”
ลินลี่ย์และเดเลียมองหน้ากัน จากนั้นหัวเราะทั้งคู่
สามวันต่อมา เช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง อากาศหนาวจนเยือกแข็ง ผู้คนหลายคนของปราสาทเลือดมังการมารวมตัวกันในสนามฝึกฝน พวกเขามาส่งลินลี่ย์ เดเลีย และบีบี
ลินลี่ย์มองดูผู้คนที่อยู่ต่อหน้าเขา พวกเขารวมทั้งลุงฮิลแมนผู้คอยแนะนำเขามาตั้งแต่เด็กเป็นเหมือนสมาชิกครอบครัวของเขา ขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ เช่นวอร์ตัน เทย์เลอร์ ชาชาอาโนลด์.. ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ที่ต่อสู้เคียงข้างเขามาตลอด ซาสเลอร์ เจนน์รีเบ็คกาและลีนา รวมทั้งแฮรุอสูรเวทของเขา และเดลีสหายของเขาด้วย
ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่
“พี่ใหญ่!” วอร์ตันมีแววตาไม่อยากจะพรากจากเขา
“วอร์ตัน, ข้าฝากทุกอย่างที่นี่ไว้กับเจ้าด้วย” ลินลี่ย์ตบไหล่วอร์ตัน “ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถทำได้ ถ้าเจ้าเผชิญปัญหาใดเจ้าสามารถเข้าไพรทมิฬ ขอความช่วยเหลือจากลอร์ดเบรุต เขาจะช่วยเจ้าได้”
“ข้าทราบ” วอร์ตันรีบพยักหน้า
ลินลี่ย์ยังมอบประกายเทียมเทพสายธาตุดินกับวอร์ตัน เผื่อในอนาคตให้วอร์ตันตัดสินใจเอาเองว่าจะมอบประกายศักดิ์สิทธิ์ให้ใคร ขณะเดียวกันลินลี่ย์มอบประกายเทพแท้สายธาตุดินกับบาร์เกอร์ที่ตอนนี้กลายเป็นเทียมเทพสายธาตุดิน หลังจากฮันบริทตาย ลินลี่ย์เก็บประกายเทพแท้ธาตุลมไว้และเขามอบให้แฮรุ
“นายท่าน” แฮรุมองดูลินลี่ย์ด้วยความปรารถนา เขามีแต่จิตที่สำนึกบุญคุณของลินลี่ย์
เป็นลินลี่ย์ที่ช่วยให้เขาได้กลายเป็นเทียมเทพ และตอนนี้ลินลี่ย์มอบประกายเทพแท้สายธาตุลมให้เขาอีก
“ท่านพ่อ!”เทเลอร์และชาชาทั้งคู่มองดูลินลี่ย์เช่นกัน
ลินลี่ย์ลูบศีรษะบุตรและธิดาของเขาด้วยความรัก
“ฮ่าฮ่า บางทีอีกปีเดียวข้างหน้า พ่อก็คงกลับมาแล้ว” ลินลี่ย์ฝืนยิ้ม จากนั้นหันหน้าจากไป“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์เดเลียและบีบีบินออกไปและหายลับฟ้าไปในขอบฟ้าด้านเหนือ
วอร์ตัน แฮรุ บาร์เกอร์และคนอื่นไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้
กับการเดินทางออกจากทวีปยูลานของลินลี่ย์ในคราวนี้จะต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าเขาจะสามารถกลับมาได้?
“พี่ใหญ่!” วอร์ตันรู้สึกสำนึกบุญคุณของพี่ใหญ่จากก้นบึ้งหัวใจ เป็นลินลี่ย์ที่ได้ยกระดับตระกูลนักรบเลือดมังกรขึ้นมาสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่งและตอนที่จะจากไปนี้ ลินลี่ย์ยังจะช่วยให้วอร์ตัน แฮรุและบาร์เกอร์กลายเป็นเทพแท้และขอให้เบรุตช่วยดูแลคุ้มครองพวกเขาเช่นกัน รากฐานตระกูลบาลุคจึงมั่นคงไม่หวั่นไหว
ปีศักราชยูลานที่ 10092 ลินลี่ย์พาเดเลียภรรยาของเขาและบีบีออกเดินทางจากทวีปยูลาน พวกเขามุ่งหน้าสู่พิภพชั้นสูงแดนนรกต่อไป