ตอนที่แล้วตอนที่ 13-44 เพียงคนเดียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14-1 ผาคันฉ่องจันทรา

ตอนที่ 13-45 มณฑลฟ้าคราม


ซีซาร์ที่อยู่ใกล้ๆ กรอกเหล้าเข้าปากในอึกเดียวจากนั้นกล่าว  “ไปแดนนรกน่ะหรือ?  แอดกินส์และเทพของเขาตายหมดแล้ว ขณะที่ลอร์ดเบรุตอนุญาตให้เฉพาะลอร์ดบลูไฟร์เข้าสุสานเทพเจ้าเท่านั้น  อย่างนั้นข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วยดีกว่า”

เทพสงครามและมหาพรตไม่มีพูดอะไรกันต่อไป  แต่ทุกคนรู้ว่าเทพสงครามจะติดตามทารอส

“ลินลี่ย์, แล้วเจ้าล่ะ จะเอายังไง?”  ซีซาร์มองดูลินลี่ย์  “มากับเราเถอะ ในทวีปยูลานไม่มีอะไรน่าสนใจเหลืออยู่แล้ว”

“ข้าน่ะหรือ?” ลินลี่ย์ชำเลืองมองเดเลียที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นหัวเราะให้ซีซาร์ “ข้ายังไม่เร่งรีบ  พวกท่านทุกคนฝึกฝนกันมาหลายพันปีแล้ว  ขณะที่ข้าฝึกมายังไม่ถึงร้อยปีเลยนอกจากนี้บีบียังอยู่ในไพรทมิฬอีกด้วย”

“น่าเสียดาย” ซีซาร์ถอนหายใจ

ทารอส ไดลินเทพสงครามและซีซาร์เริ่มคุยกันเองเกี่ยวกับกิจกรรมของแดนนรก

เมื่อเห็นพวกเขาลินลี่ย์ต้องยอมรับว่าในใจของเขาอิจฉาพวกเขา

“แดนนรก....”

ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความคิดต่างๆ เกี่ยวกับแดนนรก

คืนนี้วันที่สามหลังจากจัดงานเลี้ยง ทารอสและคนอื่นๆจะไปจากทวีปยูลาน คนกลุ่มมากมาชุมนุมที่ปราสาทเลือดมังกรเฟนกับดิ๊กซี่รวมอยู่ในกลุ่มนั้น ทุกคนมาส่งอาจารย์ของตนเอง

“ไดลิน, เจ้าจะพาลูกทั้งสองไปกับเจ้าด้วยไหม?”  ซีซาร์หัวเราะขณะกล่าว

ไดลินพยักหน้าเหมือนกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ  “แน่นอน!”  ลูกทั้งสองของไดลินราชสีห์ทองหกตา  ก่อนจะเข้าสุสานของเทพเจ้า  ไดลินได้ขอประกายศักดิ์สิทธิ์ชิ้นหนึ่งให้ลูกชายของเขา  หลังจากนั้นเมื่อไดลินออกจากสุสานเทพเจ้าเขากลายเป็นเทพแท้

เมื่อเทพแห่งพิภพจองจำเกบาโดสเข้ามาในทวีป  ไดลินได้ฆ่าเทียมเทพตนหนึ่งและชิงเอาประกายศักดิ์สิทธิ์มาให้บุตรอีกคนหนึ่ง

“อาจารย์” ดิ๊กซี่และศิษย์คนอื่นค่อนข้างไม่เต็มใจจะแยกจากมหาพรต แคทเธอรีน

“จงฝึกฝนให้ดี” มหาพรตพูดอย่างอ่อนโยน  “เจ้าเองก็เป็นเซียนแล้วในตอนนี้  เมื่อเจ้าเข้าถึงระดับเทพ  ถ้าเจ้าไม่ต้องการจะอยู่ในทวีปยูลานต่อไป  ก็จงไปพิภพชั้นสูงนั่นคือสถานที่ซึ่งเทพที่แท้จริงควรจะอยู่”

“อาจารย์, ท่านจะไปที่ไหน?”  ดิ๊กซี่รีบถาม

“ข้า...ข้าไปในที่แตกต่างจากพวกเขา  ข้าตั้งใจจะไปพิภพแห่งชีวิต”  มหาพรตตอบอย่างสงบ

“ดีล่ะทุกคน ออกเดินทางกันเถอะ”  ทารอสมองดูรอบๆแล้วกล่าว

และจากนั้นในท่ามกลางสายตาของลินลี่ย์และคนอื่นๆ ยอดฝีมือกลุ่มนี้ก็บินออกจากปราสาทเลือดมังกรด้วยความเร็วสูงมุ่งหน้าสู่ดินแดนน้ำแข็งขั้วโลกและหายลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว

“ซีซาร์และไดลินก็จากไปด้วย”  ลินลี่ย์กล่าวเบาๆ  เดเลียมองดูอยู่ข้างเขา

ข่าวว่าบลูไฟร์กำลังจะเข้าสุสานเทพเจ้าด้วยตัวเองแพร่สะพัดไปทั่วทวีปยูลานอย่างรวดเร็วการแพร่ข่าวผ่านลินลี่ย์เป็นความตั้งใจของเบรุต นอกจากนี้ แอดกินส์และสี่เทพของเขาตายกันหมดนี่จึงมีผลกระทบใหญ่ต่อเหล่าเทพของทวีปยูลาน

นอกจากเทพสองสามตนแล้ว เทพส่วนใหญ่ทั้งหมดเลือกจะปล่อยวางเรื่องสุสานเทพเจ้าและมุ่งหน้าสู่ดินแดนพิภพชั้นสูง

ผ่านไปสิบหกปีหลังจากแอดกินส์ตาย ในที่สุดวอร์ตันก็หลอมรวมกับประกายเทียมเทพของเขาได้สำเร็จ  ตอนนี้เขาเป็นเทพด้วยเช่นกัน  สำหรับเดเลีย สิบเก้าปีต่อมาหลังแอดกินส์ตาย  ในที่สุดนางก็หลอมรวมกับประกายเทพแท้ธาตุลมได้สำเร็จกลายเป็นเทพแท้

ศักราชยูลานที่ 10092 ปลายฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เหลืองค่อยๆร่วงลง

“ครืนน...” ทั่วทั้งโลกดูเหมือนจะสั่นสะเทือนแผ่วเบา  และระลอกเฉพาะไม่เหมือนใครแผ่กระจายออกไป ลินลี่ย์คุ้นเคยมากกับความรู้สึกถึงระลอกเช่นนี้

ลินลี่ย์กำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ เขาหันไปมองทางทิศเหนือ  เขาขมวดคิ้วและกล่าว “ฮึ่ม?มีอีกคนที่กลายเป็นเทพด้วยพลังตนเองหรือ?”ระลอกคลื่นนั้นสร้างโดยพลังกฎธรรมชาติ เพียงแต่เมื่อบุคคลกลายเป็นเทพด้วยตนเอง กฎธรรมชาติจักรวาลจะชะลอตัวลงมา

“ลินลี่ย์, มาหาข้าที่บ้าน”  เสียงของเบรุตดังขึ้นในใจของลินลี่ย์

ลินลี่ย์งุนงง แต่เขาบินออกจากปราสาทเลือดมังกรทันทีมุ่งหน้าสู่ไพรทมิฬ

ขณะที่ลินลี่ย์เข้าไปในโลหะปราสาทเขาได้ยินเสียงใครคนหนึ่งดังขึ้น  “พี่ใหญ่!”  เสียงบีบีดังมาก  ลินลี่ย์เงยหน้าดูและอดตกใจไม่ได้  “บีบี, เจ้า..”  เขาพบด้วยความทึ่งว่า เขาไม่สามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายของบีบีแม้แต่น้อย

เมื่อคิดถึงกฎธรรมชาติที่ชะลอลงมาและระลอกคลื่นที่เพิ่งเกิดขึ้น  ลินลี่ย์เข้าใจได้ทันที “บีบี,เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพราะเจ้าใช่ไหม?”

“ถูกแล้ว” บีบีกล่าวอย่างซาบซึ้ง  “พี่ใหญ่ข้าใช้เวลาตั้งยี่สิบปีในที่สุดก็เชี่ยวชาญเคล็ดความรู้ลึกลับของแก่นธาตุมืดได้  ข้าเชี่ยวชาญแก่นความรู้ลึกลับสองรูปแบบดังนั้นข้าจึงกลายเป็นเทพแท้”

“โอว, นั่นน่าประทับใจมาก” ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ

ในบรรดาเทพกฎธรรมชาติธาตุลมมีเคล็ดความรู้ลึกลับเก้าอย่างและผู้ฝึกจะต้องเชี่ยวชาญถึงสามเคล็ดก่อนจึงจะเป็นเทพแท้ได้  หรือบางทีโดยการเชี่ยวชาญผ่านการหลอมรวมสองเคล็ดเข้าด้วยกันผู้นั้นก็อาจกลายเป็นเทพแท้ได้  ธาตุดิน ไฟน้ำ และธาตุมืดมีเคล็ดความลึกลับอยู่เพียงหก ถ้าผู้ฝึกเชี่ยวชาญเพียงสองเคล็ด เขาจะกลายเป็นเทพแท้

“ลินลี่ย์!  เข้ามา” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากห้องนั่งเล่น

ลินลี่ย์กับบีบีเข้าไปในห้องนั่งเล่นพร้อมกันเบรุตกำลังนั่งลูบเคราหัวเราะมองดูบีบี “ข้าให้ประโยชน์กับเจ้ามากมายและเงื่อนไขที่ดีเลิศ และเจ้ายังทำได้เพียงเรียนรู้พื้นฐานแก่นธาตุมืดทั้งหมดเท่านั้นแต่เจ้ายังต้องใช้เวลาตั้งยี่สิบปี ถ้าข้าทำเงื่อนไขเดียวกันกับลินลี่ย์แล้ว มีแนวโน้มว่าใช้เวลาปีเดียวก็คงเพียงพอ เจ้ายังจะภูมิใจได้อยู่หรือ?”

“เขาเป็นพี่ใหญ่ของข้า แน่นอนพี่ใหญ่ก็ต้องทรงพลังมากกว่าข้า” บีบีไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

เบรุตได้แต่ส่ายหัวและหัวเราะ  จากนั้นมองดูลินลี่ย์  “ลินลี่ย์ นั่งลงก่อน”  ลินลี่ย์นั่งลงข้างๆ ตามคำสั่ง

เบรุตระบายลมหายใจ “ลินลี่ย์, กระบวนการฝึกของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?  เมื่อไหร่เจ้าจะกลายเป็นเทพแท้?”

“ข้ายังไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ข้าอยู่ในระหว่างแนวคิดที่ว่าการหลอมรวมเคล็ดลึกลับสองเคล็ด ‘การเต้นชีพจรโลก’ และ ‘แก่นธาตุดิน’มีแนวโน้มว่าอีกไม่กี่สิบปีข้าน่าจะหลอมรวมเคล็ดลึกลับเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกันได้”  ลินลี่ย์ไม่พยายามปิดบังอะไร

เบรุตอดถอนหายใจชมเชยไม่ได้  “รู้แจ้งขณะหลอมรวมน่ะหรือ?  เจ้ามีปัญญาฉลาดทีเดียวไม่สุ่มสี่สุ่มห้าเร่งร้อนฝึกฝน”

“ข้ากำลังทำตามที่ท่านลีย์ลินแนะนำไว้”  ลินลี่ย์กล่าว

“ดีแล้ว” เบรุตระบายลมหายใจยาว “ถึงเวลาที่ข้าควรบอกเรื่องราวให้เจ้าสักสองสามเรื่อง  ลินลี่ย์, ในอดีต  เจ้าสงสัยไหมว่าทำไมสี่ตระกูลสุดยอดนักรบถึงได้จู่ๆก็หายไปกะทันหัน?”

ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย

“คำตอบก็ง่ายๆ สี่ตระกูลสุดยอดนักรบถูกยอดฝีมือของแดนนรกเอาตัวไปในแดนนรก”  เบรุตพูดพลางหัวเราะ  “จะพูดให้ถูกก็คือสี่ตระกูลสุดยอดนักรบของพวกเจ้าควรจะเป็นสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนนรกมากกว่า”

ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน เขาพูดด้วยความประหลาดใจ “สี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์?”

“สี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็คือยอดโดมของสี่ตระกูลสุดยอดนักรบของเจ้านั่นเอง!”  เบรุตถอนหายใจ  “ศิษย์ทุกคน ถ้าพวกเขาต้องการได้รับการชำระและเปลี่ยนแปลง  จำเป็นต้องกลับไปที่สี่ตระกูลสุดยอดอสูรศักดิ์สิทธิ์เพื่อดำเนินการพิธีชุบตัว”

“ชำระและเปลี่ยนแปลง?  พิธีชุบตัว?” ตอนนี้ลินลี่ย์ยิ่งงงมากกว่าเดิม

เบรุตพยักหน้า  “ลินลี่ย์ !  เจ้าไม่ได้เห็นหรอกหรือว่าพวกเจ้าลูกหลานของสี่ตระกูลนักรบสุดยอดมีระดับความเข้าใจกฎธรรมชาติที่ต่ำมาก?  ตัวอย่างเช่นบรรพบุรุษของเจ้าแทบจะไม่เข้าใจหรือรู้สึกถึงกฎธรรมชาติเลย  เมื่อพวกเขาได้รับการรู้แจ้งบางอย่าง  พวกเขาจะมีความก้าวหน้าที่ช้ามาก”

ลินลี่ย์รีบพยักหน้า

วอร์ตันน้องชายของเขาเองก็มีระดับการรู้แจ้งที่ต่ำ

“อัตราการปรับตัวให้เข้ากับกฎธรรมชาติต่ำมากจนดูด้อยกว่ามนุษย์ที่ทรงพลังหลายคนแล้วเป็นไปได้ยังไงที่คนในตระกูลของเจ้าถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์? เหตุผลที่การฝึกฝนทำได้ช้าเพราะคนเหล่านี้ไม่เคยผ่านพิธีชุบตัวเลย”  เบรุตถอนหายใจ “พิธีชุบตัวของสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์ลึกลับมาก เมื่อข้าคิดดูแล้วก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่าย พิธีชุบตัวของสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นพิธีที่มีชื่อเสียงในแดนนรกมาก”

เบรุตชำเลืองมองลินลี่ย์ ขณะที่เบรุตมองดู...

ลินลี่ย์มีระดับการฝึกฝนที่รวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจอยู่แล้ว  เมื่อเขาผ่านพิธีการชุบตัว อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่น่ากลัว!

“ลินลี่ย์,เจ้าต้องการกลับไปยังสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์เพื่อพบบรรพบุรุษของเจ้าบ้างไหม?”  แววอารมณ์ดีปรากฏอยู่ในสายตาของเบรุต

ลินลี่ย์ลังเลใจ ไม่รู้จะพูดยังไงดี

ที่สำคัญถ้าเขาต้องไปจากแผ่นดินยูลาน  จะเป็นเรื่องยากกว่าเขาจะกลับมา นอกจากนี้ลินลี่ย์ต้องการให้เกียรติกับความคิดเห็นของเดเลีย

“เป็นลูกผู้ชายไม่ควรจะลังเลเกินไป”  เบรุตดุ “ยิ่งกว่านั้น, นี่เป็นทวีปยูลาน คนมีพรสวรรค์อย่างเจ้าจะอยู่ในโลกธาตุแห่งเดียวได้ยังไง?  แดนนรกไร้ขอบเขตแดนเป็นที่ซึ่งยอดฝีมือชุมนุมกันอยู่ราวกับก้อนเมฆเป็นที่เหมาะสมกับเจ้าอย่างแท้จริง!”

ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน

“พี่ใหญ่, แดนนรกน่าสนใจจริงๆ นะ,  อย่างเช่นปราสาทโลหะของปู่ข้าก็หาซื้อมาในแดนนรกนี่แหละ” บีบีรีบกล่าว บีบีอยากรู้อยากเห็นและกระตือรือร้นจะไปเยี่ยมดินแดนชั้นสูงอย่างแดนนรกเช่นเดียวกัน

“สี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ในมณฑลฟ้าครามของทวีปเขาโลหิตแห่งแดนนรก”  เบรุตกล่าว “ไม่ว่าเจ้าจะไปหรือไม่ ก็ขึ้นกับตัวเจ้าเอง”

ลินลี่ย์คำนับทันที “ขอรับ, ลอร์ดเบรุต”

“บีบี, ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์มองดูบีบี

“โอว ได้เลย” บีบีพยักหน้า

เมื่อเห็นสีหน้าของบีบี ลินลี่ย์ลอบระบายลมหายใจ บีบีเติบโตมาพร้อมกับเขา ทั้งสองมีสายเลือดเหมือนกันและชอบท้าทายเสี่ยงอันตราย  ลินลี่ย์รู้ว่าบีบีลึกๆแล้วปรารถนาจะไปแดนนรก แต่ถ้าลินลี่ย์ไปแดนนรก เขาจะต้องโน้มน้าวเดเลีย!

ภายในปราสาทเลือดมังกร

เดเลียมองลินลี่ย์ที่อยู่ใกล้ๆ  นางรู้ว่าลินลี่ย์กำลังคิดอะไร  โดยเฉพาะในช่วงสามวันที่ผ่านมามักจะแสดงแรงปรารถนาและความสับสนใจสายตาของเขาเป็นครั้งคราว

“ลินลี่ย์” เดเลียกัดฟันนางทันทีและตัดสินใจ

“หือ?” ลินลี่ย์ชำเลืองมองเดเลียที่อยู่ข้างๆ อย่างงุนงง

เดเลียมองดูเขาและจงใจถอนหายใจยาว  “ลินลี่ย์,เจ้ามีความรู้สึกว่าชีวิตในทวีปยูลานไม่ตื่นเต้นอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”

“ก็ถูกหรอกนะ” ตาของลินลี่ย์เป็นประกายทันที “เดเลีย, ข้ามีความรู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน เจ้าคิดว่าเราควรจะ...” พูดไปได้ครึ่งเดียว ลินลี่ย์ก็ชะงัก เขาเห็นแววขำขันปรากฏอยู่ในใบหน้าของเดเลีย  “เดเลีย, ขอบคุณ”

ลินลี่ย์เข้าใจแล้วว่าเดเลียหมายความว่ายังไง

เดเลียกำลังจะอนุมัติตามที่เขาต้องการ!

“ความจริงข้าพอใจมากแล้วในช่วงชีวิตที่สงบสุขที่เรามีในยี่สิบปีที่ผ่านมา”  เดเลียพูดอ่อนโยน

เดเลีพูดพลางถอนใจ “ลินลี่ย์! ลินลี่ย์ที่ข้ารู้จักเป็นคนที่ดิ้นพยายามและเติมเต็มความปรารถนาในใจอยู่เสมอ  ข้าชอบส่วนดีนี้ของเจ้า  ในทวีปยูลานที่ไม่มีอะไรให้เจ้าท้าทายแล้วพลังใจของเจ้าพลังใจของเจ้ากำลังตกลงช้าๆ จนแทบจะเรี่ยพื้นอยู่แล้ว นอกจากนี้ลึกๆ ในใจข้า ข้ายังต้องการมีชีวิตที่ตื่นเต้นบ้างเหมือนกัน”

“และอีกอย่าง  ข้ากลายเป็นเทพแท้แล้ว”  เดเลียมองลินลี่ย์  “อย่างน้อยที่สุดข้าก็มีความสามารถในการหนีที่ยอดเยี่ยม ข้าจะไม่กลายเป็นภาระถ่วงเจ้าแน่นอน!”

ลินลี่ย์หัวเราะขณะรั้งตัวเดเลียเข้ามาไว้ในอ้อมกอด  “เดเลีย, อย่างนั้นเราไปเที่ยวแดนนรกด้วยกัน”

“เที่ยวแดนนรกด้วยกัน!”  เดเลียพูดอ่อนโยน

“แล้วข้าเล่า!  ข้าไปด้วยๆ!”  บีบีรีบตะโกนเสียงดังทันที  “ข้าจะไปแดนนรกด้วย,  ข้าไปด้วย!!!”

ลินลี่ย์และเดเลียมองหน้ากัน จากนั้นหัวเราะทั้งคู่

สามวันต่อมา เช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง อากาศหนาวจนเยือกแข็ง ผู้คนหลายคนของปราสาทเลือดมังการมารวมตัวกันในสนามฝึกฝน  พวกเขามาส่งลินลี่ย์ เดเลีย และบีบี

ลินลี่ย์มองดูผู้คนที่อยู่ต่อหน้าเขา  พวกเขารวมทั้งลุงฮิลแมนผู้คอยแนะนำเขามาตั้งแต่เด็กเป็นเหมือนสมาชิกครอบครัวของเขา ขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ เช่นวอร์ตัน เทย์เลอร์ ชาชาอาโนลด์.. ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ที่ต่อสู้เคียงข้างเขามาตลอด ซาสเลอร์ เจนน์รีเบ็คกาและลีนา รวมทั้งแฮรุอสูรเวทของเขา และเดลีสหายของเขาด้วย

ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่

“พี่ใหญ่!”  วอร์ตันมีแววตาไม่อยากจะพรากจากเขา

“วอร์ตัน, ข้าฝากทุกอย่างที่นี่ไว้กับเจ้าด้วย”  ลินลี่ย์ตบไหล่วอร์ตัน  “ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถทำได้  ถ้าเจ้าเผชิญปัญหาใดเจ้าสามารถเข้าไพรทมิฬ ขอความช่วยเหลือจากลอร์ดเบรุต เขาจะช่วยเจ้าได้”

“ข้าทราบ” วอร์ตันรีบพยักหน้า

ลินลี่ย์ยังมอบประกายเทียมเทพสายธาตุดินกับวอร์ตัน  เผื่อในอนาคตให้วอร์ตันตัดสินใจเอาเองว่าจะมอบประกายศักดิ์สิทธิ์ให้ใคร  ขณะเดียวกันลินลี่ย์มอบประกายเทพแท้สายธาตุดินกับบาร์เกอร์ที่ตอนนี้กลายเป็นเทียมเทพสายธาตุดิน  หลังจากฮันบริทตาย ลินลี่ย์เก็บประกายเทพแท้ธาตุลมไว้และเขามอบให้แฮรุ

“นายท่าน” แฮรุมองดูลินลี่ย์ด้วยความปรารถนา  เขามีแต่จิตที่สำนึกบุญคุณของลินลี่ย์

เป็นลินลี่ย์ที่ช่วยให้เขาได้กลายเป็นเทียมเทพ  และตอนนี้ลินลี่ย์มอบประกายเทพแท้สายธาตุลมให้เขาอีก

“ท่านพ่อ!”เทเลอร์และชาชาทั้งคู่มองดูลินลี่ย์เช่นกัน

ลินลี่ย์ลูบศีรษะบุตรและธิดาของเขาด้วยความรัก

“ฮ่าฮ่า บางทีอีกปีเดียวข้างหน้า พ่อก็คงกลับมาแล้ว”  ลินลี่ย์ฝืนยิ้ม จากนั้นหันหน้าจากไป“ไปกันเถอะ”  ลินลี่ย์เดเลียและบีบีบินออกไปและหายลับฟ้าไปในขอบฟ้าด้านเหนือ

วอร์ตัน แฮรุ บาร์เกอร์และคนอื่นไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้

กับการเดินทางออกจากทวีปยูลานของลินลี่ย์ในคราวนี้จะต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าเขาจะสามารถกลับมาได้?

“พี่ใหญ่!” วอร์ตันรู้สึกสำนึกบุญคุณของพี่ใหญ่จากก้นบึ้งหัวใจ เป็นลินลี่ย์ที่ได้ยกระดับตระกูลนักรบเลือดมังกรขึ้นมาสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่งและตอนที่จะจากไปนี้ ลินลี่ย์ยังจะช่วยให้วอร์ตัน แฮรุและบาร์เกอร์กลายเป็นเทพแท้และขอให้เบรุตช่วยดูแลคุ้มครองพวกเขาเช่นกัน  รากฐานตระกูลบาลุคจึงมั่นคงไม่หวั่นไหว

ปีศักราชยูลานที่ 10092 ลินลี่ย์พาเดเลียภรรยาของเขาและบีบีออกเดินทางจากทวีปยูลาน  พวกเขามุ่งหน้าสู่พิภพชั้นสูงแดนนรกต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด