ตอนที่แล้วChapter 58 : กุญแจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 60 : นักรบศิลา

Chapter 59 : คืบหน้า


โจวเฉินไม่ได้ตอบกลับแต่เร่งฝีเท้าแทน

หลังจากนั้นซักพักเขาก็สังเกตเห็นหลุมกับดักใบมีดอยู่ห่างออกไปราวสิบเมตรทางด้านหน้า โดยที่เชื่อมทั้งสองฝั่งของหลุมดักเอาไว้ก็คือโซ่เหล็กที่ถูกพาดขึงเอาไว้

ค่าความคล่องตัวที่สูงล้ำของโจวเฉินมาพร้อมกับการรักษาสมดุลทางร่างกายที่สูงไม่ต่างกัน หลังจากใช้หอกเขี่ยๆทดสอบความแข็งแรงของโซ่เหล็กดูแล้วเขาก็ออกวิ่งทันที ชายหนุ่มร่างบางและชายร่างกำยำที่ตามหลังมาไม่ได้กล้าขนาดเขา

ชายหนุ่มร่างบางยืนขึ้นและพยายามลองดูแต่ชายร่างกำยำกลับยืนจ้องอยู่เฉยๆ บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้มีความคล่องตัวมากนักและไม่มั่นใจว่าจะข้ามหลุมนี้ไปได้ก็เป็นได้

โจวเฉินวิ่งมาจนถึงอีกฝากหนึ่งจากนั้นเขาก็เร่งความเร็วขึ้นไปอีกและหลบมุมหายตัวไปในพริบตา

ในที่สุดเขาก็สลัดพวกตัวประกอบหลุดเสียทีแต่ความรู้สึกดีนี้กลับอยู่ได้ไม่นานนักเพราะไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็พบเข้ากับเซอร์ไวเวอร์อีกสองคนที่มาถึงก่อนเขา

ทั้งสองนั้นเป็นผู้ชายทั้งคู่ หนึ่งก็คือชายวัยกลางคนตัวอ้วนและอีกคนก็คือชายหนุ่มรูปร่างผอมสูง

ทั้งสองคนนี้กำลังปะทะและก่นด่ากันอยู่

“ฉันเจอกล่องนี้ก่อนโว้ย! อย่าแม้แต่จะคิดเชียว!”

“แค่บอกว่าเจอก่อนก็ถือว่าเจอก่อนแล้วรึไง? เห็นๆกันอยู่ว่าฉันต่างหากที่เป็นคนเจอมันคนแรก!”

“ทำไมแกทำตัวไร้เหตุผลแบบนี้วะ? แกต้องทำตามกฎของภารกิจเซอร์ไววัลด้วยนะเว้ย!”

“กฎบ้านพ่องดิ! ถ้าแกยังพ่นห่าอะไรออกมาจากปากอีกฉันจะฆ่าแกตรงนี้แหละ!”

การประชันฝีปากของทั้งสองคนยิ่งมาก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้นแต่ไม่นานนักพวกเขาก็สังเกตเห็นโจวเฉินที่กำลังเดินเข้ามา พวกนั้นจึงรีบหันไปให้ความสนใจกับโจวเฉินเพื่อเผชิญหน้ากับคนนอกผู้นี้ด้วยกันในทันที

“อย่าเข้ามานะเว้ย! กล่องนี้เป็นของฉัน!”

“อยู่ให้ห่างๆไว้จะดีกว่า!”

โจวเฉินไม่ได้หยุดตามที่อีกฝ่ายบอกแต่อย่างใด เขาเดินเข้ามาใกล้คนทั้งคู่มากขึ้นเรื่อยๆและสายตาของเขาเมินเฉยต่อแววตาไม่เป็นมิตรของคนทั้งสองและจับจ้องไปที่หีบสมบัติที่อยู่ภายในห้องเล็กๆแห่งนี้แทน

ในห้องนี้ไม่มีไอเทมหรือมอนสเตอร์ตัวอื่นอยู่อีกมีเพียงหีบสมบัติไม้ที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เพียงใบเดียวเท่านั้น ดูแล้วล่อตาล่อใจไม่น้อยเลย

“บอกว่าอย่าเข้ามาก็ยังเข้ามา! ดูเหมือนจะอยากตายมากสินะ!?”

ชายหนุ่มร่างผอมสูงตะโกนออกมาอย่างกราดเกรี้ยวเมื่อเห็นโจวเฉินเดินตรงเข้าไปตรวจสอบหีบสมบัติโดยไม่สนใจพวกเขา เขาจึงใช้ท่อนเหล็กในมือฟาดเข้าใส่หัวของโจวเฉินอย่างแรง

สีหน้าของโจวเฉินยังคงราบเรียบแต่การเคลื่อนไหวของเขากลับไม่เชื่องช้า เขายกหอกขึ้นมาปัดท่อนเหล็กของชายหนุ่มไปอีกด้าน จากนั้นเขาก็ใช้ความได้เปรียบด้านความยาวของอาวุธเหวี่ยงหอกเข้าใส่ชายโครงของชายหนุ่มร่างผอมสูง ส่งร่างของอีกฝ่ายกระเด็นลอยไปทางหีบสมบัติไม้ใบนั้น

ก้นของชายหนุ่มกระแทกเข้ากับหีบสมบัติอย่างแรงจนเกือบจะทำให้หีบสมบัติกระเด็นออกไป ยังไงก็ตามอีกฝ่ายก็ยังสามารถลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วก่อนจะตะโกนใส่โจวเฉินด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยวยิ่งกว่าเดิม

“ถ้าฉันไม่ฆ่าแก...อ๊า!”

ชายหนุ่มผอมสูงคนนั้นดูเหมือนอยากจะพูดว่าจะฆ่าโจวเฉินแต่ก่อนที่จะทันได้กล่าวจนจบประโยคเสียงนั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องไปเสียก่อนเนื่องจากหีบสมบัติที่เขาล้มใส่นั้นเปิดฝาออกและงับเข้าที่ก้นของเขาอย่างแรง

“เป็นกับดักอย่างที่คิดจริงๆด้วย...”

โจวเฉินลูบคางและถอนหายใจออกมา

ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนที่ยืนอยู่ข้างๆเมื่อเห็นว่าหีบสมบัตินั่นเป็นมอนสเตอร์เขาก็เดินจากไปทันที

“อ๊า! ช่วยด้วย!”

ชายหนุ่มผอมสูงยังคงกรีดร้องอยู่ตลอดเวลา ก้นของเขาถูกมิมิคกัดเข้าอย่างรุนแรงจนมีเสียงกระดูกแตกดังขึ้นมา แม้ว่าเขาจะพยายามสลัดให้หลุดมากเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล

“ลืมเรื่องให้ช่วยไปได้เลยแต่ถ้าช่วยให้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดล่ะก็ฉันทำให้ได้แน่นอน”

โจวเฉินเพียงแค่ปรายตามองก็รู้แล้วว่าคนผู้นี้ต่อให้รอดมาได้ก็ต้องพิการอยู่ดี แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่คิดจะช่วยด้วย

เขาแทงหอกเข้าใส่ลำคอของอีกฝ่ายส่งผลให้อีกฝ่ายเสียชีวิตในพริบตา

จากนั้นโจวเฉินก็เดินเข้าไปเก็บท่อนเหล็กของชายหนุ่มลงกระเป๋าก่อนจะเก็บไอเทมหน้าตาคล้ายคัมภีร์มาได้อีกหนึ่งม้วน

“มีม้วนคัมภีร์ดรอปด้วยหรอเนี่ย?”

เขาประหลาดใจมาก ตามปกติแล้วเหล่าเซอร์ไวเวอร์มักจะใช้คัมภีร์ทันทีที่ได้มา

เขาเปิดคัมภีร์ขึ้นมาดูจึงได้ทราบเหตุผล

[คัมภีร์ตรวจสอบ]

[ประเภท : คัมภีร์ระดับทองแดงขั้นต่ำ]

[คำอธิบาย : ตรวจสอบความสามารถของไอเทมระดับทองแดง]

“กลายเป็นว่ามันมีความสามารถแบบนี้นี่เอง ดูทรงแล้วหมอนี่น่าจะได้มาจากดันเจี้ยนนี้นี่แหละ”

ขณะที่คิดอยู่นั้นโจวเฉินก็หยิบขวานออกมาและเริ่มทำการบดขยี้มิมิคที่กระโจนเข้าใส่เขา

ขวานของเขาผ่าร่างของมิมิคได้อย่างง่ายดายและหลังจากที่เขาเหวี่ยงขวานไปอีกสองครั้งมิมิคก็สิ้นใจ

“ครั้งนี้ฆ่าง่ายขนาดนี้เชียว? ดูเหมือนผลจากการเสริมแกร่งกายารอบล่าสุดจะดีไม่น้อย”

โจวเฉินพึ่งจะสู้กับมิมิคตัวแรกมาไม่นาน ในตอนนั้นเขายังจัดการกับมันไม่ได้ไวขนาดนี้แท้ๆ เขาลองเปิดหน้าต่างค่าสถานะของตัวเองขึ้นมาดู

[ชื่อ : โจวเฉิน]

[ร่างกาย : 1.9]

[ความเร็ว : 1.7]

[จิตวิญญาณ : 1.8]

[พรสวรรค์ : ช่วงชิงสกิลติดตัว]

[สกิลเรียกใช้งาน : ย่างก้าวสายลม (ระดับ1)]

[สกิลติดตัว : พิษซากศพ(ระดับ1) , พิษงู(ระดับ1) , เสริมแกร่งความเร็ว(ระดับ1) , เสริมแกร่งจิตวิญญาณ(ระดับ1) , เสริมแกร่งกายา(ระดับ1) , พลังช้างสาร(ระดับ1) , ศาสตร์การต่อสู้(ระดับ1) , ศาสตร์การใช้หอก(ระดับ1) , มองเห็นในที่มืด(ระดับ1) , ฟื้นฟูพลังชีวิต(ระดับ1) , หายใจใต้น้ำ(ระดับ1) , กลั้นลมหายใจ(ระดับ1) , ฟื้นฟูร่างกาย(ระดับ1) , แปลงพลังงานแสง(ระดับ1) , ผิวทองแดงกระดูกเหล็ก(ระดับ1)]

[พลังรบโดยรวม : ทองแดงขั้นกลาง]

น่าฉงนยิ่งนัก เขาพบว่านอกจากค่าสถานะกายาที่เพิ่มขึ้นมา0.2หน่วยแล้วพลังรบโดยรวมของเขายังกระโดดไปเป็นระดับทองแดงขั้นกลางแล้วเช่นกัน!

“ขึ้นมาเป็นทองแดงขั้นกลางตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้สิเนี่ย...อย่าบอกนะว่ามาตราฐานสำหรับทองแดงขั้นกลางก็คือต้องมีค่ากายามากกว่า2หน่วยขึ้นไปหรือไม่ก็เป็นค่าสถานะอะไรก็ได้?”

โจวเฉินคาดเดา

“แต่ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆไม่ใช่ว่าไอ้พวกที่มีพรสวรรค์+ค่าสถานะ1หน่วยโดยตรงจะกลายเป็นทองแดงขั้นกลางตั้งแต่เริ่มเลยหรอ? ฟังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่แฮะ”

โจวเฉินเคยค้นหาเกี่ยวกับเรื่องพลังรบโดยรวมในฟอรั่มมาแล้วและก็มีความเห็นมากมายแตกต่างกันออกไปและส่วนใหญ่นั้นก็เป็นความเห็นที่ไร้สาระสิ้นดี ขณะที่เหล่าหัวกระทิทั้งกลายก็ไม่ค่อยจะมาทิ้งคำตอบกันเอาไว้ซักเท่าไหร่

“บางทีอาจจะขึ้นอยู่กับค่าสถานะโดยรวมก็เป็นได้...ช่างมันเถอะยังไงก็กระโดดมาเป็นทองแดงขั้นกลางแล้ว ถือว่าเป็นการยกระดับที่ดี”

ขณะที่คิดอยู่นั้นโจวเฉินก็เก็บขวานใส่ช่องเก็บของและหยิบหอกออกมาแทน

เขาเดินมาตามทางเดินต่อเรื่อยๆพร้อมกับทำสัญลักษณ์เอาไว้ตลอดทาง หลังจากเลี้ยวแล้วเลี้ยวอีกอยู่หลายครั้งเขาก็มาโผล่อยู่ที่ห้องที่มีแสงไฟสลัวๆห้องหนึ่ง

ห้องนี้มีไฟถูกจุดเอาไว้แต่เหตุผลที่ทำให้แสงมันสลัวถึงเพียงนี้ก็เป็นเพราะวัชพืชที่สูงกว่าสองเมตรภายในห้องทำให้แสงสว่างภายในห้องนี้ดูแปลกประหลาดยิ่งนัก

“เป็นหญ้าที่สูงมาก ต้องมีมอนสเตอร์ซ่อนอยู่ข้างในอย่างไม่ต้องสงสัย”

โจวเฉินรู้นิสัยของระบบดี มาถึงขนาดนี้เป็นไปไม่ได้หรอกที่มันจะไม่ยัดมอนสเตอร์เอาไว้ลอบโจมตีพวกเขา

“ช่วยด้วย...”

ในตอนที่เขากำลังคิดว่าจะเข้าไปตรวจสอบดีหรือไม่นั้นก็พลันได้ยินเสียงกรีดร้องของความช่วยเหลือของสตรีดังขึ้นมาจากภายในห้องเสียก่อน

“เหอะๆ มอนสเตอร์ที่นี่หลอกคนได้ด้วยว่ะ”

โจวเฉินเดาว่าเป็นเสียงของมอนสเตอร์ที่พยายามจะล่อเขาเข้าไป

“ขอดูหน้าตาแกหน่อยแล้วกัน”

เขาคิดอย่างดูถูก

เสียงกรีดร้องยังคงดังออกมาจากด้านในห้อง ในตอนที่โจวเฉินกำลังจะก้าวเข้าไปนั้นเขาก็พลันสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นสายหนึ่งที่ส่งออกมาจากสร้อยคอเหมันต์บนคอซึ่งส่งผลให้สมองของเขาปลอดโปร่งขึ้นมา

“ไม่ถูกต้องสิ...เรายังคงต้องมนตร์ของเจ้าสิ่งนี้อยู่ดี ดูเหมือนต้องรีบตัดสินใจแล้ว”

โจวเฉินรีบตอบสนองทันทีและพบว่าเมื่อครู่นี้มีอะไรบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นกับเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด