ตอนที่แล้วChapter 52 : หมอก - มอนสเตอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 54 : สร้อยคอเหมันต์ – เป้าหมาย

Chapter 53 : ภาพมายา


สิ่งของทรงกลมราบเรียบที่ส่งไอร้อนปรากฏขึ้นมาในมือของหญิงสาวผมหางม้า เธอรีบจัดการยัดมันเข้าไปในปากทันทีโดยไม่สนใจจะเก็บอาการ

หลังจากกินเสร็จเธอก็หันมามองโจวเฉินและชายหนุ่มชุดทหาร

“ถ้าฆ่ามอนสเตอร์น้ำแข็งพวกนี้ได้พวกเราจะได้อาหาร! รสชาติเองก็ไม่เลวด้วย! ฉันคิดว่าฉันจะเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีเองเลยดีกว่า!”

พอกล่าวจบเธอก็โถมออกไปพร้อมกับง้าวในมือ

โจวเฉินและชายหนุ่มอีกคนเองก็ตอบสนองทันควันและพุ่งตัวตามเข้าไปในหมอก

หลังจากหิ้วท้องหิวมาหลายวันกระทั่งข้าวสวยเปล่าๆก็ยังส่งกลิ่นหอมหวนไม่ต้องกล่าวถึงซาลาเปาเนื้อเลยด้วยซ้ำ เช่นนี้แล้วในใจของพวกเขาทุกคนจึงเต็มไปด้วยความปรารถนาจะออกล่ามอนสเตอร์

หลังจากเดินอยู่คนเดียวในหมอกมาซักพักโจวเฉินก็สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวผิดปกติจากทางด้านหลัง เขาใช้มือทั้งสองข้างกระชับหอกเอาไว้แน่น ก่อนจะหันกายไปอย่างรวดเร็วและแทงหอกออกไปจนปลายหอกเจาะทะลุร่างของหมาป่าน้ำแข็งตนหนึ่งที่กระโดดเข้ามาพอดี

มอนสเตอร์หมาป่าที่ก่อร่างขึ้นมาจากน้ำแข็งแตกสลายไปอย่างรวดเร็วหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ในเวลาเดียวกันเสียงแจ้งเตือนจากระบบก็พลันดังขึ้น

[ท่านสังหารจิตวิญญาณหมาป่าแห่งทะเลสาบเยือกแข็ง ได้รับ : เทียน 1 อัน (ทองแดงขั้นต่ำ)]

เมื่อเห็นไอเทมดรอปโจวเฉินก็ขมวดคิ้วมุ่น หญิงสาวผู้นั้นได้ซาลาเปาเนื้อหอมกรุ่นจากการสังหารมอนสเตอร์แต่เขากลับได้เทียนไร้ประโยชน์ เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกว่าระบบนี่ค่อนข้างจะกวนตีนไม่เบา

“เอาเถอะยังไงซะได้ของดรอปจากมอนสเตอร์ก็ถือเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็ดีกว่าไปหาเรื่องพวกต้นไม้ปิศาจพวกนั้น”

เดิมทีโจวเฉินอยากจะลองท้าทายพวกอสูรต้นไม้ดูเพราะเขาอยากจะเก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุดจากดันเจี้ยนแห่งนี้ แต่มาตอนนี้เมื่อมีมอนสเตอร์ที่สังหารง่ายกว่าอสูรต้นไม้ปรากฏขึ้นมาเขาจึงไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอีก

หลังจากเดินต่อในหมอกได้ซักพักโจวเฉินก็พบเข้ากับมอนสเตอร์น้ำแข็งที่มีลักษณะคล้ายกับแมวและกวางตัวใหญ่ หลังจากใช้ความพยายามไปเล็กน้อยจนสังหารพวกมันลงได้เขากลับไม่ได้อะไรเลยจากมอนสเตอร์ตัวแรก ในขณะที่มอนสเตอร์อีกตัวนั้นเขาได้อาหารมาจากมันแต่ไม่ใช่ซาลาเปาเนื้อหอมกรุ่นแต่เป็นขนมปังทาเนย

โจวเฉินเขมืองขนมปังเนยทั้งก้อนเข้าไปทันที

“ภารกิจเซอร์ไววัลหนนี้ไม่เลวเลย อย่างน้อยมันก็ไม่มีความตั้งใจจะให้เราอดอาหาร ดูเหมือนระบบจะอยากให้การต่อสู้เป็นตัวทดสอบพวกเรามากกว่า”

ขณะที่คิดอยู่นั้นโจวเฉินก็เดินต่อไปเรื่อยๆเพื่อออกหามอนสเตอร์เพิ่มอีก

ยังไงก็ตามหลังจากเดินมาได้อีกซักพักเขาก็พบว่าการหามอนสเตอร์หรือการสังหารนั้นไม่ใช่ปัญหาแต่อัตราการดรอปไอเทมต่างหากที่ลดลงเรื่อยๆ หลังจากสังหารมอนสเตอร์น้ำแข็งไปเกือบสิบตัวเขากลับได้มาเพียงมันฝรั่งปิ้งเพียงก้อนเดียว

“อย่าบอกนะว่าเป็นการเกลี้ยกล่อมให้เราล่าถอยโดยไร้วาจา? ด้วยอัตราการดรอปไอเทมแบบนี้รางวัลที่ได้จากการสังหารมอนสเตอร์ไม่มีทางตามทันอัตราการเผาผลาญพลังงานแน่นอน”

หลังจากรวบรวมความคิดโวเฉินก็เริ่มคิดว่าจะล่าถอยแล้ว

อุณหภูมิภายในหมอกนี้ค่อนข้างต่ำมาก การเดินอยู่ภายในหมอกนี่ยังทำให้ร่างกายเปียกปอนจากไอน้ำอีกจนทำให้หนาวยิ่งกว่าเดิม ถ้าไม่ใช่เพราะไอเทมดรอปมันค่อนข้างห่วยลงเรื่อยๆโจวเฉินคงไม่คิดจะกลับไปกองไฟเพื่ออบอุ่นร่างกายเป็นแน่

ส่วนวิธีกลับนั้นเขาเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ด้านหนึ่งนั้นเขาสามารถเดินตามรอยเท้าเดิมได้และอีกด้านหนึ่งนั้นเขาก็ทำสัญลักษณ์ทิ้งเอาไว้ด้วย

หลังจากใช้เวลาต่ออีกซักพักและสังหารมอนสเตอร์น้ำแข็งไปได้อีกสองตัวซึ่งก็ไม่ได้ดรอปอะไรให้เขาเลย โจวเฉินก็กลับมาถึงกองไฟได้สำเร็จ

ยังไงก็ตามเมื่อเขากลับมาถึงเขากลับพบว่ากองไฟมันมอดไปนานแล้ว พื้นที่โดยรอบบริเวณนี้ดูเหมือนจะถูกน้ำซัดจนเปียกโชก

“ดูเหมือนจะไม่มีทางก่อกองไฟบริเวณนี้ได้อีกต่อไปแล้ว คงต้องหาที่อื่น”

โจวเฉินคิดภายในใจแต่ก็ไม่ได้จากไปทันทีเพราะเขาอยากจะรอให้อีกสองคนกลับมาก่อน

ในภารกิจเซอร์ไววัลหนนี้เขารู้สึกว่าถ้าเกาะกลุ่มกันจะง่ายดายกว่าลุยเพียงลำพัง

หลังจากรออยู่ท่ามกลางหมอกเย็นจัดอยู่ราวๆสามนาทีเขาก้ได้ยินเสียงย่ำเท้าดังขึ้นมาและไม่นานนักเงาร่างสองร่างก็ปรากฏให้เห็น

“นี่อย่ามัวแต่อยู่ตรงนี้เลย ตามมาสิฉันเจอที่ดีๆด้วย!”

คนแรกที่ปรากฏออกมาจากหมอกก็คือหญิงสาวผมหางม้า ใบหน้าของเจ้าหล่อนปรากฏรอยยิ้มและมีท่าทีดีอกดีใจยิ่งนัก

ด้านข้างเธอชายหนุ่มชุดทหารยังคงยืนนิ่งเงียบไม่กล่าววาจา ดวงตาของเขาเรียบนิ่งราวกับรอให้โจวเฉินตอบรับคำ

โจวเฉินเดินตรงเข้าไปหาคนทั้สองแต่กลับหยุดลงเมื่ออยู่ห่างจากอีกฝ่ายราวสองเมตร

“ทำไมเสื้อผ้าครบถ้วนดีแบบนั้น? ไม่ใช่ว่ามันควรจะขาดรุ่งริ่งรึไง?”

โจวเฉินจ้องไปที่เสื้อผ้าที่แทบจะเรียกได้ว่าครบถ้วนสมบูรณ์ดีและขมวดคิ้ว

“เมื่อกี้ได้การ์ดซ่อมไอเทมสองใบมาน่ะสิดังนั้นพวกเราเลยใช้มันซ่อมแซมเสื้อผ้า”

หญิงสาวตอบกลับทันที

“การ์ดซ่อมแซม? มีของแบบนั้นด้วย?”

โจวเฉินมองไปที่คนทั้งสองด้วยแววตาเคลือบแคลง

“แน่นอน! อย่าขี้สงสัยน่า คนอื่นๆยังรอเราอยู่นะ”

หญิงสาวบ่นออกมาเมื่อเห็นว่าโจวเฉินยังคงไม่เคลื่อนไหว

“คนอื่น? ใครล่ะ?”

โจวเฉินยิ่งสงสัยขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินคำกล่าวของหญิงสาว

“จะใครล่ะ? เจ้าคนชุดขาว ชายหน้ากากหน้ายิ้มแล้วก็เจ้าชีเปลือยไง”

หญิงสาวตอบกลับทันควัน

“เหอะๆ”

โจวเฉินแค่นเสียงเมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย จากนั้นเขาก็ยกหอกขึ้นมาแทงทะลุหน้าอกของหญิงสาวและดึงออกมาก่อนจะปาดปลายหอกใส่ลำคอของชายหนุ่มชุดเขียวด้วยความเร็วสูงราวกับสายฟ้าฟาด

โลหิตสาดกระเซ็น เมื่อร่างของชายหนุ่มและหญิงสาวล้มลงโจวเฉินกลับสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนจากโลหิตที่กระเด็นลงบนใบหน้า

“เป็นไปได้ยังไง? ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนเป็นตัวปลอมงั้นหรอ?”

โจวเฉินชะงักไปเล็กน้อยขณะที่มองไปยังสหายทั้งสองคนที่ถูกเขาสังหารและล่วงลงไปบนพื้น คนทั้งสองนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นตัวปลอมแน่นอนแต่ทำมเมื่อถูกหอกเขาแทงกลับดูเหมือนตัวจริงไม่มีผิดเพี้ยน?

“ไม่ การคาดเดาของเราถูกต้องแล้วสองคนนี้เป็นตัวปลอมแน่นอน!”

หลังจากคิดอยู่ซักพักโจวเฉินก็ยืนยันความคิดของตน เขารู้ดีว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่ตัวเขาแล้วตอนนี้

เขาหมุนปลายหอกเข้าหาตัวและปาดมันใส่แขนของเขาเบาๆ ภายใต้การกระตุ้นจากความเจ็บปวดและเลือดเขาพลันรู้สึกว่าสมองของเขาปลอดโปร่งขึ้นมา ศพทั้งสองบนพื้นเองก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป

บนพื้นไม่มีศพของหญิงสาวกลับชายหนุ่มอยู่อีกแต่เป็นเศษน้ำแข็งที่เปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลนแทน

“ไม่คิดเลยว่ามอนสเตอร์พวกนี้บางตัวจะสามารถสร้างภาพลวงตาได้ด้วย ดูถูกพวกมันเกินไปหน่อยจริงๆ”

เขามองไปที่กองไฟที่เปียกโชกด้านหลังและรู้สึกว่าตัวเองอาจจะรอคนทั้งสองต่อไปไม่ได้แล้ว

“สงสัยจริงๆว่าพวกนั้นจะเจอมอนสเตอร์ที่สามารถสร้างภาพลวงตาได้ตัวนี้เหมือนกันไหม? แล้วถ้าเราตามมันไปเราจะเจออะไรกันนะ?”

“ยังไงก็ตามการปลอมตัวของมอนสเตอร์นี่ค่อนข้างมีแต่จุดบกพร่อง คนทั้งสองยังไงก็คงดูออก”

หลังจากรวบรวมความคิดโจวเฉินก็ตัดสินใจว่าจะรออีกซักพัก

หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านพ้นโจวเฉินกลับยังไม่พบคนทั้งคู่ เขาพบเพียงแต่มอนสเตอร์น้ำแข็งที่วิ่งเข้ามาหาที่ตายแต่กลับไม่ดรอปอะไรให้เขาเลย

“เอาล่ะดูเหมือนเราจะรอมาพอแล้ว คนทั้งสองนั่นถ้าไม่สู้กับมอนสเตอร์อยู่ก็คงหลงทางไปแล้ว ในช่วงสั้นๆนี้คงไม่มีทางรวมตัวกันได้แน่ๆ”

สำหรับโจวเฉินแล้วการร่วมมือกับคนอื่นหาใช่กรณีบังคับไม่...ถ้าไม่มีใครโผล่มาเลยเขาก็ยังสามารถลุยภารกิจคนเดียวได้เช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด