ตอนที่แล้วตอนที่ 13-29 การฝึกสำคัญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13-31 ชีพจรโลก

ตอนที่ 13-30 เรียกว่าซ้อมมือ


สภาพแวดล้อมของภูเขาฆ้องทองแดงงดงามมาก  ภายในหุบเขาลึกเงียบสงัด  มีน้ำตกและสระอยู่ภายใต้นั้น ลินลี่ย์กับบีบีสร้างบ้านศิลาสองหลังและอยู่ในนั้น  ลินลี่ย์ไม่ต้องการไปรบกวนจ้าวภูเขาฆ้องทองแดงแค่ขอให้เขาให้คำแนะนำลินลี่ย์ก็เพียงพอแล้ว

“ครืนนน...”

น้ำตกเทตัวลงมาเหมือนไข่มุกสีขาวนับไม่ถ้วนกระแทกกับสระลึกข้างล่าง

“ซูมมม!”น้ำในสระไหลออกไปในกระแสลำธาร ลินลี่ย์นั่งในท่าขัดสมาธิอยู่ข้างสระในพงหญ้า  ร่างหลักของเขาเริ่มสงบใจลงและเน้นปรับให้เข้าเคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดิน  ขณะที่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขายังคงวิเคราะห์ธาตุลมต่อไป

“ข้าไม่เคยให้ความสนใจต่อแก่นธาตุดินอย่างที่เป็นในปัจจุบันมาก่อน”

ลินลี่ย์ส่งพลังจิตทั้งหมดออกไปสัมผัสทุกอณูแก่นธาตุดิน

อณูแก่นธาตุดินมีขนาดเล็กมาก  ไม่มีทางที่ใครจะเห็นได้ด้วยตาเปล่า  แต่อณูแก่นธาตุดินเหล่านี้มีเต็มโลกไปหมด  อณูแก่นธาตุดินแต่ละอณูลอยอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆเคลื่อนไหวอย่างสับสนไม่แน่นอนและจากนั้นอณูเหล่านั้นจะชนปะทะกันเองและแยกกระจายไป

อณูแก่นธาตุดินบ้างก็ดึงดูดกัน  จากนั้นก็ผลักดันกัน

“แปลก, นี่คือธาตุดินหรือ?”

ลินลี่ย์ถอนหายใจสรรเสริญ

และจากนั้นขณะที่ลินลี่ย์ใส่พลังจิตเข้าไปในธาตุดิน “อณูแก่นธาตุที่แข็งตัวเหล่านี้อยู่ใกล้กันเกินไป”  ความจริงเป็นเช่นนั้น  หินและฝุ่นทั้งหมดสร้างขึ้นจากแก่นธาตุดินยกเว้นความหนาแน่นของธาตุสูงมาก

“แม้ว่าดินไม่มีที่สิ้นสุดและศิลาภูเขาจะก่อตัวขึ้นจากแก่นธาตุดิน แต่ทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายธาตุแข็งแกร่งเลยอา”  หัวใจลินลี่ย์เต็มไปด้วยความตกใจ  “ตามพฤติกรรมรูปแบบอณูธาตุดินในอากาศ  เมื่ออณูธาตุเข้ามาถึงในระยะใกล้มากพวกมันจะผลักกันและกัน  จากนั้นทำไม.. กลุ่มจำนวนอณูที่หนาแน่นมากเหล่านั้นในหินจึงไม่ผลักกันเอง?”

ลินลี่ย์เองก็สามารถควบคุมแก่นธาตุดินสร้างกองฝุ่นหรือหินหรือโลหะได้ แต่เมื่อเขาทำเช่นนั้นจะเกิดกลิ่นอายธาตุที่แข็งแกร่ง

“ทำไมหินและโคลนจึงไม่ให้ความรู้สึกถึงรัศมีธาตุที่แข็งแกร่ง?”  ลินลี่ย์ไม่เคยพบเรื่องนี้มาก่อน ดังนั้นดูเหมือนชิ้นก้อนหินและฝุ่นธรรมดาจะแฝงไปด้วยเคล็ดความรู้ลึกลับเฉพาะตนเอง

ใจของลินลี่ย์ไม่สามารถทำความเข้าใจได้

ความขัดแย้งทุกอย่างทำให้เขาเข้าใจลำบาก

การฝึกอย่างนี้ลินลี่ย์เริ่มซึมซับเข้าไปในโลกแห่งแก่นธาตุดินที่น่าอัศจรรย์

“โกรวววว...”

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาภูเขาฆ้องทองแดงจะมีเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวและเสียงตะโกนออกมาจากภายในเป็นครั้งคราว  นี่เป็นเพราะขณะฝึกลินลี่ย์จะควบคุมแก่นธาตุสร้างอสูรเวททุกรูปแบบซึ่งปล่อยเสียงคำรามด้วยความโกรธเป็นครั้งคราว  เกี่ยวกับความรู้เข้าใจในแก่นธาตุธรรมชาติความแตกต่างขัดแย้งได้รับการแก้ไขครั้งแล้วครั้งเล่า

ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจแล้วว่าการใช้พลังจิตฝืนควบคุมแก่นธาตุสร้างสิ่งที่แข็งกระด้างเป็นเรื่องที่โง่!

“ระหว่างอณูแก่นธาตุเองและระหว่างอณูแก่นธาตุอื่นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกลับและน่าทึ่ง ทั้งหมดที่ข้าต้องทำก็คือใช้พลังจิตพิเศษเพิ่มเล็กน้อย  และข้าสามารถทำให้อณูแก่นธาตุนับไม่ถ้วนกลายเป็นหนึ่งได้” ลินลี่ย์ลืมตามองดูหมีปฐพีที่คำรามอยู่ในกลางอากาศอย่างดุร้าย

หมีปฐพีนี้ตลอดทั้งตัวของมันจะมีรัศมีแสงสีเหลืองคลุมตัว  มันคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวพลางทุบอกมันเอง

หมีปฐพีนี้สร้างขึ้นมาจากแก่นธาตุดิน

“สองเดือนที่แล้ว  ถ้าข้าใช้เวทต้องห้ามเรียกหมีปฐพีนี้ออกมา  ข้าจะต้องใช้พลังจิตมากกว่าถึงสิบเท่าหรือบางทีอาจมากกว่านั้น!”  ลินลี่ย์อดถอนหายใจไม่ได้  “และนี่คือความเข้าใจเคล็ดความรู้ ‘แก่นธาตุดิน’ เพียงน้อยนิดของข้า”

ถ้าเขาเข้าใจเคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดินได้อย่างสมบูรณ์  ก็จะแตกต่างอย่างมากมาย

“ถ้าท่านใช้คนสองคนที่มีพลังจิตพอๆ กันคนหนึ่งฝึกมาทาง ‘แก่นธาตุดิน’  ขณะที่อีกคนหนึ่งไม่ได้ฝึก  ความแตกต่างของพลัง ‘เกราะผู้พิทักษ์ดินศักดิ์สิทธิ์’ ที่พวกเขาสร้างขึ้นจะมีความแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน”

“แก่นธาตุธรรมชาติช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ” ลินลี่ย์รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณจ้าวภูเขาฆ้องทองแดงลีย์ลินยิ่งนัก

คำพูดของลีย์ลินถูกต้อง  เคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดินเป็นแค่เพียงพื้นฐาน กฎธรรมชาติของธาตุดินทั้งหมดไม่มีอะไรมากไปกว่าเคล็ดความรู้ลึกลับหลายอย่างซึ่งถูกสร้างมาจากแก่นธาตุดินนับไม่ถ้วน  การเข้าใจเคล็ด ‘แก่นธาตุดิน’ จะช่วยทำให้เข้าใจเคล็ดความรู้ลึกลับอื่นได้ด้วย

ที่พักของลีย์ลินภูเขาฆ้องทองแดง

ภายในคฤหาสน์ธาตุดินลีย์ลินอยู่กับพี่ชายทั้งสอง

ลีย์ลินเลิกคิ้วสีแดงเข้มเขาถอนหายใจชมเชยขณะกล่าว “พรสวรรค์ของลินลี่ย์ผู้นี้ดีเยี่ยมจริงๆ  ในช่วงวลาสั้นๆ เพียงสองเดือนเขาเข้าถึงความเข้าใจ ‘แก่นธาตุดิน’ ระดับสูงได้ถึงเพียงนั้น ด้วยความเร็วในการเรียนรู้ปัจจุบัน...เคล็ดความรู้ลึกลับ ‘แก่นธาตุดิน’เป็นความรู้ที่ง่าย เป็นไปได้ว่าใช้เวลาเพียงสองสามปีเขาคงจะเชี่ยวชาญอย่างสมบูรณ์”

“ลินลี่ย์มีพรสวรรค์ธรรมชาติ  แต่ยังจะเทียบกับเจ้าได้หรือ น้องสาม?”  บุรุษศีรษะโล้น เบอร์เกสหัวเราะ

บุรุษชุดขาวยังกล่าว  “น้องสาม,เจ้าคืออัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุดอย่างแท้จริงในประวัติศาสตร์ทวีปยูลานของเรา”

บุรุษชุดขาวและและเบอร์เกสมองดูลีย์ลินด้วยสายตาที่ชื่นชม

“พวกท่านอย่าพูดอย่างนั้น”  ลีย์ลินมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เหมือนกับว่าเขาสามารถมองทะลุผนังและเห็นลินลี่ย์ที่อยู่ในระยะไกลกำลังฝึกอยู่ในหุบเขา

เขาหัวเราะและกล่าวอย่างใจเย็น  “ลินลี่ย์ผู้นี้เป็นเพียงระดับเทียมเทพเขาเพิ่งเริ่มเส้นทางการฝึกฝน ใครจะคาดเดาได้ว่าในอนาคตของเขาความสำเร็จของเขาจะเป็นเช่นไร?”

“อย่างน้อยเนื่องจากความเร็วในการฝึกฝนปัจจุบันของเขา เขาเพียงแต่ช้ากว่าข้าเมื่อในอดีตเพียงเล็กน้อยเท่านั้นส่วนความสำเร็จในอนาคตของเขา นั่นยากจะพูด”

บุรุษศีรษะล้านและบุรุษชุดขาวพยักหน้าเล็กน้อยทั้งคู่

“เบรุตผู้นั้นแจ้งบอกข้าว่าในพิภพอื่นยังมีอัจฉริยะผู้สามารถเข้าถึงระดับเทียมเทพภายในสิบปีได้  ระดับเทพแท้ภายในร้อยปี และระดับเทพชั้นสูงภายในพันปี  แต่คนโง่เขลาพวกเขาอาจจะติดอยู่ที่คอขวดเป็นเวลาล้านๆปีโดยไม่สามารถบรรลุผ่านไปถึงระดับเทียมเทพได้” ลีย์ลินหัวเราะอย่างสงบ

“นั่นคือความหมายของการรู้แจ้งและเข้าใจ”

ลีย์ลินถอนหายใจ “ลินลี่ย์นี้เป็นคนที่มีความเข้าใจได้ลึกซึ้งแจ่มแจ้งมากคนหนึ่ง”

“กลายเป็นเทพชั้นสูงในเวลาพันปีนี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงเลย” เบอร์เกสและบุรุษชุดขาวถอนหายใจทั้งคู่

ลีย์ลินหัวเราะอย่างใจเย็น “นี่ต้องเกี่ยวข้องกับวาสนาและประสบการณ์ของแต่ละคน อัจฉริยะระดับสูงสุดอย่างนั้นไม่คู่ควรกับการเอ่ยถึง!”

ลีย์ลินค่อนจะรังเกียจต่ออัจฉริยะเหล่านั้นอย่างเห็นได้ชัด

“อัจฉริยะเหล่านั้นแค่ต้องการจะเข้าถึงระดับเทพชั้นสูงให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ แต่พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าถ้าผู้ฝึกไม่ได้เริ่มพยายามหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับต่างๆตั้งแต่แรก  ถ้าพวกเขาเริ่มและพยายามหลอมรวมเคล็ดความรู้เหล่านั้นเมื่อเข้าถึงระดับเทพชั้นสูง  ก็จะสายเกินไป!”

“เคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุต้องหลอมรวมให้ได้ตั้งแต่แรก  ถ้าทำได้ก่อนก็จะง่ายมากขึ้น”  ลีย์ลินถอนหายใจ  “ถ้าข้าเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่ข้ายังเป็นเทียมเทพมีแนวโน้มว่าข้าจะสามารถหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งหกกลายเป็นสุดยอดเทพชั้นสูงได้”

“หลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งหมดหรือ? น้องสามในพิภพนับไม่ถ้วน จะมีสักกี่คนที่ทำตรงนี้ได้สำเร็จ?”  บุรุษชุดขาวกล่าว

ลีย์ลินหัวเราะและไม่พูดเรื่องนี้อีกต่อไป

“พี่ใหญ่!”  ลีย์ลินมองดูบุรุษศีรษะล้าน  “อาจนับได้ว่าลินลี่ย์ช่วยให้เราหนีมาจากพิภพจองจำเกบาโดสได้สำเร็จ  ท่านก็เป็นคนที่ฝึกในกฎธรรมชาติธาตุดินไปช่วยซ้อมมือกับเขาหน่อยเถอะ”

“ได้เลย” เบอร์เกสพยักหน้าโดยตรง

ลีย์ลินมองดูบุรุษชุดขาว  “พี่รอง,ข้าได้รับความกรุณาครั้งใหญ่จากลอร์ดเบรุตผู้นั้น ท่านช่วยไปดูแลหนูกินเทพนั้นช่วยซ้อมมือกับเขาด้วย”

“และอยู่ที่นี่ข้าก็ค่อนข้างเบื่อบ้างเล็กน้อย” บุรุษชุดขาวหัวเราะขณะกล่าว

………

สายน้ำไหลไปตามลำธาร

ลินลี่ย์ซึมซับกับการปรับตัวกับแก่นธาตุอย่างสมบูรณ์ หยาดแห่งปัญญาเติมเข้าในใจของเขาหยาดแล้วหยาดเล่าทำให้ลินลี่ย์ยิ้มโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ลินลี่ย์กำลังฝึก บีบีก็สงบใจและเริ่มฝึกด้วยเช่นกัน

ทันใดนั้นบุรุษคนหนึ่งปรากฏร่างที่นี่

“ลินลี่ย์ผู้นี้”  เบอร์เกสเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลินลี่ย์  “เขายิ้มขณะฝึกได้ นี่ชวนให้อิจฉาจริงๆ!”

มียอดฝีมือเพียงไม่กี่คนที่สามารถหาความสุขจากการฝึกฝนได้

ถ้าท่านอยากทำอะไรอย่างนั้นทันทีที่ท่านซึมซับอยู่ในสิ่งที่ทำ ผลที่ท่านได้รับจะสูงล้ำ  ถ้ากลับตรงกันข้ามท่านไม่ชอบสิ่งที่กำลังทำ และยังฝืนใจกระทำ ผลลัพธ์ที่ได้จะต่ำมาก

ยอดฝีมือส่วนใหญ่ฝืนตัวเองให้ต้องฝึกฝน  เพราะพวกเขาไม่ต้องการด้อยกว่าคนอื่น  ไม่ต้องการถูกคนอื่นฆ่า  หรือเพราะเหตุผลอื่น

พวกเขาที่ฝืนใจฝึกฝนจะเทียบได้กับคนที่รักการฝึกฝนได้ยังไง?

ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนเหล่านี้เข้าใจผลกระทบนี้  และพวกเขาต้องการพยายามทำให้ตัวเองเพลิดเพลินกับการฝึก  และฝึกด้วยความสนุกเพลิดเพลิน  ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาฝึกได้เร็วมาก  ได้รับการรู้แจ้งได้ง่ายมาก และก้าวหน้าได้ง่าย

แต่ไม่ว่าท่านจะชอบหรือไม่ก็ตามสิ่งนั้นจะถูกกำหนดโดยนิสัยและวิญญาณของท่าน

ท่านไม่สามารถเลือกชอบบางอย่างได้ตัวอย่างเช่น ถ้าท่านเห็นสตรีที่อัปลักษณ์มาก ไม่ว่าท่านจะพยายามทำใจให้ตัวท่านเองชอบเธอมากแค่ไหนท่านก็ไม่มีทางทำได้ ทางเลือกโดยธรรมชาติของนิสัยท่านไม่สามารถเปลี่ยนได้

“ท่านเบอร์เกส ทำไมท่านถึงมาที่นี่?”  บีบีร้องเรียกเสียงดัง

ตอนนี้ลินลี่ย์ลืมตาและลุกขึ้นพร้อมกับหัวเราะและพูดทักทาย “ท่านเบอร์เกส”

เบอร์เกสหัวเราะลั่น  “ลินลี่ย์, ข้ารู้ว่าเจ้าฝึกฝนกฎธรรมชาติธาตุดิน  พอมาคิดดูแล้ว ข้าก็ฝึกมาในกฎธาตุดินเหมือนกันระหว่างเราทั้งสองน่าจะมาลองซ้อมมือกันบ้าง เจ้าจะว่ายังไง?”

“นี่...นี่ยอดเยี่ยมแน่นอน”  ลินลี่ย์ประหลาดใจดีใจพร้อมกัน

การได้ฝึกฝีมือกับคนที่ฝึกมาในกฎธาตุด้านเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทรงพลังกว่ามากนับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากอย่างยิ่ง  ที่สำคัญ,นี่หมายความว่าคนที่แข็งแกร่งกว่ายอมลดตัวมาฝึกให้เขา

แม้ว่าจะใช้คำพูดว่า‘ซ้อมมือ’ แต่ในความเป็นจริงอีกฝ่ายช่วยเขาและแนะนำเขา!

“ฮ่าฮ่า..ข้าเองค่อนข้างโง่ ข้าเพียงแต่ฝึกเคล็ดความรู้ลึกลับกฎธาตุดินมาสองอย่าง หนึ่งนั้นก็คือเคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดิน  ขณะที่อีกเคล็ดหนึ่งก็คือเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งพลัง”

ลินลี่ย์สะท้านใจ

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเคล็ดความรู้ลึกลับอีกอย่างหนึ่งของกฎธาตุดินก็คือเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งพลัง

“ครืน....” เกิดการควบแน่นของแก่นธาตุดินในปริมานมหาศาลและร่างของเบอร์เกสคลุมไปด้วยเกราะธาตุดินเป็นประกายระยิบระยับ

“ไม่ใช่สีของอดาแมนเทียมหรือนั่น?”  ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจ

“ลินลี่ย์ สำหรับกับเจ้าไม่จำเป็นต้องให้ข้าใช้งานเคล็ดความรู้ลึกลับแห่งพลังก็ได้  ข้าใช้แค่เคล็ดความรู้ลึกลับแก่นธาตุดิน  ระวังให้ดี!”  เบอร์เกสหัวเราะลั่น  และขณะที่เขากล่าว เขาเตะพื้นเต็มกำลังและพุ่งเข้าใส่ขณะที่เขากระแทกหมัดใส่ลินลี่ย์

ดวงอาทิตย์สะท้อนประกายเกราะสีดินอย่างแพรวพราว หมัดขวาของเบอร์เกสเปลี่ยนรูปเป็นศีรษะหมาป่าที่ดุร้ายซึ่งอ้าปากและงับลงมาทันที

“ฮู้ววววว!”  หมาป่าดุร้ายเปล่งเสียงหอนโหยหวน

ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยน  เขาต้องการถอย แต่เบอร์เกสใช้สนามพลังเทพ ในฐานะเทพแท้ สนามพลังเทพของเบอร์เกสทำให้ความเร็วของลินลี่ย์ตกลงไปมาก

“แคล้ง!” กระบี่เลือดม่วงปะทะกับหมัดหัวหมาป่าอย่างรุนแรง

ลินลี่ย์ถูกแรงปะทะกระเด็นถอยหลังไปราวกับกระสอบทราย  พอเสียงบึ้มดังเขากระแทกกับสระน้ำราวกับอุกกาบาตกระแทกทำให้น้ำฉีดพุ่งกระเด็นไปทุกที่ ภายใต้แสงอาทิตย์ น้ำฉีดพุ่งเป็นประกายเหมือนหยดแก้วมณี

“เฮ้, แบบนั้นยังอ่อนเกินไป”  เบอร์เกสส่ายศีรษะ

“บึ้ม!”ลินลี่ย์พุ่งออกมาจากผิวน้ำ จากนั้นลงมายืนบนพื้น เขาจ้องมองเบอร์เกสและถามทันที  “ท่านเบอร์เกส, หัวหมาป่าที่แปลงมาจากหมัดของท่านมีพลังรุนแรงมากมายขนาดนั้นได้ยังไง? ความแข็งของมันอยู่ในระดับเดียวกับสมบัติเทพได้ยัไง?”  ลินลี่ย์รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

เบอร์เกสยิ้ม  “ลองคิดด้วยตัวเจ้าเอง”

ลินลี่ย์ยิ้มค้าง

“ก็ได้ มาลองกันอีกครั้ง”  ลินลี่ย์กัดฟัน

จากวันนี้เป็นต้นไปแต่ละวันลินลี่ย์จะพ่ายแพ้เบอร์เกสสามครั้ง เบอร์เกสไม่เคยให้คำแนะนำอะไรกับเขา คำถามใดๆ ที่ลินลี่ย์มี เขาจะบอกให้ลินลี่ย์คิดด้วยตนเอง  ความจริง.. ต่อให้เบอร์เกสอธิบายไปก็คงไม่สามารถอธิบายได้ชัด

ที่สำคัญในการทำความเข้าใจเคล็ดความรู้ลึกลับของแก่นธาตุดิน เบอร์เกสใช้เวลานานเกินพันปี

ลินลี่ย์ซ้อมมือกับเบอร์เกส  ขณะที่บีบีซ้อมมือกับบุรุษชุดขาว

ด้วยการซ้อมมือในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องระดับความก้าวหน้าในการทำความเข้าใจแก่นธาตุดินของลินลี่ย์เพิ่มขึ้นมากมาย

ลินลี่ย์ปลิวกระเด็นอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่เขาล้มลงกับพื้นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเขาจริงๆ

“ข้าผิดแล้ว ทำผิดแล้ว!”

ลินลี่ย์หัวเราะลั่น  “มันไม่ตาย ไม่ตายนี่นา”

“ข้าไม่เคยเข้าว่าพลังอะไรอยู่เบื้องหลังชีพจรโลกมีไม่สิ้นสุด  ตอนนี้, ข้าเข้าใจแล้ว  ข้าเข้าใจ ชีพจรของโลก ฮ่าฮ่า  ดังนั้นนี้ก็คือชีพจรโลก!” ดูเหมือนลินลี่ย์จะบ้าไปแล้ว ขณะที่เขาเงยหน้าเขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและลินลี่ย์เริ่มหัวเราะหนักขึ้นทุกที

กระแสพลังมหาศาลเฉพาะแบบ ไม่มีใครต้านได้หลั่งไหลลงมา พื้นที่โดยรอบลินลี่ย์มองดูบิดเบี้ยวทันทีซึ่งดูเหมือนกฎธรรมชาติ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตจะทรงพลังแค่ไหนก็ไม่ต่างอะไรกับมด

แม้แต่เบอร์เกสก็ยังอดสั่นสะท้านไม่ได้

เบอร์เกสที่เพิ่งเอาชนะลินลี่ย์ได้อีกครั้งกำลังเตรียมจะสั่งสอนเขาถึงกับตะลึง “ลินลี่ย์นี้, เขา... เขาบรรลุความรู้ใหม่ด้วยอาการอย่างนั้นหรือนี่  ผิดธรรมดามากเกินไปแล้ว?” ในที่สุดเบอร์เกสก็เข้าใจความแตกต่างระหว่างเขาเองกับอัจฉริยะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด