ตอนที่แล้วChapter 42 : ต้นไม้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 44 : โจมตี

Chapter 43 : ไฟ


“ใช่แล้ว คนอื่นๆเองก็คงเจอสถานการณ์เดียวกัน ตอนนี้กระทั่งยืนยันตำแหน่งที่แน่นอนก็ยังยากเลยด้วยซ้ำ”

หลังจากรู้ตัวกันแล้วว่าต้นไม้ในป่าไม่เพียงสามารถโจมตีได้เท่านั้นแต่ยังสามารถขยับได้อย่างเงียบเชียบอีกด้วย สาวน้อยที่รู้ดังนั้นจึงทรายดีว่าการจะไปรวมตัวกับคนอื่นๆนั้นเป็นเรื่องยากเพียงใด

“ออกหาน้ำต่อเถอะ”

โจวเฉินเบนเข็มกลับมายังเป้าหมายเดิม ในเมื่อยังต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่อีกตั้งเจ็ดวันการหาแหล่งน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็น

“ในป่าแบบนี้มันจะมีแหล่งน้ำอยู่จริงๆหรอ?”

หญิงสาวถามออกมาด้วยความสงสัย

“ต้องมีสิ”

โจวเฉินตอบกลับอย่างมั่นใจ

“ก็ระบบไม่ได้บอกนี่ว่าการฆ่ามอนสเตอร์พวกมันจะดร็อปน้ำให้เราแถมพวกเรายังต้องใช้เวลาอยู่ที่ป่านี่ตั้งเจ็ดวัน ถ้างั้นมันก็ควรจะต้องมีแหล่งน้ำอยู่แล้ว ระบบไม่มีทางปล่อยให้เราหิวน้ำตายโดยไม่ให้ทางรอดหรอก”

จากประสบการณ์การเอาชีวิตรอดและข้อมูลจากในฟอรั่มโจวเฉินจึงรู้สึกว่าแม้ว่าระบบจะชอบเตะเซอร์ไวเวอร์เข้าไปหาอันตรายอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เคยมอบสถานการณ์สิ้นหวังไร้ทางออกให้กับพวกเขา ระบบมักจะเตรียมทางรอดเอาไว้ให้เซอร์ไวเวอร์เสมอๆอยู่ที่ว่าพวกคุณจะคว้ามันเอาไว้ได้รึเปล่าก็เท่านั้น

คนทั้งสองเลือกออกสำรวจไปยังทิศทางที่ยังไม่เคยไป

หลังจากเดินมาได้ซักพักพวกเขาก็พบว่าแสงสว่างเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ

“อีกไม่นานก็คงกลางคืนแล้ว...”

หญิงสาวมองผ่านแมกไม้ขึ้นไปยังท้องฟ้ามืดครึ้มด้านบนและกล่าวออกมา

“นอกจากนี้ดูจากสภาพอากาศแล้วในคืนนี้น่าจะมีฝนไม่ก็หิมะตกลงมา”

โจวเฉินบีบนวดมืดตัวเองที่แดงเล็กน้อยจากความหนาวและเอ่ยเพิ่มเติม

“ก็ดีเหมือนกัน...ถ้าฝนตกก็มีน้ำกินแล้ว”

ดวงตาของหญิงสาวเปล่งประกาย ตอนนี้เธอเองก็เริ่มหิวน้ำขึ้นมาหน่อยๆแล้วเหมือนกัน

“แต่อุณหภูมิในร่างกายของเราอาจจะตกลงอย่างรวดเร็วถ้าเกิดว่ามีฝนหรือหิมะตกลงมาจริงๆ”

โจวเฉินเริ่มคิดแล้วว่าควรจะสร้างที่หลบภัยแบบเรียบง่ายเพื่อหลบลมหลบฝนเสียก่อน เรื่องนี้เองก็สำคัญไม่ต่างจากการหาแหล่งน้ำเลย

“ใบไม้บนต้นไม้ในป่านี้ค่อนข้างมีใบหนาทีเดียวดังนั้นเรื่องนี้น่าจะไม่ใช่ปัญหา”

หญิงสาวย้อนกลับทันควัน

“พวกเราต้องจุดไฟ ตอนนี้เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆแล้ว”

กระทั่งด้วยสภาพร่างกายในปัจจุบันโจวเฉินก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนักจากสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ เขาจำเป็นต้องจุดไฟเพื่ออบอุ่นร่างกายจริงๆนั่นแหละ

“ฉันจะไปตัดกิ่งไม้มาให้ นายก็ไปหาพวกหญ้าแห้งมาแล้วกัน”

หญิงสาวผมหางม้าสวมใส่ชุดหนังซึ่งให้ความอบอุ่นดีกว่าชุดพรางกายในทะเลทรายของโจวเฉินมากนัก ยังไงก็ตามถ้าลากยาวจนถึงกลางคืนเธอก็คงทนไม่ไหวเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงกระชับง้าวในมือแน่นและออกตามหาฟืนมาก่อไฟ

โจวเฉินไม่ปฏิเสธข้อเสนอของอีกฝ่าย ยังไงซะงานที่อีกฝ่ายเลือกให้ตัวเองก็ค่อนข้างหนักกว่า โจวเฉินรู้สึกว่าที่อีกฝ่ายมอบงานง่ายๆให้กับเขาเพราะเขามีของสำคัญอย่างไฟแช็กอยู่ในมือนั่นเอง

หลังจากออกสำรวจในป่าที่ค่อยๆมืดลงและมืดลงเรื่อยๆแต่ด้วยสกิลมองเห็นในที่มืดโจวเฉินจึงพบเข้ากับหญ้าที่เหมาะสำหรับการจุดไฟในท้ายที่สุด หรือถ้าจะให้ชัดเจนกว่านั้นก็คือเขาได้รากไม้มาจากพวกพืชหญ้าซึ่งเขาก็ลองใช้ไฟแช็กจุดดูแล้วและพบว่ามันค่อนข้างติดไฟง่ายทีเดียว

หลังจากหญิงสาวผมหางม้ากลับมาในเวลาไล่เลี่ยกันพร้อมกับกองไม้และกิ่งไม้จำนวนมาก โจวเฉินก็หยิบเอากิ่งไม้แห้งที่มีขนาดใหญ่เหมาะมือมากองสุมๆและนำหญ้าแห้งที่เขาพบยัดลงไปใต้ฟืนก่อนจะจุดไฟ ไม่นานนักเปลวเพลิงก็ลุกโหมขึ้นมา

ในป่าอันมืดมิดตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนนั่งอยู่รอบกองไฟขนาดเล็กในพื้นที่เล็กๆที่ไร้ซึ่งสิ่งใด

“ภารกิจเซอร์ไววัลครั้งนี้ค่อนข้างเงียบดีนะ จนถึงตอนนี้พวกเรายังไม่เจอกับมอนสเตอร์เลยซักตัว”

หญิงสาวที่นั่งอยู่บนกองหญ้าแห้งและกำลังผิงไฟเพื่ออบอุ่นร่างกายกล่าวขึ้นมา

โจวเฉินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของอีกฝ่ายเมื่อได้ยินคำกล่าวเขาก็หันหัวไปสำรวจบริเวณรอบๆก่อนจะมองขึ้นไปด้านบน

“ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรจริงๆนั่นแหละแต่ถ้าอิงจากรูปแบบของระบบแล้วมอนสเตอร์ควรจะปรากฏตัวในคืนนี้นี่แหละ”

ในป่าอันมืดมิดทำให้โจวเฉินรู้อย่างชัดเจนว่าสกิลมองเห็นในที่มืดของเขาทำงานอยู่รึเปล่า เขาสามารถมองเห็นออกไปได้ไกลกว่าจุดที่แสงไฟส่องถึง หลังจากตรวจสอบบริเวณรอบๆอยู่ซักพักเขากลับยังไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติ

“ถ้างั้นก็ให้พวกมันมาเถอะ ง้าวของฉันยังไม่ได้ดื่มเลือดเลย”

หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส เจ้าหล่อนปาดนิ้วเรียวยาวของตนไปบนปลายง้าวจนใบง้าวนั้นสะท้อนแสงแวววาวละเล่นแสงไฟ

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า คนทั้งสองที่นั่งผิงไฟอยู่ตลอดก็คอยเติมฟืนเข้าไปเรื่อยๆเพื่อไม่ให้ไฟมอดลง บรรยากาศตอนนี้ค่อนข้างเงียบสงัดทีเดียว

แต่ทันใดนั้นเสียงย่างเท้าแผ่วเบาก็ดังขึ้นทำลายความเงียบลง

“มีการเคลื่อนไหว”

หญิงสาวยืนขึ้นกระชับง้าวในมือแน่นและมองไปยังทิศทางที่มาของเสียง

โจวเฉินเองก็มองไปยังทิศทางนั้นในเวลาเดียวกัน แต่เขาไม่เหมือนกับหญิงสาวที่ขมวดคิ้วเพราะมองไม่เห็น ด้วยสกิลมองเห็นในที่มืดของเขาเขาจึงรู้ว่าผู้มาใหม่นั้นคือมนุษย์ที่ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ ดูจากลักษณะแล้วน่าจะเป็นชายหนุ่มกางเกงใน

ใช้เวลาไม่นานนักชายหนุ่มกางเกงในที่ตอนนี้ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ในที่สุดก็เดินมาจนถึงพวกเขา เมื่อมาถึงเขาก็ยกขวานในมือขึ้นมาป้องกันการโจมตีจากง้าวของหญิงสาวผมหางม้าเอาไว้

“หยุดก่อน! พวกเดียวกัน!”

หลังจากป้องกันการโจมตีของหญิงสาวได้แล้วเขาก็รีบเผยตัวออกมาทันที จากนั้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์สงบดีแล้วชายหนุ่มก็รีบย่อตัวลงหน้ากองไฟและเหยียดมือออกไปเพื่อคลายความหนาว

“เกือบจะแข็งตายอยู่แล้ว ดีนะที่เจอพวกนาย”

“เป็นนายนี่เอง...โชคของนายนี่ดีไม่เบาเหมือนกันนะ”

หญิงสาวลดง้าวลงเมื่อจดจำคนผู้นี้ได้

“ฝั่งเราน่าจะเป็นฝั่งเดียวที่มีไฟใช้”

หญิงสาวกล่าวออกมาอย่างภูมิใจ

ในเวลานี้โจวเฉินกำลังนั่งตรวจสอบชายหนุ่มกางเกงในอยู่อย่างเงียบๆ

‘หมอนี่ต้องเปลือยกายหนาวอยู่กลางป่าหนาวๆตั้งนานแต่กลับไม่มีบาดแผลจากการโดนความหนาวกัดเลยมีเพียงแค่รอยจ้ำแดงๆเท่านั้น ค่าสถานะร่างกายของเขาน่าจะสูงไม่เบา’

“ช่วยเอาของที่เจอวันนี้ออกมาแชร์หน่อยได้ไหม? ยกตัวอย่างเช่นพวกน้ำหรืออะไรทำนองนั้น”

โจวเฉินรู้สึกว่าอีกฝ่ายจำเป็นต้องมีอะไรมาแลกกับการได้ผิงไฟบ้างดังนั้นเขาจึงเอ่ยถามขึ้นมา

“น้ำหรอ? ยังไม่เจอเลยนี่สิ”

ชายหนุ่มส่ายหัวทันทีหลังจากได้ยินคำถามของโจวเฉิน

“อย่างเดียวที่ฉันเจอก็มีแค่ผลไม้นี่แหละ รสชาติมันโคตรจะแย่เลยแต่ก็พอจะฟื้นฟูระดับน้ำในร่างกายกับพลังงานได้อยู่บ้าง”

“ไหนขอดูหน่อยซิ”

หญิงสาวเกิดความสนใจขึ้นมาทันที

“ฉันกินไปหมดแล้ว...”

ชายหนุ่มกางแขนสื่อความหมายประมาณว่า ‘ช่วยไม่ได้นี่น่า’

“กินไปหมดแล้ว? นายไม่กลัวว่าพวกมันจะมีพิษบ้างหรือไง?”

โจวเฉินถามออกมาด้วยความสงสัย

“คงบอกได้แค่ว่าด้วยพรสวรรค์ของฉัน โอกาสที่ฉันจะโดนพิษจากอาหารเลยค่อนข้างต่ำมาก”

ชายหนุ่มยิ้มตอบ

“เข้าใจละ”

โจวเฉินพยักหน้ารับเบาๆแต่ก็คิดกับตัวเองว่า ‘ฟังจากคำพูดของหมอนี่แล้วอาจจะบอกว่าสิ่งที่หมอนี่กินได้คนอื่นอาจจะกินไม่ได้ก็ได้’

ในระหว่างที่กำลังคิดสะระตะอยู่นั้นสัมผัสอันเฉียบคมก็เขาก็พลันจับสัมผัสถึงอะไรบางอย่างได้จากทางด้านหลัง เขารีบกลิ้งหลบไปด้านข้างทันทีโดยไม่ลังเล

“มีอะไรหรอ?”

หญิงสาวผมหางม้ามองมาที่โจวเฉินด้วยแววตาประหลาดใจเมื่อเห็นว่าจู่ๆอีกฝ่ายก็กลิ้งไปบนพื้นเสียอย่างนั้น

“มีอะไรบางอย่างคิดจะโจมตีฉัน”

โจวเฉินยืนขึ้นและมองไปด้านหลัง

“ไม่จริงมั้ง?”

ชายหนุ่มกางเกงในเองก็มองตรวจสอบรอบๆเช่นเดียวกัน

“ฉันมองไม่เห็นว่าจะมีตัวอะไรเข้ามาเลยนะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด