ตอนที่แล้วตอนที่ 429 เส้าเต๋อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 431 อันตรายจากหนุ่มสมองกลวง

ตอนที่ 430 ทางเลือกของเยี่ยนหย่งเลี่ย


ภายในวังที่กว้างขวางและว่างเปล่า ดูเงียบวังเวง

บนราชบัลลังก์ เยี่ยนหย่งเลี่ยอยู่ในอาการมึนงงในช่วงไม่กี่วันนี้ ผมหงอกของเขาเพิ่มมากขึ้น รอยเหี่ยวย่นปรากฏอยู่ทั่วใบหน้า แม้แต่ในตาเขาก็ฝ้าฟาง

ดัฟฟ์ยืนอยู่ด้านข้างมองดูฝ่าบาทหัวใจของเขาขมขื่น นอกจากนักสู้พญาหมีเขาอ่อนแอที่สุดและเขาไม่เคยได้รับโอกาสให้ปกป้องฝ่าบาท  แต่นักสู้พญาหมีคนอื่นๆถูกฝ่าบาทส่งไปโจมตีกลุ่มดาวอันโดรเมดา มีแต่เขาที่อ่อนแอที่สุดเหลืออยู่เคียงข้างฝ่าบาท

เมื่อเห็นฝ่าบาทกับตัวเองแล้วดัฟฟ์มองดูเขาแก่ขึ้นในแต่ละวัน เพื่อประโยชน์ในการรักษาเสถียรภาพของพลังกลุ่มดาวหมีใหญ่ ฝ่าบาทยอมเผาผลาญพลังชีวิตของพระองค์ ใครจะคิดกันว่าชายชราที่นั่งอยู่บัลลังก์ก็คือบุรุษผู้นำกลุ่มดาวหมีใหญ่ขึ้นเทียบเท่าสิบกลุ่มดาวระนาบกลางเขาเป็นพญาหมีที่เหี้ยมหาญและมีชื่อเสียง

ดัฟฟ์นับถือฝ่าบาทและประทับอยู่ในดวงใจอย่างลึกซึ้ง

นิ้วของเยี่ยนหย่งเลี่ยวางอยู่ที่เท้าแขนขยับเล็กน้อยเหมือนกับว่าเขาถูกปลุกให้ตื่น “ดัฟฟ์ มีข่าวอะไรบ้างไหม?”

ดัฟฟ์เก็บความรู้สึกเจ็บปวดใจและตอบด้วยความเคารพ  “ถังเทียนและสหายอีกสองคนเข้ามาในกลุ่มดาวหมีใหญ่แล้วและวันนี้ พวกเขาจะพบกับท่านเส้าเต๋อ”

“โอว, งั้นข้าสามารถพักได้อย่างวางใจแล้ว”  เยี่ยนหย่งเลี่ยมีสีหน้าดูอบอุ่น “แม้ว่าอาเต๋อและข้าจะพบกันน้อยมากและไม่ค่อยติดต่อกัน  แต่เขาจะไม่นั่งมองดูเฉยๆ เป็นแน่”

ดัฟฟ์กล่าวทันที “ฝ่าบาทมีพระปรีชาญาณ  มีท่านเส้าเต๋อถังเทียนและคนของเขาจะไม่สามารถเดินหน้าได้”

“ไม่ง่ายนักหรอ” ใบหน้าชราของเยี่ยนหย่งเลี่ยดูเคร่งขรึมเล็กน้อย “ถังเทียนและคนของเขาจะสามารถมองเห็นโอกาสตรงนี้ได้และพวกเขาจะเคลื่อนไหวลงมือกับเราแน่นอน เราไม่มีที่ให้ถอย นั่นคือเหตุผล?”

ดัฟฟ์ตอบอย่างมั่นใจ “มีใต้เท้าหลายท่านคอยรับมือจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!”

“ข้าหวังว่าพวกเขาจะสามารถหยุดกองทัพหมาป่าไว้ได้”  เยี่ยนหย่งเลี่ยผงกศีรษะ “แต่จุดสำคัญของการรบในครั้งนี้ก็คือท่านถู  ก่อนหน้านี้พวกเขาสามารถยึดกลุ่มดาวนายพรานนั่นคือข้อได้เปรียบก่อนของเรา มีรายงานอะไรจากผู้บัญชาการไหม?”

“ท่านจอมพลนำกองทัพไปล้อมวังเจ้ากลุ่มดาวแล้ว  แต่การป้องกันของศัตรูแข็งแกร่ง  กองกำลังพญาหมียังไม่สามารถรุกคืบได้  สมาพันธ์ชาวยุทธทุ่มกำลังโจมตีด้วยพลังทุกอย่างที่พวกเขามีและทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียมาก และ..” หน้าของดัฟฟ์มีความกังวลใจ

สีหน้าของเยี่ยนหย่งเลี่ยเคร่งขรึม และถาม “และอะไร?”

ดัฟฟ์ได้แต่พูดความจริง “กลุ่มดาวนายพรานยังมีนักสู้ระดับเซียนอีกคนนามหลีตั้งเขาปรากฏตัวที่วังเจ้าดวงดาวและฆ่าคนฝ่ายเราไปหลายคน”

สิ่งที่ทำให้ดัฟฟ์ประหลาดใจก็คือฝ่าบาทของเขาไม่ประหลาดใจ  แต่กลับหัวเราะออกมาแทน

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดราชสีห์ก็อดเข้ามาพัวพันไม่ได้สินะ?” นัยน์ตาฝ้าฟางของเยี่ยนหย่งเลี่ยมีแววประหลาด  “สามารถทำให้ราชสีห์ลงมือได้นั่นเป็นสิ่งที่คาดหวังไว้อย่างแท้จริงหลีตั้งได้รับการสนับสนุนจากเลโอนเมื่อในอดีต และปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นคนโปรดอยู่”

เยี่ยนหย่งเลี่ยพึมพำกับตนเอง  “หลีตั้งเป็นคนตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม  เขาใช้ชีวิตตอบแทนความไว้วางใจนับว่าเป็นคนดีแท้จริง”

ทันใดนั้นเขาถาม“เหล่านักสู้ระลอกแรกเข้ากลุ่มดาวนายพรานไปนานเท่าใดแล้ว?”

“ตามที่พวกเขาเดินทางไปพรุ่งนี้เช้านักสู้ระลอกแรกจะสามารถเข้าสู่กลุ่มดาวนายพรานได้” ดัฟฟ์ตอบทันที “ประตูดวงดาวอยู่ภายใต้การควบคุมของสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่ที่ตั้งนั้นอยู่ห่างจากวังหลวงกลุ่มดาวนายพรานราวยี่สิบวัน”

“อาเจ๋ออยู่ที่ไหน?” เยี่ยนหย่งเลี่ยถามทันที

ดัฟฟ์รายงานทันที “องค์ชายเจ๋อตอนนี้กำลังเตรียมพร้อม”

เยี่ยนเจ๋อเป็นผู้สืบทอดลำดับที่สอง เทียบกับเยี่ยนถูแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องความใจสู้ หรือความแข็งแกร่ง เขายังอ่อนด้อยกมากจึงไม่เป็นที่โปรดปรานของเยี่ยนหย่งเลี่ย

เยี่ยนหย่งเลี่ยแค่นเสียง “ด้วยฝีมืออย่างเขา เขาจะทำอะไรได้”

ดัฟฟ์ไม่กล้าตอบ

เยี่ยนหย่งเลี่ยพูดทันที “พาอาเจ๋อตามนักสู้ชุดสุดท้ายไป และไปพบกับท่านถูที่กลุ่มดาวนายพราน

ดัฟฟ์ตื่นเต้นทันที “ฝ่าบาท!”

เพราะฝ่าบาทส่งใครบางคนออกไปตามลำพัง นั่นหมายความถึง...

“ลุกขึ้น” น้ำเสียงของเยี่ยนหย่งเลี่ยเย็น “พวกเจ้าอาจจะไม่มีโอกาสกลับมากลุ่มดาวหมีใหญ่ ถังเทียนเป็นคนที่ลึกซึ้งและจนถึงตอนนี้ข้ายังไม่สามารถเข้าใจได้เขาปล้นสมบัติดวงดาว กระดูกหมีเดียวดายได้อย่างไร เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว นี่เป็นความผิดพลาดประการเดียวที่เขาทำข้าคาดไม่ถึงเลยว่ากลุ่มดาวอันโดรเมดาจะมีสัตว์ร้ายซ่อนตัวอยู่”

“ไม่ว่าอาเต๋อสามารถจับเขาได้หรือไม่ก็ตามข้าชักจะไม่แน่ใจ” สายตาของเยี่ยนหย่งเลี่ยเหม่อมองไกลออกไปทันทีและพึมพำ  “ข้าไม่รู้ว่าถังเทียนแข็งแกร่งมากเพียงไหนบริวารของเขามีพลังมากเพียงไหน ดังนั้นถ้าพวกเขาตลบหลังข้า พวกเขาจะล้มเหลวได้อย่างไร?”

“ฝ่าบาท สถานการณ์จะไม่แย่ขนาดนั้น” ดัฟฟ์ปลอบโยนอย่างเจ็บปวด

เยี่ยนหย่งเลี่ยดูเหมือนกับคิด เขาไม่ได้ยินคำพูดนั้น  และยังคงพูดต่อไป  “สัตว์ร้ายย่อมจะทำร้ายผู้คน  ตอนนี้ข้ารู้ตัวแล้ว  เราประมาทคนอื่นมากเกินไป  แม้แต่ตำแหน่งที่ข้าอยู่ในก่อนนั้นก็ยังดูถูกพวกเขา  เจ้าไปและพาอาเจ๋อไปพบท่านถูมีแต่ท่านถูจึงจะสามารถโจมตีวังได้และจากนั้นกลุ่มดาวนายพรานจะตกอยู่ในเงื้อมมือของเรา  กลุ่มดาวนายพรานอยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ด้วยความสามารถของอาเจ๋อ พวกเขาจะไม่สามารถทนอยู่ได้ แต่สมาพันธ์ชาวยุทธจะไม่ยอมนั่งดูเฉยๆ แน่ พวกเขาจะต้องช่วยต่อไป และด้วยความสามารถของท่านถู พวกเขาจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้”

ยิ่งดัฟฟ์ได้ฟัง ก็ยิ่งไม่สบายใจ เขามีน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปแฝงด้วยความเศร้า “อย่างนั้นฝ่าบาททำไมไม่มากับเรา!  เราจะไปยังกลุ่มดาวนายพรานด้วยกันและกลับมา”

เยี่ยนหย่งเลี่ยนส่ายหน้า “ข้าจำเป็นต้องอยู่ในวังนี้และรักษาเสถียรภาพของพลังดวงดาว ไม่มีมันทุกคนจะพินาศ”

“ฝ่าบาท!”  ดัฟฟ์ร้องไห้

เยี่ยนหย่งเลี่ยหัวเราะ “เจ้าควรจะมีความสุขกับข้า ในฐานะผู้นำสามารถตายในวังตัวเอง วิธีการอย่างนั้นเทียบกับตายบนเตียง ข้าสงสัยว่าข้าแข็งแกร่งเพียงไหนถึงได้ตายอย่างนั้น”

เยี่ยนหย่งเลี่ยยืนขึ้นช้าๆ น้ำเสียงของเขาดังสนั่นขณะที่ผมของเขาลุกชัน “ข้าจำเป็นต้องแจ้งให้นักสู้ของกลุ่มดาวหมีใหญ่ของข้าทราบ แม้ว่าข้าจะไม่สามารถขอนักสู้ระดับเซียนคนอื่นมาช่วยพวกเขาได้  แต่ข้าเยี่ยนหย่งเลี่ยกษัตริย์ของพวกเขาจะขอต่อสู้เคียงข้างพวกเขาตลอดไป!  ร่วมตายกับพวกเขาตลอดไป!”

ศีรษะพญาหมีที่อยู่บนศีรษะเขาเปล่งแสงวาบรัศมีแพรวพราวทันทีเกิดลำแสงพุ่งขึ้นท้องฟ้าตรงขึ้นสู่สวรรค์

วังเจ้ากลุ่มดาวนายพราน

ถูชิงชะงักชั่วขณะ เงยหน้าขึ้นมองกลุ่มดาวหมีใหญ่ในอากาศเหนือหัวเขาเปล่งแสงวาบเป็นวงสีขาวเหมือนหิมะ  รังสีแสงฉายลงมาที่สมบัติของพวกเขา

คู่สงครามที่ร่วมรบพากันหยุดทั้งหมด

ทุกคนมองดูเหนือศีรษะของพวกเขาเหมือนกับจะเข้าใจความหมายนั่นคือการสันดาปของกลุ่มดาว หมายความว่าเจ้ากลุ่มดาวสมบัติชั้นเซียนสละจิตวิญญาณยุทธ และเริ่มเผาไหม้กลุ่มดาว

กลุ่มดาวหมีใหญ่จะเผาไหม้เป็นจุลภายในสามเดือน และภายในสามเดือนพลังของสมบัติของกลุ่มดาวหมีใหญ่จะเพิ่มขึ้นมากมาย

เจ้ากลุ่มดาวตายแล้ว

ถูชิงมองดูกลุ่มดาวหมีใหญ่ในท้องฟ้าด้วยท่าทีงุนงงน้ำตาเริ่มไหลพรากอย่างมิอาจระงับได้

ฝ่าบาท, พระองค์พยายามบอกเราว่าเราไม่มีทางถอยอีกแล้วใช่หรือไม่?

ฝ่าบาท, พระองค์พยายามจะบอกเราว่าพระองค์จะต่อสู้เคียงข้างพวกเราใช่หรือไม่?

ฝ่าบาท, พระองค์พยายามจะบอกพวกเราว่าพระองค์ต้องการชนะให้ได้แม้ต้องสละชีวิตของพระองค์ใช่หรือไม่?

ถูชิงปาดน้ำตาและชูกรงเล็บหมีปีศาจในมือ   สายตาของเขามีความมุ่งมั่นขึ้น

ฝ่าบาท, ชัยชนะจะเป็นของพระองค์!

ถูชิงตวาดลั่น “ฆ่า!”

“ฆ่า!”

กองทัพพญาหมีตะโกนพร้อมเพรียงกัน

วังเจ้ากลุ่มดาวนายพรานล่มสลายในวันนั้น

ฝ่ามือของอาเฮ่อร้อนขึ้น เขาพร้อมกับกระบี่กระเรียนปลิวออกไปราวยี่สิบเมตรก่อนจะยืนได้มั่นคงอาเฮ่อลอบประหลาดใจ เส้าเต๋อยังไม่ได้ชักดาบของเขาเองแต่ก็สร้างสถานการณ์ที่ยากลำบากให้กับเขา

เส้าเต๋อก็ประหลาดใจ “ข่าวลือว่าแม้องค์ชายอาเฮ่อไม่ได้เรียนวิชาจากราชินี แต่วิชาของสำนักกระเรียนของเจ้ามีความสำเร็จอย่างลึกซึ้ง  ได้เห็นประจักษ์วันนี้นับว่าสมคำร่ำลือจริงๆ”

เขาลอบประหลาดใจและไม่ได้เสแสร้ง ดาบที่เขาปล่อยออกไปก่อนหน้านั้นแฝงเจตนาฆ่าและเขาไม่มีความปราณีแต่อย่างใด เขาคาดไม่ถึงว่าอาเฮ่อจะเข้ามาลงมือจริงๆซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ  เมื่อบรรลุถึงระดับอย่างเขาจะมีดาบหรือไม่ก็ไม่มีความแตกต่างกัน

สำหรับอาเฮ่อสามารถรับพลังโจมตีได้ก็หมายความว่าเขาไม่อ่อนแอแม้แต่น้อย

“ท่านเส้ายกยอข้าเกินไป” อาเฮ่อไม่ถ่อมตัวหรือยกตนข่ม

เส้าเต๋อกวาดตามองดูคนทั้งสามและพบว่าเริ่มชอบคนพวกนี้อยู่ในใจ เขากล่าว “ถ้าพวกเจ้าทั้งสามคนยินดีมาร่วมเราผู้เฒ่านั่งสนทนากันที่นี่สักหนึ่งเดือน  เราผู้เฒ่าเต็มใจจะให้คำสอนแนะนำ  แม้ว่าจะเป็นเรื่องตื้นๆแต่ข้าว่าจะเป็นประโยชน์ต่อน้องชายทั้งสาม”

อาเฮ่อส่ายศีรษะ “ขอบคุณท่านเส้า  ข้าวาสนาน้อยไม่สามารถรับน้ำใจเช่นนี้ได้”

หน้าเส้าเต๋อเขียวคล้ำ “เราผู้เฒ่าแค่หาเรื่องสนุกกับพวกเจ้าทุกคน ไม่ต้องการจะให้พวกเจ้าตายกันหมด”

จากนั้นมีลำแสงฉายขึ้นไปในท้องฟ้าทันที  หน้าของเส้าเต๋อตกตะลึงทันที ขณะที่เขาหันมามอง

“เราทุกคนล้วนแก่มากแล้วและยังคงมีความทะเยอทะยานมากยอมกระทั่งทอดทิ้งชีวิต” เส้าเต๋อถอนหายใจ  “ข้าไม่เคยคิดว่าข้าออกมาแล้วก็ยังไม่สามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะเอาสมองของเด็กพวกนี้เซ่นวิญญาณเจ้า”

สายตาของเส้าเต๋อเปลี่ยนเฉยชา  “พวกเจ้าทั้งสามคนบุกเข้ามาพร้อมกันได้เลย”

“เดี๋ยวก่อน!”  ถังเทียนกระโดดเข้ามาทันที  เขาถูหมัดกับฝ่ามือ “เฮ้,  พวกเจ้าสองคนผ่านไปแล้ว  ข้ายังไม่ลองฝีมือกับเขาเลย”

เส้าเต๋ออารมณ์ไม่ดี เขามองดูถังเทียน สายตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีอำมหิตคิดจะฆ่า

ถังเทียนไม่สนใจแม้แต่น้อย นัยน์ตาเขาเต็มไปด้วยความลุ่มหลงท้าทายขณะที่เขามองดูเส้าเต๋อ

นักสู้ระดับเซียน เขาคือนักสู้ระดับเซียนนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ท้าทายนักสู้ระดับเซียนหรือนี่?  ตื่นเต้นมาก

“ข้ามาแล้ว!”

ถังเทียนตะโกน เท้าของเขาระเบิดพลังออกทันที เขาพุ่งเข้าหาเส้าเต๋อ

เส้าเต๋อหรี่ตาพลังที่ระเบิดออกมาของถังเทียนเป็นท่าเท้าพื้นฐาน แต่ความเร็วนั้นสุดยอด  ไม่,ความเร็วนั่นเกินกว่าท่าเท้าพื้นฐานแน่นอน

วิ่งมาได้ครึ่งทาง ถังเทียนรวบรวมพลังได้พอและยิงหมัดออกไป

เส้าเต๋อหรี่ตาอีกครั้ง วิชาหมัดพื้นฐาน

หมัดของถังเทียนปรากฏในสายตาเขา เต็มไปด้วยช่องว่าง แต่...

ร่างของเส้าเต๋อถอย นับเป็นครั้งแรกที่เส้าเต๋อถอย

ปัง!

ระลอกอากาศระเบิดข้างหน้าของเส้าเต๋อ  เส้าเต๋อรีบตัดสินใจทันที

หมัดรวดเร็วขนาดนั้น หนักหน่วงขนาดนั้นเชียว

ขณะเดียวกัน เขาหรี่ตาอีกครั้ง ร่างของเขาถอยอีกครั้ง

ปัง ปัง ปัง!

ระลอกอากาศกดดันใส่เขาเป็นชุดทั้งหมดระเบิดออกมาอย่างเข้มข้นเหมือนเป็นเสียงเดียวกัน

ถี่และไวมาก

หัวใจของเส้าเต๋อแข็งยะเยือก  วิชาหมัดพื้นฐาน ภายใต้ความถี่สูงขนาดนั้นทำให้เขาต้องถอยครั้งแล้วครั้งเล่า

กระแสอากาศที่แหลมคมกวาดผ่านหน้าของเส้าเต๋อ

ทันใดนั้น สายตาของเส้าเต๋อเคร่งเครียด

เส้นผมที่หน้าผากของเขาขาดเป็นสองส่วน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด