ตอนที่แล้วตอนที่ 13-19 วิชาเร้นลับขั้นสูงและต่ำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13-21 สี่เทพรวมพลัง

ตอนที่ 13-20 เทพชั้นสูงไร้เทียมทาน


“อาจจะเอาชนะได้น่ะหรือ?”  ลินลี่ย์ปั่นป่วนใจ

หลังจากพูดแล้วเบรุตนั่งอยู่กับที่มองดูลินลี่ย์พร้อมกับมีรอยยิ้ม เมื่อลินลี่ย์สังเกตถึงสีหน้าอารมณ์ของเบรุต  ลินลี่ย์ก็เข้าใจได้ทันที  เขาหัวเราะเยาะตนเอง  “ท่านลอร์ดเบรุตท่านพยายามจะบอกข้าว่าข้าควรจะหลีกเลี่ยงการสู้กับเทพที่มีระดับที่สูงกว่าข้าใช่ไหม?”

เบรุตลูบเคราเริ่มหัวเราะ“ถูกแล้ว”

ลินลี่ย์ค่อยรู้สึกโล่งใจ

เขาคือระดับเทียมเทพผู้โดดเด่นหรือ?  ลินลี่ย์ไม่รู้สึกมั่นใจที่จะพูดอย่างนั้น

คู่ต่อสู้ของเขาคือเทพแท้ที่อ่อนแอ?  นั่นก็ยากจะระบุได้

ดังนั้นแม้ว่าในทฤษฎีระดับเทียมเทพจะสามารถฆ่าเทพแท้ได้ แต่ในความเป็นจริงโอกาสสำเร็จต่ำมาก เว้นแต่ว่าเทพแท้จะบาดเจ็บหนักและในช่วงพริบตาที่จะตาย เทพแท้ที่อยู่ในสถานการณ์ปกติจะไม่มีทางพ่ายแพ้เทียมเทพ

เบรุตลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตูห้องหนังสือ

“แอ๊ดดด!”  ประตูห้องหนังสือเปิดออกเอง  ทำให้ลมราตรีพัดเข้ามาชุดยาวดำของเบรุตโบกสะบัด

เบรุตลังเลเล็กน้อยจากนั้นหันมามองลินลี่ย์  “ลินลี่ย์,มีบางเรื่องที่เดิมทีข้าตั้งใจจะบอกเจ้าหลังจากที่เจ้าแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้  อย่างไรก็ตามเป็นการยากจะบอกได้ว่าเจ้ากับบีบียังจะรั้งอยู่ในทวีปยูลานในอนาคตหรือไม่  ดังนั้นข้าจะบอกเจ้าในวันนี้ไปเลย  แม้ว่านี่อาจจะทำให้เจ้าท้อแท้อยู่บ้าง  แต่อย่างน้อย เจ้าได้ไม่เดินผิดเส้นทาง”

ลินลี่ย์ยืนขึ้นทันที

ท้อใจ?ดำเนินผิดทาง? เขาไม่เคยกลัวความยากในการฝึกฝน ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้เขาเคยกลัวความท้อแท้เมื่อใดกัน?

“ท่านเบรุต!  เชิญกล่าว” ลินลี่ย์พูดด้วยความเคารพ

เบรุตยิ้มและพยักหน้า  “เจ้าควรจะรู้ข้อกำหนดในการได้เป็นเทพชั้นสูง”

“ขอรับ, รู้แจ้งกฎความรู้ลึกล้ำทั้งหมด”  ลินลี่ย์พยักหน้าขณะตอบรับ

เบรุตถอนหายใจ  “ถูกแล้ว!  เมื่อเจ้ารู้แจ้งความรู้ลึกลับทั้งหมดเจ้าจะกลายเป็นเทพชั้นสูง ในแต่ละกฎธาตุเป็นกฎธาตุที่สมบูรณ์แบบอย่างเช่นความรู้วิชาลึกลับเรื่องความเร็วและความช้าที่ผสานกันเป็นหนึ่ง  ถ้าหนึ่งในกฎธาตุมีอยู่เก้าประเภท,อย่างนั้น...”

ตาของเบรุตเริ่มฉายเป็นประกายขณะจ้องมองลินลี่ย์  “และสองของเก้าความรู้วิชาลึกลับสามารถผสานกันเป็นหนึ่งได้สามความรู้ลึกลับผสานกันเป็นหนึ่งได้ และในความจริงเก้าวิชาความรู้ลึกลับทั้งหมดก็สามารถผสานกันเป็นหนึ่งได้!”

ลินลี่ย์ตกใจอย่างหนัก

ทั้งหมดนี้สามารถหลอมรวมได้หรือ?

“มันเป็นการยากมากที่จะมีผู้ได้รับความรู้แจ้งสายความรู้ลึกลับทั้งเก้าอย่าง  การหลอมรวมแค่สองหรือสามให้เป็นหนึ่งยิ่งเป็นเรื่องยากกว่า”

เบรุตถอนหายใจ  “ลินลี่ย์เส้นทางการฝึกที่แท้จริงไม่จำเป็นจะต้องยิ่งมากก็ยิ่งดี  เมื่อได้รับการรู้แจ้งใจกฎธรรมชาติ  มันจะหลอมรวมกับวิชาลึกลับได้ดีขึ้น  ตัวอย่างเช่น ความรู้ลึกลับด้าน ‘เร็ว’และ ‘ช้า’ ยังเป็นความรู้ลึกลับในระดับต่ำแต่เมื่อทั้งสองหลอมรวมเป็น ‘สัจธรรมแห่งความเร็ว’ มันเปรียบได้กับความรู้ระดับสูง ถ้าเจ้าสามารถหลอมรวมความรู้ลึกลับระดับต่ำให้เป็นหนึ่งได้  พลังก็จะเหนือกว่าความรู้ลึกลับระดับสูงมากมาย”

ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย

“ถ้าเจ้าสามารถหลอมรวมความรู้ลึกลับทั้งเก้าให้เป็นหนึ่งเดียวได้ นั่นเจ้าจะต้องมีความเข้าใจในกฎธาตุอย่างแท้จริง! นั่นคือระดับสูงสุดในการบรรลุเป้าหมายของเทพชั้นสูง”  เมื่อพูดอย่างนี้แล้วทัศนคติของเบรุตก็แตกต่างออกไป

ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจไม่หยุดหย่อน

ได้รับการรู้แจ้งในความรู้ลึกลับเก้าอย่างและกลายเป็นเทพชั้นสูง?ความสำเร็จนั้นเหนือจากจุดสูงสุดที่แท้จริง หลอมรวมความรู้ลึกลับทั้งเก้าแบบเข้าด้วยกันหมด นั่นจึงคือสุดยอดที่แท้จริง

“ความรู้ลึกลับทั้งเก้าอย่างทำให้เป็นหนึ่งเดียว?”  ลินลี่ย์อดเปล่งเสียงแผ่วเบาไม่ได้  “ท่านลอร์ดเบรุตมียอดฝีมือระดับนี้กี่คนในพิภพจักรวาล?”

“กี่คน?”

เบรุตหัวเราะขณะมองดูลินลี่ย์

“ในบรรดาเทพสิบล้านล้านจะมีเพียงหนึ่งเดียวที่กลายเป็นเทพชั้นสูง!  แต่เทพชั้นสูงผู้เทียมทานสามารถหลอมรวมความรู้ลึกลับในกฎธาตุธรรมชาติให้เป็นหนึ่ง...แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่ามีเทพชั้นสูงเท่าใดเกิดขึ้นมาในแต่ละพิภพเช่นนั้น”  เป็นเรื่องยากที่เบรุตจะพูดออกมา  “ทั้งหมดที่ข้าสามารถบอกเจ้าได้ก็คือในอนันตจักรวาลจำนวนยอดฝีมือที่มาถึงระดับนี้ได้สามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว!”

“นับด้วยมือข้างเดียว?”

ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน

จักรวาลคงอยู่มาเป็นเวลายาวนานมากส่งผลให้จำนวนเทพในแต่ละพิภพสร้างเทพขึ้นมาเป็นจำนวนที่น่าทึ่ง ในพิภพใหญ่น้อยนับไม่ถ้วนและโดยเฉพาะพิภพระดับสูงเป็นเรื่องยากจะคำนวณได้ว่ามีเทพอยู่เท่าใด แต่แม้ในพิภพระดับสูง จำนวนของเทพชั้นสูงสุดยอดก็ยังสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว

“ลอร์ดเบรุตภายในพิภพจองจำเกบาโดสมียอดฝีมือที่หลอมรวมกฎวิชาลึกลับได้ทั้งหมดบ้างไหม?”  ลินลี่ย์พูดด้วยความสงสัย  “ข้าได้ยินมาว่ามีราชันย์ผู้ทรงพลังถึงห้าคน”

เบรุตแค่นเสียง“ไม่มี, ไม่มีอย่างแน่นอน! อย่าว่าแต่ห้าราชันย์แห่งพิภพจองจำเกบาโดสแค่หลอมรวมกฎความรู้ลึกลับได้เพียงไม่กี่แบบเท่านั้น  จะหลอมรวมกฎธาตุและกลายเป็นสุดยอดเทพได้น่ะหรือ?  ใครๆก็ประเมินได้ว่าโอกาสที่พิภพนั้นจะสร้างเทพชั้นสูงขึ้นมาได้นั้นยากเย็นเพียงไหน?”

“ลอร์ดเบรุต,ท่านมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ?” ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ

ห้าราชันย์ยังไม่ถึงแม้แต่ระดับที่สมบูรณ์  ลินลี่ย์ไม่ประหลาดใจเรื่องนั้นสิ่งที่เขาประหลาดใจก็คือเบรุตมั่นใจถึงขนาดนั้น หรือว่าเบรุตสามารถตรวจสอบความแข็งแกร่งของผู้อื่นได้?

“แน่นอน ข้ามั่นใจ”  เบรุตพยักหน้าและหัวเราะ  “ทั้งนี้เป็นเพราะ  เมื่อเทพชั้นสูงสามารถหลอมรวมความรู้ลึกลับในกฎธาตุธรรมชาติปรากฏตัวขึ้นแม้แต่มหาเทพ..ก็ยังทะเลาะกันเพื่อให้ได้โอกาสคว้าตัวอัจฉริยะนั้นไปทำงานให้พวกเขา”  เบรุตถอนหายใจชื่นชม

“ที่สำคัญ มีแต่คนอย่างนั้นจึงจะคุมเทพอยู่ได้...เพราะพวกเขาเป็นเทพชั้นสูงสุดยอดที่แท้จริง!  ยอดฝีมืออย่างพวกเขาต่อให้มีเทพชั้นสูงเป็นร้อยหรือเป็นพันมาสู้กับเขาพวกเทพชั้นสูงเหล่านั้นมีแต่จะตายกันหมด”

หัวใจลินลี่ย์สั่นสะท้าน

ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของเทพชั้นสูง  นับว่าเป็นเทพไร้เทียมทาน

“มหาเทพถึงกับเชิญตัวเชียวหรือ?”  ลินลี่ย์พูดด้วยความประหลาดใจ  “ทำไมมหาเทพต้องเชิญตัวพวกเขาด้วยเล่า?  เป็นไปได้ไหมว่าพลังของพวกเขาอาจคุกคามแม้แต่มหาเทพได้?”

เบรุตหัวเราะ  “ลินลี่ย์!  เจ้าไม่เข้าใจ มหาเทพทรงพลังจริงแท้แน่นอน เหนือกว่าเทพชั้นสูงในแง่พลัง  อย่างไรก็ตาม...ลินลี่ย์, เจ้าต้องเข้าใจไว้  ในอนันตจักรวาล พิภพดินแดนที่กว้างขวางมากมายส่วนใหญ่เป็นพิภพหยาบจับต้องได้ ตัวอย่างเช่นทวีปยูลานของเรา ก็ถือว่าเป็นพิภพธาตุหยาบ

ลินลี่ย์พยักหน้า

พิภพธาตุหยาบเป็นรากฐานของจักรวาล

“กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือมหาเทพไม่สามารถเข้าไปในพิภพธาตุหยาบได้ มหาเทพมีพลังเทพมากมายมหาศาล เพียงพอจะทำให้พิภพธาตุหยาบล่มสลายได้!”  เบรุตพูดจริงจัง

ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน  มหาเทพทรงพลังอำนาจมากมายเกินไปแน่นอน

“ลินลี่ย์,พิภพธาตุหยาบถูกสร้างขึ้นโดยกฎธรรมชาติของจักรวาล พิภพเหล่านี้ไม่ได้รับอนุญาตให้มีการทำลาย”  เบรุตพูดเคร่งขรึม  “สี่จอมเทพออกคำสั่งอย่างเข้มงวด ถ้าอะไรก็ตามเป็นเหตุให้พิภพธาตุหยาบต้องล่มสลาย  อย่างนั้นผู้นั้นต้องมีความผิดต่อให้เป็นมหาเทพก็ตามจะต้องโทษเหลือแต่เถ้าถ่าน!”

ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจ

“ดังนั้นมหาเทพไม่กล้าเข้าพิภพธาตุหยาบและพวกเขาไม่สามารถเข้าพิภพธาตุหยาบด้วยเช่นกัน!”  เบรุตกล่าว

ลินลี่ย์พยักหน้า

“ดังนั้น...เทพชั้นสูงผู้ผสานความรู้ลึกลับในกฎธาตุได้ทั้งหมดก็ต้องบอกว่าไร้เทียมทานกว่าเทพทั้งหมดรองลงมาจากระดับมหาเทพ!  ถ้าพวกเขาหนีมายังพิภพธาตุหยาบแม้แต่มหาเทพก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ถ้ามหาเทพรับพวกเขาให้ทำงานให้ก็จะทำให้เกิดความสำเร็จในเรื่องต่างๆกับมหาเทพ สิ่งที่มหาเทพไม่สามารถทำได้”

ลินลี่ย์พยักหน้าและเริ่มจะเข้าใจ

เทพชั้นสูงสามารถเข้าพิภพธาตุหยาบ  แต่มหาเทพทำไม่ได้!

“แต่แน่นอนว่า นั่นเกินระดับของเจ้าไปมาก”  เบรุตหัวเราะ

ลินลี่ย์ก็หัวเราะด้วยเช่นกัน

“ข้าบอกเจ้าเพราะข้าหวังกับตัวเจ้ามาก ลินลี่ย์,เมื่อจะฝึกควรจะเริ่มทำความรู้สึกคล้ายคลึงและหลอมรวมความรู้ซึ้งลึกลับทั้งสองให้ได้  หลังจากหลอมรวมความรู้สองอย่างได้ก็จงหลอมรวมความรู้ที่สาม แค่เพียงฝึกไปตามทำนองนั้นเจ้าจึงจะมีความหวัง  นอกจากนี้ ถ้าเจ้าสำเร็จได้รับการรู้แจ้งสัจธรรมลึกลับในธาตุหมดแล้ว อย่างนั้นเจ้าลองผสานสัจธรรมความรู้ลึกลับทั้งเก้าแบบให้เป็นหนึ่งพร้อมกัน  ตอนนั้นจะยากมากเกินไป”  เบรุตพูดจริงจัง

จะต้มกบทั้งเป็นทั้งหมดที่เจ้าต้องทำก็คือค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิ

ลินลี่ย์พยักหน้า  ถอนหายใจชื่นชม “แค่ความรู้ด้าน ‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ หลอมรวมกันก็กลายเป็นสัจธรรมแห่งความเร็วไปได้ จำเป็นต้องให้เราสามารถรู้สึกได้ว่ามีความคุ้นเคยอยู่ก่อน เป็นเรื่องยากมากที่จะหลอมรวมความรู้ลึกลับทั้งสองรูปแบบ การหลอมรวมความรู้ลึกลับสามหรือสี่ชนิด...”  ใจของลินลี่ย์เพียงคิดอยู่เท่านั้น

หลอมรวมความรู้ลึกลับทั้งหมดในกฎธาตุ?

แน่นอนว่านี่ยากเย็นกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก

“พวกอัจฉริยะอย่างนี้ก็เป็นที่ต้องการของมหาเทพ”  เบรุตถอนหายใจ “เพียงแต่อัจฉริยะแบบนี้หาได้ยากมาก ขณะที่มหาเทพมีอยู่ถึงเจ็ดในทุกสายธาตุ ก็คือมีถึง 49 ในเจ็ดกฎสายธาตุ  เพื่อจะได้สุดยอดเทพชั้นสูงมารับใช้พวกเขาถึงกับต่อสู้กันเองด้วยซ้ำ”

เบรุตเองก็อยู่ในฐานะทูตของมหาเทพย่อมรู้ความลับหลายอย่างเป็นธรรมดา

ลินลี่ย์จ้องมองพูดไม่ออก

แม้แต่มหาเทพก็ยังต่อสู้กันเองเพื่อให้ได้อัจฉริยะอย่างนั้น

“ถ้ามีเทพสามารถบรรลุถึงระดับนั้น พวกเขาก็คงรู้สึกภูมิใจในตัวเองอย่างแท้จริง”  ลินลี่ย์รู้สึกอิจฉายอดฝีมือเหล่านั้นขอเพียงพวกเขาเป็นสุดยอดในสุดยอดฝีมือ

“การเริ่มต้นด้วยการรู้สึกถึงการหลอมรวมตั้งแต่แรก เพียงแค่นั้นอนาคตของเจ้าก็มีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว”  เบรุตหัวเราะปลงตัวเอง “ตัวอย่างเช่นข้าเองในอดีต ข้าไม่รู้เรื่องเหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไปจนข้าถึงชั้นเทพระดับสูงและต้องการจะหลอมรวมความรู้เหล่านั้นก็สายเกินไปเสียแล้ว การหลอมรวมความรู้แจ้งลึกลับของกฎธรรมชาติให้เป็นหนึ่งพร้อมกัน?  เป็นเรื่องที่ยากเกินไป”

ลินลี่ย์อดรู้สึกขอบคุณเบรุตไม่ได้

แม้ว่าเบรุตจะเพียงแต่ให้คำแนะนำเขาเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่สำหรับเขานี่คือเป้าหมายใหม่ในเส้นทางใหม่สำหรับเขา

ทางสองแพร่งถ้าใครหลงเดินผิดทางตั้งแต่แรก ในที่สุดความแตกต่างระหว่างทางทั้งสองจะมากมายยิ่งขึ้น

มีแนวโน้มว่าหลังจากถึงระดับเทพชั้นสูง เขาอาจกลายเป็นเหมือนเบรุต ไม่สามารถหลอมรวมอะไรได้เลย

“พอเท่านี้แหละ ข้าจะกลับเดี๋ยวนี้แล้ว  เส้นทางในอนาคตของเจ้าเจ้าจะต้องเดินด้วยตัวเอง”  เบรุตหัวเราะ

“ขอบคุณ, ลอร์ดเบรุต”  ลินลี่ย์คำนับอย่างซาบซึ้ง

เมื่อเห็นเบรุตจากไปใจของลินลี่ย์เริ่มมีไฟลุกโชน ก็เหมือนวิธีที่เมื่อตอนเขาอายุยังน้อยเทพสงครามเป็นบุรุษสุดยอดไร้เทียมทานในใจของลินลี่ย์  แต่ตอนนี้... ความสุดยอดในใจของลินลี่ย์กลายเป็นเทพชั้นสูงสุดยอดที่ไร้เทียมทานผู้สามารถหลอมรวมความรู้แจ้งลึกลับในกฎธาตุให้เป็นหนึ่งได้!

นี่คือเป้าหมายใหม่ของลินลี่ย์!

เวลาผ่านไปอย่างสงบและรวดเร็ว  ในพริบตาก็ถึงปียูลานที่ 10046

ปีนี้เป็นปีที่เติมเต็มความหวังสำหรับลินลี่ย์  การมีเป้าหมายใหม่ เขาเริ่มฝึกฝนจริงจัง ทั่วทั้งปราสาทเลือดมังกรอยู่ในสภาพมีพลังงานคงที่ เต็มไปด้วยเทพต่างๆมารวมตัวอยู่ด้วยกัน ลอร์ดเบรุตกลับไปที่ไพรทมิฬนานแล้ว

แฮรี่พี่คนโตของสามพี่น้องจ้าวมุสิกม่วงทองกลับไปไพรทมิฬเช่นกัน  สำหรับฮาร์ทกับฮาร์วีย์รั้งอยู่ในปราสาทเลือดมังกร

ตามสิ่งที่ฮาร์ทและฮาร์วี่ย์พูด  พวกเขาชอบสถานที่ครึกครื้นมีชีวิตชีวาดังนั้นลินลี่ย์ต้อนรับสองพี่น้องอย่างอบอุ่น

ท้ายฤดูใบไม้ร่วงศักราชยูลานที่ 10046

วังหลวงของจักรวรรดิโอเบรียนมีพื้นที่กว้างขวาง  นอกจากวังของแอดกินส์แล้ว  สี่เทพบริวารของเขาก็มีพื้นที่อยู่ในวังหลวงด้วย  แต่แน่นอนว่าโอจวินและเทพคนอื่นก็มีพื้นที่อยู่ของตนเองด้วยเช่นกัน

เทพแท้หมายเลขหนึ่งที่รับคำสั่งของแอดกินส์ก็คือบาร์นาสมีพลังแข็งแกร่งที่สุดและได้รับความไว้วางใจมากที่สุด

ภายในวังหลวงที่พักของบาร์นาส บาร์นาสในตอนนี้กำลังวาดภาพบนแผ่นกระดาษยาว  ขณะที่โอจวินฮันบริทและบุรุษหนุ่มผมทองยืนอยู่ข้างเขามีสีหน้าอ่อนโยน

ที่สำคัญบาร์นาสแข็งแกร่งทรงพลังมาก และบาร์นาสมีสมบัติเทพระดับสูง! แอดกินส์มอบให้บาร์นาสเป็นการส่วนตัวมีแนวโน้มว่าแม้เมื่อรวมพลังกันโอจวินและเทพแท้อีกสองคนก็ยังไม่สามารถเอาชนะบาร์นาสได้

“พูดไปสิ, มีอะไร?”  บาร์นาสยังคงวาดต่อไปโดยไม่เหลือบมองทั้งสองคนแม้แต่น้อย

ฮันบริทและโอจวินไม่กล้าส่งเสียง  แต่เป็นบุรุษผมทองกล่าวขึ้นแทน  “ท่านบาร์นาส,โอจวินรักลูกชายของเขาที่ถูกฆ่าตายไปมาก นอกจากนี้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของโอจวินยังถูกศัตรูทำลายเช่นกัน มันเป็นเรื่องยากที่โอจวินจะยอมรับความอัปยศเช่นนั้นได้  เพียงแต่เขาไม่ต้องการรบกวนลอร์ดแอดกินส์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยพูดกับลอร์ดแอดกินส์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไปเป็นเพื่อนกับพี่โอจวิน  วันพรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปกับเขาช่วยให้เขาได้ล้างแค้น”

“เกเทนบี...” บาร์นาสวางพู่กันของเขาลง และชำเลืองมองดูบุรุษหนุ่มผมทองและถอนหายใจ

ความจริงบาร์นาสให้ความสำคัญกับเกเทนบี  สำหรับฮันบริท เขาจะดูถูก เนื่องจากโอจวิน...บาร์นาสรู้สึกว่าโอจวินเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ ดังนั้นจึงไม่ชอบเขา

“โอจวิน” บาร์นาสมองโอจวิน

“ท่านบาร์นาส” ท่าทีของโอจวินนอบน้อมเพื่อให้เกเทนบีช่วย ระหว่างสองปีมานี้ เขาใช้ความพยายามไปมากในที่สุดเกเทนบีตอบตกลงจะช่วย

บาร์นาสหัวเราะอย่างใจเย็น  “ข้ารู้ดีถึงความตั้งใจของเจ้า  ถ้าพวกเจ้าทั้งสามคนยังจะแพ้เจ้าคงจะทำให้ลอร์ดแอดกินส์เสียหน้า เอาอย่างนี้ ข้าจะไปพร้อมกับพวกเจ้า เราจะขุดรากถอนโคนปราสาทเลือดมังกร”

โอจวินดีใจแทบคลั่งทันที

พลังของบาร์นาสยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียบได้ต่อให้โอจวินลิ้มรสพลังของทารอสมาแล้วเขาก็ยังรู้สึกแน่ใจว่าบาร์นาสไม่อ่อนแอกว่าทารอส ที่สำคัญบาร์นาสมีสมบัติเทพชั้นสูง

บาร์นาสพูดอย่างใจเย็น  “ข้าก็เหมือนกัน อยากจะทดสอบว่าเทพแท้ทารอสจะมีพลังมากมายเพียงไหน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด