ตอนที่แล้วตอนที่ 13-13 วัฏจักรพันปี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13-15 ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

ตอนที่ 13-14 ผนึกพลังสองผู้ยิ่งใหญ่


ภายในคฤหาสน์หลังหนึ่ง จักรวรรดิโอเบรียน

นี่คือสถานที่ซึ่งโอจวินใช้พักอาศัยอยู่  วันนี้โอจวินสั่งเตรียมงานจัดเลี้ยงที่น่าทึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อฮันบริทสหายเก่าของเขา โอจวินและฮันบริทนั่งหันหน้าเข้าหากันดื่มกินพูดคุยกัน

“โอจวิน, ข้ามีความรู้สึกว่าวันนี้  เจ้ามีบางอย่างค้างคาใจ พูดออกมาให้ชัดมีอะไรกันแน่?”

โอจวินหัวเราะเช่นกัน

“ข้าไม่เคยปิดบังเจ้าได้เลย  สหายเก่า” โอจวินถอนหายใจขณะพูด มีแววเศร้าโศกในดวงตาเขา  “ฮันบริท, เจ้าน่าจะรู้ว่าลูกชายของข้าตายไป  ข้าไม่เคยลืมเรื่องนี้เลย”

โอจวินหัวเราะขมขื่น “บอกตามตรง นี่คือเรื่องทรมานใจจนข้า ข้ากำลังจะเป็นบ้า”

ฮันบริทรู้ว่าโอจวินรักลูกของเขามากมายเพียงไหน

“นั่นก็ถูก ข้าไม่มีโอกาสได้ถามเจ้า คิงสลี่ย์ลูกชายของเจ้าตายได้ยังไง?” ฮันบริทถามอย่างสงสัย  “เขาตายในเงื้อมมือยอดฝีมือผู้บังคับให้เจ้าออกจากจักรวรรดิบาลุคหรือ?”

“ไม่”

โอจวินส่ายศีรษะ  “ถ้าเขาตายในมือของยอดฝีมือชื่อทารอส  ข้าคงอดกลั้นอารมณ์ของข้าได้  ที่สำคัญข้าเพียงอ่อนแอกว่าเขาเล็กน้อย ข้ายังสามารถทำให้ตัวเองอารมณ์สงบลงและฝึกฝนต่อไปจนกว่าสักวันเมื่อพลังของข้ายิ่งใหญ่กว่าทารอส  ข้าคงจะล้างแค้นแน่”

“แต่, คนที่ฆ่าลูกชายข้าคือระดับเทียมเทพ!”

“เทียมเทพ?”  ฮันบริทประหลาดใจมาก

โอจวินอดสบถไม่ได้และพยักหน้า  “ใช่แล้ว, ไม่มีอะไร แต่เป็นเทียมเทพมันจะทำให้ข้าเป็นบ้าจริงๆ แค่เทียมเทพที่ข้าสามารถฆ่าได้โดยพลิกฝ่ามือข้า  แต่ข้าไม่มีโอกาสฆ่าเขาในตอนนี้”

“โอจวินเจ้ากำลังบอกว่าเจ้าต้องการให้ข้า...”  ฮันบริทสามารถเดาได้ถึงสิ่งที่จะตามมา

โอจวินมองดูฮันบริทอย่างจริงใจ  “ฮันบริท เราเป็นสหายกันมานานแล้ว  ข้ามีความแค้นที่ลูกชายตาย  แต่ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมากกว่าข้าเล็กน้อย  ข้าคิดว่า .... ถ้าเจ้าช่วยข้าและถ้าสองเราร่วมกำลังกัน แม้ว่าเขาจะมีทารอสคอยปกป้อง  เราจะสามารถฆ่าโอลิเวอร์ได้ง่ายแน่นอน”

ฮันบริทอดลังเลไม่ได้

“ฝ่ายศัตรูมีเทพแท้อยู่เท่าใด?”  ฮันบริทถาม

“มีสอง คนหนึ่งก็คือทารอสผู้นั้น อีกคนหนึ่ง..ดูเหมือนจะเรียกว่าไดลินนี่แหละ  แต่ดูเหมือนจะเพิ่งเป็นเทพแท้ได้ไม่นาน  พลังของเขาต่ำกว่าเจ้าแน่นอน”  โอจวินอธิบาย

ฮันบริทพยักหน้าเล็กน้อย

แต่ฮันบริทมีความรู้สึกว่าเนื่องจากโอจวินอ่อนแอกว่าทารอส  ขณะที่ไดลินอ่อนแอกว่าตัวฮันบริทเอง  ทั้งสองฝ่าย... น่าจะมีพลังเสมอกัน

“เจ้าไม่สามารถขอบาร์นาสหรือเกเทนบีให้ช่วยหรือ?”  ฮันบริทเสนอ “ถ้าเจ้าสามารถพาพวกเขาคนใดคนหนึ่งไปด้วย ด้วยกำลังเราสามคนร่วมมือกันชัยชนะจะต้องมีอย่างแน่นอน และนั่นจะง่ายกว่ามาก”

เดิมทีแอดกินส์มีเทพแท้อยู่ใต้บัญชาอยู่สามคน  เขาเชื่อถือบาร์นาสมากที่สุดเกเทนบีผู้เงียบขรึม และฮันบริท ในแง่พลัง, ฮันบริทอ่อนแอที่สุด ขณะที่บาร์นาสและเกเทนบีมีพลังอย่างน่าประหลาด

“บาร์นาสจะมองข้าอย่างดูถูกแน่นอน”  โอจวินพูดอย่างโกรธเคือง  “ขณะที่เกเทนบี ใครๆก็รู้ว่าต้องใช้เวลาโน้มน้าวนานอย่างกะหีบไม้

ฮันบริทเข้าใจคนทั้งสองนี้ดี  เขาพยักหน้า

“ฮันบริท, ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ขอให้เจ้าไปสู้กับเจ้าทารอสนั่นจนตาย  วัตถุประสงค์ก็คือไปฆ่าเจ้าเทียมเทพอย่างโอลิเวอร์เอาอย่างนี้เป็นไง  เมื่อเราไปถึงที่นั่น ข้าจะใช้ร่างที่สองของข้าพัวพันไดลินกับทารอสไว้  ขณะที่หน้าที่ของเจ้าใช้เวลาสั้นๆฆ่าโอลิเวอร์ให้ได้  เจ้าจะว่ายังไง?”  โอจวินยื่นข้อเสนอ

ฮันบริทฟังข้อเสนอนี้แล้วรู้สึกว่าไม่มีความเสี่ยงมากอย่างแน่นอน

“โอจวิน, แม้ว่าเป้าหมายของเจ้าจะง่าย แต่ในความเป็นจริงการดำเนินการดังกล่าวยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี  เรื่องอย่างนี้..ข้ายังต้องพิจารณาว่าจะคุ้มกับข้าหรือไม่” ฮันบริทพูดถึงความตั้งใจ

โอจวินหัวเราะอย่างเยือกเย็นในใจ

เขาเข้าใจว่าถ้าเขาไม่จ่ายราคาออกไป  ฮันบริทจะไม่ช่วยแน่นอน

และแน่นอน

เมื่อเขาเอาสมบัติเทพดีๆ ออกมา ฮันบริทจึงตกลงยอมช่วย  โอจวินและฮันบริทตกลงกัน  คืนนั้นพวกเขามุ่งหน้าตรงไปที่ปราสาทเลือดมังกรเตรียมฆ่าโอลิเวอร์ทันที โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้

ปราสาทเลือดมังกร

อาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดกำลังคืบคลานเข้ามา

ลินลี่ย์ ไดลินและทารอสกำลังเดินเคียงไหล่ไปที่หอโถงใหญ่ ขณะเดียวกันก็พูดคุยถึงการฝึกของพวกเขาด้วย

“ลินลี่ย์,ข้าเชื่อว่าวิธีการฝึกของเจ้านั้นค่อนข้างผิดพลาด”  ไดลินพูดพลางขมวดคิ้ว

“ผิดพลาด?” ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ

นี่คือวิธีที่ลินลี่ย์ฝึกเพื่อเป้าหมายพัฒนา ‘ลำนำแห่งสายลม’

“ข้าสามารถบอกได้ว่าเจ้ากำลังไตร่ตรองหาวิธีใช้งานสัจธรรมลึกลับแห่งสำเนียงของกฎธาตุลมควบคู่กับกระบี่เลือดม่วงของเจ้า เพื่อที่ว่าจะทำให้พลังโจมตีทรงพลังรุนแรงขึ้นใช่ไหม?  ไดลินพูด และลินลี่ย์พยักหน้า

ไดลินพูดต่อ “โดยการกระทำอย่างนี้  เป็นเรื่องจริงที่ว่าเจ้าสามารถยกระดับพลังโจมตีได้ในช่วงเวลาสั้นๆแต่จากจุดยืนการฝึกอย่างนี้ เจ้ากำลังจะเสียเวลา”

“แต่โดยการกระทำเช่นนั้น เจ้าแค่เพียงเน้นจุดรองเจ้าให้ความสำคัญกับกระบี่เลือดม่วงและวัตถุประสงค์ของการทำความเข้าใจสัจธรรมลึกลับของสำเนียงก็คือใช้มันร่วมกับกระบี่เลือดม่วง  เมื่อเจ้าไม่มีกระบี่เลือดม่วง  เจ้าจะไม่สามารถใช้ความรู้แจ้งกับอาวุธอื่นๆได้  นั่นถือว่าไม่ดีเลย  นอกจากนี้ โดยการกระทำเช่นนี้จะเป็นเรื่องยากที่เจ้าจะเชี่ยวชาญและเข้าใจสัจธรรมลึกลับแห่งสำเนียงได้อย่างสมบูรณ์”  ไดลินพูดอย่างจริงจัง  “ข้าอยากให้เจ้าเริ่มต้นจากพื้นฐาน”

“การฝึกในกฎธาตุธรรมชาติ เราต้องเริ่มจากพื้นฐาน จากนั้นจึงค่อยเพิ่มระดับลึกซึ้งไปทีละก้าว  ด้วยวิธีนั้นไม่ว่าเจ้าจะใช้อาวุธอะไร เจ้าจะสามารถใช้พลังโจมตีของสัจธรรมลึกลับแห่งสำเนียงได้เต็มกำลัง”

ลินลี่ย์ตกใจ จากนั้นเขาหัวเราะ

“ลอร์ดไดลิน, ข้าเข้าใจแล้ว”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ  “เพียงแต่ในช่วงไม่นานมานี้มียอดฝีมือมากคนลงมายังพิภพยูลาน  ข้ารู้สึกมีแรงกดดันมหาศาล ซึ่งเป็นเหตุผลให้ข้าเริ่มฝึกวิธีเพิ่มพลังในระยะสั้นแบบนี้  ตอนนี้พวกท่านกลับมาแล้วข้าคงไม่ต้องพิจารณาและฝึกแบบนั้นต่อไปแล้ว”

“ดูเหมือนว่าข้าจำเป็นต้องเปลี่ยนและเริ่มจากพื้นฐานเพื่อให้ได้รู้แจ้งไปเป็นลำดับ

ลินลี่ย์พยักหน้า

“ดีแล้วที่เจ้าเข้าใจ”ไดลินหัวเราะเช่นกัน ขณะที่พวกเขาสนทนากัน พวกเขาเข้ามาถึงที่ทางเข้าโถงใหญ่

“เฮ้?”ลินลี่ย์ชำเลืองมองเข้าไปในห้องโถงใหญ่ “โอลิเวอร์ไม่อยู่ที่นี่ ลอร์ดไดลิน, ลอร์ดทารอสรออยู่ที่นี่ ข้าจะไปเรียกโอลิเวอร์ออกมาเอง คืนนี้เราจะประชุมพร้อมกัน”

ขณะที่ลินลี่ย์พูด เขาเข้าไปในสวนตะวันออกมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์สันโดษ

ท้องฟ้ามืดมิดร่างมนุษย์สองร่างพุ่งฝ่าอากาศอย่างเร่งรีบมุ่งสู่ปราสาทเลือดมังกร  เป็นโอจวินและฮันบริท  หัวใจของโอจวินเต็มไปด้วยความตั้งใจคิดจะฆ่า เขาต้องการฆ่าโอลิเวอร์ให้ได้ทันทีที่เขาไปถึงที่นั่นเขาไม่อาจระงับความตื่นเต้นได้

“ฮันบริท, ข้าอธิบายถึงลักษณะของโอลิเวอร์ให้เจ้าแล้ว  เมื่อเวลามาถึงเราจะใช้สัมผัสเทพเราครอบคลุมปราสาทเลือดมังกรทั้งหมด  ทันทีที่เราหาโอลิเวอร์พบ ท่านจะต้องโจมตีทันทีขณะที่ข้าจะบินไปกับท่านด้วย ในกรณีที่ทารอสขัดขวางเรา”  โอจวินพูดกับเขาด้วยสำนึกเทพ

ฮันบริทพยักหน้า ซ่อนรังสีฆ่าฟันในดวงตา  “ไม่ต้องกังวล เขาเป็นแค่ระดับเทียมเทพ ครั้งนี้ข้าจะใช้กำลังเต็มที่เข้าโจมตี ข้าจะฆ่าคนที่ชื่อโอลิเวอร์ได้ทันทีแน่นอน”

“เรามาถึงปราสาทเลือดมังกรแล้ว แค่ไปต่อ” ลมหายใจของโอจวินเริ่มแน่นขึ้น

“ต่อไปนี้ เมื่อให้สัญญาณ เราจะขยายสัมผัสเทพพร้อมกันและบุกลงไปพร้อมกัน  เราต้องทำให้เร็ว” โอจวินกล่าว

ฮันบริทไม่ต่อล้อต่อเถียง

เขาต้องการฆ่าโอลิเวอร์ให้ได้แน่นอนในช่วงเวลาสั้นๆเท่าที่เป็นไปได้  ยิ่งใช้เวลาน้อยโอกาสที่พวกเขาต้องเผชิญกับทารอสก็น้อย

ภายในคฤหาสน์

โอลิเวอร์เพิ่งจะหยุดการฝึก

“ไปกันเถอะ ทุกคนกำลังรอเจ้า” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ

ทั้งสองเดินออกมาด้วยกันพลางสนทนา

“ข้าไม่รู้ว่าทำไม แต่เพราะเหตุผลบางประการ วันนี้ข้าไม่สบายใจเลย  แม้แต่เมื่อตอนข้าฝึกฝน  ข้าต้องใช้เวลามากกว่าเมื่อก่อนที่ข้าสามารถสงบใจได้และซึมซับกับการฝึกฝนของตนเอง”  โอลิเวอร์ขมวดคิ้วขณะถอนหายใจ  “ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมข้ารู้สึกกังวล”

ลินลี่ย์หัวเราะ “ไม่ต้องคิดวุ่นวายเกินไป ถ้าเจ้ากังวลจริงๆ อย่างนั้นก็แค่เข้าไปฝึกในห้องมิติก็ได้”

“ที่นั่นแออัดพอแล้ว ข้าไม่ต้องการจะเพิ่มเข้าไปอีก” โอลิเวอร์หัวเราะ

ทั้งสองคนเดินไปตามทางภายในสวนตะวันออก  ขณะนั้นเองสัมผัสเทพสองสายหุ้มปราสาทเลือดมังกรทั้งหมด นี่คือสำนึกของเทพแท้ ลินลี่ย์และโอลิเวอร์ไม่สามารถรู้สึกได้แม้แต่น้อย  และทั้งสองยังคงพูดคุยหัวเราะขณะคุยกันต่อไป

ในขณะเดียวกันสำนึกเทพกวาดออก

ร่างทั้งสองดิ่งลงมาจากท้องฟ้า  พุ่งหาเป้าหมายก็คือโอลิเวอร์ด้วยความเร็วสูง

“แย่แล้ว!!!”  ทารอสและไดลินทั้งสองเป็นเทพแท้  พวกเขารู้สึกได้ถึงสำนึกเทพของฝ่ายตรงข้ามพวกเขาขยายสำนึกเทพของตนเองบ้างและตระหนักได้ว่าจากกลางอากาศมีเทพแท้สองตนกำลังพุ่งตรงเข้าหาลินลี่ย์และโอลิเวอร์

เทพแท้สองตน!

ทารอสและไดลินรู้สึกตกใจหนักทั้งคู่

“ควั่บ!”  “ควั่บ!”

ทารอสและไดลินเร่งความเร็วจนถึงขีดสุดทั้งคู่รีบตรงไปหาลินลี่ย์และโอลิเวอร์ ขณะเดียวกันก็ใช้สัมผัสเทพติดต่อทั้งสอง“เร็วเข้า, รีบมาที่ห้องประชุมใหญ่ เร็วเข้า!!!  โอจวินกำลังไปหาพวกเจ้า!”  เสียงดังขึ้นในใจของลินลี่ย์และโอลิเวอร์

ลินลี่ย์และโอลิเวอร์รู้ได้อย่างรวดเร็ว  พุ่งไปที่ห้องประชุมใหญ่

อย่างไรก็ตาม...

โอจวินและฮันบริทอยู่ห่างไปในอากาศแค่พันเมตร  และพวกเขากำลังพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง  ปราสาทเลือดมังกรค่อนข้างใหญ่โตเช่นกัน  จากหอประชุมทางสวนตะวันออก ระยะห่างเกือบพันเมตร

“พวกเขามาฆ่าโอลิเวอร์” ขณะที่บินด้วยความเร็วสูง ลินลี่ย์สามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ในแง่ความเร็ว ลินลี่ย์เร็วกว่าโอลิเวอร์เล็กน้อย

“บึ้ม!”  ทันใดนั้น จากด้านหลังลินลี่ย์เสียงดังสนั่นแก้วหูแทบแตกดังขึ้นพลังคลื่นสั่นสะเทือนอย่างเดียวก็ทำให้พื้นดินใกล้ๆ ถล่มทลายและแม้แต่กำแพงที่อยู่ใกล้ก็แตกทำลายเป็นชิ้นๆ ทันทีโชคดีไม่มีหญิงรับใช้หรือคนธรรมดาอยู่ในเส้นทางนั้น

“โอลิเวอร์!”  ลินลี่ย์หันไปดู

เสียงคำรามที่น่ากลัวดังขึ้นและลินลี่ย์รู้สึกว่าทั่วทั้งโลกเริ่มสั่นสะเทือนเลือนราง

“ไดลิน....” ลินลี่ย์เห็นว่าไดลินอ้าปาก โอจวินและนักสู้อีกคนหนึ่งเริ่มร่วงลงหาเขา เพราะพลังสูบที่ทรงพลัง

“โอจวิน นี่น่ะหรือ เทพแท้ใหม่อ่อนแอที่เจ้าพูดถึง?”  ฮันบริทใช้สัมผัสเทพของเขาสบถใส่โอจวิน

“ข้าไม่รู้เรื่องเหมือนกัน!”  โอจวินก็ทรมานใจสั่นสะท้านเช่นกัน

เขาไม่เคยคาดคิดว่าไดลินจะน่ากลัวขนาดนี้  ขณะนั้นเมื่อทั้งสองพุ่งลงมา แผนของโอจวินก็คือ..แม้ว่าทารอสและไดลินจะมาช่วยป้องกันพวกเขา  เขาเองจะแยกร่างศักดิ์สิทธิ์และสู้พัวพันระยะสั้นๆ

แต่ขณะที่พวกเขาเตรียมจะฆ่าโอลิเวอร์พลังสูบกินที่น่ากลัวไม่ทราบว่าปรากฏออกมาจากที่ใด

แม้แต่ตัวเขาเองและฮันบริทก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังกลืนกินของไดลินได้

โอจวินแปลงเป็นสองร่าง ร่างแยกแสงศักดิ์สิทธิ์ และร่างแยกเพลิงศักดิ์สิทธิ์  ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองของโอจวินกับฮันบริททำให้มีเทพถึงสามตน พวกเขาผสานพลังกันจึงสามารถต้านทานพลังสูบกลืนของไดลินได้

“เขาสมกับเป็นอสูรกลืนฟ้าจริงๆ!”  ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจชมเชย

เทพอสูรนั้นทรงพลังอย่างมาก  ทันทีที่โตเต็มวัย  พวกเขาก็กลายเป็นเทียมเทพได้โดยธรรมชาติ  ใครๆก็สามารถนึกภาพได้ว่าพรสวรรค์ของพวกเขาแข้งแกร่งมากเพียงไหน

สำหรับเขากล้าเรียกตนเองเป็น ‘อสูรกลืนฟ้า’ ได้พลังสูบกินของไดลินมากกว่าลูกทั้งสามของเขาเป็นร้อยเท่า  และตอนนี้เขาเป็นระดับเทพแท้  พูดโดยทั่วไป เทพใดๆก็ตามที่ถูกเขากลืนจะต้องตายแน่นอน

“แต่ข้าได้พวกเขาช่วยชีวิตไว้อีกครั้ง” โอลิเวอร์มาอยู่ข้างลินลี่ย์ยังมีคงมีความรู้สึกหวาดผวา  ขณะเดียวกันเขามองดูไดลินด้วยความทึ่ง  “ลินลี่ย์,พลังของไดลินผู้นี้อาจจะน่ากลัวไปบ้าง นี่เป็นความสามารถแบบไหน? เป็นของสายธาตุใดกันแน่?”

ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง

นี่คือกฎธาตุชนิดใด? ใครเล่าจะรู้?

“บีบีเป็นเทพอสูรเช่นกัน สำหรับเขามีชื่อว่า ‘หนูกินเทพ’  อย่างนั้น..ความสามารถของเขาจะเป็นเช่นไร?” ลินลี่ย์รู้สึกสงสัย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด