ตอนที่แล้วตอนที่ 76 กลับบ้าน (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 78 ฉันเกลียดพวกอันธพาล (อ่านฟรี)

ตอนที่ 77 ชุมชน (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 77 ชุมชน

 

แม็กนัสหยิบภาพวาดที่มองไม่เห็นของอาเธอร์ออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วแขวนไว้บนผนัง เมอร์ลินมาที่ห้องของเขาเป็นครั้งแรก

จากนั้นแม็กนัสก็อุ้มซัมเมอร์กับดั๊กออกมาจากกระเป๋าเดินทางอีกใบของเขา ทั้งสองนอนหลับอยู่ภายในอย่างสงบหลังจากกินอาหารจนพอใจ เขาวางพวกมันไว้บนเตียงและปล่อยให้พวกมันนอนไป ส่วนที่เขาลงไปกินข้าวเย็นที่ชั้นล่าง

“อยากให้ฉันไปด้วยไหม?” รักนาร์ถาม

“ทำไมจะไม่เล่า แม้ว่าเราจะพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่มีอะไรให้หลบซ่อนหรอก เพราะสุดท้ายนายก็ต้องรู้อยู่ดี มาเถอะ ฉันหิวแล้ว” แม็กนัสกล่าวว่า

ชั้นล่างจัดโต๊ะอาหาร เกรซทำอาหารมื้อใหญ่ให้พวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะตกงาน แต่พวกเขาก็มีเงินออมมากพอที่จะใช้ชีวิตสบายๆ ได้สักสองสามเดือน

"ว้าว... มันดูน่าอร่อยจังฮะ แต่ผมอยากกินแพนเค้กพรุ่งนี้เช้าฮะ นานมากแล้วที่ไม่ได้กินมัน" แม็กนัสกล่าวว่า

รักนาร์มองเขาด้วยความสับสน "ก็นายเพิ่งกินมันเมื่อเช้านี้ไง มื้อเช้าน่ะ"

*แค็กๆ*

"นั่นไม่นับดิ แม่ฉันไม่ได้เป็นคนทำนี่" แม็กนัสชี้แจง

เกรซหัวเราะเบาๆ “ฮิฮิ แม่หวังว่าที่โน่นลูกจะไม่เอาแต่กินแพนเค้กอย่างเดียวนะ การกินมากเกินไปจะไม่ดีต่อสุขภาพของลูกนะจ๊ะ”

คร้าบๆ ...ไปกินข้าวกันเถอะฮะ” แม็กนัสแอบเหงื่อตกเล็กน้อย

ช่วงมื้อค่ำ แม็กนัสรอให้พ่อแม่พูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้กันเลย บางทีพวกเขาอาจไม่อยากพูดถึงมันในวันแรกที่เขามาถึง

“พ่อฮะ เงินที่ผมคืนให้ตอนเก็บตัวจากการสัมภาษณ์ทั้งหมด พ่อเอาไปลงทุนที่ไหนฮะ” เขาถาม

อดัมตอบอย่างภาคภูมิใจว่า "พ่อเอาลงทุนที่บริษัทผลไม้ทั้งหมดเลย แม้ว่าผู้ก่อตั้งจะบอกว่าเขาจะจดทะเบียนบริษัทในภายหลัง"

“แล้วพ่อรู้จักผู้ชายคนนั้นไหมฮะ” แม็กนัสถาม

"เปล่าหรอก พ่อเห็นเขาครั้งแรกที่งานมีตติ้งน่ะ แต่เขาดูน่าเชื่อถือมากนะ เห็นว่าพูดถึงอนาคตของเทคโนโลยี" อดัมตอบ

"เขาชื่ออะไรหรอคะ?" เกรซถามทั้งๆ ที่เธอไม่รู้เรื่องนี้

"อืม ถ้าจำไม่ผิด... รู้สึกจะนามสกุลจ๊อบส์ ก็แปลกดีนะ ที่ผมจำมันได้ ผมได้เอกสารมาด้วย เขาบอกว่าจะให้ส่วนแบ่งในบริษัทใหม่ของเขากับพ่อน่ะ" อดัมอธิบาย

แม็กนัสยักไหล่ "งั้นเดี๋ยวเราค่อยมาดูกันฮะว่าในอนาคตบริษัทเขาทำอะไร พ่อครับ พ่อจะสอนผมจับปืนไหม"

"ไม่! ไม่เด็ดขาด! ถ้าเผลอทำให้ตัวเองบาดเจ็บล่ะ? มันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นะ" เกรซปฏิเสธทันที

*แค็ก แค็ก*

รักนาร์เริ่มไอ เกรซยื่นแก้วน้ำให้เขา "เธอโอเคไหมจ๊ะ ที่รัก"

"เอ่อ ครับ... *แค็ก* ครับ... ผมสบายดี" รักนาร์กล่าว

~ หมอนี่ต่อสู้กับฆาตกรมานะแถมชนะด้วย ถ้าจะมีใครตกอยู่ในอันตราย มันก็คือคือศัตรูของเขานั่นแหละ~ รักนาร์แย้งในใจ

แม็กนัสต้องการประท้วงคำสั่งห้ามนี้ แต่เขาเห็นพ่อขยิบตาให้เขา เขาจึงหยุดไว้ก่อน

"อ้อ อีกอย่างนะฮะแม่จ๋า ผมได้นกฮูกมาเลี้ยงด้วย เธอนอนอยู่ในห้องของผม ไว้ไปเล่นกับมันทีหลังก็ได้ฮะ" แม็กนัสเปิดเผย

"จริงๆ หรอจ๊ะ? พวกเขาไม่อันตรายเหรอ?” เธอถามอย่างกังวล

แม็กนัสหัวเราะเบา ๆ "ฮ่าๆ ไม่-ไม่ฮะ เธอห่างไกลจากคำว่าอันตรายเยอะเลย เธอเป็นนกฮูกที่น่ารักที่สุดที่ฉันเคยพบ สาวน้อยผู้น่าสงสารถูกรังแกแล้วก็ทำร้ายโดยพวกเด็กเลว ผมช่วยมันไว้ฮะ"

“ลูกทำได้ดีมากเลยจ่ะ ไว้แม่จะไปดูเธอนะจ๊ะ อ่า... ถึงเวลานอนแล้ว... ลูกทั้งสองคนควรไปพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ลูกจะไปหาบ๊อบบี้ก็ได้นะจ๊ะ” เกรซแนะนำเขา

แม็กนัสรู้สึกเหนื่อยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไปที่ห้องของเขา พอเข้าไปข้างใน รักนาร์ก็ถามขึ้นทันที

“ฉันก็คิดว่านายจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับตัวนายซะอีก”

“ก็ใช่ แต่ฉันอยากให้พวกเขาเล่าปัญหาให้ฉันฟังก่อน ถ้าเกี่ยวข้องกับฉัน ฉันจะอธิบายได้ง่ายกว่า” แม็กนัสให้เหตุผล

“เกิดอะไรขึ้นหรือ แม็กนัส” อาเธอร์ถาม

“มีคนเล็งเป้ามาที่ครอบครัวของผม” แม็กนัสตอบในประโยคเดียว

“ข้าขอเดานะ ราชวงศ์ใช่ไหม?” อาเธอร์คาดเดา

แม็กนัสยักไหล่ เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร แม้ว่าเขาจะเชื่อในสิ่งที่อาเธอร์พูดก็ตาม

“หือ? ข้าบอกพวกเขาบนแผ่นศิลาแล้วว่าถ้าพวกเขาพยายามทำร้ายเจ้า พวกเขาจะต้องตาย” อาเธอร์พึมพำ

เมอร์ลินยังพูดอีกว่า "ที่น่าสนใจคือพวกเขายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร? พวกเขาทำอะไรลงไปกันแน่?"

“ไม่รู้สิครับ น่าจะบีบให้พ่อกับแม่ผมต้องออกจากงาน” แม็กนัสเผย

เมอร์ลินลูบเคราของเขาและครุ่นคิด “อืม... ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่พวกเขาคงยังทำไม่มากพอที่จะทำให้ครอบครัวเจ้าตกอยู่ในอันตราย นั่นคือเหตุผลที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขากำลังไต่อยู่บนเส้นด้ายที่บางมาก”

“นั่นเป็นเหตุผลที่ผมอยากแน่ใจก่อนที่จะทำอะไรลงไป” แม็กนัสตอบ

“อืม ไม่เป็นไรหรอก พวกเขาใช้ชีวิตเหมือนกบก้นบ่อ พวกเขาสามารถกระโดดไปมาและตายในที่สุดไม่ก็จับมือกับเจ้าแล้วอยู่รอดตลอดชีวิตที่เหลืออยู่เพราะอนาคตของพวกเขาได้ถูกลิขิตไว้แล้ว” เมอร์ลินตั้งข้อสังเกต

อาเธอร์ยังเสริมบางอย่างในตอนท้ายว่า "ข้าไม่มีความเกลียดชังใดๆ กับพวกเขา ข้าไม่รู้จักพวกเขาด้วยซ้ำ ถ้าเจ้าเกิดเมื่อ 200 ปีที่แล้ว ราชาหรือราชินีในสมัยนั้นก็คงมีสภาพเหมือนตอนนี้”

“ผมแค่หวังว่าช่วงนี้พวกเขาจะไม่ฆ่าตัวตายด้วยการทำอะไรโง่ๆ ไปซะก่อนนะ” แม็กนัสถอนหายใจ

...

ตอนนี้บ๊อบบี้กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์และเป็นหนึ่งในเด็กที่ยุ่งที่สุดในโรงเรียน เด็กส่วนใหญ่รู้เรื่องที่เขาสร้างบริษัทของตัวเอง และนั่นทำให้เขาได้รับคะแนนความเคารพ

งานของเขาในปัจจุบันมีเพียงการศึกษาคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่เขาซื้อและพยายามสร้างโปรแกรมเพิ่มเติมสำหรับคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น แต่การเรียนรู้คอมพิวเตอร์สมัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากคุณยังต้องมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ด้วย

ดังนั้น แทนที่จะพึ่งพางานเพียงอย่างเดียวเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี เขายังพยายามอัปเกรดเครื่องจักรที่เขามีอยู่แล้วด้วย อีกอย่างตอนนี้เขาได้รับข้อมูลซอฟต์แวร์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่จากบริษัท Intel ตั้งแต่ที่ แม็กนัสลงทุนกับมันคราวก่อน

ใช่ แม็กนัสสามารถลงทุนใน Intel ได้ด้วยความช่วยเหลือจากทนายความของเขา แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่เขาก็สามารถถือหุ้นได้ 8 เปอร์เซ็นต์ในบริษัท และเพิ่มส่วนแบ่งของเขาเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ในการเสนอขายหุ้น ด้วยวิธีนี้ แม็กนัสจะได้รับที่นั่งในคณะกรรมการบริหารและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องน่าสนใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบริษัท

วันนี้เขาขี่จักรยานไปโรงเรียน เขาเคยขึ้นรถเมล์แต่เพราะต้องไปถึงก่อนเวลาเพื่อทำงานอื่น ปัจจุบันเขาเลยขี่จักรยานไปแทน

“อืม วันหยุดคริสต์มาสของแม็กนัสจะถึงแล้ว แทบรอไม่ไหวที่จะโชว์คอมพิวเตอร์ให้หมอนั่นดู” เขาพึมพำกับตัวเอง

“สงสัยจังว่าเขายังเป็นคนรักแพนเค้กคนเดิมหรือเปล่าน้า?” เขากำลังพูดกับตัวเอง

* เอี๊ยดดด โครม *

จักรยานของบ๊อบบี้ลื่นไถลไปกับพื้นถนนและล้มลง มีชายร่างสูงสองคนยืนอยู่ข้างหน้าเขา สวมหน้ากากและดูน่ากลัว

บ๊อบบี้ตื่นตัวทันทีเมื่อเขาสร้างระยะห่างระหว่างตัวเขากับชายสองคน

“พวกนายเป็นใคร? ต้องการอะไร?” เขาถาม

ชายทั้งสองกระโดดเข้าหาเขาทันที คนหนึ่งคว้าแขนของเขาจากด้านหลังได้อย่างง่ายดาย

"ฮ่าฮ่า เราต้องการสมองของแก เด็กน้อย เราได้ยินมาว่าแกฉลาดมากเรื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องห่วงนะ เราจะดูแลแกอย่างดีในสหภาพโซเวียตที่ยิ่งใหญ่" ชายอีกคนพูดอย่างชั่วร้าย

"ฉันเป็นแค่เด็กมัธยม ฉันมีอะไรที่สหภาพโซเวียตอันยิ่งใหญ่ของพวกนายไม่มี" บ๊อบบี้ถาม

"หุบปาก! สหภาพโซเวียตดีที่สุด เราแค่ต้องการให้สมองของแกเพื่อศึกษามัน" ชายคนนั้นตอบว่า

ดวงตาของบ๊อบบี้เป็นประกาย เขาจะไม่ลงไปง่ายๆ "ไปลงนรกซะไอ้พวกคอมมิวนิส ลูกเตะสังหารทายาท!"

จู่ๆ บ็อบบี้ก็หลุดออกจากการเกาะกุมของคนที่จับเขาจากด้านหลังแล้วเตะไปที่เป้ากางเกงของเขา

"อ๊ากกกกกกกก...." ผู้บุกรุกล้มลงกับพื้นพร้อมกับจับเป้าของเขาไว้

จากนั้นบ๊อบบี้ก็หยิบสิ่งทรงกระบอกเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขาและฉีดไปที่ดวงตาของผู้โจมตีอีกคน "ไอ้คอมมิวนิสอยากจับฉันงั้น หึ... ฉันจัดการแกก่อน"

ผู้โจมตีอีกคนร้องด้วยความเจ็บปวดและล้มลงกับพื้น แต่บ๊อบบี้ไม่หยุดและยังคงฉีดต่อไป

*แค๊ก แค๊ก*

บ้าจริง บ๊อบบี้! หยุดนะ ฉันเอง แม็กนัส

"อย่ามาหลอกฉัน ไอ้คอมมิวนิสต์ แม็กนัสตัวไม่สูง เขาเป็นคนแคระ!" บ๊อบบี้ไม่ยอมเชื่อ

"ฟู่... ไม่ ไม่... ฉันจริงๆ บ๊อบบี้ ดูหน้าฉันสิ" แม็กนัสถอดหน้ากากออก พูดตามตรง แม็กนัสรู้สึกเจ็บใจที่ถูกเรียกว่าคนแคระมากกว่าเรื่องโดนสเปรย์พริกไทยฉีดใส่เสียอีก

*แค็ก*

บ๊อบบี้หยุดฉีดและมองหน้าแม็กนัส เขามีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา

แม็กนัสเห็นดังนั้นก็เดือดดาล "นาย... นายรู้แล้วหรอ?"

"นายพูดเรื่องอะไร? ฉันคิดว่าฉันถูกโจมตีโดยคอมมิวนิสต์สองคน" บ๊อบบี้ชี้แจง

"แล้วจะขำทำไม...ดูหน้านายสิ...กำลังกลั้นหัวเราะ!" แม็กนัสถาม

"หัวเราะแล้วผิดกฎหมายหรอ?" บ๊อบบี้กล่าวว่า

จากนั้นแม็กนัสก็ไม่สนใจเขาและไปหารักนาร์และช่วยเขาขึ้นมา “นายไม่น่าทำขนาดนี้กับรักนาร์ผู้น่าสงสาร ทีนี้ฉันหวังว่าสายเลือดของเขาจะไม่สิ้นสุดลงเพราะนายนะ”

แม็กนัสถอดหน้ากากของรักนาร์ออกและเห็นว่าดวงตาของเขายังคงเบิกกว้าง

รักนาร์จ้องแม็กนัสและพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด "ให้ตายเถอะวะแม็กนัส!"

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด