ตอนที่แล้วตอนที่ 12-30 แฮรุ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12-32 สมบัติเทพและความเป็นเทพ

ตอนที่ 12-31 มูบายอดฝีมือชั้นเทพ


พื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของจักรวรรดิบาลุค  ภายในหุบเขาของเทือกเขาแห่งหนึ่ง

นี่คือฐานที่สำคัญของหอการค้าดอว์สัน  ในอดีตมีคนประจำการที่นี่มากมาย  แต่ตั้งแต่ลินลี่ย์สังหารพ่อมดผู้วิเศษเยลเลิกขนส่งทาสมาที่แห่งนี้ ดังนั้นจำนวนคนที่ประจำการอยู่ที่จึงลดลงเช่นกัน  ทุกวันนี้มีคนไม่กี่พันคนคอยรับหน้าที่ดูแลกิจการค้า

ตกยามราตรี

พนักงานประจำหอการค้าดอว์สันที่ทำงานที่นี่เดี๋ยวนี้มีชีวิตที่เรียบง่าย  ยามราตรีบุรุษหลายคนจะดื่มกินด้วยกันจนดึก

“ช่วงปีที่ผ่านมา ชีวิตดีขึ้นมากจริงๆ”  บุรุษร่างกำยำคนหนึ่งดื่มเหล้าพลางพูดเสีpงดัง  “สองสามปีก่อนนี้ ในหุบเขากลืนชีวิตนี้ทุกวันเหมือนกับนรก แย่จริงๆ”

“ใช่แล้ว ตอนนั้นข้าไม่กล้าออกไปไหนตอนกลางคืน  มีคนตายมากมาย ข้าไม่รู้ว่ากี่ศพแล้วที่ข้าต้องคอยจัดการ” บุรุษวัยกลางคนผมทองเป็นลอนนึกย้อนกลับไปถึงกิจการที่ผ่านมาเขาอดถอนหายใจด้วยความทึ่งไม่ได้

ในช่วงเวลานั้นต้องมีการส่งศพเกินหมื่นศพออกไปในแต่ละวัน

คนงานที่อาศัยและทำงานอยู่ที่สาขาหอการค้าดอว์สันแห่งนี้ซึ่งอยู่ภายในหุบเขารู้สึกเหมือนกับว่าสภาพจิตใจจะพังทลายได้ทุกเมื่อ

บุรุษทั้งสามคนเดินเคียงไหล่ด้วยกัน ทันใดนั้นพวกเขาตระหนักด้วยความประหลาดจว่าพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้  อากาศรอบตัวพวกเขาดูเหมือนแข็งทำให้พวกเขาไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย พวกเขาหวาดกลัวจัดต้องการจะเอ่ยปากพูด แต่พวกเขาไม่สามารถทำได้ ทั้งสามคนเบิ่งตาด้วยความหวาดกลัว

จากภายในความมืดมีร่างใหญ่คลุมตัวอยู่ในชุดยาวดำปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพวกเขา

เมื่อเห็นบุรุษชุดดำลึกลับ ทั้งสามคนรู้สึกใจสั่น พวกเขาค่อนข้างเข้าใจ..ว่าเหตุผลที่พวกเขาไม่สามารถขยับและไม่อาจเอ่ยปากได้มาจากการกระทำของบุรุษชุดดำลึกลับนี้

“หุบเขาแห่งนี้หยุดการค้าทาสมานานเท่าใดแล้ว?”  เสียงทุ้มน่ากลัวของบุรุษชุดดำดังขึ้น  “พูดไป, แต่อย่าส่งเสียงดังเกินไป  ไม่มีใครได้ยินพวกเจ้านอกจากนี้ถ้าใครตะโกนเสียงดังรบกวนข้า ข้าจะฆ่ามัน”

เขากวาดสายตาเย็นชาไปทางบุรุษทั้งสาม ทั้งหน้าผากและหลังของบุรุษทั้งสามชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ  ด้วยความประหลาดใจพวกเขาพบว่าปากของพวกเขาสามารถขยับได้อีกครั้ง

“พูดไป” บุรุษชุดดำลึกลับกล่าว

“ครึ่งปีที่แล้ว” บุรุษวัยกลางคนผมทองค่อนข้างตั้งสติได้  อีกสองคนกลัวจนพูดไม่ออก

“ครึ่งปีที่แล้ว ครึ่งปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น? มีการต่อสู้ใช่ไหม?”  บุรุษชุดดำถาม

“ขอรับ, มีการต่อสู้ครั้งใหญ่”  ชายหนุ่มร่างกำยำก็รู้สึกตัวเช่นกัน  เขารีบกล่าว “ครึ่งปีที่แล้วตอนดึกเซียนสองคนสู้กันทำให้พื้นที่ทั้งหุบเขาสั่นสะเทือนและอาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย

“พื้นสั่นสะเทือน?”

บุรุษชุดดำลึกลับดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้  “พูดต่อไป อธิบายรายละเอียดให้ข้าฟังด้วยคืนนั้นเกิดอะไรขึ้น”

บุรุษหนุ่มที่ผมสั้นนิ้วเดียวเสริม  “เราอยู่พร้อมกันหมด ตอนแรกเราไม่ทันสังเกตว่ามีการต่อสู้ เพียงแค่นั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือน สิ่งที่ตามมาจากนั้นคืออาคารระเบิด  เรากลัวมากจนวิ่งออกมาข้างนอกจนกระทั่งพบว่าในอากาศเหนือหุบเขามียอดฝีมือสองคนกำลังสู้กัน  หนึ่งนั้นเป็นนักรบเลือดมังกร  ขณะที่อีกหนึ่งเป็นบุรุษชุดดำ โอวใช่แล้ว  เขาควงเคียวดำ เคียวนั้นใหญ่มากอย่างน้อยยาวสิบเมตร”

“ใช่แล้ว มันยาวมากและจากนั้นเราเห็นมันเปลี่ยนเป็นเคียวเก้าเล่ม” บุรุษร่างกำยำเสริม

พวกเขาไม่รู้ว่าเคียวเหล่านั้นเป็นพ่อมดผู้วิเศษใช้พลังจิตสร้างขึ้นเพราะเวลานั้นเป็นช่วงมืด แม้ว่าจะมีคบเพลิงอยู่บนพื้นก็ตาม พวกเขาไม่สามารถจำภาพเหตุการณ์ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นเคียวดำยักษ์ที่สร้างจากพลังจิต

“เคียว?”  บุรุษชุดดำลึกลับเงียบไปชั่วขณะ

“และผลเป็นยังไง?” บุรุษชุดดำลึกลับถามต่อ

“การสู้รบเกิดขึ้นเร็วมาก เราเพียงแต่เห็นบุรุษชุดดำกลายเป็นเหมือนเนื้อปั่นและจากนั้นนักรบเลือดมังกรก็ร่วงลงมาที่พื้น เป็นนักรบเลือดมังกรที่สู้ชนะ จากนั้นท่านประธานหอการค้าขอเราออกคำสั่งให้เรากลับเข้าบ้านและจากนั้นท่านประธานหอการค้าอยู่กับนักรบเลือดมังกรเป็นเวลานาน” บุรุษร่างกำยำพูด

บุรุษชุดดำลึกลับถามต่อทันที  “นักรบเลือดมังกรนั้นชื่อลินลี่ย์ใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว, น่าจะเป็นลอร์ดลินลี่ย์ ลอร์ดลินลี่ย์มีสัมพันธ์ที่ดีกับท่านประธานของเรา”  บุรุษผมทองวัยกลางคนพูด

“ดีมาก” บุรุษลึกลับชุดดำพยักหน้าพอใจ “ข้าพอใจกับคำตอบของพวกเจ้ามาก”

บุรุษทั้งสามคนรู้สึกโล่งอก

“แครกกก...” เสียงเบามาก ร่างของบุรุษทั้งสามคนสลายกลายเป็นฝุ่นสามกอง

“เขาตายจริงๆ” บุรุษลึกลับชุดดำโกรธจัด “เขาตายจริงๆ และก่อนที่เขาจะกลั่นมุกวิญญาณทองเสร็จตามที่สัญญาไว้กับข้า” บุรุษชุดดำก็คือโบมอนต์,ผู้ที่พ่อมดผู้วิเศษสัญญาจะช่วยให้เขาหลอมรวมกับมุกวิญญาณทอง

“ลินลี่ย์?”

ตาของโบมอนต์เย็นชา “ข้าไม่คาดเลยว่าในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างนั้น เขาจะสามารถกลายเป็นเทพได้และเขายังสามารถรอดชีวิตได้ทั้งที่เผชิญหน้ากับสุดยอดพลังโจมตีของพ่อมดผู้วิเศษ”

โบมอนต์รู้ดี่ว่าพลังโจมตีสุดยอดของพ่อมดผู้วิเศษคือพลังสร้างความเสียหายให้ตนเองแต่ทำลายล้างคู่ต่อสู้ สำหรับยอดฝีมือที่พึ่งเขาถึงระดับเทพสามารถรับพลังโจมตีนั้นได้ทำให้โบมอนต์รู้สึกตกใจ

“แท้จริงเขามีชีวิตอยู่กับชื่อเสียงในฐานะเป็นอัจฉริยะสูงสุดของทวีปยูลาน” หัวใจของโบมอนต์เต็มไปด้วยความเกลียดชังจริงๆ  มุกวิญญาณทองสำคัญมากต่อเขา  ประโยชน์จากการดูดซับพลังมุกวิญญาณทองยิ่งใหญ่มาก  ไม่เพียงแต่วิญญาณของเขายังได้รับการเสริมพลังแต่ระดับความก้าวหน้าในการฝึกฝนในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

“ฮึ่ม..ลินลี่ย์”

โบมอนต์พึมพำชื่อของลินลี่ย์จากนั้นหัวเราะเย็นชากลายเป็นลำแสงดำหายลับไปในขอบฟ้า

วันที่ 29 ธันวาคมศักราชยูลานที่ 10040 เมื่อคืนก่อนนี้มีพายุหิมะใหญ่ ในตอนเช้าหิมะหยุดตกและทั่วทั้งปราสาทเลือดมังกรในตอนนี้เปลี่ยนเป็นโลกหิมะ ภายใต้แสงอาทิตย์หิมะที่ตกสะสมสะท้อนแสงราวกับอัญมณีแม้แต่เดเลียก็ยังหยุดฝึกชั่วคราว

ที่สำคัญเทศกาลยูลานกำลังจะมาถึง  ทุกคนจะมาพร้อมหน้ากันในอีกไม่กี่วัน

ที่ด้านนอกปราสาทเลือดมังกร

บุรุษวัยกลางคนมีผมหงอกสั้นอยู่ในชุดขาวหนาเดินฝ่าหิมะมาอยู่หน้าปราสาทเลือดมังกร  หน้าของบุรุษวัยกลางคนมีรอยยิ้มแต่ดวงตาของเขาเหมือนกับหยกดำ

“หยุดก่อน, พลเมือง” ทหารของปราสาทเลือดมังกรร้องเรียกทันที

บุรุษวัยกลางคนมองดูทหารพร้อมกับยิ้ม  “ช่วยไปรายงานทีว่า ข้ามาขอพบลินลี่ย์เจ้าปราสาทเลือดมังกร”

หน้าของทหารที่เฝ้านอกปราสาทเลือดมังกรเปลี่ยนไป  ในจักรวรรดิบาลุค ชื่อ ‘ลินลี่ย์’ไม่อาจล่วงเกินได้เหมือนชื่อของเทพเจ้า แม้ว่าคนที่มาเรียกชื่อของเขา พวกเขาก็ยังเรียกเขาด้วยความยกย่องด้วยคำว่า ‘ลอร์ดลินลี่ย์’มีน้อยคนมากที่กล้าเรียกชื่อลินลี่ย์ตรงๆ ได้

ทหารสองคนเตรียมจะตวาดด่า แต่ทันใดนั้น...

“ให้เขาเข้ามา” เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้นในใจของทหารสองคนนี้

ทหารสองคนนี้ตกใจ ลินลี่ย์พูดกับเขาทางใจเพื่อประโยชน์ของคนผู้นี้

“เชิญเข้ามาได้”  ทหารสองคนแม้จะยังงงอยู่แต่ก็ยังยอมให้คนผู้นี้เข้ามา

ภายในสวนดอกไม้ลินลี่ย์และเดเลียนั่งอยู่ด้วยกันชมภาพหิมะและพระอาทิตย์ยามเช้า

“เดเลีย อีกเดี๋ยวจะมีอาคันตุกะสำคัญมาเยี่ยม”  ลินลี่ย์ยิ้มขณะเขามองดูเดเลีย  เดเลียค่อนข้างประหลาดใจ  “อาคันตุกะสำคัญ? ใครกัน? เจ้ารู้ได้ยังไง?”

“อาคันตุกะผู้นั้นใช้สัมผัสเทพติดต่อกับข้า”ลินลี่ย์ส่ายศีรษะพลางหัวเราะ

“เจ้ากำลังบอกว่าเขาเป็นเทพ?”  เมื่อได้ยินคำว่า ‘สำผัสเทพ’ เดเลียเข้าใจได้ทันที  ดูเหมือนนางจะตกใจมาก  “ลินลี่ย์, เป็นเทพตนใด? เทพสงครามและคนอื่นยังคงอยู่สุสานเทพเจ้าใช่ไหม?  พวกเขาจะกลับมาหลังจากนั้นอีกสามปี”

“เจ้าจะรู้เองในไม่ช้า”

ปัจจุบันนี้ลินลี่ย์อยู่ในอารมณ์ที่ดี “ข้าไม่คาดเลยว่าเขาจะขอทหารข้างนอกให้รายงานอย่างสุภาพ น่าทึ่งจริงๆ”

พูดโดยทั่วไปอย่างเดลี่และถูลี่จะใช้วิธีบินตรงมาที่ปราสาทเลือดมังกร  ถ้าเทพต้องการพบกับลินลี่ย์  พวกเขาสามารถบินเข้ามาได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมาขอให้ทหารเฝ้าประตูช่วยส่งรายงาน

หลังจากนั้นไม่นานเทพผู้นั้นก็เดินเข้ามาในสวนดอกไม้หลังปราสาท

“สวัสดีท่านลินลี่ย์” บุรุษผมเงินวัยกลางคนพูดพร้อมกับยิ้ง “ข้าคือมูบา”

“ท่านมูบา!ข้าได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานแล้ว” ลินลี่ย์กล่าว เทพแห่งศาสนาลึกลับชื่อว่ามูบา ก่อนนั้นเมื่อเขาเพิ่งมาถึงประตูปราสาทเลือดมังกรมูบาได้ทักทายลินลี่ย์ผ่านสัมผัสเทพมาแล้ว

แม้ว่าลินลี่ย์จะประหลาดใจแต่เขาก็ยังต้อนรับบุรุษผู้นี้อย่างเป็นกันเอง

ที่สำคัญคือ คนผู้นี้มาคุยด้วยความสุภาพเป็นอย่างมาก

เมื่อได้ยินลินลี่ย์พูดเช่นนี้ มูบาเข้าเจ้าใจแล้วว่าการค้นพบศาสนานี้บางทีลินลี่ย์คงรู้แล้ว  เขาเริ่มหัวเราะเช่นกัน  “ข้าเสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้ขออนุญาตท่านลินลี่ย์ก่อนจะเผยแพร่ลัทธิตนเองในจักรวรรดิของท่าน”

สำหรับเรื่องนี้ ลินลี่ย์ไม่แสดงอารมณ์โดยเปิดเผยไม่ว่าเขาจะหงุดหงิดหรือไม่ก็ตาม

“ท่านมูบา เชิญนั่งก่อน” ลินลี่ย์ชี้ม้านั่งหินที่อยู่ใกล้ๆ

มูบาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีและนั่งลงหน้าของมูบาผ่องใสและมีรอยยิ้มแม้แตสายตาของเขาก็ทำให้ผู้คนคิดถึงความสดชื่นของฤดูใบไม้ผลิ  น้อยคนนักที่จะคิดว่าเขาเป็นศัตรู

“ท่านมูบา, ขอถามได้ไหม,ท่านมีวัตถุประสงค์ใดถึงมาเยี่ยมเยือนข้าในวันนี้?”  ลินลี่ย์พูดขึ้นก่อน

มูบาหัวเราะ “ความจริง, เหตุผลแรกก็คือข้ามาขอโทษ ก่อนหน้านี้ข้ารู้ว่าท่านลินลี่ย์ยังเป็นเซียนคนหนึ่ง  เท่าที่ข้ารู้ท่านคงไม่สนใจเรื่องพลังงานศรัทธามากเท่าใด ตอนนั้นเมื่อข้าตั้งศาสนาของข้า ความจริงก็ไม่ส่งผลอะไรต่อท่านมาก  แต่ตอนนี้ท่านกลายเป็นเทพแล้ว  ท่านลินลี่ย์, ข้ารู้สึกค่อนข้างละอายใจ”

ลินลี่ย์และเดเลียประหลาดใจมากทั้งคู่

เขามากล่าวขอโทษ แค่นั้นเองหรือ?

เป็นไปได้หรือที่ยังมีเทพที่สุภาพและใจดี?

“ท่านมูบา, เนื่องจากท่านอธิบายกันอย่างสุภาพ  แน่นอนว่าข้าคงไม่โกรธเคือง”  ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างใจเย็น

มูบารีบกล่าวต่อ “ท่านลินลี่ย์ ไม่ต้องกังวล ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ข้าจะช่วยคลี่คลายปัญหาการเผยแพร่ลัทธิให้อย่างน้อยในจักรวรรดิบาลุคของท่าน ท่านจะไม่พบศาสนาของข้าอีก” มูบามีความจริงใจ

ลินลี่ย์ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ

“ท่านลินลี่ย์ ข้าคิดว่าท่านเพิ่งจะเข้าถึงระดับเทพ  ยังมีเรื่องสองสามเรื่องที่ท่านยังไม่รู้  ข้าจะบอกความจริงทั่วไปท่านทราบแทนการขอขมา”  มูบาพูดอย่างจริงใจ

เนื่องจากกิริยาที่เขาทำลินลี่ย์พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะโกรธแค้นมูบาผู้นี้

เพียงแต่ในใจของเขา ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกมึนงง...มูบาผู้นี้บางทีก็สุภาพเกินไปนิด ลินลี่ย์เพิ่งจะถึงระดับเทพ ไม่มีความจำเป็นที่มูบาจะต้องทำเช่นนั้น

“เป็นเรื่องจริงที่ข้าเพิ่งเข้าถึงระดับเทพ  ข้ายินดีจะรับฟังคำแนะนำของท่านมูบา”  ลินลี่ย์กล่าว

มูบาพยักหน้าเล็กน้อย “เมื่อเข้าถึงระดับเทพ ตอนนี้เราจะถูกนับว่าเป็นเทพกันทั้งหมด  สำหรับเรา ประกายศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณทั้งสองของเราเป็นสิ่งสำคัญมากประกายศักดิ์สิทธิ์คือความแข็งแกร่งที่มิอาจขาดไปได้  แต่วิญญาณนั้นอ่อนแอมาก.. ข้าคาดว่าลินลี่ย์เจ้าคงรู้สึกถึงประโยชน์พลังงานศรัทธาก็ในตอนนี้แหละ”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

ไม่นานหลังจากที่เขาเป็นเทพลินลี่ย์ก็ดูดซับพลังศรัทธาได้เล็กน้อย ตอนนั้นลินลี่ย์ไม่รู้สึกอะไรมาก  แต่หลังจากผ่านไปครึ่งปี  ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานศรัทธาค่อยๆหลอมรวมในพลังจิตของเขาเอง ขณะเดียวกันก็สร้างชั้นพลังปกป้องวิญญาณของเขา  แต่แน่นอนว่าสำหรับลินลี่ย์ดูเหมือนชั้นพลังปกป้องนั้นยังอ่อนอยู่มาก

“พลังงานศรัทธามีประโยชน์ต่อการเติบโตของวิญญาณมาก  ขณะเดียวกันก็จะป้องกันวิญญาณไปด้วย  เมื่อพลังงานศรัทธาถึงระดับที่ทรงพลังมาก  พลังป้องกันของพลังศรัทธาอย่างเดียวก็สามารถป้องกันพลังโจมตีวิญญาณได้มากมาย”  มูบาถอนหายใจ

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

ที่สำคัญ เขาแค่ดูดซับพลังงานศรัทธามาได้เพียงครึ่งปี  แต่อย่างเทพสงครามผู้ดูดซับพลังงานศรัทธามาเป็นเวลาห้าพันปี  ก็ย่อมหนาแน่นมาก  ลึกล้ำกว่าพลังงานศรัทธาของตัวของเขาเองถ้าอย่างมหาเทพที่ดูดซับพลังงานศรัทธาจากดินแดนนับไม่ถ้วนย่อมมีการสั่งสมมาเป็นเวลาล้านๆปี

ปริมาณพลังงานศรัทธาที่พวกเขามีย่อมอยู่ในระดับที่น่าประหลาดใจ

“พลังงานศรัทธาเป็นประโยชน์ต่อพวกเรามาก  เจ้าคงเข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน  เรื่องต่อมาคือข้าจะอธิบายความสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับความจริงทั่วไปเรื่องสมบัติเทพ  นี่จะเป็นเรื่องสำคัญในการฝึกในอนาคตของท่าน”  มูบาไม่พยายามปิดบังอะไรแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามความรู้ทั่วไปนี้สำหรับยอดฝีมือหลายคนที่เพิ่งเป็นเทพ  ความรู้ที่พวกเขาจะได้รับมักจะมีหลังจากผิดพลาดหรือได้รับอุบัติเหตุ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด