Chapter 21 : โจมตี
โจวเฉินหนีจากพวกมดที่ไล่ตามเขามาได้สำเร็จจนมาถึงบริเวณที่ดูแล้วค่อนข้างปลอดภัย
เขาวิ่งมาต่อเนื่องเกือบยี่สิบนาที ตลอดทางที่ผ่านมาไม่มีเรื่องเกิดคาดหมายเกิดขึ้นและไม่เจอกับมอนสเตอร์ใดๆเลย ดังนั้นเมื่อมาเจอหินเรียบๆก้อนหนึ่งเขาจึงตัดสินใจนั่งลงเพื่อพักผ่อน
พอนั่งลงบนหินเขาก็หยิบโค้กขึ้นมาดื่มเพื่อเติมน้ำและน้ำตาลในร่างกายซะหน่อย ขณะเดียวกันเขาก็เปิดหน้าต่างตัวละครขึ้นมาเพื่อดูรายละเอียดของสองสกิลที่เพิ่งได้มาหมาดๆ
[ชื่อ : โจวเฉิน]
[ร่างกาย : 1.5]
[ความเร็ว : 1.6]
[จิตวิญญาณ : 1.6]
[พรสวรรค์ : ช่วงชิงสกิลติดตัว]
[สกิลติดตัว : พิษซากศพ(ระดับ1) , พิษงู(ระดับ1) , เสริมแกร่งความเร็ว(ระดับ1) , เสริมแกร่งจิตวิญญาณ(ระดับ1) , เสริมแกร่งกายา(ระดับ1) , พลังช้างสาร(ระดับ1) , ศาสตร์การต่อสู้(ระดับ1) , ศาสตร์การใช้หอก(ระดับ1) , มองเห็นในที่มืด(ระดับ1) , ฟื้นฟูพลังชีวิต(ระดับ1) , หายใจใต้น้ำ(ระดับ1)]
[พลังรบโดยรวม : ทองแดงขั้นต่ำ]
[พลังช้างสาร(ระดับ1)]
[ประเภทสกิล : สกิลติดตัวระดับทองแดงขั้นต่ำ]
[คำอธิบาย : ความแข็งแกร่งของท่านเพิ่มมากขึ้น จำนวนที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ0.6ของค่าสถานะร่างกาย]
[หายใจต้ำน้ำ(ระดับ1)]
[ประเภทสกิล : สกิลติดตัวระดับทองแดงขั้นต่ำ]
[คำอธิบาย : ผิวหนังของท่านสามารถดูดซับอ๊อกซิเจนจากน้ำได้อย่างต่อเนื่องทำให้ท่านสามารถอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานาน]
“พลังช้างสารดูไม่ค่อยแสดงผลเท่าไหร่แต่ก็ให้ความรู้สึกชัดเจนว่าพลังเพิ่มขึ้นมากจริงๆ ส่วนหายใจใต้น้ำนี่ค่อนข้างมีประโยชน์ ผิวหนังของเราไม่เปลี่ยนแต่ที่จริงแล้วมันกลับสามารถดูดซับอ๊อกซิเจนจากน้ำได้ จากนี้เป็นต้นไปก็เท่ากับว่าเรากลายเป็นสุดยอดนักดำน้ำแล้วสินะ...”
หลังจากอ่านคำอธิบายของสกิลติดตัวทั้งสองอย่างโจวเฉินก็บังเกิดความคิดแปลกๆขึ้นมาเต็มหัวไปหมด สกิลติดตัวทั้งสองอย่างที่ได้มาค่อนข้างมีประโยชน์จริงๆ
หลังจากดื่มโค้กไปอีกหลายอึกเขาก็มองไปรอบๆเพื่อตรวจสอบและพักผ่อนต่ออีกหน่อย
หนนี้เขาพักอยู่เกือบชั่วโมงโดยที่ไม่มีมอนสเตอร์มากวนใจเลย จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่ฟังดูค่อนข้างเร่งรีบดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ
โจวเฉินรีบลุกขึ้นจากหินและมองไปทางทิศทางที่มาของเสียงฝีเท้าในทันที
ด้วยความสามารถในการมองเห็นในที่มืดทำให้เขาสังเกตุเห็นหญิงสาวร่างบางคนหนึ่งกำลังวิ่งมาด้วยท่าทีตื่นตระหนก
“เสี่ยวหลี่งั้นหรอ? ไม่ใช่ว่าไปกับพี่หวังรึไง? ทำไมถึงได้โผล่มาคนเดียว?”
โจวเฉินค่อนข้างสับสน พริบตานั้นท่อนเหล็กก็พลันปรากฏขึ้นมาในมือของเขา
เพราะว่าแสงสว่างภายในถ้ำค่อนข้างสลัวเสี่ยวหลี่จึงไม่ทันสังเกตุเห็นเขาจนกระทั่งเข้ามาใกล้มากๆในระดับหนึ่ง
เมื่อเธอสังเกตเห็นโจวเฉินที่นั่งอยู่บนหินเธอก็รีบละล่ำละลักพูดออกมา
“วิ่งเร็ว! ด้านหลังฉันมีหนอนจำนวนมากกำลังไล่ตามมา”
โจวเฉินที่ได้ยินกลับไม่ได้ตื่นตกใจ เขายืนขึ้นและเดินออกไปพร้อมกับท่อนเหล็กในมือ ไม่เพียงแต่เขาไม่หนีเท่านั้นแต่ยังตรงไปยังทิศทางของศัตรูอีกด้วย
เขามองเห็นพวกมอนสเตอร์ที่ไล่ตามเสี่ยวหลี่มาตั้งแต่แรกแล้ว พวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่มีชื่อว่าหนอนถ้ำซึ่งเขาเคยสังหารทิ้งมาก่อน จุดเด่นของพวกมันก็คือพลังชีวิตที่มากมายจนน่ากลัวแต่พลังต่อสู้นั้นค่อนข้างอ่อนแอ เขาลองสังเกตุดูแล้วพบว่ามีพวกมันอยู่ราวๆ11ถึง12ตัวเห็นจะได้ ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะจัดการกับพวกมันทั้งหมด บางทีพวกมันอาจจะดร็อปของดีๆมาก็ได้
ก่อนหน้านี้เขาจัดการฉาบพิษซากศพลงบนท่อนเหล็กเอาไว้ก่อนแล้วดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานสกิลพิษซากศพอีก ทั้งหมดที่เขาต้องทำตอนนี้มีแค่เหวี่ยงท่อนเหล็กออกไป จัดการพวกมันให้เละก็พอ
ความเร็วในการคลานของหนอนถ้ำไม่ได้เร็วมาก หลังจากโจวเฉินฟาดไปที่หนอนถ้ำที่พุ่งเข้ามาหาไปอย่างง่ายๆเขาก็ใช้วิธีการวิ่งวนแล้วฟาด ถอยไปสู้ไป
เมื่อท่อนเหล็กของเขาระเบิดร่างอันอ่อนยวบของหนอนถ้ำลงได้ร่างกายของพวกมันก็จะกลายเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว จากนั้นความเร็วในการคลานของพวกมันก็จะยิ่งช้าลงไปอีก
“สมแล้วที่เป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังชีวิตเป็นเลิศ ขนาดถูกพิษซากศพเข้าไปก็ยังไม่ตาย แต่ในสภาพแบบนี้พวกแกก็ไม่ต่างอะไรจากเนื้อบนเขียงหรอก”
ด้วยความสามารถของพิษและความเร็วกับความแข็งแกร่งที่ค่อนข้างสูง โจวเฉินจึงใช้เวลาไม่นานในการส่งพวกหนอนถ้ำไปเกิดใหม่โดยที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
“พี่ชายเก่งจัง! ฉันยังฆ่ามอนสเตอร์พวกนี้ไม่ได้เลยซักตัวแต่พี่กลับจัดการพวกมันได้เร็วมากเลย!”
ในเวลาเดียวกันนี้เองสาวน้อยเสี่ยวหลี่ก็วิ่งมา เธอมองไปที่โจวเฉินที่จัดการฟาดหนอนถ้ำจนเละด้วยท่อนเหล็กแล้วเอ่ยสรรเสริญออกมา
“เสี่ยวหลี่แล้วนี่พี่หวังไปไหน?”
โจวเฉินไม่ได้ตอบสนองใดๆกับคำชมของอีกฝ่าย กลับกันเขาถามไปถึงชายหนุ่มร่างกำยำที่ชื่อพี่หวังซึ่งน่าจะแยกไปกับเจ้าหล่อน
“พี่หวังไปไล่ตามศัตรูที่มองไม่เห็น ฉันตามไม่ทันเลยก็หลงกับเขา”
เสี่ยวหลี่ตอบกลับทันที
“ศัตรูที่มองไม่เห็นงั้นหรอ?”
โจวเฉินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเพราะเขาเคยเจอไอ้ตัวที่ว่ามาก่อน
“พวกเธอไปเจอกับมันเมื่อไหร่?”
เขาถามอีกครั้ง
“ราวๆยี่สิบนาทีก่อนหรือไม่ก็น่าจะครึ่งชั่วโมงล่ะมั้ง”
การรับรู้ด้านเวลาของเสี่ยวหลี่ดูเหมือนจะค่อนข้างพังไม่เบา
‘ก็พึ่งจะไม่นานมานี้ ช่วงเวลาห่างจากตอนที่เราถูกโจมตีค่อนข้างนาน ถ้างั้นตัวที่โจมตีทั้งสองคนก็น่าจะเป็นตัวเดียวกับที่โจมตีเรา’
โจวเฉินคิดกับตัวเอง
“ยังไงก็เถอะแล้วเธอกับพี่หวังหนีจากพวกแมลงบินได้พวกนั้นมาได้ยังไงกัน?”
โจวเฉินถามคำถามที่ติดใจเขามากที่สุด
“พวกเราปิดไฟฉายไงล่ะ พอพวกเราปิดไฟฉายไปได้ไม่นานพวกมันก็เลิกตามพวกเรา”
เสี่ยวหลี่ตอบกลับทันที
“ง่ายดายขนาดนั้นเลย?”
โจวเฉินหมดคำจะพูด ในเวลานั้นพวกเขาถูกพวกแมลงบินได้นั่นไล่ล่าจนเกือบตายแท้ๆ
“พี่ชายตอนนี้ยังมีเวลาอีกตั้งนานก่อนที่ภารกิจเอาชีวิตรอดจะจบลง ระหว่างนี้ฉันขอตามพี่ชายไปได้ไหม?”
เสี่ยวหลี่เอ่ยปากขอ
“ก็ตามใจเธอ ตราบใดที่เธอตามทันก็ไม่มีปัญหา ฉันขอบอกให้ชัดเจนก่อนเลยนะว่าฉันยืนยันความปลอดภัยให้เธอไม่ได้ ถ้าเธอเจออันตรายเธอก็ต้องพึ่งตัวเอง”
โจวเฉินพูดอย่างตรงไปตรงมา เขากระทั่งคิดว่าหรือเขาควรจะทิ้งสาวน้อยคนนี้ดีเพราะตัวเขาไม่อยากร่วมทางกับใคร เพราะนั่นจะเป็นการเปิดเผยพรสวรรค์ของเขาเสียเปล่าๆ
“ได้ฉันจะพยายาม!”
สีหน้าของเสี่ยวหลี่ย่ำแย่ลงเมื่อได้ยินคำกล่าวของโจวเฉินแต่ไม่นานนักเธอก็ดึงตัวเองกลับมาได้
โจวเฉินไม่ได้ให้ความสนใจเธอมากนัก เขาเอนหลังลงบนหินและพักผ่อนต่อ
จนถึงตอนนี้เขาใช้พลังกายไปเยอะมากทีเดียวและอัตราการดร็อปไอเทมของมอนสเตอร์พวกนี้ก็ค่อนข้างต่ำ ดังนั้นเขาจึงวางแผนว่าจะไม่ไปไหนทั้งนั้นเป็นการชั่วคราวและรอให้มอนสเตอร์มาหาเอง
เมื่อเห็นว่าที่นี่ค่อนข้างปลอดภัยเสี่ยวหลี่จึงเลือกจุดๆหนึ่งที่ไม่ไกลจากโจวเฉินมากนักเพื่อพักผ่อนเช่นกัน ตลอดทางที่วิ่งมาจนถึงตรงนี้เธอเองก็ใช้พลังกายไปค่อนข้างเยอะเหมือนกัน
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ โจวเฉินและเสี่ยวหลี่ดูเหมือนจะโชคดีไม่เบา พวกเขาพักผ่อนไปได้เกือบชั่วโมงโดยที่ไม่มีมอนสเตอร์เข้ามากวนใจเลยแม้แต่ตัวเดียว
ในตอนที่โจวเฉินรู้สึกเบื่อๆและคิดว่าจะไปเดินสำรวจซักหน่อยเขาก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนอันผิดปกติที่เกิดขึ้นกับชั้นบรรยากาศภายในถ้ำ
เมื่อเขาลองสังเกตดูรอบๆก็ได้ยินเสียงครางอู้อี้ดังขึ้น พอมองให้ดีๆก็พบว่าบนลำคอของเสี่ยวหลี่ตอนนี้มีรอยแดงปรากฏขึ้นมาจากนั้นไม่นานเลือดก็สาดกระเซ็นพร้อมกับร่างของเธอที่ล้มลงบนพื้น