ตอนที่แล้วChapter 14 : องค์กรเซอร์ไวเวอร์แห่งจักรวรรดิมังกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 16 : พบเจอมอนสเตอร์

Chapter 15 : ถ้ำมอนสเตอร์


หลังจากอ่านฟอรั่มในระบบกับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจักวรรดิมังกรแล้วโจวเฉินก็ละความสนใจและหันมาเตรียมการรับมือกับภารกิจเอาชีวิตรอดครั้งถัดไปแทน

ขั้นแรกเลยคือเขานำเอาท่อนเหล็กออกมาจากช่องเก็บของ ท่อนเหล็กนี้เป็นหนึ่งในรางวัลที่เขาได้มาจากระบบและไม่ได้มีอะไรพิเศษแต่อย่างใด ตัวของท่อนเหล็กมีสีดำเทา ยาวประมาณหนึ่งเมตรและมีความหนาราวๆนิ้วโป้งเห็นจะได้

แม้ว่าท่อนเหล็กอันนี้จะไม่ได้โดดเด่นแต่เนื่องจากมันถูกสร้างมาโดยระบบมันจึงสามารถยัดเอาไว้ในช่องเก็บของและเอาออกมาใช้ได้ตามอัธยาศัยทั้งในดาวสีน้ำเงินและโลกดันเจี้ยน เรียกได้ว่ามีประโยชน์มากทีเดียว

“ถ้าเหลาให้แหลมได้น่าจะดีแต่กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นนี่สิ”

โจวเฉินไม่รู้ด้วยสิว่าระบบจะลบท่อนเหล็กของเขาทิ้งรึเปล่าถ้าเขาเหลาให้มันแหลมขึ้นมา

เขาลองกระชับมันเอาไว้ในมือแล้วเหวี่ยงดูตามความรู้สึก จากนั้นก็ลองใช้มันแทงต่างหอกเพื่อลองดูว่าใช้แทนกันได้ไหม

และนี่ก็คือภารกิจในช่วงสองวันที่เหลือของเขา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำความคุ้นเคยกับท่อนเหล็กเพื่อที่ว่าเวลาเข้าไปทำภารกิจเอาชีวิตรอดจะได้ไม่เก้ๆกังๆ

นอกจากนี้แล้วเขาก็ยังกินเยอะขึ้นและออกกำลังกายอยู่เสมอๆเพื่อรักษาสภาพร่างกายให้พร้อมที่สุด นอกจากนี้เขายังตรวจสอบในฟอรั่มของระบบอยู่เป็นประจำเพื่อรับรู้ข่าวสารล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับเซอร์ไวเวอร์

สองวันผ่านไปอย่างสงบสุข การฝึกฝนและพักผ่อนของโจวเฉินก็ผ่านไปอย่างสงบจนกระทั่งถึงเวลาต้องเข้าสู่ภารกิจเอาชีวิตรอด

[ภารกิจเอาชีวิตรอดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น – โปรดเตรียมตัวให้พร้อม]

[เริ่มการเคลื่อนย้าย...]

ไม่นานนักสภาพแวดล้อมรอบๆกายของเขาก็เปลี่ยนไป จากห้องเช่าโกโรโกโสกลายเป็นสถานที่ใดก็ไม่ทราบที่ค่อนข้างสลัว ดูเหมือนว่าจะเป็นถ้ำแห่งหนึ่ง

[ถ้ำมอนสเตอร์]

[ระดับความยาก : ทองแดงขั้นต่ำ]

[ภารกิจ : เอาตัวรอดให้ได้หนึ่งวันภายในถ้ำนี้]

[คำแนะนำ : การสังหารมอนสเตอร์ในถ้ำแห่งนี้จะมีโอกาสเล็กน้อยที่จะดรอปของรางวัลระดับทองแดงขั้นต่ำ]

“วันเดียว? ไม่เลวเลยแถมยังมีโอกาสดรอปของอีกด้วย”

เทียบกับครั้งล่าสุดที่ต้องใช้เวลาถึงสามวันในเมืองซอมบี้แล้วโจวเฉินชอบภารกิจสั้นๆแบบนี้มากกว่า เพราะว่ายิ่งภารกิจยาวนานเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นไปได้ที่สภาพร่างกายของเขาจะแย่ลงเท่านั้น เมื่อครั้งนั้นเขาต้องเจอกับประสบการณ์การทนทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจมาแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าระบบบอกว่ามอนสเตอร์ที่ถูกสังหารมีโอกาสดรอปไอเทมอีกต่างหาก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาเจออะไรแบบนี้

ในตอนนี้ตัวเขายืนอยู่ใกล้ๆกับผนังหินของถ้ำ ท่อนเหล็กในมือที่เขาฝึกใช้งานมาตลอดสองวันเองก็ปรากฏอยู่ในมือเช่นเดียวกัน จากนั้นเขาก็เริ่มมองไปรอบๆเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อม

อย่างแรกที่เขาสังเกตเห็นก็คือมีเซอร์ไวเวอร์คนอื่นๆอยู่ในถ้ำมืดๆแห่งนี้ด้วย นอกจากเขาแล้วก็มีชายอีกสองคนและผู้หญิงอีกสองคนที่ยืนอยู่ไม่ห่างกันนัก

“เชี่ยเอ๊ย! ทำไมครั้งนี้ถึงมืดจังวะ! ไม่ค่อยดีกับคนสายตาสั้นแบบฉันเลยนะเว้ย!”

ชายหนุ่มร่างผอมสูงออกปากบ่นระบบเป็นคนแรก

“ฮ่าๆ ไม่ต้องห่วงน่าๆ ถ้านายมองเห็นไม่ชัดก็ตามฉันมาก็ได้ นอกจากจะตาดีแล้วฉันยังมีไฟฉายติดตัวมาด้วย”

ชายหนุ่มร่างกำยำอีกคนยิ้มให้ชายหนุ่มร่างผอม จากนั้นพร้อมกับเสียง ‘คลิ๊ก’ เบาๆวัตถุทรงกระบอกในมือของเขาก็ส่องแสงสว่างออกมา

“เยี่ยมเลย! บอสให้ฉันติดตามคุณด้วยนะคะ!”

สาวน้อยหน้าตาน่ารักกล่าวเสียงเบาเมื่อเห็นว่าชายร่างกำยำมีวิธีจัดการกับปัญหาเรื่องแสงสว่าง

ส่วนหญิงสาวร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆกันนั้นยังไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

โจวเฉินเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเช่นกัน ตามลักษณะนิสัยของเขาแล้วเขาควรจะเดินออกไปเพื่อทำภารกิจเพียงลำพังมากกว่าแต่แสงสว่างของที่นี่มันมืดเกินไปหน่อย การเพ่งมองระยะไกลๆยังลำบากเลยด้วยซ้ำทำให้เขารู้สึกว่าไม่อาจผลีผลามเคลื่อนไหว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจอยู่กับเซอร์ไวเวอร์คนอื่นๆก่อนเป็นการชั่วคราว

“ทุกๆคนไม่คิดบ้างหรอว่าการที่พวกเรามาเจอกันที่นี่เป็นเพราะชะตาลิขิต? มาแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า ฉันแซ่หวัง...พวกนายจะเรียกฉันว่าพี่หวังก็ได้ ตัวฉันผ่านภารกิจเอาชีวิตรอดมาสี่ครั้งแล้ว”

ชายหนุ่มร่างกำยำที่มาพร้อมกับไฟฉายแน่นอนว่าย่อมถูกยกเป็นหัวหน้ากลุ่มของเหล่าเซอร์ไวเวอร์กลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้

“ฉันแซ่หลี่ ทุกๆคนเรียกฉันว่าเสี่ยวหลี่ก็ได้ นี่เป็นภารกิจเอาชีวิตรอดครั้งแรกอย่างเป็นทางการของฉัน หวังว่าพี่หวังและพี่ชายพี่สาวคนอื่นๆจะไม่ทิ้งฉันนะคะ”

สาวน้อยตัวเล็บเอ่ยปากแนะนำตัวเป็นคนแรกหลังจากที่ชายหนุ่มร่างกำยำที่ชื่อว่าพี่หวังเริ่มเปิดหัวข้อ จากคำพูดของเจ้าตัวก็ชัดเจนแล้วว่าเธอเป็นหน้าใหม่ที่พึ่งจะผ่านภารกิจทดสอบมาหมาดๆ

“พวกคุณเรียกว่าผมเสี่ยวกะงก็ได้เพราะเพื่อนผมทุกๆคนก็เรียกผมแบบนั้น นี่เป็นภารกิจเอาชีวิตรอดครั้งที่สอง”

ชายหนุ่มร่างผอมสูงเป็นคนที่สองที่เปิดปาก

“ฉันแซ่จางพวกนายเรียกฉันว่าเสี่ยวจางก็ได้ นี่เป็นภารกิจครั้งที่สองเหมือนกัน”

โจวเฉินเอ่ย

“ฉันแซ่หลิว นี่เป็นภารกิจครั้งที่สาม”

สาวร่างสูงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“ฮ่าๆ ทีนี้ทุกๆคนก็รู้จักกันแล้ว หวังว่าพวกเราจะร่วมมือกันผ่านวันนี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็นนะ”

พี่หวังร่างกำยำดูเหมือนจะพอใจเล็กน้อยที่สามารถร่วมมือกับเซอร์ไวเวอร์อีกสี่คนได้สำเร็จ เขาฉีกยิ้มกว้างท่ามกลางแสงสว่างจากปลายกระบอกของไฟฉาย

“ไฟฉายของฉันส่องแสงมาได้ซักพักแล้วแต่รอบๆยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย พื้นที่ตรงนี้น่าจะยังปลอดภัยไปอีกซักพัก พวกนายอยากจะอยู่ตรงนี้หรือเข้าไปลึกกว่านี้ล่ะ?”

หลังจากคนทั้งห้าแนะนำตัวกันเป็นที่เรียบร้อย พี่หวังก็เปิดปากถามความเห็นของคนอื่นๆ

“พวกเราควรจะเลือกสำรวจซักทิศทางหนึ่งดู ยังไงซะระบบก็ไม่มีทางปล่อยให้เราอยู่ตรงจุดเริ่มต้นได้อย่างสบายๆอยู่แล้ว ถ้าพวกเราใช้มาตราการเชิงรุกก็น่าจะทำความเข้าใจสถานการณ์ของถ้ำนี้ได้ไม่ยาก ไม่แน่ว่าถ้าโชคดีมากพอก็อาจจะได้ของดรอปติดไม้ติดมือกลับไปด้วย”

ชายหนุ่มผอมสูงที่เรียกตัวเองว่าเสี่ยวกังเอ่ยความคิดเห็นของตัวเองออกมา

“พี่หวังพวกเราอยู่ที่นี่กันเถอะ ฉันรู้สึกว่าจุดที่อยู่ไกลออกไปนั่นมีอะไรบางอย่างน่าหวาดกลัวอยู่ด้วย...”

เสียงของสาวน้อยมีร่องรอยของความหวาดกลัวเด่นชัด

“ฉันค่อนข้างเห็นด้วยกับการสำรวจนะ”

โจวเฉินเอ่ยความคิดเห็นออกมาเป็นคนที่สาม

“ฉันก็คิดว่าพวกเราควรจะมุ่งหน้าเข้าไปให้ลึกกว่านี้จะดีกว่า”

สาวร่างสูงเองก็มีความคิดไม่ต่างกัน

“เอาล่ะ น้องสาวหลี่พวกเราคงต้องทำตามเสียงส่วนมากล่ะนะ ถ้าเธอกลัวก็มาอยู่ใกล้ๆพี่ชายเอาไว้เถอะ เริ่มสำรวจจากเส้นทางนี้แล้วกันนะ”

พี่หวังที่ถือกระบอกไฟฉายออกเดินนำคนทั้งสี่ไปยังเส้นทางหนึ่งของถ้ำ

ตอนนี้พวกเขาติดกันอยู่ในถ้ำ เส้นทางทั้งด้านหน้าและด้านหลังต่างก็ทั้งลึกและมืดสนิทแถมยังดูไม่ต่างกันอีกด้วย ดังนั้นต่อให้พี่หวังจะสุ่มๆเลือกเส้นทางมาก็ไม่มีใครไม่เห็นด้วย

“ทุกๆคนเตรียมอาวุธเอาไว้ให้พร้อม พวกเราอาจจะถูกโจมตีได้ทุกเมื่อ”

ระหว่างที่นำทางนั้นดาบเล่มหนึ่งก็ปรากฏออกมาในมือขวาของพี่หวังจากนั้นเขาก็กระชับมันเอาไว้แน่น

โจวเฉินเองก็เรียกท่อนเหล็กออกมาเช่นกัน เมื่อเขาปรายตามองดูคนอื่นๆก็พบว่าชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงนั้นมีมีดอยู่ในมือ ส่วนสาวร่างสูงก็เป็นกระบี่ขณะที่สาวน้อยนามเสี่ยวหลี่ดูเหมือนว่าจะมือเปล่า

‘พี่หวังคนนี้กล้าหาญพอตัวเลยนี่หว่า หมอนี่ไม่กลัวเลยว่าจะถูกแทงข้างหลัง บางทีค่าสถานะจิตวิญญาณอาจจะสูงมากหรือไม่ก็มีพรสวรรค์เกี่ยวกับการรับรู้’

โจวเฉินจ้องมองแผ่นหลังของพี่หวังและสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายมุ่งเป้าไปที่การนำทางเพียงอย่างเดียว เขาเดาว่าหมอนี่ต้องมีอะไรเป็นหลักประกันอยู่แน่นอน เป็นไปไม่ได้หรอกที่หมอนี่จะโง่และไม่สนใจเลยว่าตนเองจะถูกแทงข้างหลังรึเปล่า

คนทั้งห้าเดินอยู่ภายในถ้ำที่เต็มไปด้วยซากหินอย่างเงียบๆเกือบสามนาทีและทันใดนั้นเองพวกเขาก็สังเกตุเห็นแสงสีแดงเรืองรองที่ปรากฏออกมาด้านในส่วนลึกของถ้ำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด