ตอนที่แล้วตอนที่ 377 นักสู้ระดับทอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 379 เคล็ดสังหาร รังสีฉลาม

ตอนที่ 378 ต่อสู้ดุเดือด 


ร่างของถังเทียนหายไปในอากาศทันที

กระบี่แสงที่จีเสี่ยวหย่ากวัดแกว่งเพิ่งจะปรากฏออกมาครึ่งเดียวม่านตาของนางหดลีบ, ไวมาก

ทันใดนั้นเงาร่างมาปรากฏที่ด้านซ้ายของนาง  ประกายแสงจากด้านซ้ายของนางทำให้นางตาพร่า  เป็นกรงเล็บโจมตีข้างหนึ่ง  นางใช้ฝ่ามือซ้ายป้องกันการโจมตีนั้นพลังนั้นทำให้ไหล่ซ้ายของนางรู้สึกชาจากการป้องกัน

พลังโจมตีทางกายภาพที่หนักหน่วงในระยะใกล้คือจุดอ่อนของนาง  พลังโจมตีดันนางถอยออกไปสองเมตร

แต่จีเสี่ยวหย่าเป็นนักสู้ระดับทอง  ที่สำคัญนางมีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย ขณะที่ฝ่ามือของนางป้องกันพลังโจมตีของกรงเล็บ  นางจัดการกระจายสลายพลังออกไปจากนาง  แม้ว่านางจะเสี่ยงต่อการโจมตีดังกล่าว

นางสามารถหลบการโจมตีได้

เหมือนกับว่าถังเทียนจะทราบการเคลื่อนไหวของนางขณะที่เขาหายไปอีกครั้งและรุกใส่อีกครั้ง

ทันใดนั้นนางสามารถได้ยินเสียงลมหวีดหวิวจากด้านหลังของนาง จีเสี่ยวหย่าไม่ประมาท นางสร้างกระบี่แสงและแปลงพลังเป็นโล่ มีเสียงดังปังและประกายไฟกระจาย พลังดันนางไปเจ็ดเมตร

ขณะที่นางพยายามรักษาสมดุลเสียงหวีดหวิวที่ได้ยินชัดดังมาจากด้านบนอีก

จีเสี่ยวหย่ายื่นฝ่ามือซ้ายออกไปป้องการพลังโจมตี  ปัง!  พลังที่แข็งแกร่งกว่าการโจมตีสองครั้งก่อน แขนของนางอ่อนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากพลังโจมตีบังคับให้นางต้องคุกเข่าลงกับพื้น

นางร่วงลงกับพื้นแรงตุ้บ... ฝุ่นและทรายฟุ้งไปทั่วสนามต่อสู้

การแสดงพลังที่น่ากลัวทำให้นางต้องเพิ่มความระวังสำหรับการโจมตีที่จะมาจากทุกด้าน  ความโกรธในตัวนางรุนแรงจนถึงขีดสุด  นางไม่อยากเชื่อเลยว่านางจะถูกตรึงโดยนักสู้ที่อ่อนแอกว่า

เป็นเวลานานมากตั้งแต่นางพบเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก

นักสู้ระดับทองในสมาพันธ์ชาวยุทธล้วนได้รับความเคารพทุกคน  สาขาทองที่สิบสามอยู่ในศูนย์กลางอำนาจ  แต่ละสาขาจะมีนักสู้แข็งแกร่งทรงพลังนับไม่ถ้วน

พลังของนักสู้ระดับทองยิ่งใหญ่มากกว่าผู้อาวุโสคนใดๆเสียอีก

นักสู้เหล่านี้ถือดีและถูกมองว่าเป็นนักรบที่ทรงพลัง  จีเสี่ยวหย่าเป็นนักสู้ระดับทองตัวนางเองในตอนนี้ถูกถังเทียนต้อนเข้ามุมความหยิ่งที่นางมีมาเป็นเวลานานถูกบดขยี้ด้วยพลังที่คาดไม่ถึงของถังเทียน แม้ว่าเขาจะใช้แต่เพียงความเคลื่อนไหวต่อเนื่องไม่กี่ท่าก็ตาม

นางจำได้ว่าผู้อาวุโสมอบหมายให้นางเชิญถังเทียนเข้าสำนักอย่างจริงใจแต่ตอนนี้มีแต่เพียงความคิดในใจนางก็คือฆ่าถังเทียนเพื่อล้างแค้นที่ทำร้ายความภาคภูมิใจของนางจนขาดรุ่งริ่ง

กระบี่แสงตอนนี้เปลี่ยนสภาพเข้ามาอยู่ในฝ่ามือนางทั้งหมด  สายลมมาจากทางด้านขวาของนางจากนั้นเพียงพริบตาก็ทำให้นางตาพร่า นางสะบัดกระบี่นางไปทางตำแหน่งนั้นชิงรุกแทนรับ

เป๊ง!

เสียงเยือกเย็นเสียดถึงกระดูกสันหลังปะทะกันในอากาศ  รังสีเป็นประกายบินไปทั่วทั้งอากาศ

ขณะที่นางเหวี่ยงกระบี่  บ้านหลังเล็กอยู่ไม่ไกลออกไปถูกฟันกลายเป็นสองส่วนจากพลังโจมตี

โครม...

จากด้านล่างจีเสี่ยวหย่ารัศมีสามร้อยเมตรห่างจากเขตเมืองถูกทำลาย ทั่วทั้งพื้นที่อยู่ในควันและฝุ่นและชิ้นส่วนเศษเล็กเศษน้อย

พลังของวิชากระบี่สร้างความตกใจให้กับผู้สังเกตการณ์มองดูการต่อสู้

สิ่งที่น่าตกใจก็คือพื้นที่นี้คือพื้นที่ทำธุรกิจและร้านค้ามีอยู่หนาแน่น เพื่อป้องกันการถูกลักขโมยร้านเหล่านี้ได้เสริมความแข็งแรงด้วยวัสดุที่แข็งแรง  นักสู้ทั่วไปไม่มีพลังพอจะทำลายผนังกำแพงเหล่านี้

แต่ด้วยการฟาดฟันกระบี่ของนาง  ร้านค้าเหล่านี้เหลืออยู่แต่เพียงซากอิฐปูน

พวกที่มองดูเหตุการณ์ต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด ตอนแรกพวกเขาคิดว่าระยะของพวกเขานั้นปลอดภัยเพียงพอจะดูการต่อสู้  แต่หลังจากเห็นพลังวิชากระบี่ของจีเสี่ยวหย่า พวกเขาทุกคนในตอนนี้กลัวว่าพวกเขาจะอยู่ในวิถีของการต่อสู้

อย่างไรก็ตาม  ใช่ว่าผู้ดูทุกคนจะขลาดกลัว

บุรุษสองคนที่มีท่าทีดุร้ายกำลังสนทนากันอยู่พื้นหลัง

บุรุษศีรษะล้านหัวเราะ  “พลังโจมตีของจีเสี่ยวหย่ามีชื่อว่ารังสีกระบี่ฉลามเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่น ยังนับว่าดีกว่าวิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียน  ปัจจุบันนี้นางยังสวมเกราะครีบปลาบินซึ่งมาจากกลุ่มดาวปลาบิน  ข้าได้ยินว่านางใช้พลังภายในของนางปรับแต่งและเสริมพลังของเกราะเกินกว่าสิบปีโดยไม่เปลี่ยนมันเลย  พลังของมันในตอนนี้อาจจะเทียบเท่ากับสมบัติระดับเซียนแค่เป็นรองเกราะระดับทองเล็กน้อย

บุรุษผอมพูดอย่างใจเย็น “ข้าได้ยินมาว่านางเป็นนักรบที่มีพรสวรรค์มีความอดทน แข็งแรงและมีความรู้ความสามารถมาก  แม้ว่าเกราะครีบปลาบินจะอยู่ในระดับต่ำ แต่มันก็สามารถเสริมสุดยอดวิชาโดดเด่นทำให้มันใช้พลังได้เต็มที่  ถ้ากลุ่มดาวครีบปลาบินรู้เรื่องนี้ บางทีพวกเขาอาจไปร่วมกับกลุ่มดาวราชสีห์ก็เป็นได้”

“ฮ่าฮ่านั่นสินะ” บุรุษหัวล้านตอบพลางหัวเราะพลาง “ถ้าจีเสี่ยวหย่าสามารถปรับแต่งและพัฒนาเกราะครีบปลาบินให้เป็นสมบัติชั้นทองได้จริงๆ  สมาพันธ์ชาวยุทธคงจะต้องการพิชิตกลุ่มดาวปลาบินด้วยตัวเองเพื่อสร้างเกราะสมบัติแห่งกลุ่มดาวปลาบินแน่”

บุรุษผอมตอบ  “พวกเขาคงไม่กล้า  เพราะมันจะทำให้เป็นศัตรูกับกลุ่มดาวอื่นทั้งหมดในสวรรค์วิถี  สำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธที่กลายเป็นองค์กรใหญ่ในวันนี้คล้ายกับองค์การวิญญาณมืดของเราเป็นเพราะไม่ได้พยายามกลายเป็นเจ้าปกครองจักรวาล ถ้าพวกเขาทำลายกฎนี้ สมาพันธ์ของพวกเขาจะต้องเผชิญกับความโกรธแค้นของกลุ่มดาวอื่น”

“เจ้าพูดถูกเรื่องนั้น”  บุรุษศีรษะล้านพยักหน้า  “ข้าประหลาดใจกับศักยภาพของถังเทียน  แต่ในยามเผชิญหน้ากับจีเสี่ยวหย่า  เขาก็ยังไม่พลาดพลั้งจากพลังโจมตีของนาง  หลายๆ คนพยายามเชี่ยวชาญสุดยอดวิชาโดดเด่น,ท่าเท้าลมพราง แต่มีคนประสบความสำเร็จได้น้อย อย่างไรก็ตาม ถังเทียนสามารถเชี่ยวชาญได้ในระยะเวลาสั้นๆได้ แม้แต่วิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายของเขาก็เชี่ยวชาญจนกลายเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่นข้าต้องการรู้จริงๆว่าสภาพใจของเขาทำงานยังไงจึงเชี่ยวชาญวิชาเหล่านี้ได้รวดเร็วนัก”

บุรุษผอมพูดไม่ออก  เขาก็เช่นกันที่ประหลาดใจกับพลังของถังเทียน

อาเฮ่อและหลิงซิ่วอ้าปากสูดหายใจลึก  แต่ไม่มีใครกล้าละสายตาจากการต่อสู้เหงื่อไหลย้อยมาตามใบหน้าของพวกเขา พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตา

ข้างหน้าของพวกเขามีนักสู้ร่างสูงใหญ่ปรากฏตัว  เขามีร่างที่สูงเด่นและสง่างาม

“ข้าลู่ไห่คนของสาขาทองที่สิบสามแห่งสมาพันธ์ชาวยุทธ”

เสียงอู้อี้ของเขาดูเหมือนจะลากความกลัวออกมาจากศัตรูของเขา  ด้วยส่วนสูงสี่เมตรและร่างล่ำสันทำให้เขาดูเหมือนยักษ์แต่ครั้งโบราณกาล ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือย อุดมไปด้วยมัดกล้ามเป็นลอนเหมือนคลื่น ไหล่ของเขาซึ่งกว้างกว่าต้นขาด้านบนของเขาสักเป็นรูปปีศาจสีทองคลุมทั้งหมด

เขามีท่าทางขึงขัง  ทุกย่างก้าวที่เดินทำให้พื้นสั่นสะเทือน

“พวกเจ้าจะยอมแพ้หรือยอมตาย!”

เสียงทุ้มลึกดังใกล้เข้ามา

หลิงซิ่วลุกขึ้นยืนทันทีและขยับคอได้เสียงเสียงกระดูกลั่นแครกจากนั้นเขากล่าว “เฮ้, เสี่ยวเฮ่อ ถอยไปก่อน”

อาเฮ่อยืนขึ้นขณะที่เขาปาดเหงื่อจากหน้าผาก  เขาค่อยๆ ดึงขวดน้ำออกมาและอธิบาย“ข้าต้องการให้ตัวเองมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ข้าเสียเหงื่อมากเกินไปหน่อย”

หลิงซิ่วไม่พอใจ  “เฮ้, เจ้าคนสุขุมาลชาติ  ก็แค่ให้แน่ใจว่าเจ้าจะไม่เข้ามาแทรกแซงเมื่อข้าสังหารเจ้ายักษ์โง่นี่ในหอกเดียว”

อาเฮ่อเตือนอย่างสุภาพ  “ในฐานะพยานข้ายังคงมีส่วนแบ่งในเหตุการณ์นี้ เจ้าแบกรับไว้คนเดียวไม่ใช่วิธีปฏิบัติต่อสหายที่ดี”

“ฮ่า”เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกมาจากปากหลิงซิ่ว ใบหน้าที่ห้าวหาญและม่านตาสีเพลิงของเขาที่เหมือนมอดมานาน บัดนี้กลับลุกโชนเหมือนเป็นทะเลเพลิงอีกครั้ง

นักสู้ระดับทอง?

เขาเลียริมฝีปากของเขาด้วยลิ้นแดงขณะที่เขากวาดตาจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งเหมือนกับเขากำลังจับจ้องเหยื่อเตรียมพร้อมกระโจนเข้าใส่ได้ทุกเมื่อ

หอกเงินปรากฏในมือของเขาขณะที่เขาค่อยๆลูบมันซึ่งเหมือนอสูรมีเขี้ยวแหลมคมมองเหยื่อ

ด้านล่างเขานกฟลามิงเงียบเป็นพิเศษ ตอนนี้มันพร้อมแล้ว

อาเฮ่อดื่มน้ำช้าๆเขาพริ้มตาขณะดื่มด่ำกับรสชาติของเครื่องดื่มชุดนักสู้สีดำของเขาพัดพลิ้วเป็นระลอกในสายลม

ทันใดนั้นยิ้มที่อบอุ่นของเขาตอนนี้เปลี่ยนเป็นเหมือนมีกระแสนุ่มนวล ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาที่สามารถทำให้หญิงสาวสะเทิ้นอาย กลับมีราศีที่เฉียบคม

เขายังยืนอยู่ในความเงียบร่างสูงโปร่งของเขากับรอยยิ้มบนใบหน้าที่สุดหยั่งคาดค่อยๆ กลายสภาพเป็นเฉยชา

“อะไร?”

ลู่ไห่หยุดอยู่กับที่นัยน์ตาครึ่งหลับครึ่งตื่นของเขาตอนนี้เบิกกว้าง

นี่ชักน่าสนใจ

อย่างไรก็ตามสำหรับนักสู้ระดับทองวิชาอย่างนั้นไม่มีอะไรน่าตกใจพอจุดประกายเรียกความสนใจของเขา

“ฆ่า!”

หลิงซิ่วโห่ร้องขณะกระตุ้นฟลามิงโกของเขาซึ่งลากตัวมันเป็นเพลิงยาวเหมือนสายเพลิง

ทัศนวิสัยการมองของหลิงซิ่วเริ่มพร่ามัวและลมแรงกระโชกใส่ซึ่งเกิดจากความเร็วของฟลามิงโกทำให้เขายากจะเห็นได้รู้สึกเหมือนกับว่าเขาตกอยู่ในเพลิง  รัศมีร้อนแรงของฟลามิงที่แผ่ไปทั่วพื้นที่ราบ

ร่างที่ปรากฏในสายตาของเขาขยายใหญ่ขึ้นและชัดเจนขึ้นขณะที่มันใกล้เข้ามาจากระยะไกล

นักสู้ระดับทอง  นั่นคือนักสู้ระดับทองจริงๆ ด้วย

หลิงซิ่วถลึงมองอย่างดุดัน  เขาหมอบต่ำและถือหอกเงินในแนวนอน  นิ้วที่จับหอกคลายจากการยืดช้าๆ

ลู่ไห่ผงะเนื่องจากที่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอัศวินหลังม้าที่ขี่อสูรจักรกล เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นอัศวินขี่อสูรจักรกลในการรบที่มีมาตรฐานสูง  ปกติจะใช้อสูรดวงดาวแทน

อสูรจักรกลรวดเร็วมากและมีพลังที่แข็งแกร่งซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับลู่ไห่ รังสีนักสู้ของอัศวินผู้ขับขี่ดูเหมือนจะหลอมรวมกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน

พลังที่น่ากลัวจริงๆ

ลู่ไห่ผิดหวัง  ถ้าคนแบบนี้ร่วมกับสาขาทองของพวกเขา  เขาสามารถฝึกฝนให้เป็นนักสู้ระดับทองได้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าหัวหน้าสาขาถึงได้เตือนแล้วเตือนล่าว่าต้องการเขา

อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือคนทั้งสองนี้

ลู่ไห่ไม่ประหลาดใจ  อัจฉริยะมักจะหยิ่งผยอง  แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาพอใจ

ทันใดนั้นเขาตั้งท่าสู้ทันทีและยกแขนเสมอไหล่จากนั้นรอยสักทองที่คลุมอยู่ที่แขนของเขากลายเป็นมีชีวิตแขนของเขาใหญ่อยู่แล้วพลันเพิ่มขนาด ตอนนี้ใหญ่พอๆ กับอกของเขา

เขาปลดปล่อยพลังเป็นเสียงระเบิดเสียงดังขณะที่เขาค่อยๆ รวบกำปั้น

เขาจับตามองหลิงซิ่วที่กำลังใกล้เข้ามา

หลิงซิ่วใช้หอกเงินซึ่งเหมือนกับมังกรรอการเข้าจู่โจม

พลังของหลิงซิ่วและฟลามิงโกถูกควบรวมอยู่ใหอกรัศมีที่ทรงพลังรวมกันอยู่ที่ปลายหอกทำให้ลู่ไห่ประหลาดใจ

จังหวะเวลาที่ดี!

พลังภายในดวงตาของลู่ไห่พลันเพิ่มขึ้นพรวดพราด  จากนั้นเขาปล่อยพลังโจมตีใส่หมัดขวา

ทันใดนั้นเขาเปลี่ยนสายตา

ร่างสูงโปร่งเลือนรางปรากฏอยู่เหนือหัวเขาทันที

มันมาพร้อมกับภาพกระบี่ที่พลิ้วไหวจากในระยะไกลเหมือนสายลม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด