ตอนที่แล้วตอนที่ 12-13 เริ่มเข้าสมาธิฝึกฝน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12-15 เปลี่ยนแปลงกะทันหัน

ตอนที่ 12-14 การเยี่ยมเยือนจากเยล


มิถุนายน ศักราชยูลานที่ 10034เพลิงสงครามปะทุขึ้นอีกครั้งในทวีปยูลาน

จักรวรรดิยูลาน, จักรวรรดิโอเบรียนและจักรวรรดิบาลุคก่อตั้งความเป็นพันธมิตรและเริ่มทำสงครามใหญ่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมานานเป็นพันปี สำหรับจักรวรรดิโรฮอลท์ จักรวรรดิไรน์สหภาพศักดิ์สิทธิ์ สัมพันธมิตรมืดและทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกลที่อ่อนแอ

ผู้นำจิตวิญญาณของทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกลเซียนสงครามถูลี่ได้รับคำเตือนของเทพสงครามและมหาพรตแล้วรู้ว่าเขาไม่สามารถต่อต้านแผนการใหญ่เหล่านี้ได้

นอกจากนี้ ถูลี่ยังเป็นหนี้ลินลี่ย์และถูลี่เองไม่ต้องการให้นักรบของทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกลเอาชีวิตไปทิ้งอย่างไม่มีประโยชน์ภายใต้การทำลายล้างของเวทต้องห้ามของเซียนจอมเวท ดังนั้นถูลี่จึงส่งศิษย์ที่เป็นเซียนไปพูดคุยสถานการณ์กับสามราชอาณาจักรของทุ่งราบใหญ่

แม้ว่าสามอาณาจักรจะไม่เห็นด้วยกับการยอมแพ้จักรวรรดิบาลุคทันที  แต่พวกเขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะยอมจำนนทันทีในตอนนี้

ขณะที่สหภาพศักดิ์สิทธิ์และสัมพันธมิตรมืดชนชั้นระดับสูงของพวกเขาถูกกำจัด และพวกเขาไม่มีเซียนผู้แข็งแกร่งเหลืออยู่ สหพันธรัฐที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองเหมือนกองทรายพูนหลวมๆ

กองทัพหน่วยหนึ่งของจักรวรรดิโอเบรียนผ่านไปเส้นทางด้านเหนือเลียบแนวเทือกเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์และเข้าสู่สหภาพศักดิ์สิทธิ์  ราชอาณาจักรและแคว้นใหญ่น้อยของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีข่าวกรองรายงานเป็นอย่างดีได้ทราบข่าวว่าเกาะศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายและชนชั้นระดับสูงของศาสนจักรเจิดจรัสถูกกำจัด อาณาจักรแคว้นเหล่านี้เริ่มพบปะลับๆ กับตัวแทนของจักรวรรดิโอเบรียน

ความจริงเป็นทางจักรวรรดิโอเบรียนเองที่กระจายคำพูดเรื่องการทำลายล้างเบื้องบนของศาสนจักรเจิดจรัสออกไปต่างหาก

นอกจากนี้ นี่คือเรื่องจริง  ผู้โชคดีรอดชีวิตของศาสนจักรเจิดจรัสไม่กี่คนไม่สามารถปิดบังได้ต่อให้พวกเขาต้องการทำก็ตาม เห็นได้ชัดว่า...สหภาพศักดิ์สิทธิ์ไม่มีอะไรมากไปกว่าซากหักพังทางประวัติศาสตร์ไปแล้ว  การเข้าพิชิตของจักรวรรดิโอเบรียนไม่มีอะไรมากเป็นเรื่องของเวลา

อย่างน้อยตอนนี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของเวลา

สำหรับสัมพันธมิตรมืด สถานการณ์ของพวกเขาไม่ได้ดีไปกว่าสหภาพศักดิ์สิทธิ์เลย

แต่แน่นอน ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงามีสมาชิกมากมายที่กระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน  แม้ว่าสำนักงานใหญ่ของพวกเขาจะถูกทำลายไปก็ยังมีเซียนของพวกเขาเหลืออยู่สองสามคน พวกเขายังคงมีผู้จัดการระดับกลางอยู่อีกหลายคน ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดา

การปกครองมานานนับพันปีมีผลทำให้สองลัทธิศาสนานี้ยังมีอิทธิพลยิ่งใหญ่

ส่วนที่ยังเหลือของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยซีลล็อธของศาสนจักรเจิดจรัสยังไม่ยินดียอมแพ้

พลังศรัทธาของศาสนานับว่าแข็งแกร่งมากจริงๆ

การอาศัยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอ่อนโยนหรือนองเลือด ลัทธิศาสนาใหญ่ทั้งสองซึ่งอยู่รอดมาเป็นหมื่นปีจะรักษาเสถียรภาพภายในของตนได้บ้าง  พวกเขาต้องการเตรียมตัวสู้รบกับจักรวรรดิยูลานและโอเบรียน  จนกระทั่งห้วงเวลาสุดท้ายมาถึง  พวกเขาไม่ต้องการยอมแพ้

ที่ฐานของเทือกเขาอสูรวิเศษ บนเส้นทางที่แห้งแล้งในมณฑลอาคเนย์ของจักรวรรดิโอเบรียน

ตัวประหลาดคนหนึ่งตัวคลุมด้วยชุดคลุมสีเขียวยืนอยู่ในถนนรกร้างเต็มไปด้วยหมอกกำลังจ้องมองไปโดยรอบ   สิ่งเดียวที่สามารถเห็นได้จากภายในแขนเสื้อยาวเป็นคู่กรงเล็บมองดูคล้ายกับนิ้วซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนผู้นี้น่าจะแก่มาก

เพียงแต่...

ตาของเขาสีเขียวมันเหมือนกับนัยน์ตาหมาป่ายามราตรี

ด้านหลังเขา มีร่างอีกเก้าร่างอยู่ในชุดคลุมสีเงิน ชุดคลุมสีเงินขนาดใหญ่เหล่านี้คลุมร่างทั้งหมดที่ยืนอยู่ข้างหลังชายชราด้วยความเคารพเหมือนกับเป็นบ่าวทาส

“ทวีปยูลาน, งั้นนี่ก็คือทวีปยูลานสินะ...”  เสียงชราดังทุ้มมาจากชายชราชุดคลุมเขียว

“แค่ก แค่ก...” เสียงไอดังจนได้ยิน ชายชราชุดคลุมเขียวดูเหมือนค่อนข้างอ่อนแอ

ทันใดนั้นชายหนุ่มรูปงามสองคนกำลังขี่ม้าปรากฏขึ้นพวกเขาควบม้าผ่านถนนเปลี่ยวร้างด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อชายหนุ่มทั้งสองเห็นบุรุษชุดเขียวและคนในชุดคลุมเงินลึกลับอีกเก้าคน  พวกเขารู้สึกหนาวสะท้านถึงหัวใจ

ชายหนุ่มทั้งสองนี้ตั้งใจจะดึงม้าหลบไปด้านข้างและจากไปอีกฟากถนนด้วยความเร็วสูง

พวกเขาไม่ต้องการเข้าใกล้คนลึกลับพวกนี้มากเกินไป

“มนุษย์...”  เมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองคนตาของชายชราชุดยาวสีเขียวเป็นประกายวาบ เขาผอมมากจนไม่มีอะไรมากไปกว่าหนังหุ้มกระดูก และเมื่อกรงเล็บเหมือนกระดูกของเขากางออกพลังที่แปลกประหลาดมองไม่เห็นพันธนาการบุรุษหนุ่มทั้งสองไว้

“อ๊าคคค!”  “อ๊าคคค”

บุรุษหนุ่มทั้งสองคนรู้สึกเหมือนกับว่าไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปและจากนั้นพวกเขาเริ่มลอยขึ้นในอากาศ ร่างของพวกเขาไม่อยู่การควบคุมของตัวเองอีกต่อไป พวกเขาพุ่งเข้าหาชายชราชุดเขียวราวกับลูกธนู  จนต้องร้องออกมาอย่างหวาดผวา

“กร๊อบ!”  “กร๊อบ!”

มือทั้งสองคว้ากะโหลกของบุรุษทั้งสองที่เริ่มสั่นสะท้านไม่หยุดร่างของพวกเขากระตุกเหมือนกับว่ากำลังชัก

“โอว, เทพสงคราม, มหาพรต?และนักรบเลือดมังกรนั่นน่ะหรือ?” ชายชราพึมพำกับตนเองและจากนั้นเปลี่ยนสายตามองเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่มที่กำลังชักกระตุก  “เด็กที่น่าสงสาร  ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปชั่วนิรันดร์”

จากนั้นร่างของบุรุษหนุ่มทั้งสองร่วงลงพื้น แต่ร่างของพวกเขาไม่มีประกายชีวิตเหลืออยู่อีกต่อไป  พวกเขาตายแล้ว

“น่าเสียดาย วิญญาณสองดวงนี้อ่อนแอเกินไป  การดูดกินวิญญาณสองดวงนี้ให้ประโยชน์กับข้าเล็กน้อย”เสียงชายชราถอนหายใจอย่างพอใจ

สูบกินวิญญาณ?

ถ้าใครอื่นอยู่ใกล้และได้ยินคำพูดนี้พวกเขาคงได้หวาดผวาเป็นที่สุด

แต่บุรุษชุดคลุมสีเงินด้านหลังเขายังคงเงียบรออยู่อย่างเคารพ

“ทวีปยูลานกำลังจะเริ่มเข้าสู่ยุคสงครามใหญ่นี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยมของพวกเจ้าทุกคน ไปเลย เด็กๆ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”  เสียงชราภาพของบุรุษชุดเขียวดังขึ้นและร่างในชุดคลุมเงินทั้งเก้าคุกเข่าลงกันหมด “ขอรับ, ท่านผู้วิเศษ!”

และจากนั้น...

“ควั่บ” “ควั่บ”

ร่างในชุดคลุมทั้งเก้ากลายเป็นจุดสีเงินเก้าจุดหายลับขอบฟ้าไปในทันที  พวกเขาไวมากขนาดถ้าลินลี่ย์และเดลี่เห็นพวกเขาก็คงจะรู้สึกประหลาดใจ

“ทวีปยูลานหมื่นปีแล้ว.. เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว” บุรุษชราชุดเขียวระบายลมหายใจเงียบๆ “ก่อนอื่น ข้าต้องฟื้นฟูพลังเสียก่อน เมื่อข้ามีโอกาส จากนั้นข้าจะไปเยี่ยมเยือนลอร์ดเบรุต” และทันใดนั้นชราชราชุดเขียวกลายเป็นภาพเลือนรางและหายไป

จักรวรรดิบาลุค ปราสาทเลือดมังกร ห้องโถงใหญ่

“พี่ใหญ่เยล, ท่านมาผิดเวลาไปหน่อย  สองสามเดือนก่อนพี่ใหญ่ข้าเริ่มขังตัวฝึกฝีมือ” วอร์ตันพูดกับผู้ที่มาเยี่ยมอย่างจนใจ”

“น้องสามเข้าฝึกสมาธิอีกแล้ว?”  เยลขมวดคิ้ว

“เป็นอะไรไปหรือ? มีเรื่องอะไรบางอย่างหรือเปล่า? ทำไมท่านไม่ลองบอกให้ข้าฟัง ข้าอาจจะช่วยได้”  วอร์ตันกล่าวพลางหัวเราะ  เขารู้ว่าเยลกับลินลี่ย์สนิทกันเพียงไหน ดังนั้นเรื่องของเยลเขาจึงอดเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นธรรมดา

เยลลังเลเล็กน้อย จากนั้นกล่าว  “วอร์ตัน, ให้น้องสามออกมพบข้าเร็วๆ ได้ไหม?”

วอร์ตันพูดขออภัย “พี่ใหญ่เยล, ข้าเสียใจจริงๆ การขังตัวฝึกฝนครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน  นี่ค่อนข้างจะสำคัญ  แต่ก่อนจะเริ่มเข้าฝึกฝนพี่ใหญ่พูดคุยและสั่งไว้แล้วว่าเว้นแต่เกิดเรื่องสำคัญสุดขีดเราทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้รบกวนเขา ความจริงต่อให้ข้าเห็นด้วยยอมปล่อยให้ท่านพบพี่ใหญ่เรายังต้องได้รับอนุญาตจากท่านซาสเลอร์และคนอื่นอยู่ดี”

ปราสาทเลือดมังกรมองว่าการฝึกของลินลี่ย์เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีสัมพันธ์สนิทกับลินลี่ย์เพียงไหนพวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับลินลี่ย์แน่นอน เว้นแต่ไม่มีทางเลือกอื่นเลย

“ถ้าเป็นอย่างนั้น...” เยลหยุดเล็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้นวอร์ตัน, ข้าจะไม่รบกวนน้องสามแล้ว,  อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีงานอื่นต้องไปดูแล  ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย”  เยลกล่าว

เท่าที่ปราสาทเลือดมังกรสงสัยคือการมาเยี่ยมเยือนของเยลเป็นแค่เรื่องเล็ก ไม่มีใครให้ความสนใจมาก

ในวันต่อมา

ในวังหลวงจักรวรรดิบาลุค

ซีน่าเดินทอดน่องอยู่ในอุทยานดอกไม้ยิ้มให้เยลที่กำลังรอเขาอยู่ที่นั่น “ท่านประธานเยล, ขอโทษจริงๆ ที่ข้าทำให้ท่านรอนาน  ท่านประธานเยล, เชิญนั่ง”  ซีน่าเมื่อได้ยินว่าเยลมาเยี่ยมก็วางงานทุกอย่างและมาพบเยลทันที

ที่สำคัญ, ซีน่ารู้ว่าเยลกับลินลี่ย์สนิทกันเพียงไหน

“จักรพรรดิซีน่า ข้าไม่รีบร้อน เรื่องของท่านสำคัญมากกว่า,ฝ่าบาท”  เยลพูดทักทายอย่างสุภาพ

แม้แต่ตอนที่ซีน่ายังเด็ก เยลพบเจอเขาและหยอกล้อกับเขาขณะมาพบลินลี่ย์ด้วยก็ตามแต่ตอนนี้ซีน่าเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิแล้ว ภายในวังหลวง ทัศนคติของเยลยังต้องแสดงความเคารพและมีมารยาท

“ท่านประธานเยล, ไม่ต้องพิธีรีตองนักก็ได้  ทำไมท่านจะต้องมากมารยาทกับข้าด้วยเล่า?”  ซีน่าหัวเราะ “บอกมาเถอะ,  มีอะไรจะให้ข้าช่วย,ถ้าทำได้ ข้าช่วยแน่นอน”

เยลกล่าว “อย่างนั้น จักรพรรดิซีน่า ข้าจะพูดให้ชัดเจน ข้ามาเยี่ยมครั้งนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากจักรพรรดิซีน่า  จักรพรรดิซีน่าท่านกำลังจะเริ่มสงครามใหญ่กับจักรวรรดิโรฮอลท์ใช่หรือไม่? และท่านชนะสงครามมาอย่างต่อเนื่อง”

“ถูกแล้ว” ซีน่าพยักหน้าเล็กน้อย

เขาประหลาดใจทำไมเยลพูดเรื่องนี้

“คำขอของข้า บางทีอาจเกินเลยไปบ้าง”  เยลกล่าว

“เหรอ?” ซีน่ามองดูเขา

เยลหัวเราะ จากนั้นกล่าว “นี่คือสถานการณ์ ข้ารู้ว่าพันธมิตรใหญ่สามจักรวรรดิมีเป้าหมายเอาชนะคู่ต่อสู้ของท่าน  การสู้รบเหล่านี้คงจะดุเดือดรุนแรงมาก  และข้าเชื่อว่าจักรวรรดิบาลุคคงจับทหารฝ่ายศัตรูไว้มากมายเป็นแน่”

“นั่นก็ถูก แล้วยังไงหรือ?”  ซีน่ามองดูเขา

เป็นเรื่องธรรมดากับการจับทหารฝ่ายศัตรูในการศึก

นอกจากนี้เป้าหมายของสงครามนี้เพื่อพิชิตจักรวรรดิโรฮอลท์ทั้งหมดราชตระกูลของจักรวรรดิโรฮอลท์ทั้งหมดจะยอมรับพวกเขาได้ยังไง?   พวกเขาต้องต่อสู้ตอบโต้เป็นธรรมดา

“จักรพรรดิซีน่าทหารศัตรูส่วนใหญ่ที่ท่านจับได้จะถูกใช้เป็นทาส จักรพรรดิซีน่า ข้าอยากถามท่านจะยินดีขายทหารทั้งหมดที่ท่านจับมาให้กับหอการค้าดอว์สันได้ไหม?”  ในที่สุดเยลก็วนมายังเรื่องที่เขาขอร้อง

ซีน่าเริ่มขมวดคิ้ว

ขายทหารเชลยที่ถูกจับทั้งหมดให้หอการค้าดอว์สัน?

กล่าวโดยทั่วไปแล้วทหารฝ่ายข้าศึกที่ถูกจับจะถูกใช้เป็นกระสุนมนุษย์ในการสู้รบข้างหน้าหรือเอาไปทำงานก่อสร้างถนน ถางป่าพง และทำงานหนักในฐานะกรรมกรบางทีพวกทาสตำแหน่งเล็กน้อยอาจจะถูกขายออกไป

แต่... การขายทหารเชลยให้หอการค้าแห่งเดียวล่ะ?

นี่ไม่ค่อยได้พบเจอ

เหตุผลเนื่องจากการทำสงครามระดับใหญ่ระหว่างจักรวรรดิใหญ่อย่างนี้แต่ละจักรวรรดิบางอาจมีทหารประจำการถึงสองถึงสามล้าน บางทีอาจมีสำรองมากกว่านั้นการทำสงครามล้างผลาญอย่างเด็ดขาดจะทำให้จับทหารเชลยได้มาก  ตัวอย่างเช่น ถ้ากองทัพขนาดใหญ่ถูกทำลาย เป็นไปได้ว่าจะมีคนเป็นแสนถูกจับเป็นเชลย

แน่นอนว่าในการพิชิตจักรวรรดิโรฮอลท์  จำนวนทหารเชลยที่ถูกจับจะต้องมีหลายแสนและอาจมากกว่านั้นแน่นอน

ทหารเชลยหลายแสนถูกคุมขังก็ยังถือว่าเป็นกองทัพที่มีความสามารถ  จะให้กองกำลังใหญ่ขนาดนั้นกับองค์การการค้าน่ะหรือ

“นี่...” ซีน่าลังเลใจ

แม้ว่านี่จะเป็นเยล พี่ใหญ่ของลินลี่ย์ก็ตาม ความจริงเยลก็ขอมากไปหน่อย เขาต้องการให้จักรวรรดิบาลุคขายทหารเชลยทั้งหมดให้หอการค้าดอว์สันน่ะหรือ?

“จักรพรรดิซีน่า ท่านกังวลใจเรื่องอะไร? หอการค้าดอว์สันของเราไม่ได้มีอาณาเขตสักเท่าไหร่ ไม่มีนักสู้ระดับเซียนอย่างน้องสาม  พวกเขาเป็นแค่ทหารเชลย”  เยลโน้มน้าว “จักรพรรดิซีน่า ข้าหวังว่าท่านจะช่วยข้าได้”

คำพูดของเยลแฝงไว้ด้วยความจริงใจอย่างยิ่ง

“ท่านประธานเยล ในอดีตหอการค้าดอว์สันของท่านไม่เคยเกี่ยวข้องกับการค้าทาส  ทำไมท่านถึงซื้อทหารเชลยมากมากตอนนี้เล่า?”  ซีน่าถาม

เยลหัวเราะ “นี่เป็นความลับภายในหอการค้า เรากำลังทำแผนพัฒนาพิเศษ

ซีน่านิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นมองเยล

ความจริงทหารเชลยถูกจำกัดในจักรวรรดิบาลุค ที่สำคัญเป้าหมายของพวกเขาก็คือทำลายจักรวรรดิโรฮอลท์  ดังนั้นความสงสัยถึงเหตุผลว่าจะดึงทหารกลับไปจักรวรรดิโรฮอลท์หลังจากการสู้รบก็คงไม่ได้ข้อสรุป  นอกจากนี้..เท่าที่ซีน่าเห็นว่าแล้วจะเป็นยังไงถ้าขายทาสให้หอการค้าดอว์สัน?

เป็นไปได้ไหมว่าหอการค้าดอว์สันต้องการจะครองโลก?

ตลกน่ะ!

ที่สำคัญ รากฐานที่แท้จริงของจักรวรรดิใดๆ ก็ตามอยู่ที่ยอดฝีมือที่ทรงพลัง!

“ก็ได้ข้าตกลง”  ซีน่ากล่าว

“จักรพรรดิซีน่า ขอบคุณท่านจริงๆ”  เยลยิ้มทันที “ความจริงท่านช่วยข้าได้มากจริงๆ ขอบคุณมากจริงๆ”

ซีน่ากับเยลคุยกันอยู่นานจากนั้นจึงร่วมทานอาหารกลางวันด้วยกันก่อนเยลจะกลับ

หลังจากที่เยลจากไป ซีน่าก็ยังงง เนื่องจากเขาใคร่ครวญเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง  “ทำไมหอการค้าดอว์สันถึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการค้าทาสอย่างไม่มีเหตุผล?  นอกจากนี้ เท่าที่ข้ารู้เยลกับลุงสนิทกันมาก แต่เยลเองเป็นคนกล้าหาญที่แทบจะไม่เคยขอร้องคนอื่น  แต่คราวนี้...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด