ตอนที่แล้วตอนที่ 361 ทำให้ไขว้เขว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 363 สาวใช้

ตอนที่ 362 วิธีการของฉีซาน


หมิงเยี่ยยืนอยู่ที่หัวเรือลมราตรีโบกพัดทำให้นางต้องหรี่ตาลง รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจ เมื่อเห็นว่านางมีความเพลิดเพลิน  ฉีซานยืนอยู่ด้านข้างนางมองดูอยู่เงียบๆ

ทะเลสาบนางฟ้ากว้าง อยู่ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง  สาหร่ายเรืองแสงสีฟ้าเบ่งบานงดงาม  แต่จะมีช่วงชีวิตสั้นๆ เพียงยี่สิบห้าวัน  เท่าที่สายตามองเห็น ทั่วพื้นผิวทะเลสาบเหมือนปกคลุมไปด้วยดวงดาวสีฟ้า กระจายไปทั่วทุกมุม  ทะเลสาบนางฟ้าดูงดงามมาก

ถ้ามองลงมาจากท้องฟ้าทะเลสาบนางฟ้าเป็นเหมือนท้องฟ้ายามราตรีเต็มไปด้วยหมู่ดาว

เรือสำราญล่องเอื่อยอย่างสงบ  แสงสีฟ้าลอยพริ้วตามระลอกคลื่นน้ำ  ระลอกคลื่นที่เกิดขึ้นเหมือนกับถูกกรรไกรตัดผิวทะเลสาบ

ที่หัวเรือหมิงเยี่ยทอดตามองดูจุดที่ผิวทะเลสาบกับท้องฟ้าบรรจบกันเกิดอารมณ์และความรู้สึกดื่มด่ำในใจนาง

“งดงามจริงๆ”  หมิงเยี่ยรำพึงเบาๆ ขณะที่ลมราตรีพัดผ่าน

ฉีซานได้ยินมานานแล้วว่าทะเลสาบนางฟ้าจะมีช่วงเวลาที่งดงาม24 วัน  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกับตัวเองและตกตะลึงต่อความงามพอกัน  เขาค่อยๆผ่อนลมหายใจจากนั้นเรียกความรู้สึกกลับมาและกล่าวอย่างนุ่มนวล  “นี่ยังแค่เริ่มต้น  ในอีก 24 วันสาหร่ายเรืองแสงน้ำเงินจะเติบโตเต็มที่แล้วค่อยเหี่ยวเฉาลง  สาหร่ายที่เติบโตเต็มที่จะเต็มไปทั่วผิวทะเลสาบทำให้ผิวทะเลสาบเป็นสีน้ำเงินสว่างสดใส  หลังจากนั้นสองสามวัน สาหร่ายที่มีแสงน้ำเงินที่โตเต็มที่จะเริ่มมีแสงอับเฉาลงและหายไปถึงตอนนั้นก็จะระเบิดกระจายปลดปล่อยเมล็ดจำนวนมหาศาลอย่างน่าประหลาด  เมล็ดเหล่านั้นจะละเอียดพอๆ กับฝุ่น เกิดเป็นแสงสีน้ำเงินเข้มฉีดพุ่งกระจายขึ้นท้องฟ้าสูงถึงสิบเมตร ถึงเวลานั้นภาพเหนือทะเลสาบนางฟ้าก็งดงามเช่นกัน”

ฉีซานพูดตรงไปตรงมาและใช้เวลาอย่างชัดเจน

“ข้าต้องรบกวนพี่ฉีเสียแล้ว”  หมิงเยี่ยพยักหน้าขอบคุณเขา

ฉีซานพูดอย่างมีความสุข  “ถ้าข้าไม่พบกับน้องหมิงข้าเกรงว่าคงพลาดฉากที่งดงามตระการนี้ ดังนั้นข้าต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณน้องหมิง”

หมิงเยี่ยหัวเราะและหันกายเดินตรงไปที่เรือเพื่อทักทายทุกคน “ขออภัยที่ข้าทำให้ทุกท่านต้องรอ!”

ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มรีบตอบ  “นับว่าคู่ควร คู่ควรจริงๆ”

แม้ว่าไม่มีใครรู้ว่าหมิงเยี่ยมาจากไหน  แต่ท่าทีที่ฉีซานพยายามทำตัวให้นางชอบย่อมไม่อาจปกปิดจากสายตาคนอื่นได้เป็นธรรมดา  ในสายตาของพวกเขาสถานะของฉีซานมาจากตระกูลที่สูงส่งมากอยู่แล้ว ทำไมเขาต้องลดตัวทำให้หมิงเยี่ยโปรดปรานด้วย? นั่นหมายความว่าสถานะของนางก็คือคนที่พวกเขาไม่อาจดูแคลนได้เลย

จากนั้นหัวหน้าผู้อาวุโสหัวเราะลั่น  “ทุกคน, เข้ามาในงานเลี้ยงเถอะ, อย่าปล่อยให้อาหารเย็นชืดเลย”

เรือสำราญกว้างขวางมากและเตรียมไว้เพื่องานเลี้ยง เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนเข้าไปทันที  ฉีซานคือแขกผู้มีเกียรติตัวแทนของสมาพันธ์ชาวยุทธที่ไม่อาจละเลยได้เป็นธรรมดา  ขณะที่สถานะของหัวหน้าผู้อาวุโสในนครเทพสตรีก็เป็นที่ยอมรับนับถือ  การต้อนรับอาคันตุกะถือว่าเป็นธรรมเนียมเก่าซึ่งไม่มีผู้ใดเห็นว่าแปลก  ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทุกคนได้ยินข่าวมาบ้างว่าฉีซานมาเจรจาธุรกิจในวังกับจ้าวปกครองกลุ่มดาว  เห็นชัดว่าทั้งสองนั้นโต้เถียงกันไม่น้อย

มีข่าวลือในเมืองเมื่อเร็วๆนี้ และไม่มีใครสามารถแยกออกว่าจริงหรือเท็จ

ตัวอย่างเช่นข่าวลือว่าเจ้าปกครองกลุ่มดาวให้แอนเดรียนาแต่งงานกับจูหนิงมือขวาของฉีซาน  ทำให้ผู้คนสับสน  แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง และมีการลือว่าเจ้าปกครองดวงดาวไม่ชอบที่สมาพันธ์ชาวยุทธแผ่อิทธิพลไปกว้างไกล

ไม่มีใครพบว่าเป็นเรื่องแปลกที่ฉีซานถูกส่งมายังกลุ่มดาวอันโดรเมดาในฐานะทูต   สมาพันธ์ชาวยุทธและกลุ่มดาวราชสีห์เปิดฉากความขัดแย้งกันและทหารของกลุ่มดาวราชสีห์เริ่มมีการเสริมกำลังกันแล้วสถานการณ์อาจระเบิดกลายเป็นสงครามได้ทุกเมื่อ

เมื่อความขัดแย้งระหว่างสองมหาอำนาจเกิดขึ้น ก็หมายความว่าทั่วทั้งสวรรค์วิถีจะตกอยู่ในภาวะสงคราม  ในสงครามเช่นนั้น ไม่มีกลุ่มดาวไหนหลีกหนีได้

และสำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธต้องพยายามเอื้อมมือไขว่คว้าหาพันธมิตรย่อมเป็นเรื่องธรรมดา  ไม่เพียงแต่กลุ่มดาวอันโดรเมดาเท่านั้น  สมาพันธ์ชาวยุทธยังส่งทูตไปยังกลุ่มดาวอื่นอีกด้วย

ในอีกด้านหนึ่งกลุ่มดาวราชสีห์เป็นกลุ่มดาวหนึ่งที่เกิดมาจากการทำสงคราม  วิธีการของสมาพันธ์ชาวยุทธนั้นมีประสบการณ์มาก

สำหรับผู้ปกครองของกลุ่มดาวอันโดรเมดาเมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงสงครามได้ ก็หมายความว่าพวกเขาจำเป็นต้องเลือกข้าง  สมาพันธ์ชาวยุทธคือองค์กรมีอำนาจอันดับหนึ่งและครอบครองสวรรค์วิถีมายาวนานได้รับความนิยมมากกว่ากลุ่มดาวราชสีห์ แน่นอนว่ามีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยและคิดว่าการเลือกข้างก่อนสงครามเริ่มไม่ใช่ความคิดที่มีเหตุผล

จ้าวปกครองกลุ่มดาวไม่เคยประกาศจุดยืนของพวกเขา  และนั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ข่าวลือแพร่สะพัดไปเร็วเหมือนไฟป่า

ฉีซานยืนขึ้นพร้อมกับแก้วเหล้าและกล่าว“ข้าได้รับประโยชน์มากมาย เมื่อเดินทางมายังกลุ่มดาวอันโดรเมดาแห่งนี้ กลุ่มดาวอันโดรเมดาคือกลุ่มดาวที่สำคัญที่สุดในฟากฟ้าเหนือและข้ามักจะคิดว่าด้วยตำแหน่งและอำนาจของกลุ่มดาวอันโดรเมดาไม่เพียงแต่สำคัญในขอบฟ้าเหนือเท่านั้น  แต่สวรรค์วิถีด้วยเหมือนกัน มีทั้งงานและวัตถุประสงค์ที่ใหญ่กว่า สมาพันธ์ชาวยุทธของเรามักจะมองหาสันติภาพและขยายสัมพันธ์เข้าไปในสวรรค์วิถี  และเพื่อการนั้นเราเลือกกลุ่มดาวอันโดรเมดาเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพของเรา  ฝ่าบาทอัสตาอาจจะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่นั่นข้าเข้าใจได้  เรายังมีเวลาอีกนานและข้าเชื่อว่าเราทุกคนจะมีโอกาสร่วมงานกัน ตั้งแต่แรกเริ่มข้าเป็นหนี้การต้อนรับจากทุกคนดังนั้นขออาศัยบารมีของหัวหน้าผู้อาวุโส ข้าขอดื่มให้กับทุกท่าน”

หลายตระกูลที่ตื่นเต้นได้เข้าร่วมกับสมาพันธ์ชาวยุทธทั้งหมดมีท่าทีกลัว สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย หรือว่าเจ้าปกครองกลุ่มดาวของพวกเขาเปลี่ยนใจเสียแล้ว?

ขณะที่ฝ่ายวางตัวเป็นกลางพากันดีใจกันหมด

เมื่อเห็นสีหน้าของทุกคน   หน้าของฉีซานไม่หวั่นไหว  “ข้าขอดื่มคารวะพวกท่านทุกคน”

เขายกแก้วเหล้าดื่มและคว่ำถ้วย

คนที่เหลือทุกคนเริ่มยืนและชูจอกเหล้าและคว่ำจอกกันทุกคน ไม่ว่าตัดสินใจเช่นไรสถานะของฉีซานก็ไม่ควรละเลยอยู่ดี

หมิงเยี่ยเม้มริมฝีปากเบาๆสายตาของนางแสดงท่าทางครุ่นคิด

เมื่อทุกคนนั่งลงอีกครั้ง  หัวหน้าผู้อาวุโสอธิบาย “โปรดอย่าตำหนิเราเลยคุณชายฉี เจ้าดวงดาวของเรามองทุกอย่างผิดๆ แอนเดรียนา เด็กผู้หญิงโง่นั่น ข้าสงสัยว่านางไปได้ยินข่าวมาจากไหน และคิดว่าท่านเจ้าดวงดาวต้องการให้นางแต่งงานกับคุณชายจูสร้างความเข้าใจผิด และทำให้คุณชายฉีต้องหัวเราะเยาะแล้ว”

ฉีซานหัวเราะลั่น “แอนเดรียนายังไร้เดียงสาไม่อาจตำหนินางได้  ย่อมไม่มีอันตรายใดๆตราบเท่าที่แม่ทัพทาร์ตันไม่เกิดความเข้าใจผิดใดๆ อย่างนั้นนั่นก็เป็นเรื่องดี”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นความคิดของทุกคนก็เข้าใจกระจ่าง ท่านเจ้าดวงดาวคงปฏิเสธสมาพันธ์ชาวยุทธอย่างแน่นอน  การให้ชื่อแม่ทัพทาร์ตันถูกนำมาใช้อ้าง  เมื่อคิดดูแล้วแม้ว่าแม่ทัพทาร์ตันจะไม่มีอำนาจเท่ากับหัวหน้าผู้อาวุโสในกลุ่มดาวอันโดรเมดา  แต่ในแง่ของคนผู้ถือครองอำนาจที่แท้จริง เขาจะยอมปล่อยให้ธิดาตนเองต้องทนทุกข์ได้อย่างไร

หัวหน้าผู้อาวุโสหัวเราะ  “ทัศนียภาพที่งดงามอย่างนี้มาพูดเรื่องอย่างนี้เสียบรรยากาศหมด เรามาชมสายลมและแสงจันทร์กันเถอะ!  คุยกันแต่เรื่องสายลมและแสงจันทร์ก็พอ”

ทุกคนเริ่มส่งเสียงอึกทึก  ทุกคนยืนขึ้นดื่มฉลองให้ฉีซาน  เขาไม่ปฏิเสธและยอมรับการฉลองทั้งหมด

หมิงเยี่ยซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างมองดูฉีซานอย่างสงบ  หน้าของเขาไม่มีแววพ่ายแพ้แม้แต่น้อย  ตาของเขาฉายแววเหมือนนักล่า

งานเลี้ยงเต็มไปด้วยกิจกรรมที่คึกคัก

ทันใดนั้นนักสู้ผู้คุ้มกันคนหนึ่งวิ่งเลิ่กลั่กเข้ามาในห้อง

ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหวพร้อมกันทันที  งานเลี้ยงที่อึกทึกพลันตกอยู่ในความเงียบสงัด

“เกิดเรื่องอะไร?”  หัวหน้าผู้อาวุโสถาม

ทหารยามผู้นั้นมองดูรอบๆและมีความลังเลใจ

หัวหน้าผู้อาวุโสขมวดคิ้ว  “พูดไป”

ทหารยามได้แต่แข็งใจตอบ“มีคนบุกรุกเข้าวัง!”

ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหล

หัวหน้าผู้อาวุโสโกรธจัด“บังอาจนัก! พวกมันเบื่อหน่ายชีวิตแล้วใช่ไหม!กล้าดียังไงถึงได้บุกรุกวัง!  ปาฟุ!  คนของเจ้าไม่มีประโยชน์หรือ?”

ปาฟุวิ่งเข้ามาทันที  “เรียนหัวหน้าผู้อาวุโสองครักษ์ทุกคนประจำที่แล้ว บริวารจะรีบเร่งตรวจสอบดูก่อน”

ใครบางคนจากฝูงชนพูดเสียงเยือกเย็น  “ขุนพลปาฟุ, ท่านมีกระจกภูตไม่ใช่หรือ?  เปิดดูว่ามันคือใคร! บางคนเมื่อเห็นว่าท่านเจ้ากลุ่มดาวขัดขวางแผนการของพวกเขาก็เลยฉวยโอกาสจากสถานการณ์และวางแผนทำร้ายกลุ่มดาวอันโดรเมดา!”

จูหนิงที่อยู่ด้านข้างฉีซานตะโกนลั่น  “ใครพูดเหลวไหล?”

คนผู้นั้นไม่มีความกลัวก้าวออกมาจากกลุ่มและยังคงพูดต่อ  “ไม่ต้องกลัวผีเคาะประตูถ้าพวกเจ้าไม่ได้ทำเรื่องน่าละอาย!  หัวหน้าผู้อาวุโส, วันนี้มีผู้คนมากมายทำไมไม่ให้ทุกคนได้ดูกัน  ใครกล้าบุกรุกวังเทพธิดาของข้า!”

คนที่ออกมายืนข้างนอกก็คือผู้อาวุโสที่สี่  เขาเป็นคนที่ไม่กลัวอำนาจและมีศักดิ์ศรีน่าเชื่อถือ

“ใช่แล้ว!  ผู้อาวุโสสี่พูดถูก!”

หลายๆคนในที่นั้นเริ่มมองฉีซานอย่างไม่พอใจ

จูหนิงโกรธแต่ฉีซานห้ามเขาไว้เขายืนขึ้นกล่าว “ความบริสุทธิ์ก็คือความบริสุทธิ์ คนทำผิดต้องถูกจัดการ ท่านหัวหน้าผู้อาวุโส โปรดล้างมลทินให้ข้าด้วย”

หัวหน้าผู้อาวุโสตกตะลึง  เขากัดฟันกล่าว  “ปาฟุ, เปิดกระจกภูตดู”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นปาฟุไม่ลังเลต่อไป เขาหยิบกระจกบานเล็กออกมา นั่นคือสมบัติชั้นเงินของกลุ่มดาวอันโดรเมดาสามารถสื่อสารกับภายในวังได้  สามารถใช้ดูสถานที่ส่วนใหญ่ภายในวังได้

กระจกฉายแสงออกมาเป็นภาพการต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรงอยู่ต่อหน้าทุกคน

องครักษ์ประจำวังและผู้บุรุกกำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง  มีหลายศพนอนกระจายอยู่ทั่วพื้นที่  มีทั้งศัตรูและราชองครักษ์ที่ล้มอยู่

“พระเจ้า! เป็นโนเอล! โนเอลแห่งกองพลทหารราบ!”

“ทาร์ตันบ้าไปแล้วหรือนี่?”

…..

ทุกคนตกตะลึงใบหน้าของทุกคนแสดงอาการเหลือเชื่อ พวกเขาไม่เคยคิดว่าศัตรูที่บุกรุกวังความจริงก็คือคนของแม่ทัพทาร์ตัน!

สีหน้าของหัวหน้าผู้อาวุโสเปลี่ยน  “ไม่ดีแน่!  ทาร์ตันต้องการก่อกบฏ!  ทุกคนไปที่วังไปช่วยท่านเจ้าปกครองกลุ่มดาวกัน!”

ไม่มีใครสนใจฉีซานอีกต่อไป  ทุกคนกระจายออกไปในพริบตาเหลือคนอยู่ในเรือสำราญเพียงสามคน

ฉีซานดื่มเหล้าจากแก้วเขาอย่างสบายอารมณ์

หมิงเยี่ยปรบมือชมเชย  “วิธีการพลิกโต๊ะของพี่ฉี น่านับถือ”

ฉีซานยิ้มเขาชูมือยกแก้วเหล้ามาทางหมิงเยี่ย “น้องหมิง เชิญ”

เมื่อพูดจบเขาคว่ำจอก

จากนั้นเขายืนขึ้น “ข้ามีบางเรื่องต้องจัดการและต้องการจะออกไป  น้องหมิงสนใจจะไปกับข้าไหม?”

คาดไม่ถึงว่าหมิงเยี่ยส่ายศีรษะ “ข้ายังต้องการชมทะเลสาบเทพธิดา คงไม่รีบจากไปเร็วนัก”

ฉีซานมีสีหน้าเสียใจ  “งั้นเราคงต้องกล่าวอำลากันตรงนี้   ด้วยพลังกระบี่ในมือของเจ้าน้องหมิงไปได้ทุกที่อยู่แล้ว ผู้พี่มีเรื่องเล็กน้อยต้องไปจัดการ ขอถือโอกาสลาในตอนนี้เลย”

แม้ว่าน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ  แต่สีหน้าของเขาไม่ลังเล  หลังจากกล่าวคำอำลาก็ออกไปพร้อมกับจูหนิง

ตาของหมิงเยี่ยฉายประกายท่าทีนับถือ

ช่างเข้มแข็งทรงพลังจริงๆ

วังเทพธิดามีประวัติศาสตร์การสร้างผ่านเจ้าปกครองกลุ่มดาวอันโดรเมดาและไม่หรูหราฟุ่มเฟือย แต่เพราะกลุ่มดาวอันโดรเมดาไม่มีประวัติศาสตร์สงครามเจ้ากลุ่มดาวในทุกรุ่นจะค่อยๆ สร้างอาคารขยายพื้นที่ออกไป  และขนาดปัจจุบันนี้กลายเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนอย่างน่าทึ่ง

ในเงาด้านนอกวง  แอนเดรียนาตกตะลึงเมื่อเห็นผู้คนเป่าหวีดและคนที่นำหน้าพวกเขามาก็คือหัวหน้าผู้อาวุโส

เพิ่งจะเป็นเวลา 9.20

นั่นเป็นไปได้ยังไง...

ในช่วงเวลาสั้นๆ แค่นั้นเว้นแต่ศัตรูจะเตรียมการไว้ก่อนแล้ว...

“อัสตาตายแล้ว”

เสียงของถังเทียนยังคงเย็นชา แต่ทำให้แอนเดรียนารู้สึกเหมือนกับว่านั่นคือฟางเส้นสุดท้ายสำหรับช่วยชีวิตนาง  หน้าของนางไร้สีเลือด  “เราติดกับแล้ว... ตอนนี้เราจะทำยังไงดี?”

“ไปชิงสมบัติเซียน”  ถังเทียนพูดอย่างเย็นชา  จากนั้นพาแอนเดรียนาพุ่งออกไปดุจลูกธนูเข้าสู่วังชั้นใน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด