ตอนที่แล้วตอนที่ 361 - ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าสมควรตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่11-37 ประกายศักดิ์สิทธิ์

ตอนที่ 11-36 หนึ่งต่อล้าน


“ควั่บ!”

ลินลี่ย์เหมือนแสงสายหนึ่งวาบผ่านไปตามอุโมงค์  ความเร็วของเขาสูงจนถึงขีดจำกัด

แต่ในแง่ของความเร็วปีศาจดาบอเวจีเทียบกับเดลี่และบีบีจะมีระดับที่สูงกว่าลินลี่ย์ และพวกมันเริ่มใกล้เข้ามา

ตาของเขาแดงราวโลหิต  เหมือนกับมีไฟแผดเผาตัว ลินลี่ย์เริ่มร่ายเวท

“ควั่บ!”  ทิศทางการบินของลินลี่ย์เปลี่ยนไปกะทันหัน

ความจริงเขาเลี้ยวและบินเข้าไปในอีกอุโมงค์หนึ่งตรงลงไปข้างหน้า  มีปีศาจดาบอเวจีค่อนข้างน้อยที่ไล่ตามหลังเขาจากด้านล่างเช่นกัน  ขณะที่ลินลี่ย์เคลื่อนที่ลงไป  ในชั่วพริบตาเดียวปีศาจดาบอเวจีข้างล่างก็เคลื่อนสวนขึ้นมาหาลินลี่ย์

“โรววววว!”  ปีศาจดาบอเวจีข้างล่างเริ่มคำรามลั่นทันที

ฝูงปีศาจดาบอเวจีที่ยังติดตามลินลี่ย์อยู่แต่แรกเลี้ยวและพุ่งลงไปทันที แต่ลินลี่ย์ยังคงเข้าใกล้ปีศาจดาบอเวจีเป็นร้อยตนที่อยู่ด้านล่าง ปีศาจดาบอเวจีเป็นร้อยเหล่านั้นเตรียมใช้คลื่นพลังงานดาบไวราวสายฟ้า  ขณะที่ดวงตาของลินลี่ย์เป็นประกายเยือกเย็น

แก่นธาตุลมนับไม่ถ้วนผสานเข้ากับตัวเขา

“ตาย”

“ฉัวะ” ทันใดนั้นคมมีดมิติขนาดสี่หรือห้าเมตรสีฟ้าปรากฏขึ้นข้างหน้าลินลี่ย์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยพุ่งตามทางเข้าหาปีศาจดาบอเวจีที่กำลังพุ่งเข้าโจมตีเขา

เมื่อเห็นคมมีดมิติเหล่าปีศาจดาบอเวจีทั้งหมดพยายามหลบหลีกอย่างหวาดผวา

โชคไม่ดีที่คมมีดมิติรวดเร็วเกินไป

“ฉัวะ!”  ร่างโลหะของพวกเขาถูกตัดเป็นชิ้น  ภายใต้การควบคุมด้วยพลังจิตของลินลี่ย์  คมมีดมิติเคลื่อนเป็นแนวโค้งและฟันปีศาจดาบอเวจีจนขาดอีกหลายสิบตน   ขณะที่ปีศาจตนอื่นหลบหนีอย่างหวาดกัว

“วูบบบ”

ลินลี่ย์ฉวยโอกาสบุกลงไปและพุ่งผ่านไปตามระเบียงทางที่คมมีดมิติเพิ่งตัดผ่านไป

คมมีดมิติมีผลต่อปีศาจดาบอเวจีจำนวนน้อย  ทันทีที่ปีศาจดาบอเวจีรวมตัวเป็นพันคมมีดมิติจะฆ่าพวกมันได้สักเท่าไหร่? นี่คือเหตุผลที่ลินลี่ย์เลือกที่จะบินลงไปทันที

การเปลี่ยนตำแหน่งบินของเขาโดยทันทีทำให้เขาทิ้งห่างปีศาจดาบอเวจีไว้ด้านหลังเขา

“ข้าแค่หนีมาได้ชั่วขณะ  แต่ไม่สามารถหนีได้ตลอดไป” ลินลี่ย์พยายามคิดขณะที่หนีลงไปตามทางเพื่อหาทางเอาตัวรอด  “คงจะดีมากเพียงไหนถ้าข้าสามารถร่ายเวทคมมีดมิติในใจได้ ไม่ว่าปีศาจดาบอเวจีจะมีสักกี่ตัว ข้าก็สามารถฆ่าพวกมันได้หมด”  ทันใดนั้นลินลี่ย์มีความคิดที่ประหลาดป่าเถื่อน

ร่ายเวทคมมีดมิติในใจหรือ

ไม่มีอะไรมากไปกว่าเพ้อฝัน  ลินลี่ย์รู้ว่าทำไม่ได้จริง

“หืม?” ขณะที่ลินลี่ย์กำลังหนีลงไป จู่ๆ ก็มีความคิด ‘คมมีดมิติ?’

ความจริงลินลี่ย์ไม่ทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับคาถาต้องห้าม ‘คมมีดมิติ’ นี้ เขาเพียงแต่รู้วิธีใช้พลังเวทรวบรวมแก่นธาตุ และจากนั้นสร้างเป็นคมมีดมิติ แต่ทันใดนั้นลินลี่ย์นึกย้อนไปถึงฉากที่คมมีดมิติปรากฏออกมา

คมมีดมิตินี้หากจะพูดให้ถูกก็คือเวท‘ดาบสายลม’ ที่มีขีดจำกัดไว้มากที่สุด

เมื่อใช้พลังจิตเล็กน้อยของเขาเพื่อควบคุมตำแหน่งของเวทคมมีดมิติให้เคลื่อนที่ไป  เขาสังเกตว่าภายในคมมีดมิติ  มีลมกระโชกนับไม่ถ้วนเคลื่อนไหวอยู่จะเร็วหรือช้ากันแน่ อยู่ในจังหวะที่แปลกและสร้างเป็นพลังตัดมิติที่น่ากลัวเช่นนี้

“เร็ว...หรือช้า?”

ลินลี่ย์ไม่ได้ไตร่ตรองเรื่องนี้มาก่อน  แต่ตอนนี้เขาค้นพบข้อสงสัยบางอย่างได้ทันที “คมมีดมิติน่าจะยิ่งเร็วก็ยิ่งดี ทำไมดูเหมือนรวมเอาลมกระโชกช้าของอากาศไว้ในภายในด้วย?”

“ไม่ถูกต้อง” ลินลี่ย์คิดหนัก

ลมกระโชกนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายในคมมีดมิติความจริงไม่ได้ช้าเลย  เพียงแต่,เพียงพวกมันประยุกต์เข้ากับด้าน ‘ช้า’  ดูเหมือนช้าแต่ความจริงเร็ว การจำแนกดาบสายลมจะแตกต่างกันด้านต่างๆ แล้วสร้างเป็นคมมีดมิติ  มีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่หลังเรื่องนี้?

“ด้านเร็ว? ด้านช้า? คมมีดมิติ...”

ใจของลินลี่ย์อดนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาใช้งาน‘จังหวะแห่งสายลม’ ไม่ได้  นี่คือวิชาที่กระบี่เลือดม่วงใช้ความด้าน ‘เร็ว’ และด้าน ‘ช้า’ ของสายลมพร้อมกัน สองด้านที่ตรงกันข้ามเมื่อผสานเข้าด้วยกันทำให้มิติสั่นไหวเป็นผลให้กระบี่เลือดม่วงสามารถสร้างขอบมิติได้

ลินลี่ย์นึกย้อนกลับไปถึงตอนที่เขาใช้‘หมื่นกระบี่พลันบรรจบ’ อีกครั้ง

เมื่อเขาพัฒนาเคล็ดวิชาด้านนี้  ลินลี่ย์ยังงงอยู่  เหตุผลก็คือเมื่อด้าน ‘เร็ว’ ของกระบี่ทั้งสิบล้านรวมกันเป็นหนึ่ง  มันจะสร้างผลให้เกิดการ ‘แช่แข็งมิติพื้นที่’?  ทำไม ด้านลักษณะ ‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ ถึงเปลี่ยนกันภายในได้อย่างเป็นธรรมชาติ?  ขณะนั้นลินลี่ย์ไม่เข้าใจเหตุผลที่แฝงอยู่ในเบื้องหลัง แต่เป็นการเลียนแบบการโจมตีของนางพญาแลชเพิล  เขาจึงสามารถพัฒนาเคล็ดวิชานี้ขึ้นมา

ความจริงลินลี่ย์ยังไม่เข้าใจความลึกซึ้งลึกลับของเหตุผลที่กระบี่ทั้งสิบล้านที่เขาใช้ด้าน‘เร็ว’สร้างขึ้นสามารถผสานและสร้างพลังโจมตีแช่แข็งมิติ กลายเป็นพลังโจมตี ‘หมื่นกระบี่พลันบรรจบ’

“คมมีดมิติ... จังหวะแห่งสายลม...หมื่นกระบี่พลันบรรจบ...” ใจของลินลี่ย์ร่างฉากภาพฉากแล้วฉากเล่า เมฆหมอกที่คลุมทับความลึกซึ้งลึกลับของกฎธาตุลมในปัจจุบันนี้เริ่มสลายไปจากใจของลินลี่ย์

ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจ

เหมือนกับว่าเขาสัมผัสอะไรบางอย่างได้  แต่ยังไม่เข้าใจชัดนัก

ลินลี่ย์ไม่ทันได้สังเกตว่าด้านหลังของเขามีปีศาจดาบอเวจีสองตนใกล้เข้ามาทุกที ลินลี่ย์ยังคงหมกมุ่นอยู่ในสถานะพิเศษนั้น ปีศาจดาบอเวจีทั้งสองรู้สึกงง ปกติ... แม้ว่าก่อนที่จะเข้าไปใกล้ตัวลินลี่ย์  ลินลี่ย์รู้ตัวและหนีไป

แต่ครั้งนี้...

ลินลี่ย์กำลังบินเป็นแนวตรงไม่เปลี่ยนตำแหน่งเลยแม้แต่น้อย ปีศาจดาบอเวจีบินไวมากกว่าลินลี่ย์!  ในแนวตรง พวกเขาก็สามารถไล่ทันได้เป็นธรรมดา

“ควั่บ!”  เสียงหวีดหวิวดังเสียดหู,สร้างความตกใจกับลินลี่ย์ขณะปีศาจดาบทั้งสองสับลงที่ตัวเขา

หลังของลินลี่ย์หลั่งเหงื่อเยียบเย็นทันทีและเขาใช้กระบี่เลือดม่วงสะบัดฟันทันที ลินลี่ย์ไม่ทันสังเกตว่าพลังโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่ ‘จังหวะแห่งสายลม’ ไม่ใช่ทั้ง ‘หมื่นกระบี่พลันบรรจบ’ ดูเหมือนเป็นพลังกระบี่โจมตีที่ธรรมดามาก

“ฉัวะ!”เหมือนกับตัดผ่านเต้าหู้

กระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์ตัดวาบผ่านปีศาจดาบอเวจีทั้งสองราวกับสายฟ้า  ทั้งสองถูกตัดขาดสองท่อน

“นี่...?” ลินลี่ย์ตกตะลึง แม้ว่าปีศาจดาบอเวจีทั้งสองนี้จะไม่ใช่พวกฝีมือดีที่สุดในเผ่าพันธุ์  ต่อให้เขาใช้ ‘จังหวะแห่งสายลม’ เขาก็คงต้องใช้พลังฟันเต็มที่ ถ้าจะตัดปีศาจดาบอเวจีให้ขาดสองท่อน  แต่ตอนนั้น...เขาฟันปีศาจดาบอเวจีทั้งสองได้อย่างง่ายดาย

“ตอนนั้น..” ลินลี่ย์อดนึกย้อนกลับไปถึงท่ากระบี่ที่เขาใช้ออกตอนนั้นโดยไม่รู้ตัว

“อา!”ตาของลินลี่ย์เบิกโพลง

เมฆหมอกที่ยังคงปกคลุมความคิดของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้ได้เห็นความลึกลับของกฎธรรมชาติแห่งธาตุลมกระจายหายไปเหมือนอยู่ภายใต้แสงสุริยาทันที  ในที่สุดเขาก็เข้าใจ

“จังหวะแห่งสายลม?  หมื่นกระบี่พลันบรรจบ?  คมมีดมิติ?” ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะลั่น “ด้านเร็ว?  ด้านช้า?  เร็วและช้าเป็นด้านตรงกันข้าม?  ฮ่าฮ่า..ผิดแล้ว ผิดหมดเลย  ด้านเร็วและด้านช้าเหมือนกัน  มันคือสิ่งที่เหมือนกัน!!!” ลินลี่ย์สั่นไปทั้งตัวด้วยความตื่นเต้น

สายลมกระโชกดูเหมือนจะพัดช้าแต่จากนั้นในพริบตาก็เคลื่อนออกไปพันเมตร

“พับมิติ? ปั่นป่วนมิติ? ชะลอมิติ? แช่แข็งมิติ?” เสียงหัวเราะของลินลี่ย์ดังขึ้นในระดับที่น่ายินดี

“มนุษย์มังกร!”  ปีศาจดาบอเวจีจำนวนมากพบตัวลินลี่ย์

“ฆ่า!”เสียงคำรามโกรธเกรี้ยว ปีศาจดาบอเวจีโจมตีพร้อมกันทันทีทั้งหมดใช้พลังงานฟันส่งพลังตรงไปที่ร่างลินลี่ย์ คลื่นพลังเป็นกากบาทตัดพื้นจนแยกจากกัน แม้ว่าแรงฟันหลายเล่มจะไม่ถูกลินลี่ย์ก็ตามแต่ต้องมีสองสามสายถูกร่างลินลี่ย์แน่นอน

“บึ้ม!”  ที่ใดก็ตามที่พลังงานดาบฟันผ่านพื้นโลหะและอุโมงค์กลายสภาพเป็นเศษเล็กเศษน้อย

“มันตายแน่!”

“หือ?” ทันใดนั้นปีศาจดาบอเวจีตกใจ

ลินลี่ย์อยู่ห่างออกไปหลายพันเมตรปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาในขณะที่กระพริบวาบสองครา พวกมันเห็นแต่เพียงประกายแสงสีม่วงประหลาดร้ายกาจ จากนั้นศีรษะพวกมันก็ขาดกระเด็น

“ด้านเร็ว, ด้านช้า... ฮ่าฮ่า...วิธีเข้าใจแบบนั้นผิดหมด!”  ลินลี่ย์หัวเราะลั่น  แต่ละครั้งที่สะบัดกระบี่โจมตีเขาสังหารปีศาจดาบอเวจีได้อย่างง่ายดาย และด้วยการหายตัวอย่างง่ายๆเขาหายตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มปีศาจดาบอเวจีอย่างง่ายดายและหนีออกมา ในเรื่องความเร็วตอนนี้เขาเร็วมากกว่าปีศาจดาบอเวจีถึงสามเท่า!

เขาไวเกินไป

แม้แต่หัวหน้าปีศาจดาบอเวจีสีแดงก็ตามมาสมทบ  พวกเขาก็ยังไวไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความเร็วลินลี่ย์

“ในอดีตที่ผ่านมา  ข้าคิดว่าถ้าข้าเข้าถึงขีดจำกัดของด้าน ‘เร็ว’ ได้ ข้าจะกลายเป็นเทพ ถ้าข้าเข้าถึงจุดสุดยอดของด้าน ‘ช้า’ ข้าก็จะกลายเป็นเทพได้เช่นกัน ใช่แล้ว, ข้าสามารถกลายเป็นเทพได้ เพียงแต่การทำด้วยวิธีนั้นยังถือว่าผิดวิธี”  ใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความยินดี  เหมือนกับว่าเขาได้ทำอภิมหาโครงใหญ่ได้สำเร็จ  “เมื่อด้าน ‘เร็ว’ และด้าน ‘ช้า’  แต่ละด้านถึงขีดจำกัดสูงสุดพวกมันจะประสานเข้าด้วยกัน....”

“ทั้งด้าน ‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ทั้งสองนี้ถือเป็นด้านใหญ่ ทั้งสองด้านเป็นส่วนทั้งหมดของกฎธรรมชาติธาตุลม...”

“สัจธรรมแห่งความเร็ว!”

กระบี่เลือดม่วงกระพริบอยู่ในมือของลินลี่ย์  ตอนแรกดูเหมือนมันจะเคลื่อนไหวช้ามาก  แต่พริบตามันเคลื่อนไหวเร็วราวกับสายฟ้า  จากมุมมองที่แตกต่างทุกคนจะเห็นผลต่างทั้งสองอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ ที่ขอบคมของกระบี่เลือดม่วงจะมีขอบมิติน้ำเงินเลือนรางซึ่งดูเหมือนจะคล้ายกับ ‘คมมีดมิติ’

ด้วยการฟันธรรมดามิติเองจะเริ่มเกิดระลอกและเกิดรอยแยกเล็กๆ ในมิติปรากฏขึ้น

แรงฟันธรรมดาจากลินลี่ย์ในตอนนี้ก็แฝงด้วยพลังคมมีดมิติอยู่ส่วนหนึ่ง

ร่างลินลี่ย์ปรากฏอยู่ทั่วพื้นที่อย่างรวดเร็ว  และที่ใดก็ตามที่ประกายแสงสีม่วงกระพริบผ่าศีรษะของปีศาจดาบอเวจีจะขาดปลิวกระเด็น

“วิชานี้ควรขนานนามว่า.... สัจธรรมแห่งความเร็ว– มีดมิติบั่นเศียร!”

“ควั่บ!”  ร่างของลินลี่ย์พุ่งออกมาจากพื้นทันที

“ฮ่าฮ่า, เขาออกมาแล้ว เด็กๆ ฆ่ามัน!” หัวหน้าปีศาจดาบอเวจีแดงทั้งสองออกคำสั่งอย่างตื่นเต้นทันที  เสียงหวีดหวิวนับไม่ถ้วนสามารถได้ยินได้  ขณะที่ปีศาจดาบอเวจีเป็นแสนบุกเข้าใส่เหมือนฝูงตั๊กแตนปล่อยพลังดาบใส่ลินลี่ย์แทบจะในทันที

แต่ร่างของลินลี่ย์มาปรากฏอยู่ในกลางกลุ่มของพวกเขาแล้ว

และเหมือนกับสายลมกระโชก ลินลี่ย์หายตัวไปโผล่ตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างต่อเนื่องที่ใดก็ตามที่เขาปรากฏตัวจะมีศีรษะของปีศาจดาบอเวจีปลิวลอยขึ้นมา  อยู่ต่อหน้าลินลี่ย์ ปีศาจดาบอเวจีเหล่านี้ไม่มีความสามารถตอบโต้ได้แม้แต่น้อย

เสียงกรีดร้องสยดสยองหวาดหวั่นดังขึ้นต่อเนื่องและเลือดสีทองเปรอะกระจายไปทุกตำแหน่ง

ในช่วงเวลาสั้นๆปีศาจดาบอเวจีตายไปเกือบแสนตน ปีศาจดาบอเวจีที่ยังเหลือทุกตนตกอยู่ในอาการหวาดหวั่นพรั่นพรึง  ตอนแรก พวกมันยังมีกำลังใจดีอยู่  แต่ตอนนี้พวกมันขวัญหนีดีฝ่อกันหมด

“ปะ..เป็นไปไม่ได้”  หัวหน้าปีศาจดาบอเวจีแดงร้องอย่างขวัญผวา

และจากนั้นลมกระโชกพัดผ่านมาทางพวกเขา ศีรษะของหนึ่งในหัวหน้าปีศาจดาบอเวจีแดงปลิวขึ้นขณะที่กระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์ปรากฏจ่ออยู่ที่คอของหัวหน้าปีศาจตัวที่สอง  ตาสีทองเข้มของเขาจ้องมองหัวหน้าปีศาจดาบอเวจีสีแดงอย่างเย็นชา  เสียงเยือกเย็นของลินลี่ย์ดังขึ้น “จะเอายังไง,เจ้ายังต้องการสู้ต่อไหม?”

“เมตตาด้วยเถิด นายท่าน”  ปีศาจดาบอเวจีสีแดงคุกเข่าอย่างหวาดผวาทันที

พอผู้นำพวกมันคุกเข่า ปีศาจดาบอเวจีนับไม่ถ้วนที่หวาดกลัวลินลี่ย์จับจิตใจพากันคุกเข่าเช่นกัน

ชั้นที่สิบเอ็ดของสุสานเทพเจ้าตลอดแนวภูมิภาค มีซากศพนับไม่ถ้วนเกลื่อนกล่นกระจัดกระจาย ขณะที่ปีศาจดาบอเวจีที่ยังไม่ตายพากันคุกเข่ากับพื้น  พวกมันหวาดกลัวจัดจนไม่กล้าเงยหน้าการประหัตประหารที่เพิ่งเกิดขึ้นทำลายความกล้าของพวกมันหมดสิ้น

ปีศาจดาบอเวจีนับไม่ถ้วนยังคงคุกเข่า  แผ่นดินกว้างใหญ่เปรอะไปด้วยเลือดสีทอง  มีแต่ลินลี่ย์คนเดียวที่ยืนอยู่

“น่าเสียดาย, ข้ายังเข้าใจเกี่ยวกับด้าน ‘เร็ว’ และด้าน ‘ช้า’ ไม่เพียงพอ”  ลินลี่ย์นึกย้อนเคล็ดสัจธรรมที่เขาเพิ่งรู้แจ้ง “แม้ว่าข้าจะผสานด้านใหญ่ทั้งสองเข้าเป็นหนึ่งและพัฒนาเป็น ‘สัจธรรมแห่งความเร็ว’ ของกฎธรรมชาติธาตุลมได้ข้าก็ยังห่างจากระดับเทพไปอีกหนึ่งก้าว”

ตอนนี้ลินลี่ย์รู้สึกว่าเขาอยู่ที่ริมขอบระดับเทพแล้ว

ความจริงทั้งด้าน ‘เร็ว’ และด้าน ‘ช้า’ ทั้งสอง เมื่อฝึกจนถึงระดับสูงสุดสามารถทำให้คนกลายเป็นระดับเทียมเทพหรือเทพชั้นต้นได้  และจากนั้นหลังจากทั้งสองด้านผสานจนเป็นสัจธรรมแห่งความเร็ว ซึ่งจากนั้นฝึกจนถึงขีดจำกัดก็จะกลายเป็นเทพระดับกลางได้

ทั้งสองด้านนี้ดูเหมือนจะเป็นขั้วตรงกันข้าม การหลอมรวมด้านทั้งสองไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราสามารถจินตนาการได้  ต้องมาจากประกายจากการรู้แจ้ง

ความเข้าใจของนักสู้ระดับสูงจะอยู่ในทั้งสองด้าน  ยากจะหลอมรวมด้านทั้งสองเข้ากันได้ ก็เหมือนกับคนที่ต้องการเดินทางไกลบนถนนสองสายมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ต่างกัน  ยิ่งเดินทางไกลไปตามเส้นทางแต่ละเส้น  ก็ยากจะจะบรรจบรวมกันได้

ความเข้าใจของลินลี่ย์ในด้านทั้งสองยังไม่ถึงในระดับสูงล้ำมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องค่อนข้างง่ายสำหรับเขาที่จะค้นหาประกายความรู้แจ้งเพื่อหลอมรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน

ในอดีตเมื่อพัฒนาเคล็ด‘จังหวะแห่งสายลม’ ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจถึงวิธีทำให้ด้านทั้งสองทำงานร่วมกัน  เมื่อพัฒนา ‘หมื่นกระบี่พลันบรรจบ’ เขามีความก้าวหน้ามากขึ้นอีกครั้ง หลังจากร่ายเวท ‘คมมีดมิติ’ได้  เขาจึงรู้แจ้งเข้าใจทันทีการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานทำให้เขาเข้าใจ ‘สัจธรรมแห่งความเร็ว’

ดังนั้นการเคลื่อนที่ได้เร็วของเขาจึงเพิ่มขึ้นสามหรือสี่เท่า  และเขาสามารถพัฒนาเป็นวิชากระบี่ที่ทรงพลังนั่นคือ ‘มีดมิติบั่นเศียร!”

“เจ้ารู้ไหมว่าประกายศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ใด?” ลินลี่ย์ก้มหน้ามองหัวหน้าปีศาจดาบอเวจีสีแดงที่คุกเข่าตัวสั่นอยู่

“ข้าทราบ, ข้าทราบ” หัวหน้าปีศาจดาบอเวจีแดงกลัวว่าลินลี่ย์จะฆ่าเขา

“นำทาง” ลินลี่ย์กล่าว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด