ตอนที่แล้วตอนที่ 357 ตัดสินใจเคลื่อนไหว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 359 ถนนซีสุ่ย

ตอนที่ 358 เข้าเมือง


แอนเดรียนามองถังเทียนไม่วางตา ตั้งแต่ต้นนางไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขา  เขาเป็นใคร? เขามาจากไหน? ทำไมเขาถึงช่วยนาง?  นางไม่รู้อะไร

ใบหน้าของเขามีหน้ากากเพลิงดำปกปิดไว้  ทั่วทั้งร่างก็มีเพลิงดำคลุมทั้งตัว  ดังนั้นนางทำอะไรไม่ได้นอกจากนี้ดูเหมือนเขาไม่ตั้งใจจะถอดหน้ากากเสียด้วย

แต่จากท่าทางของเขาแอนเดรียนาสามารถคาดเดาได้ว่าเขาคือคนที่ได้รับการศึกษามาอย่างดี  แม้แต่เวลานั่งกับพื้นก็นั่งตัวตรงเหมือนหินต่างจากพวกนักสู้รับจ้าง พวกเขาจะนั่งกันไม่เป็นระเบียบ

ตั้งแต่ช่วยนางมาเขาไม่พูดอะไรกับนางสักประโยค

แอนเดรียนารวบรวมความกล้า  “สวัสดี, ท่านเป็นใคร?  ทำไมถึงช่วยข้าไว้?”

ถังเทียนเทียนไม่สนใจนาง เขากำลังคิดถึงบทบาทที่เขาจะทำให้เพียงพอในสิบห้าวัน  สำหรับเขา เวลาคือทุกสิ่ง  เขาไม่ต้องทำลายแผน “ของเขา” แม้ว่า “เขา”จะมีสติปัญญาอ่อนด้อย  เนื่องจาก “เขา” จะลุยทุกอย่างโดยใช้กำลัง  และสามารถลุยได้ทั้งเส้นทางสวรรค์

สิบห้าวันก็น่าจะได้

เมื่อตอนเขาออกมา  เขาตรวจดูอย่างระมัดระวังแล้วสถานการณ์ของหลิงซิ่วและอาเฮ่อต้องใช้เวลาสิบห้าจึงจะคลี่คลายวิกฤติได้  เขาต้องใช้เวลาสิบห้าวันลดอุปสรรคที่จะมีต่อ“เขา” และโดยเฉพาะเหล่าสหาย “ของเขา”

เขาเห็นคุณค่าของสหายชัดเจนกว่า“เขา” และนั่นคือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพจำศีล   ในจุดนี้ “เขา” โดดเด่นมากกว่าเขา

“คำสั่งให้เจ้าแต่งงานกับจูหนิง อัสตาเป็นคนสั่งหรือ?”

เสียงแหบเย็นชาดังขึ้นสร้างความประความประหลาดใจให้แอนเดรียนา  นางตอบรับ “ใช่แล้ว”

อัสตาคือจ้าวปกครองกลุ่มดาวอันโดรเมดามาเป็นเวลาหลายปี

“นางสั่งเจ้าต่อหน้าหรือเปล่า?”

แอนเดรียนาฉลาดเมื่อได้ยินคำถามนั้น นางเข้าใจทันที และหลังจากคิดชั่วขณะ นางตอบ “ไม่  ท่านเจ้าปกครองกลุ่มดาวรักสันโดษและนางไม่ค่อยปรากฏตัว ดังนั้นเราจึงพบนางได้ยาก คำสั่งนี้มอบหมายผ่านผู้อาวุโสตระกูลแฮมเมอร์และท่านหญิงอาลี”

“ผู้อาวุโสตระกูลแฮมเมอร์และท่านหญิงอาลี?”

“ผู้อาวุโสตระกูลแฮมเมอร์ก็คือผู้อาวุโสหัวหน้าตระกูล  ท่านหญิงอาลีคือน้องสาวของเจ้ากลุ่มดาว ทั้งสองคนได้รับความเชื่อถือสูงสุดจากท่านเจ้ากลุ่มดาว  มีเพียงพวกเขาสามารถเข้าออกวังเทพธิดาได้อย่างอิสระ”  หน้าของแอนเดรียนาขาวซีด “แต่..คำสั่งต้องมาจากเจ้าปกครองกลุ่มดาวแน่  เพราะว่าถูกส่งมอบให้ด้วยพลังดวงดาว”

เจ้ากลุ่มดาวทุกคนจะใช้สมบัติระดับเซียนและสามารถใช้พลังกลุ่มดาวเมื่อใดก็ได้เพื่อบันทึกภาพและส่งสาร  เพราะเจ้ากลุ่มดาวผู้ใช้พลังได้ก็ย่อมทำเช่นนั้นได้  ดังนั้นตามปกติคำสั่งทุกอย่างที่ถูกใช้โดยเจ้ากลุ่มดาวก็จะใช้วิธีนั้น

เจ้ากลุ่มดาวสามารถถูกคุมขังได้  แต่พลังของสมบัติระดับเซียนไม่อาจแทนที่ได้

แต่คำพูดของถังเทียนเตือนแอนเดรียนาได้จริงๆ แอนเดรียนาระลึกถึงอย่างระมัดระวังและตระหนักได้ว่ามีหลายจุดที่น่าสงสัย  ตัวอย่างเช่นเรื่องนี้  ท่านเจ้าดวงดาวคงไม่ประมาทเกินไป

อย่าบอกนะว่า...

ความคิดที่น่ากลัวผุดขึ้นมาในใจนาง

“ทำไมถึงเป็นข้า?”

หน้าของนางซีดขาวกว่าเดิม  และเสียงของนางสั่นสะท้าน

“ทำไมต้องเป็นเจ้า?”  ถังเทียนย้อนถาม  น้ำเสียงเขาเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง  ไม่มีความอบอุ่นสักนิด  ไม่เห็นอกเห็นใจ ไม่ใส่ใจเหมือนกับน้ำแข็งที่แหลมคม ซึ่งทิ่มแทงหัวใจของแอนเดรียนา

ปากของแอนเดรียนาสั่น  ในดวงตาที่งดงามของนาง  ความกลัวคืบคลานเข้ามา  “ท่านพ่อ... เป้าหมายของพวกเขาคือท่านพ่อ...”

“เขาเป็นใคร?” ถังเทียนถาม

แอนเดรียนาหวาดหวั่นทันทีนางเหมือนคนเคราะห์ร้ายที่กำลังจะจมน้ำและคว้าสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตนางได้  “บิดาข้าชื่อทาร์ตัน,ท่านเป็นแม่ทัพกองทหารราบซึ่งเป็นกองทัพของกลุ่มดาวอันโดรเมดา! ได้โปรดช่วยบิดาข้าด้วย!”

“เจ้าเชื่อถือใครได้บ้าง?”

เสียงที่เยือกเย็นเหมือนมีดความจริงทำให้แอนเดรียนาสงบลงได้ นางเป็นเด็กผู้หญิงฉลาดที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงวินิจฉัย ดังนั้นนางจึงได้รับอิทธิพลจากแผนการทุกประเภท  เมื่อสงบได้แล้วใจของนางเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่นางต้องทำในตอนนี้ก็คือส่งจดหมายเตือนบิดาของนาง  ถ้าศัตรูวางแผนไว้จริง  อย่างนั้นคนที่สนิทกับนางคงถูกสอดแนมไปด้วย

ทันใดนั้นแอนเดรียนาจำบางอย่างได้และนางพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น  “หอการค้าเวิงหลิน  ท่านพ่อบอกไว้ก่อนว่า ถ้าข้าตกอยู่ในอันตรายข้าควรจะไปที่หอการค้าเวิงหลิน! ที่ทำการจะอยู่ที่ ถนนแม่น้ำตะวันตกนครเทพสตรี”

นครเทพสตรีคือเมืองหลวงของกลุ่มดาวอันโดรเมดาและเป็นศูนย์กลางของกลุ่มดาวอันโดรเมดาซึ่งเป็นที่ตั้งของวังเทพธิดา

เมื่อทั้งสองเข้ามาใกล้เมือง พวกเขาตระหนักได้ว่านครเทพสตรีมีการคุ้มกันหนาแน่น ทุกๆ ทางเข้ามีทหารคอยตรวจตราอย่างเข้มงวด มีการเข้าแถวที่ทางเข้าทุกจุดพร้อมกับมีเสียงด่าสาปแช่งไม่หยุดจนกระทั่งปาฟุปรากฏตัวเสียงด่าทอจึงหายไป

มือของปาฟุมีผ้าพันแผล  หน้าของเขาซีดและมีรอยเขียว  เขาคอยกวาดสายตามองตลอดและทุกคนเงียบด้วยความกลัว

ทันใดนั้นถังเทียนสังเกตเห็นยานโดยสาร

บนยานโดยสารมีสุภาพสตรีผมยาวประบ่าคนหนึ่ง  นางสวมชุดขาวราวหิมะยืนตัวตรงด้วยท่าทีที่เย็นชาดูงดงามมาก  ข้างๆ นางเป็นบุรุษหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนยิ้ม

เหตุผลที่ถังเทียนสังเกตยานโดยสารก็เพราะทั้งที่ผู้คนเข้าแถวยาวเหยียด มีเพียงโดยสารที่เดินหน้าได้โดยไม่มีอุปสรรคขัดขวาง

ถังเทียนทำให้แอนเดรียนาสลบโดยไม่ลังเลใจจากนั้นแบกนางไปด้วย เขากวาดสายตามองดู เห็นได้ชัดว่ายานโดยสารต้องมีสถานะและสำหรับพวกเขาเป็นการปกป้องสูงสุด

“แม้ว่าอันโดรเมดาจะเป็นกลุ่มดาวที่เล็กกลุ่มหนึ่ง  แต่ความงดงามของนครเทพสตรีนับว่าไม่เลว”  ฉีซานมีมารยาทต่อสตรีงามความของการพูดเขาพอเหมาะพอดี เต็มไปด้วยการคุกคาม แต่ไม่เป็นเหตุให้ใครเกลียด  “กลุ่มดาวอันโดรเมดาก็คือกลุ่มดาวที่มั่นคงที่สุดในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  ดังนั้นธุรกิจการค้าจึงมีเจริญรุ่งเรืองมาก เก้าในสิบส่วนของหอการค้าขอบฟ้าเหนือจะตั้งสำนักงานใหญ่ที่นี่ในนครเทพสตรีนักธุรกิจผู้ร่ำรวยเหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยและคฤหาสน์ของพวกเขาทุกคนสวยงดงามมาก”

ราวกับว่าเขากำลังแนะนำบ้านของตนเอง  คำพูดที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความอบอุ่นและสนิทสนม

หมิงเย่กวาดตาดูประตูเมืองที่คุ้มกันแน่นหนาและประหลาดใจเล็กน้อย “แต่มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

ฉีซานยิ้มอย่างคาดไม่ถึง  “อย่าไปสนใจเลย  ปล่อยให้พวกเขารับมือเถอะ”

หมิงเยี่ยหันไปมองฉีซาน  ฉีซานทำเหมือนเฉื่อยชาและยังมีความมั่นใจ  จากนั้นยิ้มทันทีเหมือนกับพยัคฆ์ร้ายแยกเขี้ยวเขาเปี่ยมไปด้วยพลังที่ทำให้คนเชื่อมั่นในตัวเขามาตลอด เหมือนกับว่าไม่มีอะไรจะขัดขวางเขาได้ ความแข็งแกร่งนั่นคือความรู้สึกที่ชัดเจนจากตัวเขา

หลังจากติดตามเขาไม่กี่วันที่ผ่านมาหมิงเยี่ยเริ่มจะคุ้นเคยกับฉีซานอยู่บ้าง ไม่ว่านางจะถือดีมากเพียงไหนนางก็คงต้องยอมรับว่าฉีซานเป็นบุรุษที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่นางเคยพบ

“นั่นก็จริง” หมิงเยี่ยยิ้มทันที

นางยิ้มเฉิดฉายโปรยเสน่ห์ซึ่งดูน่ารักงดงามทำให้ฉีซานเหมือนถูกกระชากหัวใจในเวลานั้น แต่เขารีบเรียกความรู้สึกกลับมาและยกยอนางโดยไม่เก็บงำความคิด“ยิ้มของแม่นางหมิงเยี่ยช่างงดงามที่สุด ยิ่งกว่างานศิลปะที่ข้าเคยพบในโลก”

หมิงเยี่ยไม่ตอบเขา  นางทอดสายตาไปไกลและไม่ได้คิดอะไร

ฉีซานไม่ใส่ใจและยังชื่นชมใบหน้าที่งดงามของนางต่อ แม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะให้ความสนใจความงามของหมิงเยี่ยแต่เขาไม่ถึงกับสูญเสียความคิด เขาจึงเริ่มคิด หมิงเยี่ยมีประสบการณ์มากไม่ว่าจะเป็นความสามารถของตัวนางเองหรือพื้นฐานที่หยั่งคาดไม่ถึงของนาง  นั่นเป็นตัวช่วยขนาดใหญ่

ถ้าเขาสามารถได้หมิงเยี่ยมาครอบครอง  คุณค่าจะสูงมากกว่ากลุ่มดาวอันโดรเมดาถึงสิบเท่า

เขาเคยได้ยินมาก่อนว่านางมีสายสัมพันธ์กับตระกูลเย่  แต่เท่าที่เห็นนางไม่พึงพอใจเย่เฉาเกออย่างเห็นได้ชัด และสำหรับเขานั่นคือโอกาส

เขาตัดสินใจในไม่กี่วันต่อมาเขาจะใช้โอกาสนั้นกับหมิงเยี่ย ฉีซานมั่นใจในตนเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ชาติตระกูล อำนาจ เขาเป็นเลิศในทุกด้าน และในสวรรค์วิถีทั้งสิ้น  จำนวนคนที่แข็งแกร่งกว่าเขามีไม่กี่คน

ปาฟุเห็นฉีซานและมองเห็นโอกาสประจบประแจงและใช้โอกาสนั้นทันที

“อาการบาดเจ็บเป็นยังไงบ้าง?  หนักหนาไหม? ข้ามียาอยู่นี่ รับไปใช้ซะ” ฉีซานไม่ทำท่าหยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าปาฟุ เขาโยนยาให้ปาฟุด้วยสีหน้าห่วงใย

ปาฟุมีสีหน้าซาบซึ้ง และตอบทันที  “หามิได้, หามิได้!  นายท่าน  นายท่านไม่ต้องกังวล!  เชิญเข้าเมืองเถิด”

หมิงเยี่ยเห็นอาการโต้ตอบนั้นแล้วนางพอใจ  ฉีซานเกิดในตระกูลชนชั้นสูงแต่ไม่หยิ่งยโสและนั่นหาได้ยากจริงๆ

ฉีซานยิ้มและไม่ถูกปาฟุตรวจสอบ  เขาเข้าเมืองต่อไป

“สถานที่พักของเราจัดเตรียมไว้ในอุทยานจันทร์ฉาย”  ฉีซานยิ้ม “นั่นเป็นสถานที่พักสำหรับประธานหอการค้าและได้ตกแต่งไว้อย่างดี  ชื่อก็ยังเหมาะกับท่านมาก ข้าหวังว่าแม่นางหมิงเยี่ยจะชอบ”

“คุณชายฉีซานดีต่อข้าเหลือเกิน”  หมิงเยี่ยโค้งคำนับขอบคุณแต่น้ำเสียงของนางเฉื่อยชา “หมิงเยี่ยเรียนรู้มาไม่พอ และชอบธรรมชาติที่เงียบสงบ  ข้าหวังว่าคุณชายฉีซานจะช่วยข้าหาภูเขาที่เงียบสงบ”

ฉีซานพึมพำ  “ข้าไม่ทันได้นึกถึงความคิดคนอื่นเลย  ถ้าเจ้ากำลังมองหาสถานที่เงียบสงบ  มีภูเขาทางทิศตะวันตกเรียกว่าหนิวโฉ่วเป็นที่มีทิศทัศน์งดงามและคนน้อย นับเป็นสถานที่ดี”

“ข้าต้องขอบคุณคุณชายฉีซาน”  หมิงเยี่ยขอบคุณ

ฉีซานโบกมือเขา  “แม่นางหมิงเยี่ยไม่ต้องเกรงใจ”

ภูเขาหนิวโฉ่วอยู่ไม่ไกลและพวกเขามาถึงอย่างรวดเร็วและจอดยานบนยอดเขา หมิงเยี่ยสามารถมองเห็นนครเทพสตรีได้ ทิวทัศน์งดงามและอากาศสดชื่น สีหน้าของนางมีรอยยิ้มพึงพอใจ

“ขอบคุณคุณชายฉีซาน  ท่านสามารถจอดยานไว้ที่นั่นได้”

“แม่นางหมิงเยี่ยโปรดระมัดระวังตัว”  ฉีซานแนะนำ จากนั้นหัวเราะทันที  “แต่จากที่ข้าเห็น ด้วยพลังของแม่นางหมิงเยี่ยจะได้รับความสนใจจากท่าน ข้าคิดว่ามีคนที่อยู่ในขอบเขตชั้นเซียนเท่านั้นจึงจะทำได้”

หมิงเยี่ยคำนับฉีซาน  “หมิงเยี่ยของคุณพี่ฉีที่ห่วงใย”

คำพูดว่า “พี่ฉี” ทำให้เขาใจพองโตด้วยความยินดี  เขาระงับความดีใจ“น้องหมิงไม่ต้องมากมารยาทกับข้าก็ได้ ข้าขอตัวก่อน ไม่รบกวนความสงบของเจ้าแล้ว”

กล่าวจบ เขาเรียกทุกคนให้ออกไปและส่งคำสั่งลงไปที่ทหารคุ้มกันที่เชิงเขาให้กันมิให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยว

ดวงตาของฉีซานเต็มไปด้วยความหลงใหล  หมิงเยี่ยมองดูเขา แต่คำพูดและการกระทำที่ตรงของเขาทำให้นางชื่นชมเขามากขึ้น  หย่งเซียนจงยังด้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับฉีซาน  นางสงสัยว่าฉีซานน่าจะโดดเด่นมาก แต่เขาอยู่ในอันดับสามของนักสู้รุ่นเยาว์ที่โดดเด่นในสมาพันธ์ชาวยุทธ  ดังนั้นอันดับหนึ่งและสองจะโดดเด่นมากเพียงไหน?

สมาพันธ์ชาวยุทธน่าทึ่งมากกว่าที่นางคิด

แต่...สายตาของหมิงเยี่ยพลันเย็นชาและพูดขึ้น

“สหายที่อยู่ใต้ยาน ขอเชิญออกมาพบกัน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด