ตอนที่แล้ว81
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป83

82


บทที่ 82

[ผู้พิทักษ์ดันเจี้ยนโรตอนชั้นที่หนึ่งถูกกำจัดแล้ว ]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]

[เลเวลอัพ ]

[พลังชีวิต และพลังเวทมตร์ได้รับการฟื้นฟู ]

โทรลล์คือผู้พิทักษ์ประจำชั้นของดันเจี้ยน มันให้ค่าประสบการณ์มหาศาล แต่น่าเสียดายที่มันดรอปไอเทมวัตถุดิบมาเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

‘ตอนนี้ฉันเลเวล 128 แล้ว ฉันได้ยินมาว่าอันดับหนึ่งตอนนี้ยังเลเวลไม่ถึง 200 เลย รอฉันก่อนเถอะ’

ฮยอนอู ตรวจสอบหน้าต่างสถานะตัวละครของเขา

[หน้าต่างสถานะ ]

[ชื่อตัวละคร : คัง ฮยอนอู ]

[เลเวล : 128 ]

[อาชีพ : อัศวินแห่งคิออน ]

[ฉายา : ศิษย์ของ เลอบรอน , นักรบที่ ข่าน ให้การยอมรับ , ดาวดวงใหม่ที่ เลอบรอน ให้การยอมรับ , คนแรกที่ได้เข้าสู่พระราชวัง , คนแรกที่ได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิ , ชัยชนะ 100 ครั้ง ติดต่อกัน , โซโลเรดเดอร์ , นักล่ามังกรทะเลทราย , ผู้ครอบครองเหมืองแมงมุม ]

[ค่าสถานะ : ความแข็งแรง : 220 (+500) , ความคล่องแคล่ว : 370 (+550) , ความอึด : 150 (+500) , พลังเวทมนตร์ : 155 (550) , จิตวิญญาณต่อสู้ : 143 (+250) ]

[แต้มสเตตัส : 0 ]

[คุณสมบัติธาตุ : ธาตุลม ]

‘น่าจะได้ฉายาเพิ่มมาอีกหนึ่ง ...’

เป็นเรื่องปกติที่จะได้รับฉายาเพิ่มหลังจากการเคลียร์มัลติดันเจี้ยนได้สำเร็จ

‘ฉันน่าจะอัพเลเวลได้อีกหนึ่งหรือสองระดับในดันนี้’

ฮยอนอู คิดเงียบ ๆ ระหว่างตรวจสอบหน้าต่างสถานะ ขณะเดียวกันนั้นหน้าต่างข้อความจากระบบก็ปรากฏขึ้น

[คุณสามารถเข้าสู่ดันเจี้ยนโรตอนชั้นที่สองได้ คุณต้องการเข้าหรือไม่ ]

“ลูกพี่ มาทางนี้ครับ” เมื่อเห็นหน้าต่างข้อความนี้ ฮยอนอู ก็ตะโกนไปทาง คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู ทันที

“อ่า” คัง จุนอู ขานรับพร้อมกับหันไปทาง คิม ซอกจอง

เขาพยายามกระตุกแขนของ คิม ซอกจอง สองสามครั้งเพื่อเรียกสติ ตอนนี้ คิม ซอกจอง ดูเหมือนจะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง แม้ว่าการต่อสู้ระหว่าง ฮยอนอู กับผู้พิทักษ์จะจบไปแล้วกว่าห้านาที แต่ทว่าดูเหมือน คิม ซอกจอง จะยังไม่สามารถสลัดความตกใจที่เกิดขึ้นออกไปจากจิตใจของเขาได้ การต่อสู้ของ ฮยอนอู เป็นไปอย่างน่าทึ่ง ผู้พิทักษ์ประจำชั้นเคลื่อนไหวตามความคิดของ ฮยอนอู อย่างสมบูรณ์

“ห๊ะ !?”

คิม ซอกจอง ได้สติกลับมาในที่สุด หลังจากที่จมอยู่กับการชื่นชม ฮยอนอู มาเป็นเวลานาน ในการต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วย ฮยอนอู แม้แต่นิดเดียว เพราะในการต่อสู้เพียงลำพังมันจะทำให้ ฮยอนอู สามารถเปล่งประกายได้มากที่สุด นอกจากนี้หากพวกเขายื่นมือเข้าไปช่วยมันอาจเป็นการขัดจังหวะ ฮยอนอู ก็เป็นได้

คิม ซอกจอง รับรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาชวน ฮยอนอู ให้มาร่วมเคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้กับเขา

‘ฉันจะต้องเชิญเขาเข้ากิลด์ให้ได้’

คิม ซอกจอง เลียริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะตอบรับ “อ่า ไปกันเถอะ”

“หลังจากผมจัดการกับผู้พิทักษ์ก็มีหน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมา” ฮยอนอู พูดกับทั้งสองคนพร้อมกับแบ่งปันหน้าต่างข้อความให้ทั้งสองคนได้ดู

[คุณสามารถเข้าสู่ดันเจี้ยนโรตอนชั้นที่สองได้ คุณต้องการเข้าหรือไม่ ]

“เจ้านั่นเป็นผู้พิทักษ์จริง ๆ นายอยากทำยังไงต่อ !?ลูกพี่ล่ะ อยากลงไปชั้นสองต่อเลยไหม !?”

“มันคงจะดีถ้าเราเคลียร์ดันเจี้ยนนี่ในครั้งเดียว เราจะต้องได้รับรางวัลใหญ่ ....” ดวงตาของ ฮยอนอู เริ่มหลุดลอยขณะที่เขาจินตนาการถึงไอเทมสวมใส่ระดับเดียวกับหน้ากากคำสาปของแคสเซิล

“เอาอย่างที่น้องชายบอก เราไปลุยกันเลยเถอะ”

“งั้นเราก็ไปกันเถอะ”

.....

[คุณได้เข้าสู่ดันเจี้ยนโรตอนชั้นที่สองแล้ว ]

สภาพพื้นที่โดยรอบของชั้นสองไม่ต่างไปจากชั้นหนึ่งมากนัก นอกจากมอนสเตอร์ประจำชั้นที่เปลี่ยนจากออร์คเป็นโทรลล์แล้ว ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมเกือบทั้งหมด

“ทังอี”

เมื่อได้ยินเสียงเรียกของ ฮยอนอู , ทังอี ก็ใช้สกิลเปลวไฟโจมตีใส่โทรลล์ทันที พริบตานั้นโทรลล์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟอย่างรุนแรง ก่อนที่สุดท้ายมันจะถูกออร่าดาบของ ฮยอนอู จบชีวิตลงในที่สุด

[โทรลล์ทาสของโรตอนถูกกำจัดแล้ว ]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]

ฮยอนอู จบการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปทาง คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู ที่ยังคงต่อสู้อยู่

‘นี่คือพลังของคลาสมองค์ลิรูเหรอ !?’

ทั้ง คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู ต่างก็ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับจากคลาสอาชีพของตัวเองในการต่อสู้ ซึ่งมันสร้างความเสียหายต่อโทรลล์ทาสได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่พวกเขาเหวี่ยงหมัดออกไปจะทำให้ร่างกายบางส่วนของโทรลล์ทาสถูกทำลาย แม้ว่าโทรลล์ทาสจะพยายามฟื้นตัวแต่น่าเสียดายที่มันเป็นมอนสเตอร์ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น ไม่ใช่บอสมอนสเตอร์ที่สามารถฟื้นฟูร่างกายของตัวเองได้

“เราช้าไปหรือเปล่า !?” คัง จุนอู ถามขณะที่เดินเข้ามาหา ฮยอนอู เขารู้สึกเป็นกันเองกับ ฮยอนอู มากขึ้นจึงทำให้ไม่ได้พูดอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนกับตอนแรก และเริ่มพูดคุยกับ ฮยอนอู ได้อย่างเป็นกันเองราวกับกำลังพูดคุยกับน้องชายคนเล็กของเขา “นายล่าได้เร็วมาก”

“เป็นฝีมือของเขาน่ะ ผมแค่รอปิดฉากอย่างเดียว” ฮยอนอู พูดพร้อมกับลูบศีรษะ ทังอี ระหว่างการล่าดำเนินต่อเนื่องมานี้ทำให้ความชำนาญสกิลของ ทังอี เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากแต่เดิมที่สกิลเปลวไฟของเขาสามารถสร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยให้กับออร์คก็ตาม แต่ตอนนี้แม้จะใช้สกิลเปลวไฟเหมือนเดิม แต่ด้วยสถานะผิดปกติเผาไหม้ที่เพิ่มขึ้น มันก็สามารถทำให้ ทังอี สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับโทรลล์ได้แล้ว

“น้องชาย นายอยากเข้ากิลด์ไหม !?” คิม ซอกจอง ถามขณะที่นั่งลงด้านข้าง ฮยอนอู มันดูเป็นเหมือนการพูดคุยกันตามปกติมากกว่าจะเป็นการเชิญชวนอย่างเป็นทางการ

“กิลด์ !?” ฮยอนอู รู้สึกค่อนข้างหนักใจกับคำถามนี้

กิลด์ ...

ตอนนี้ ฮยอนอู ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว มันไม่ใช่ขีดจำกัดในการล่า แต่เป็นขีดจำกัดของโซโลเพลเยอร์ เขามีข้อมูลน้อยเกินไปแตกต่างจากผู้เล่นที่เข้าร่วมกิลด์ใหญ่ ๆ ตามปกติ

สมาชิกแต่ละคนของกิลด์เปรียบเสมือนฟันเฟืองของเครื่องจักรขนาดใหญ่ ในหมู่พวกเขาอาจจะมีผู้เล่นที่มีความสามารถโดดเด่นในด้านข่าวสารของอารีน่า ไม่ว่าจะเป็น ภารกิจ , ดันเจี้ยน , เหมือง หรือแม้แต่ไอเทม คนเหล่านี้มันจะมีข้อมูลเฉพาะในหลาย ๆ ด้านที่สามารถทำให้สมาชิกกิลด์เติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น ระหว่างโซโลเพลเยอร์กับผู้เล่นที่มีสังกัดกิลด์ มันจึงมีความแตกต่างกันอย่างมาก

“ฉันรับรองได้เลยว่าแหล่งแร่ของกิลด์โลกใหม่ยิ่งใหญ่กว่ากิลด์อื่น ๆ” คัง จุนอู พูดเสริม

คัง จุนอู เองก็ต้องการให้ ฮยอนอู เข้าร่วมกับกิลด์โลกใหม่ของพวกเขา และในความจริงแล้วไม่ใช่เพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น แม้แต่สมาชิกคนอื่น ๆ ในกิลด์ต่างก็คิดแบบนี้ การเชิญ อัลเลย์บอส เข้าร่วมกิลด์ของพวกเขา !?นี่จะเป็นเหมือนทางลัดสำหรับกิลด์โลกใหม่ในการสร้างชื่อเสียงของพวกเขา

“มันกะทันหันไปหน่อย ผมขอเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยนะครับ แต่แน่นอนว่าถ้าจะเข้ากิลด์ไหนจริง ๆ กิลด์นั้นจะต้องเป็นกิลด์โลกใหม่แน่นอน” ฮยอนอู ปฏิเสธคำเชิญอย่างสุภาพ เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เขาจึงจะไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์เด็ดขาด

“ไม่เป็นไร” คัง จุนอู เข้าใจความรู้สึกของ ฮยอนอู

มันเป็นเรื่องไร้สาระ ถ้าหาก ฮยอนอู ตัดสินใจตอบรับคำเชิญของพวกเขาในทันที อย่างไรก็ตาม ยังมีชายอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ละความพยายาม “น้องชาย พูดตามตรงก็ได้นะ นายเกลียดฉันเหรอ !?”

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกลูกพี่!!ลูกพี่ให้เวลาน้องชายได้คิดทบทวนสักหน่อยสิ เราเร่งรัดเขาไปมันก็ไม่มีอะไรดีหรอก”

เมื่อถูก คิม ซอกจอง กดดันมันก็ทำให้ ฮยอนอู รู้สึกอึดอัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นับว่าโชคดีที่ คัง จุนอู ยื่นมือเข้ามาช่วยได้ทันเวลา

“เราไปล่ากันต่อเถอะ” ตัง จุนอู พูดพร้อมกับลาก คิม ซอกจอง เข้าไปในส่วนลึกของชั้นที่สอง เมื่อผละออกมาได้ระยะหนึ่งเขาก็กระซิบขึ้นเบา ๆ “ดูเหมือนเขาจะติดเบ็ดเราแล้วลูกพี่”

“จริงเหรอ !?น้องชาย นายยังไร้เดียงสาเกินไป”

การเดินทางมาในดันเจี้ยนครั้งนี้ ... มันคือกับดักสำหรับ ฮยอนอู

.....

โทรลล์ร่างสูงใหญ่กระเด็นออกไปไกลกว่าห้าเมตร ทั่วร่างกายของมันเต็มไปด้วยรอยบาดแผล และร่องรอยของการเผาไหม้

[ผู้พิทักษ์ดันเจี้ยนโรตอนชั้นที่สองถูกกำจัดแล้ว ]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]

[เลเวลอัพ ]

[พลังชีวิต และพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้น ]

“ลูกพี่ เราไปลุยชั้นสามกันต่อเลยเถอะ” การล่าเป็นไปอย่างราบรื่นจน ฮยอนอู ค่อนข้างเบื่อ ดังนั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเมื่อจะได้เผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ใหม่ ๆ

“นั่นสิ ฉันก็เริ่มเบื่อที่จะสู้กับพวกโทรลล์นี่แล้ว” คัง จุนอู มีความคิดแบบเดียวกันกับ ฮยอนอู ความตื่นเต้นในการท้าทายดันเจี้ยนหายไปอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากการล่าที่ยาวนาน

“ไปกันต่อเถอะ ชั้นสามอาจจะเป็นชั้นสุดท้ายแล้วก็ได้”

[คุณสามารถเข้าสู้ดันเจี้ยนโรตอนชั้นที่สามได้ คุณต้องการเข้าหรือไม่ ]

“ตกลง”

ทั้งสามคนหายตัวไปจากชั้นที่สอง

.....

[คุณได้เข้าสู่ดันเจี้ยนโรตอนชั้นที่สามแล้ว ]

ดันเจี้ยนโรตอนชั้นที่สามให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย ไม่มีเสียงใด ๆ ในนี้ และทางเดินค่อนข้างแคบ มันเป็นเส้นทางเล็ก ๆ ที่มีประตูตั้งอยู่ที่ปลายทาง

“นี่คงจะเป็นชั้นสุดท้ายแล้ว” คัง จุนอู พูด

“น่าจะเป็นแบบนั้น ด้านหลังประตูนั่นคงจะเป็นห้องบอสแล้ว” ฮยอนอู พูด

จากประสบการณ์ของเขา เขาเชื่อว่าจะต้องมีบอสมอนสเตอร์ หรือมอนสเตอร์ที่เทียบได้กับบอสอยู่หลังประตู ทั้งสามค่อย ๆ ก้าวตรงไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง ... มันคือเสียงของกำแพงด้านข้างที่กำลังทรุดตัวลง

“อะไรน่ะ !?”

เมื่อกำแพงทั้งหมดพังลง พวกเขาทั้งหมดก็มองเห็นโลงศพตั้งอยู่ด้านหน้าของพวกเขา

“โลงศพ !?”

ราวกับเป็นการตอบสนองต่อคำพูดของ ฮยอนอู ทันใดนั้นโลงศพที่ตั้งอยู่ด้านหน้าก็เปิดออก ค้างคาวบินขึ้นมาในอากาศอย่างรวดเร็ว มันหยุดลอยอยู่กลางอากาศก่อนจะกลายร่างเป็นมนุษย์ พวกเขามีหลายช่วงอายุตั้งแต่เด็กไปถึงคนชรา

“แวมไพร์ !?”

“ไม่ใช่ เจ้าพวกนี้เป็นแค่ลูกครึ่งมนุษย์แวมไพร์” ทังอี พึมพำเมื่อได้ยินเสียงของ ฮยอนอู

ทันใดนั้นบริวารของแวมไพร์ก็พูดขึ้น “นี่คือปราสาทของขุนนางแห่งรัตติกาล ผู้พิทักษ์แห่งโรตอนทั้งหมดกำจัดผู้บุกรุกให้หมด !!”

ทันใดนั้น หนึ่งในลูกครึ่งแวมไพร์ก็พุ่งเข้าหา ฮยอนอู ด้วยความรวดเร็วที่น่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม ฮยอนอู ไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย

“ทังอี บัพ !!”

[คุณได้รับบัพ จิตวิญญาณแห่งหมี ]

[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]

[ความอึดเพิ่มขึ้น ]

[คุณได้รับบัพ คำอวยพรแห่งป่า ]

[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น ]

[อัตราฟื้นฟูเพิ่มขึ้น ]

ฮยอนอู รีบใช้สกิลยักษ์ทันทีที่ได้รับบัพจาก ทังอี แม้ว่ามันไม่ส่งผลต่อการต่อสู้กับบอสมอนสเตอร์มากนักก็ตาม แต่มันใช้ได้ผลดีอย่างมากสำหรับมอนสเตอร์ทั่ว ๆ ไป

‘เจ้าพวกนี้เคลื่อนไหวได้เร็วมาก แต่ฉันยังมีสกิลนั้นอยู่’

“ลมหายใจเปลวไฟ !!”

เปลวไฟทรงพลังกวาดไปยังบริวารของแวมไพร์ที่พุ่งเข้าหาเขา

“โถ่ ฉันยังไม่ทันได้สู้ด้วยซ้ำ”

บริวารของแวมไพร์ถูกเผาไหม้จากสกิลลมหายใจเปลวไฟในพริบตา

‘ฉันไม่จำเป็นต้องใช้สกิลบัพด้วยซ้ำ ไม่คิดเลยว่าเจ้าพวกนี้จะตายในการโจมตีแค่ครั้งเดียวแบบนี้’

สกิลลมหายใจเปลวไฟจะสร้างความเสียหายตาค่าสถานะเวทมนตร์ของผู้ใช้ มันไม่ใช่สกิลที่จะสร้างความเสียหายตายตัว อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันค่าพลังเวทมนตร์ของ ฮยอนอู มีสูงกว่า 700 แต้ม นอกจากนี้เขายังมีสกิลติดตัวหลายอย่างที่ช่วยเสริมค่าพลังเวทมนตร์ให้มากขึ้น ดังนั้น สกิลลมหายใจเปลวไฟของเขาจึงรุนแรงอย่างมาก

[ฟาบุ บริวารโรตอนถูกกำจัดแล้ว ]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]

[เซบุ บริวารโรตอนถูกกำจัดแล้ว ]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]

[คามู บริวารโรตอนถูกกำจัดแล้ว ]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]

...

...

...

[แมค บริวารโรตอนถูกกำจัดแล้ว ]

[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]

“….!!” คัง จุนอู ตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้รับหน้าต่างแจ้งเตือนจำนวนมากแบบนี้ เขายังไม่ทันได้เริ่มต่อสู้ด้วยซ้ำ แต่บริวารแวมไพร์ทั้งหมดกลับถูกเผาเป็นเถ้าถ่านในพริบตา

“ลูกพี่ เราไปอัดบอสแล้วออกจากที่นี่กันเถอะ เราอยู่ที่นี่มานานเกินไปแล้ว ตอนนี้ผมเริ่มจะคอแห้งแล้วด้วย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด