ตอนที่แล้วตอนที่ 343 วิเคราะห์ของน้องเจ็ด (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 345 ไตร่ตรองและตรวจตรา

ตอนที่ 344 ยอดฝีมือระยะประชิดคืออะไร?


หัวหม่าเอ๋องานยุ่งต้องวิ่งเต้นไปมาแทบไม่ได้หยุด

สาส์นข้อความทั้งหมดส่งมาจากทุกที่กลุ่มอำนาจท้องถิ่นยอมสวามิภักดิ์ การฟื้นฟูหลังจากสงคราม ทั้งหมดทำให้นางอดีตหัวหน้าโจรทะเลทรายต้องใช้ชีวิตแบบใหม่ แต่ใบหน้าของนางยังคงยิ้มแย้มอย่างมีความสุข  ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น  ทั่วทั้งกลุ่มดาวหมาป่าก็มีความร่าเริงยินดี  ชื่อของถังเทียนโด่งดังสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทุกคนจะจดจำเขาในฐานะตำนานตลอดไป

ในที่สุดกลุ่มดาวหมาป่าที่แห้งแล้งกันดาร ก็มีความรู้สึกภาคภูมิใจและมีความสุขจนได้

สถานะปัจจุบันของกลุ่มดาวหมาป่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์  ทุกกลุ่มดาวในสี่สิบสองกลุ่มดาวอื่นล้วนคุยกันถึงเรื่องสงคราม  ทั้งหมดรู้สึกอิจฉาและนับถือ  แม้แต่กลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือที่มักทำอวดอ้างใหญ่โตกับพวกเขาก็ทำตัวสุภาพและดีขึ้น

นี่เป็นความจริงของโลก ตราบเท่าที่ยังมีอำนาจผู้นั้นก็จะยังได้รับความเคารพนับถือจากผู้อื่น

กลุ่มดาวหมาป่ามีสภาพแวดล้อมที่อัตคัดและมีประชากรมาก  มีนักสู้เกิดขึ้นมากมาย และประชาชนชาวหมาป่านับถือพลังอำนาจมากกว่ากลุ่มดาวอื่น

เมื่อไม่นานมานี้ ถังเทียนยังไม่มีชื่อเสือง

ก่อนเกิดสงครามถังเทียนก็ควบคุมกลุ่มดาวหมาป่าไว้ได้แล้ว แต่กลุ่มอำนาจท้องถิ่นอื่นๆ สวามิภักดิ์แต่เพียงภายนอก  แต่ภายในมีแรงจูงใจแอบแฝง  และหลังจากมีประสบการณ์สงครามชื่อของถังเทียนขจรไกล และนักสู้ชาวหมาป่าผู้แข็งแกร่งและป่าเถื่อนต่างยอมรับและชื่นชมอย่างจริงใจ

ปัจจุบันนี้ชื่อของเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มดาวหมาป่าไปแล้ว

เหล่านักสู้จะได้รับความเคารพ   ใช่เพราะนับถือแต่พลังอำนาจอย่างเดียวก็หาไม่ แต่เพราะยิ่งนักสู้แข็งแกร่งมากขึ้นก็สามารถทำให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น  และสร้างพื้นที่ให้ครอบครัวได้เติบโต

นักสู้ผู้แข็งแกร่งทุกคนจากเผ่าต่างๆเริ่มวิ่งเต้นเข้ามาหาเผ่าหมาป่า

ไม่ว่าสถานที่ใดกลุ่มอิทธิพลที่เป็นกลางทั้งหมดคือกระดูกสันหลังของอำนาจทั้งหมด  และยากจะดึงเข้ามาร่วมมากที่สุด

ชื่อของกองกำลังหมาป่าของถังอี้มีชื่อเสียงระบือไกลหลังจากสงคราม  และเป็นที่โจษจันในที่สาธารณะ  และเพราะความสูญเสียของพวกเขา  กองกำลังหมาป่าจำเป็นต้องขัดเกลาระดับของพวกเขา  พลังสั่งการของถังอี้คือ 500 คน  ดังนั้นกองทัพหมาป่าจึงเพิ่มขนาดเป็น 500 นาย

กองกำลังหมาป่าขยายขนาดได้สมบูรณ์ประกอบด้วยพลังของนักสู้ฝีมือดีของกลุ่มดาวหมาป่า

เทียบกับกองกำลังของถังอี้แล้ว  กองทัพเหล็กกล้าได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก  การโจมตีอย่างไม่เลือกหน้าของเย่เฉาเกอทำร้ายสมาชิกของเขาไปถึงครึ่งหนึ่ง  สิ่งที่ทำให้หวงฝู่หงผิดหวังมากก็คือนักสู้ผู้รอดชีวิตสูญเสียปณิธานต่อสู้

ขณะหลบหนี พวกเขาถูกเผ่าหมาป่าไล่โจมตีตลอดทางและกองทหารเหล็กกล้าที่สูญเสียปณิธานต่อสู้ ไม่ว่าหวงฝู่หงพยายามกระตุ้นพวกเขามากเพียงไหน พวกเขาก็ไม่ต้องการร่วมต่อสู้กับเขาอีกต่อไป

หวงฝู่หงมองดูความล่มสลายของกองกำลังเหล็กกล้าของเขา   ความเจ็บปวดทำให้เขารู้สึกเหมือนสูญเสียจิตวิญญาณ

เขาตกเป็นเชลยและถูกกองกำลังท้องถิ่นส่งตัวไปให้หัวหม่าเอ๋อ

“จากวันนี้เป็นต้นไป  เจ้าคือเชลยของข้า  และชีวิตของเจ้าเป็นของข้า”  ปิงพูดตามตรง “ตั้งแต่วันนี้เจ้าจะเป็นผู้ช่วยของถังอี้ ดังนั้นจงทำงานให้ดี”

หน้าของหวงฝู่หงแดงจัดแม้ว่าเขาจะไม่ใช่แม่ทัพที่มีชื่อเสียง แต่เขาเป็นผู้นำกองทัพเหล็กกล้าต่อสู้ด้วยตนเองมาหลายปี และต้องมากลายเป็นผู้ช่วยขุนพลวิญญาณผู้นำทหาร  ทำให้เขาอายและหัวใจสลาย

“ถ้าเจ้าอยากตายงั้นก็ไปฆ่าตัวตายได้เลย” ปิงทิ้งท้ายอย่างเย็นชา จากนั้นไม่แนะนำเขาต่อไป

ปิงไม่ยินดีและมีความสุขกับชัยชนะชนะแล้วเขาได้อะไร?  เพราะสงครามพวกเขาใช้เงินไปถึงสองสามพันล้านเหรียญดาว ขณะที่ศัตรูมีแค่คนเดียว สำหรับคนอื่น ถังเทียนและสหายสร้างความมหัศจรรย์  แต่สำหรับปิง ทั้งหมดนี้น่าอับอายขายหน้า  การที่พยัคฆ์ฟ้าถูกทำลายทำให้เขารู้สึกย่ำแย่

ปิงมีความเกลียดในดวงตาของเขาและสัญญากับตัวเองว่า เขาจะต้องล้างหนี้แค้นครั้งนี้แน่

และเขารู้ว่าตระกูลเย่คงไม่ปล่อยหลายอย่างให้เป็นแบบนี้แน่นอนและคงเตรียมแผนโจมตีพวกเขาอีกในอนาคตแน่นอน

แต่ยังคงมีเรื่องดีหลังจากสงคราม

พวกเขามีชื่อเสียงเป็นที่นิยม  ถังเทียนและสหายไม่ใช่ไพร่พลที่ไร้ชื่อเสียงอีกต่อไป  และแต่ละคนสร้างชื่อให้ตนเองในสวรรค์วิถี หลังจากศึกนี้ความเชื่อมั่นจากตระกูลม่อเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ที่สำคัญยิ่งกว่าทุกคนกำลังเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง ถังเทียนปิดประตูขังตัวเองฝึกฝน จิ่งหาวก็ขังตัวเองฝึกฝน, หลิงซิ่วขังตนเองฝึกฝน, อาเฮ่อก็ยังขังตนเองฝึกฝน  อาโมรี่และพวกอีกสามคนก็ขังตัวเองฝึกฝีมือ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความแข็งแกร่งของแต่ละคนจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด และนั่นคือสิ่งที่คุ้มค่าน่าพอใจ

ปิงมีประสบการณ์ในเรื่องส่งเสริมทหารใหม่  ตาของเขาเต็มไปด้วยความหลงใหล  ทหารใหม่ทั้งหมดมีพรสวรรค์ที่ดี นอกจากเทียบกับอาโมรี่กับสหายอีกสามคนซึ่งมีคุณภาพเกินกว่าคนธรรมดาอยู่มากและไม่ต้องพูดถึงเรื่องถังเทียนและพวกทั้งสาม (หลิงซิ่ว, อาเฮ่อ, จิ่งหาว) ทั้งสี่คนนี้ไม่ธรรมดา  พวกเขาไม่มีคนแนะนำ ไม่มีแหล่งทรัพยากรแต่พวกเขาก็ยังรุ่งเรืองทรงพลัง

โลกภายนอกคงใช้คำสองคำเพื่ออธิบายถังเทียนและสหายของเขาและนั่นก็คือ “ม้ามืด” แต่ก็แค่นั้น ทุกๆปีในสวรรค์วิถีจะมีม้ามืดสองสามคนปรากฏออกมา แต่ม้ามืดเหล่านี้ปรากฏออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ยและสร้างความมึนงงให้กับทุกคนเก้าในสิบส่วนของเวลา พวกเขาจะค่อยๆ เงียบหายไปโดยไม่มีใครรู้

นั่นคือลักษณะของม้ามืด

พวกเขาสามารถอาศัยลักษณะที่พิเศษและในช่วงเวลาหนึ่งก็บรรลุสิ่งที่พิเศษ  แต่ก็แค่เพราะทุกคนไม่คุ้นเคยกับเขา  เมื่อกลายเป็นที่รู้จักของทุกคน  ก็จะมีคนพูดถึงและวิเคราะห์ถึงพวกเขา  ข้อมูลของพวกเขาทั้งหมดความผิดพลาดล้มเหลวของพวกเขาทั้งหมดจะปรากฏออกมาสู่ที่แจ้ง  การใช้ชีวิตของพวกเขาจะตกอยู่สภาพลำบาก  และศัตรูของพวกเขากลับแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ม้ามืดมักจะถูกพูดถึงอย่างกระตือรือร้น  แต่นั่นคือทั้งหมด  ทุกคนกำลังรอข่าวสารล่าสุดจากสำนักยุทธอมตะว่าถังเทียนนั้นจะอยู่ในอันดับที่เท่าใด

ม้ามืด? ปิงแค่นเสียงในใจ  เขามั่นใจมากในอนาคต

ในกองทัพจะเต็มไปด้วยนักสู้ผู้มีพรสวรรค์  แม้ว่าปิงจะเห็นมามากแต่เขาก็ยังประหลาดใจ ความเหนียวแน่นของทุกคนนั้นน่าทึ่ง มันดูเหมือนกองทัพรวมมาก

เหมือนกับเคยเห็นมาก่อนบ้างปิงจำได้ถึงภาพเมื่อทุกคนจัดตั้งกองทัพดาวกางเขนใต้

คนที่มีพรสวรรค์เหมือนกัน  มาอยู่รวมกัน

เขาหัวเราะทันที  เขาช่างคิดมากไปได้

กองทัพดาวกางเขนใต้คือกองทัพที่เป็นเผด็จการในยุคของพวกเขา  และเผด็จการเช่นนั้นก็มีได้ในยุคไหนๆพวกเขาไม่ด้อยกว่ากันอยู่แล้ว แม้แต่ในทุกวันนี้ราชสีห์เลโอนก็ยังไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จด้วยมาตรฐานสูงเท่ากองทัพดาวกางเขนใต้

หยุดฝันกลางวันได้แล้ว  ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ

ในสายตาทุกคน ถังเทียนเป็นเจ้าปกครองกลุ่มดาวหมาป่าไปแล้ว  แต่ปิงรู้ ถังเทียนคงไม่ยอมอยู่กับที่ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องวางแผนทุกอย่างให้ดีก่อนที่ถังเทียนจะเสร็จจากการขังตัวฝึกฝนได้สำเร็จ  เขาไม่ต้องการ เขาไม่ต้องการให้พวกเขาฝึกฝนอย่างหนักหลังจากที่ใช้เวลาและศักยภาพในสงครามไปมาก

แม้ว่าพวกเขาจะออกจากกลุ่มดาวหมาป่า  เขาก็ยังต้องการให้อยู่ในมือของพวกเขา

ถังเทียนนั่งขัดสมาธิและคิดลึก  ใบหน้าของเขาดูไม่ปกติ  ดูเหมือนตอนนี้เขาจะเพ่งสมาธิอย่างหนัก

ทำไมข้าถึงอ่อนแอกว่าเย่เฉาเกอมากนัก?

ข้ามีวิชาต่อสู้มากมายหลายรูปแบบ  แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เฉาเกอทั้งหมดกลับไร้ประโยชน์ แต่ทำไมข้าถึงได้มีวิทยายุทธมากนัก? ถังเทียนรู้ว่าเขาไม่ฉลาด ดังนั้นเขาพยายามค้นดูรากเง่าและปัญหาช้าๆ

ยอดฝีมือนักสู้ระยะประชิด

เขานึกถึงเรื่องในอดีตและในที่สุดก็เข้าใจความหมายของคำนี้ ผู้เฒ่าเว่ยเคยแนะนำให้เขาเดินตามเส้นทางของยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิตและชั้นเรียนนั้นจำเป็นต้องได้รูปแบบการโจมตีที่หลากหลาย  ดังนั้นเขาเองจึงต้องขยายขอบเขตแนวทางของเขา

พอคิดถึงเรื่องนั้นเขาไม่เห็นข้อผิดพลาดอะไร ถังเทียนลูบหน้าผากตนเอง “ทำไมเราถึงอ่อนกว่าเย่เฉาเกอ?”

เป็นเพราะยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิดเป็นพวกอ่อนแอโดยธรรมชาติ?

ถังเทียนส่ายศีรษะ  ไม่มีหรอก มืออาชีพที่อ่อนแอ  เพียงแต่ว่าความสำเร็จของเขายังไม่เพียงพอ  เขายังคงเข้าใจเหตุผลพื้นฐาน  ถังเทียนใจสั่น  “ความสำเร็จของเรายังไม่ลึกซึ้งพอ?”

ทันใดนั้นถังเทียนตระหนักได้ว่าเขาไม่เคยคิดจริงจังเกี่ยวกับคำว่า “ยอดฝีมือสู้ระยะประชิด” ความเข้าใจของเขาต่อคำว่ายอดฝีมือสู้ระยะประชิดความจริงก็คือต่อสู้ระยะใกล้

ถังเทียนหลั่งเหงื่อทันที  เขารู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องรู้ความหมายที่แท้จริงของยอดฝีมือนักสู้ระยะประชิดให้ได้เสียที

เขาเข้าประตูแสงและวิ่งไปที่เมืองสามวิญญาณและตามหาติงตัง

“เจ้ารู้บ้างไหมยอดวิชาสู้ระยะประชิดคืออะไร?”

ติงตังชะงัก“นั่นคือมืออาชีพที่ถูกละเลยกันมาก”

“เจ้าสามารถหาภาพการต่อสู้ของพวกเขาได้ไหม?”  ถังเทียนถามอย่างกระตือรือร้น

“ได้”  ติงตังผงกศีรษะ  “แต่ราคาไม่ใช่ถูกๆ นะ”

“เอามาเลย”ถังเทียนพูดตามตรง

ติงตังไม่ถามอะไรมากและรีบหาช่องทางติดต่อของนางทันทีและสั่งซื้อภาพมาได้สองสามภาพ  ภาพทั้งหมดนี้มีราคาสูงมาก  ราคารวมแล้วสูงถึง 60 ล้านเหรียญดาว

ถังเทียนรับไว้เหมือนกับว่านั่นคือสมบัติเขาเปิดดูบันทึกหน้าแรก

บุรุษรูปร่างแข็งแกร่งปรากฏในภาพ  เขาตัวไม่สูงร่างตรงและเปลือยร่างท่อนบนไม่มีเครื่องป้องกันตัว แต่ตลอดทั้งตัวของเขาแผ่รังสีปราณที่อันตรายมากเหมือนกับสัตว์ป่า  คู่ต่อสู้ของเขาคือมือกระบี่สตรีที่ดูเคร่งขรึม

การต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนนั้นตึงเครียดมาก

ตั้งแต่แรกบุรุษผู้นั้นเป็นฝ่ายเสียเปรียบมือกระบี่สตรี  แต่หลังจากนาทีแรกถังเทียนก็สังเกตเห็นความก้าวหน้าบางอย่าง  แม้ว่าบุรุษนั้นจะเป็นฝ่ายถูกต้อน  แต่ในแง่การป้องกัน  จังหวะก้าวของเขาไม่สับสน

การผสานวิทยายุทธของบุรุษนั้นทำได้โดดเด่น  การป้องกันตัวทำได้ดีไม่มีที่ติ มือกระบี่สตรีระมัดระวังเต็มที่และรักษาระยะห่างจากบุรุษผู้นี้ไว้ตั้งแต่แรก  ขณะที่บุรุษผู้นั้นอดทนมาก  ทั้งสองฝ่ายนั้นมีทั้งรุกและรับ

เวลาผ่านไปสามนาที หกวินาที ในที่สุดมือกระบี่สตรีไม่สามารถทนได้และใช้วิชาที่แข็งแกร่งทรงพลังออกมา  บุรุษที่อยู่หน้านางพุ่งออกมาเหมือนลูกธนูทันทีตรงเข้าปะทะกับนาง

ถังเทียนตกใจ บุรุษผู้นั้นระเบิดความเร็วออกมาทันที เร็วอย่างน่าประหลาด เหมือนกับสายฟ้า เขามาปรากฏอยู่ต่อหน้ามือกระบี่สตรี

ความมีเปรียบเปลี่ยนไปทันทีทำให้มือกระบี่หญิงตื่นเต้นและวิชากระบี่ของนางสับสน

บุรุษนั้นใช้ศอกอย่างรุนแรงเหมือนกับว่าเขาเป็นเสาแข็งแรงและปะทะใส่รังสีกระบี่ของมือกระบี่หญิง

มือซ้ายของเขาเป็นเหมือนกรงเล็บคว้าไหล่ของนาง  มือขวาฟันออกมาเหมือนกับมีด  ท่วงท่าว่องไวจนถังเทียนไม่สามารถสังเกตเห็นมือได้

ศีรษะนางขาดกระเด็น

รุกหนึ่งครา ฆ่าหนึ่งคน!

ถังเทียนหลั่งเหงื่อเยียบเย็นขณะมองดู  ร้ายกาจยิ่งนัก

แม้ว่าเขาแค่มองดูบันทึกภาพโหดเหี้ยมอำมหิตที่อยู่ต่อหน้าเขาแต่เขาก็สามารถจินตนาการได้ว่ามือกระบี่สตรีผู้ถูกทำร้ายคงจะกลัวจนสูญเสียสติ

ตรงและรุนแรงเฉียบขาด  นี่เป็นบันทึกแรกที่ถังเทียนได้ดู

ยอดฝีมือสู้ระยะประชิดในบันทึกภาพที่สองเป็นภาพบุรุษร่างผอมแต่ศัตรูของเขาเป็นมือธนูที่มีวิชาตัวเบาแข็งแกร่งมาก  การดูบันทึกเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก  ทั้งสองผลัดกันรุกและรับ บุรุษผอมเป็นเหมือนงูเอี้ยวตัวได้ในแง่มุมที่แปลกประหลาด ไม่มีทางต้อนเขาจนมุมได้

ธนูของศัตรูไม่ว่าจะยิงมาจากแง่มุมไหนก็ยิงไม่ถูกเขา เนื่องจากเขาสามารถหลบหลีกได้หมด

การต่อสู้เปลี่ยนไปตอนราวๆ นาทีที่ 22

มือธนูใช้ปราณแท้ออกไปมาก ฝีเท้าของเขาเริ่มตกลงและระยะห่างระหว่างทั้งสองคนสั้นลงเรื่อยๆ ในทันใดนั้นร่างของคนร่างผอมแยกออกเป็นหกทันที

ร่างแยกทั้งหกพุ่งเข้าหามือธนูที่กำลังตื่นตกใจ

แขนของเขาอ่อนเหมือนงูและรัดรอบตัวมือธนูทันที

กร๊อบ!

รุกหนึ่งครา ฆ่าหนึ่งคน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด