ตอนที่แล้วตอนที่ 56 สโมสรซลัก (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 58 ช่วยเหลือเด็กชาย (อ่านฟรี)

ตอนที่ 57 อัพเดทข่าวมักเกิ้ล (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 57 อัพเดทข่าวมักเกิ้ล

ณ ลอนดอน เวลา 04.00 น.

มีสมาชิกตัวเล็กสองคนของภาคีนกฟีนิกซ์รออยู่นอกบ้านของแม็กนัส มีคนสองคน คนหนึ่งตามอดัมและผู้หญิงอีกคนตามเกรซ

พวกเขาเช่าบ้านอยู่ตรงหน้าบ้านของแม็กนัส

*เฮ้อ*

“ทำไมช่วงนี้กลับบ้านดึกจัง? ฉันคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากไม่ใช่หรอ?” ชายคนนั้นถาม

*ถอนหายใจ*

“ใช่ แต่มีคนกำลังยุ่งกับเกรซ อำนาจของเธอถูกพรากไป และมีคนอื่นมาแทนผอ.ในโรงพยาบาล เธอยังต้องทำงานกะกลางคืนและปริมาณงานก็เพิ่มขึ้น ฉันรู้สึกแย่แทนเธอจริงๆ” ผู้หญิงคนนั้นพูด

“อดัมก็เหมือนกัน เขาถูกย้ายไปยังสำนักงานที่ห่างไกลซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไป 4 ชั่วโมงและกลับมาอีก 4 ชั่วโมง มันเหมือนกับว่า…”

“มีคนมุ่งเป้ามาที่พวกเขางั้นหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นอุทาน

พวกเขามองหน้ากัน พวกเขาไม่ได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับธุรกิจหรือราชวงศ์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางรู้ว่าใครเป็นคนตั้งเป้าใส่ครอบครัวเล็กๆ นี้

“เราควรบอกดัมเบิลดอร์ไหม?” ผู้หญิงคนนั้นถาม

"ฉันคิดว่าเราควรบอกนะ" ผู้ชายคนนั้นพยักหน้า จากนั้นทั้งสองใช้วิธีพิเศษสื่อถึงผู้พิทักษ์ที่ดัมเบิลดอร์ร่ายไว้ซึ่งสามารถใช้เพื่อสื่อสารกับผู้คนได้อย่างลับๆ

...

ณ พระราชวังบักกิงแฮม,

"ที่รัก คุณแน่ใจหรือว่านี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ? แผ่นศิลาจาลึกบอกอย่างชัดเจนว่าต้องไม่ทำร้ายผู้สืบทอด” ราชินีพูดคุยกับพระสาวมีของเธอ

“พวกเขาอยู่ในกองทัพ ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติ เป็นแค่การโยกย้ายธรรมดาทั่วไป อีกอย่าง เราไม่ได้ทำร้ายเด็กชายแต่อย่างใด” เจ้าชายตรัส

“ไม่รู้สิ เขาเป็นแค่เด็กอายุ 11 ขวบเท่านั้นเอง บางทีเราควรคุยกับเขาก่อน ถ้าเวทมนตร์ไม่สามารถย้อนกลับได้ เราก็สามารถเอาเด็กคนนั้นมาอยู่ภายใต้เราได้ เขาน่าจะเป็นราชาหุ่นเชิดให้เราคอยควบคุณอยู่เบื้องหลัง” ราชินีแย้ง

“แต่พ่อแม่ของเขาไม่ใช่คนโง่นะที่รัก พวกเขาจะรู้ทันทีว่าเรากำลังพยายามทำอะไร อีกอย่าง ถ้าเขามีสิทธิโดยตรงในราชบัลลังก์ ทำไมพวกเขาถึงยินยอมให้เรากุมอำนาจ?” เจ้าชายเถียง

ราชินีมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด “แล้วคุณต้องการจะทำอะไร”

“ถ้าเขาควรจะเป็นเชื้อพระวงศ์ล่ะก็...นั่นจะทำให้พวกเราเป็นญาติของเขา สมมติว่าเขาไม่มีพ่อแม่ เราก็สามารถดูแลเขาตามกฎหมายได้ สุดท้ายก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา” เจ้าชายวางแผน

“ฉันตรวจสอบแล้ว ครอบครัวของพวกเขาไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรา บางทีเราอาจห่างจากสายเลือดเพนดราก้อนมากเกินไป” เธอให้เหตุผล เธอรู้สึกไม่สบายใจที่จะทำอะไรกับเด็กในตอนนี้

แต่เจ้าชายกลับยืนกรานว่า “ขุนนางทุกคนล้วนมีความเกี่ยวข้องกัน ที่รัก คุณสามารถหาความเชื่อมโยงได้อย่างแน่นอน สิ่งสำคัญคือการพาเขามากับเรา”

"ให้ฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกหน่อยนะ อย่าทำอะไรโดยไม่ได้รับความยินยอมจากฉัน” เธอพูดอย่างเคร่งขรึมพลางโบกมือให้สามีของเธอไป

เธอถอนหายใจและมองไปที่แฟ้มบนโต๊ะของเธอ มันเป็นไฟล์เกี่ยวกับชีวิตทั้งหมดของครอบครัวแกรนท์ ตั้งแต่บรรพบุรุษแรกสุดจนถึงบรรพบุรุษล่าสุด ต้นตระกูลแรกสุดที่เธอสามารถติดตามได้คือในปี 1600 เขาเป็นอัศวินที่ได้รับความเคารพ แต่แล้วเขาก็เสียชีวิตและลูกชายคนโตของเขาได้รับตำแหน่งอัศวิน ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนสกุลตามนามสกุลของภรรยา แต่เสียชีวิตระหว่างเดินทางบนเรือไปอินเดียในภารกิจของราชวงศ์ ส่วนบรรพบุรุษของแม็กนัสเป็นลูกชายคนที่ 2 ของอัศวินชราคนนั้น ดังนั้นตระกูลของเขาจึงไม่มีตำแหน่งสูงส่ง

“ฉันควรดีใจที่สายเลือดอาเธอร์ เพนดราก้อนยังมีชีวิตอยู่ หรือเสียใจที่มันต้องการบัลลังก์ของฉันดีล่ะ? ฉันหวังว่าจะไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดนะ พอมาคิดว่าฉันมอบเหรียญกล้าหาญจอร์จ ครอส ให้เขาด้วยตัวเอง... อย่างน้อยเขาก็ได้แสดงความกล้าหาญที่อยู่ในสายเลือดของเขา” เธอพึมพำกับตัวเอง

...

ในบ้านอีกหลังในลอนดอน

อันโดรเมดรา ท็องส์ (นามสกุลเดิมแบล็ก) ได้แต่งงานกับ เท็ด ท็องส์ ที่เกิดจากครอบครัวมักเกิ้ล แล้วเธอก็ถูกไล่ออกจากตระกูลแบล็ก โดยไม่ได้รับทรัพย์สินใดๆ ของเธอและในฐานะผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ในสิ่งใดในตระกูล

แต่เธอก็มีความสุข ด้วยความรักในชีวิตของเธอ เธออาศัยอยู่ท่ามกลางมักเกิ้ลที่เก็บที่อยู่ของเธอไว้เป็นความลับ และไม่มีปัญหาใดๆ จากพวกผู้มีอำนาจเลือดบริสุทธิ์ทั้งหลาย เพราะมีคนไม่มากนักที่รู้เกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา ตอนนี้เธอเป็นแม่บ้านและเท็ดเป็นทนายความ พวกเขามีชีวิตที่ดีพอสมควร

มันเป็นตอนเช้าและพวกเขาเพิ่งตื่น ตอนนั้นเองพวกเขาก็สังเกตเห็นนกฮูกสีส้มมาเคาะหน้าต่าง

เธอมีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ว่านี่คือนกฮูกส่งสาร แต่เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับที่อยู่ของเธอ

เท็ดลุกขึ้นจากเตียงทั้งที่ยังงัวเงียอยู่เล็กน้อยและหยิบจดหมาย แต่นกเค้าแมวก็ยังไม่จากไปและชูกรงเล็บขึ้นราวกับจะขออะไรบางอย่าง

“อะไรนะ? อยากได้เงินเหรอ?” เท็ดถามด้วยความประหลาดใจ

จากนั้นนกฮูกก็หันหัวไปทางชามถั่วบนโต๊ะข้างเตียง

“ฮ่าๆ นั่นหรอ? โอเค เอาไปสิ” เขาให้ถั่วสองสามเมล็ดพลางหัวเราะ ในที่สุดนกฮูกก็จากไป

“จดหมายมาจากไหนคะ?” อันโดรเมดารีบถามด้วยความกังวลเล็กน้อย

“ไม่รู้สิ ไม่มีอะไรบอกบนหน้าซองเลย มีแต่ชื่อและที่อยู่ของเรา” เท็ดบอก

อันโดรเมดรา ท็องส์รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่สำหรับเธอ "มันว่าไงมั่งคะ?"

เท็ดเปิดจดหมายอ่านมันตั้งแต่ต้นจนจบ จากนั้นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาหันกลับมามองคู่ชีวิตของเขา

“แอนนี่ ดูเหมือนว่าฉันจะได้รับใช้กษัตริย์” เขากล่าว

เมื่อได้ยินดังนั้นเธอจึงรีบหยิบจดหมายมาอ่านเอง “อืม คุณจะไปพบเขางั้นเหรอ?”

เขาพยักหน้า “แน่นอน การปฏิเสธถือเป็นการไม่ให้เกียรติ ผมจะได้พบกับผู้สืบสกุลของเมอร์ลินที่ยังมีชีวิตด้วยนะ ผมเป็นแค่พ่อมดมักเกิ้ลธรรมดาๆ เองนะ ในชีวิตจะมีสักกี่ครั้งกันล่ะ”

“ฉันแน่ใจว่าเขาไม่ได้เกลียดมักเกิ้ลนะคะ ถึงยังไงครอบครัวของเขาก็เป็นมักเกิ้ลอยู่ดี” เธอพูด

"ผมก็หวังว่าจะเป็นงั้นนะที่รัก ผมต้องเตรียมเอกสารบางส่วนไปที่ฮอกส์มี้ดล่ะ"

...

ฮอกวอตส์,

แม็กนัสมาคัดตัวควิดดิชช้าไปสักหน่อย ทีแรกเขาไม่มีแผนที่จะเข้าร่วมมาก่อน แต่หลังจากได้เดิมพันกับเจมส์ เขาก็สนใจ นอกจากนี้เขายังทำได้ดีด้วย ก็แหงอยู่แล้วล่ะ

เขาไปที่สนามซ้อมทีมควิดดิชแล้วขอคัดตัว แน่นอนว่าตอนนี้มัลฟอยเป็นกัปตันและเขาปฏิเสธทันที ดังนั้นเขาจึงท้ามัลฟอยแข่งไม้กวาด และถ้าเขาชนะ เขาจะเข้าร่วมทีม

ตอนนี้แม็กนัสได้เรียนรู้สิ่งหนึ่งแล้ว ที่เหล่าผู้คลั่งเลือดบริสุทธิ์จะทำทุกอย่างในนามของเกียรติยศและรักษาภาพลักษณ์อันสูงส่ง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถปฏิเสธได้เมื่อถูกท้าทายโดยคนที่พวกเขาคิดว่าต่ำกว่าตนเอง

แม็กนัสแม้จะเป็นลูกหลานของเมอร์ลิน แต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นพ่อมดชั้นต่ำเพราะเกิดมาจากมักเกิ้ล

ดังนั้น ลูเซียสจึงรับคำท้า ตอนนี้ ลูเซียสอาจเป็นนักเรียนที่ดีมาก แต่เขาไม่รู้ฟิสิกส์และเคล็ดลับอีกสองสามอย่าง

1. แม็กนัสมีขนาดเล็กกว่าตัวจึงเบากว่า

2. แม็กนัสรู้วิธีที่จะเพิ่มแอโรไดนามิกมากขึ้น

3. ลูเซียสประเมินเขาต่ำไป

ดังนั้นการแข่งขันจึงเริ่มขึ้น ในการเริ่มต้น ลูเซียสใช้การออกสตาร์ทที่ระเบิดความเร็วได้เพื่อออกตัวขึ้นนำสั้นๆ แต่ แม็กนัสเพิ่มความเร็วไล่ตามแทบจะทันทีและนำเขาไปอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นเช่นนี้ ลูเซียสก็เดือดดาลภายในใจ แต่ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไร เขาก็ตามไม่ทัน

ในที่สุดแม็กนัสก็ชนะและได้ที่เก้าอี้ในทีม แต่เขาก็ยังรู้ว่านี่ไม่ใช่จุดจบ เขาจำเป็นต้องกลายเป็นซีกเกอร์

“โอเค ฉันต้องการตำแหน่งซีคเกอร์ในผู้เล่นตัวหลัก

ฉันพนันกับซีคเกอร์ของกริฟฟินดอร์ว่าถ้าฉันชนะ เขาจะต้องให้ นิมบัส 1500 ใหม่แก่เราทุกคน ทั้งทีม ดังนั้น นายจะให้ตำแหน่งฉันหรือเราจะทดสอบก็ได้ว่าฉันดีพอไหม?” แม็กนัสกล่าว

เมื่อได้ยินว่าเดิมพันกับกริฟฟินดอร์ ทุกคนต่างตื่นเต้นและยอมรับเขาในเกมอย่างง่ายดาย แต่พวกเขายอมตามเขาเพียง 1 เกมที่จะเจอกับกริฟฟินดอร์

หลังจากได้รับเลือกอย่างง่ายดาย เขาก็มองไปที่เอ็มม่าด้วยรอยยิ้ม เธอยังได้รับเลือกให้เป็นเชสเซอร์ แต่เธออยู่ในตัวสำรอง

“จ้า จ้า นายเก่งที่สุด เลิกทำหน้าทำตาน่าเกลียดแบบนั้นได้แล้ว” เธอกลอกตาแล้วเดินต่อไป

รักนาร์กับเนปนั่งดูเขาอยู่บนที่นั่งของผู้ชม เมื่อแม็กนัสกลับมาหาพวกเขา รักนาร์ก็ถามบางอย่างในทันที “เฮ้ ตะกี้ฉันคุยกับเซฟมา เราสงสัยว่าเวลาแม่นายโกรธ เธอจะเรียกนายว่าอะไร?

เพราะส่วนใหญ่มักจะพูดชื่อเต็มถูกไหมล่ะ? แล้วเธอจะพูดว่า... แม็กนัส แกรนท์ เอมรีส เพนดราก้อน... มานี่เดี๋ยวนี้...? แต่กว่าเธอจะพูดชื่อนายจบ นายก็คงเผ่นแมบจริงๆ”

แม็กนัสรู้สึกทึ่งกับกระบวนการคิดของเพื่อน "ไปเอามาจากไหน?"

“ไม่มีอะไร แค่พูดเรื่องไร้สาระหน่ะ ฉันกับเซฟก็สรุปข้อสันนิษฐานกันเรื่องทฤษฎีเลือดบริสุทธิ์เนี่ยมาจากไหน?” รักนาร์กล่าว

“แล้วพวกนายได้ข้อสรุปกันว่าไง” แม็กนัสถาม

“ไม่อะไรมาก แต่พวกเราเห็นพ้องต้องกันว่ามันต้องออกมาจากปากไอ้สารเลวสักตูดหมา” รักนาร์ตอบกลับ

"โว่วว! สุภาพหน่อยรักนาร์ เราเป็นเด็กนะ" แม็กนัสอุทาน

สเนปยังตะคอก “เหอะ ฉันบอกให้เขาใช้บั้นท้ายแทนด้วย แต่เขาก็ยังพูดจาหยาบคายซ้ำไปซ้ำมา”

"ก็คือมันได้รมณ์กว่าอ่ะ" รักนาร์ปกป้องตัวเอง

แม็กนัสถอนหายใจ “กลับกันเถอะ”

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด