ตอนที่แล้วตอนที่ 337 พลังโจมตีไร้ต่อต้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 339 ถังเทียนมาแล้ว

ตอนที่ 338 โอบล้อม


“เนื้อย่างของโปรดรสชาติดีจริงๆดูเหมือนจะแฝงด้วยรสของไม้เมฆแสง ทำให้มันพิเศษขึ้น” อาเฮ่อยิ้ม

เขากับหย่งเซียนจงยังเดินขึ้นหน้าไปตามปกติ ขณะที่หลิงซิ่วนั่งอยู่บนฟลามิงโกฟื้นฟูพลังของตน

หน้าของหย่งเซียนจงบิดเบี้ยวและหัวใจของเขาเจ็บปวดทะเลทรายที่มีแต่เนินทรายสุดลูกหูลูกตา พวกเขาจะไปหาไม้มาได้จากไหน  ภายใต้สถานการณ์ที่จนใจเขาไม่มีทางเลือกได้แต่เอาไม้เมฆแสงชิ้นหนึ่งออกมาและหักมันมาใช้  ไม้เมฆแสงมีราคาที่แพงมาก แค่ชิ้นเล็กๆก็ราคาสองแสนเหรียญดาว  เขาใช้อีกแสนเหรียญดาวเพื่อเชิญช่างฝีมือดีมาแกะสลักให้เขาทำให้มันดูวิจิตรงดงามมาก บางครั้งเขาใช้ในสถานการณ์ที่พิเศษสร้างอารมณ์ที่สุนทรีย์ขณะจิบชาชมจันทร์คุยกับสาวงามในฝันอย่างมีความสุข

แต่...

เขาได้แต่ฝืนยิ้ม “ถือว่าเป็นเกียรติของผู้พี่ นั่นนับเป็นเรื่องดี”

ตอนนี้เขากำลังเค้นสมองหาวิธีแก้ปัญหา เพราะความสัมพันธ์ของอาจารย์กับกลุ่มดาวคนยิงธนูไม่ธรรมดา น้ำเสียงที่อาจารย์พูดเรื่องราชินีทุกครั้งทำหย่งเซียนจงจอมเจ้าชู้ค่อนข้างสงสัยว่าอาจารย์คงแอบชอบราชินี  แต่เขาเจียมตัวเจียมกำลัง ไม่กล้าจะยอมรับ  หย่งเซียนจงมีประการณ์คุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ดี

แน่นอนว่าเขาไม่กล้าค้นหาความจริงจากอาจารย์ของเขา  ถ้าท่านผู้เฒ่าโกรธเพราะอับอาย  อย่างเบาคงลงโทษเขาซี่โครงหักแน่

ท่านผู้เฒ่าไม่อาจถูกยั่วให้โกรธเด็ดขาด

ก็ได้ ข้าพร้อมจะให้และรับแล้ว  หย่งเซียนจงลอบปลอบใจตนเอง

ความจริงสามารถสู้กับอาเฮ่อได้เป็นเรื่องที่น่าจะมีความสุขนิสัยชอบฝึกของอาเฮ่อนั้นไร้ที่ติ เขาสุภาพอ่อนโยนและดีพร้อม หย่งเซียนจงลอบชื่นชมเขา

สิ่งที่น่ารังเกียจประการเดียวก็คือเสื้อผ้าสีดำที่ขาดรุ่งริ่งบนตัวอาเฮ่อซึ่งพิสูจน์ว่าเขาผ่านอะไรมามากทีเดียว  หย่งเซียนจงรับผิดชอบเรื่องทั่วไปของสำนักมีประสบการณ์และความรู้  เขาประเมินอาเฮ่อไว้สูงมาก ศิษย์จากครอบครัวระดับสูงมีทรัพยากรสนับสนุนมากมายและถ้าเขาสามารถรับมือการฝึกฝนหนักได้ อย่างนั้นศักยภาพของเขาคงไม่มีขีดจำกัด

นอกจากนี้...หย่งเซียนจงชำเลืองมองดูหลิงซิ่วผู้อยู่บนหลังนก พลังของเขายากจะหยั่งถึงเช่นกัน  เขาอดให้ความสนใจหลิงซิ่วไม่ได้  ในกลุ่มทั้งหมดนี้ คนที่เขารู้จักดีที่สุดไม่ใช่อาเฮ่อผู้มีเบื้องหลังระดับสูง หรือหลิงซิ่วผู้แข็งแกร่งมาก  แต่เป็นถังเทียน

ถ้าทั้งสองคนนี้แข็งแกร่งทรงพลังมาก  อย่างนั้นถังเทียน จะแข็งแกร่งมากขนาดไหน?

หย่งเซียนจงสงสัยมาก

เขายังคงสงบจิตใจต่อไป เขาคุยและหัวเราะร่วมกับอาเฮ่อมาตลอดทางและลืมเลือนสถานะที่เป็นอริกันไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อทั้งสามมาถึงเผ่าหมาป่า พวกเขาก็ตระหนักได้ว่ากองกำลังของถังอี้กลับมาแล้ว

เมื่อเห็นว่ากองทัพไม่เป็นอันตรายอาเฮ่อและหลิงซิ่วถอนหายใจโล่งอก แต่นัยน์ตาของหย่งเซียนจงมีร่องรอยประหลาดใจ ปกติเขาไม่เห็นว่าค่ายหางแฉกเป็นอะไรที่คุ้มค่าเลย  แต่ในสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือถูกมองว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ยังพ่ายแพ้จริงๆ หรือ?

ทันใดนั้น อาเฮ่อหันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง ตาของเขาเบิกกว้าง

จากที่ไกลออกไปหลายๆ เนินทราย จุดสองสามจุดปรากฏขึ้น

“เตรียมต่อสู้”

คำเตือนของอาเฮ่อทำให้ทุกคนใจสั่น

ถึงเวลานี้ ทุกคนจึงสังเกตได้ว่ามีคนกำลังมา  พยัคฆ์ฟ้าแบกอาโมรี่และเหลียงชิวขณะที่หานปิงหนิงและซือหม่าเซียงซานกำลังวิ่งตามหลังมาอย่างรวดเร็วจากที่เห็นไม่ใช่ชัยชนะอย่างแน่นอน แต่เบื้องหลังพวกเขา ยังไม่มีใครปรากฏ

ในทันทีนั้นปิงก็มาถึงข้างๆ ของคนสองสามคน

“เย่เฉาเกออยู่ที่นี่”

คำพูดของปิงทำให้อาเฮ่อและหลิงซิ่วสีหน้าเปลี่ยน

“จิ่งหาวแพ้หรือ?”  หลิงซิ่วถามเสียงเครียด

“ถูกแล้ว”  ปิงพูดตามตรง “เขาตามมาด้านหลัง กำลังรอให้เรารวมตัวแล้วค่อยกวาดล้างเราพร้อมกัน”

หน้าของทุกคนบิดเบี้ยวเหยเกทันที  ตอนนี้คนไหนก็ไม่ใช่ยอดฝีมือผู้มีความภูมิใจและมีอารมณ์เป็นของตนเองอีกเล่า?

“เขาบ้าขนาดนั้นเชียว!”  หลิงซิ่วอดคำรามไม่ได้

ปิงตอบอย่างคาดไม่ถึง “เขามีพลังพอจะทำอย่างนั้น”

สีหน้าของอาเฮ่อและหลิงซิ่วเครียดทันที  พลังของปิงยากหยั่งได้  วิสัยทัศน์ในการมองการณ์ไกลก็เด็ดขาดมาก  คำพูดของเขาไม่ได้กล่าวเกินจริง

ปิงวางอาโมรี่ลง

“อาโมรี่บาดเจ็บหรือ?”  อาเฮ่อถามทันที

“หลังจากรับพลังโจมตีระลอกแรกของเย่เฉาเกอ  ข้าสูญเสียพลังไปบางส่วน”  อาโมรี่ฟื้นแล้วแต่รู้สึกหดหู่อดสูใจ แต่เมื่อฝ่ามือของเขามีรอยแผลเปิดที่ได้รับจากการโจมตี   แผลที่มือเปิดและเลือดกระเด็นไปทั่วมันดูน่ากลัว แต่อาการบาดเจ็บไม่หนักมาก แต่เมื่อคิดว่ามีอยู่กันหลายคน กลับมีเขาเพียงคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บ อาโมรี่จึงรู้สึกอาย

อาเฮ่อและหลิงซิ่วมองหน้ากันเอง กระบี่จากเย่เฉาเกอทำให้อาโมรี่สูญเสียพลังจริงๆ

อาโมรี่เกิดมามีร่างกายที่แข็งแรงตามธรรมชาติ และนอกจากนั้นด้วยเข้าบทฝึกมรณะพลังเถื่อนถึกของเขายิ่งทรงพลังมากขึ้น แต่เขายังคงเสียพลังจากการโจมตีจากเย่เฉาเกอ นั่นหมายความว่ากระบี่ของเย่เฉาเกอหนักหน่วงรุนแรงมาก

ปิงไม่เห็นถังเทียน ในใจเขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ในเวลาอันรวดเร็วเขาก็ปรับขอบเขตความคิดของเขาทันที  อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ในการต่อสู้  แต่การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป

ปิงส่งอาโมรี่ให้หัวหม่าเอ๋อที่เพิ่งวิ่งกลับมาและพวกเขากลับไปที่ฐาน

ปิงสังเกตเห็นหย่งเซียนจง แต่ไม่พูดอะไร เพียงแต่ชำเลืองถังอี้

ถังอี้ไม่เข้ามาใกล้ แต่สั่งให้กองทัพหมาป่าหยุดห่างออกไปราวสองร้อยเมตร

“พี่หย่งข้าขอแนะนำให้ท่านชมดูอยู่ด้านข้างเฉยๆ” อาเฮ่อพูดด้วยเสียงสงบและไม่กังขา

หย่งเซียนจงรู้สึกขมในปาก แม้ว่าพวกเขาไม่รู้อารมณ์ของเย่เฉาเกอ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง? ตราบใดที่เย่เฉาเกอต้องการฆ่า ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้  แม้แต่เย่จิ่วบิดาของเขาก็ยังทำอะไรไม่ได้  แต่ถ้าเขามองดูอาเฮ่อถูกเย่เฉาเกอฆ่า อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้เมื่อเขากลับไป

ในที่สุดภาพของเย่เฉาเกอก็ปรากฏอยู่ในสายตาของทุกคน

หย่งเซียนจงค่อยๆ บินไปในอากาศ  “เฉาเกอ! หยุดสักเดี๋ยว!”

เย่เฉาเกอกำลังแบกจิ่งหาวมาหยุดทันที และหรี่ตามอง“มีอะไร?”

หย่งเซียนจงมักจะค่อนข้างกลัวน้องภรรยาผู้นี้ หลังจากถูกเย่เฉาเกอผู้เต็มไปด้วยความตั้งใจฆ่าจ้องมอง  หัวใจเขาสั่น แต่เขารู้ว่าเขาทำได้เพียงแข็งใจพูดต่อ “อาเฮ่อคือสหายเก่าของอาจารย์ ข้าขอร้องเฉาเกอ...”

เย่เฉาเกอไม่ได้จดจำชื่อของอาเฮ่อและกล่าวอย่างเฉื่อยชา  “เจ้านำเขาไปได้”

หย่งเซียนจงถอนหายใจโล่งอก  “ขอบคุณเฉาเกอ!”

ในช่วงเวลานี้ เสียงของอาเฮ่อก้องได้ยินถึงหูพวกเขา  “ขอบคุณพี่หย่งที่ท่านมีน้ำใจไมตรีแต่ข้าไม่คิดจะทอดทิ้งสหาย”

หย่งเซียนจงปากอ้าค้าง เขาไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อมเขายังไง น้ำเสียงของอาเฮ่อสงบและมั่นคงมาก

“ฮ่าฮ่าเขาไม่ยอมรับน้ำใจของเจ้า!  เจ้าไปเสียดีกว่า  มิฉะนั้น เมื่อข้าเริ่มสังหารหมู่ระวังว่าข้าจะฆ่าเจ้าด้วยเช่นกัน พี่สาวข้าจะพลอยเป็นม่ายไปด้วย”  น้ำเสียงของเย่เฉาเกอเย็นชามากเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

หย่งเซียนจงรู้ว่า คำพูดของน้องภรรยาเขาไม่ได้ล้อเล่น

เขาจนใจได้แต่เพียงก้าวหลบไปยืนด้านข้าง ใจของเขายังคงคิดหาทางวิธีช่วยอาเฮ่อจากเงื้อมมือเย่เฉาเกอ

อาเฮ่อจับกระฝักกระบี่ มีสีหน้าเคร่งเครียด  เขารู้ว่าศัตรูที่อยู่ต่อหน้าเขาน่ากลัวมาก

แต่เขาไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย  หลิงซิ่วเองเพิ่งผ่านการต่อสู้ใหญ่มาและผู้เดียวที่ยังมีพลังสมบูรณ์ก็คือเขา เขาจะรับผิดชอบต่อสู้เฉพาะส่วนของเขา เมื่อเขาอยู่กับถังเทียน เขาไม่เคยต้องกังวลเกี่ยวงานของเขา  ถังเทียนกับหลิงซิ่วเป็นคู่หูรบที่ดีและเวลาส่วนใหญ่  เขาจะตะลุยกวาดสนามรบ

แต่เขาเองไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

เมื่อเวลาสู้มาถึงเขาจะก้าวออกมาอย่าห้าวหาญ  เขาไม่เคยถอยกลับหรือลังเลใจ

ความทรงจำของประวัติศาสตร์ผุดขึ้นในใจเขา  การเผชิญหน้าของพวกเขา การเดินทาง  การทำความสะอาดของพวกเขา สำหรับเด็กหนุ่มผู้ที่ครั้งหนึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสำนักกระเรียน  สิ่งเหล่านี้เขาไม่เคยคิดว่าจะทำได้

แต่ทุกอย่างเป็นอย่างที่ควรเป็นและอยู่ในแนวทางที่มิอาจรู้ได้

การอยู่ตามลำพังในภูเขา,เกี่ยวกับเรื่องป้าผู้ทรงอำนาจของเขา,ปณิธานสุดท้ายของบิดาเขาที่จะอยู่ในสำนักกระเรียน ภาระทั้งหมดนี้ตกอยู่กับเขา และหล่อหลอมเป็นบุคลิกเขา  เขาไม่มีสหายตั้งแต่เด็ก  เขามีความโดดเด่นมาก ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ได้ทุกอย่างที่เขามี  วิชาฝีมือและมารยาทของเขาไม่มีที่ติสายตาที่อิจฉาทุกคู่ทำให้เขาไม่สบายใจ

แต่ตอนนี้ เขามีความสุข

มีความสุขจริงๆ

เขารู้ว่าท้องฟ้าสีฟ้าเข้ม ดวงตะวันแสนงดงามและเขาก็สามารถทำเรื่องงี่เง่าได้หลายอย่าง และตระหนักถึงฝันที่สวยงามทั้งหมด

หัวใจอาเฮ่อมีอิสระเสรี กระบี่ในมือของอาเฮ่อเหมือนกับมีชีวิตชีวาและตอบสนองเขา

เย่เฉาเกอตาเป็นประกาย “น่าสนใจ!”

เขาปล่อยรังสีปราณกระบี่ไร้สภาพ

ม่านตาอาเฮ่อมีประกายเยือกเย็น  ร่างของเขาคล้ายกับกระเรียนที่สง่างามไม่มีความตั้งใจจะหลบ เขาใช้กระบี่กระเรียนในมือฟันออกไปหนึ่งครั้ง

รังสีคมกระบี่ขาวปรากฏอยู่หน้าเย่เฉาเกอทันทีทำให้เขาสะดุ้งในใจ  บาดแผลปรากฏอยู่บนแก้มของเขา

“กระบี่ที่รวดเร็วนัก”

เขาวางจิ่งหาวลงกับเนินทราย  เย่เฉาเกอยกมือลูบาดแผลที่แก้มพอเห็นเลือดที่นิ้ว เขาใช้ลิ้นเลีย

ในเวลานั้น หลิงซิ่ว, ปิง, หานปิงหนิง,เหลียงชิวและซือหม่าเซียงซานยืนประจำตำแหน่งทุกคน

“มิน่าเล่าพวกเจ้าถึงไม่ยอมคนอื่นกันเลย...”

หน้าของเย่เฉาเกอมีรอยยิ้มที่ชั่วร้าย

ชั่วขณะนั้น อาเฮ่อก็ลงมือ ท่าร่างและกระบี่ของเหมือนกับกระเรียนดำโจมตี  ปราณรอบตัวเขาครอบคลุมถึงกระบี่ของเขา

ปลายกระบี่สว่างวาบด้วยรังสีแพรวพราว และเขาหายไปทันที

ขณะเดียวกันทุกคนก็เริ่มเคลื่อนไหว

พลังที่ระเบิดออกในเปลวเพลิงและจุดรังสีเย็นที่คล้ายกับดาว  หลิงซิ่วเรียกพลังปราณแท้ในร่างกายเขา  ไม่มีการปราณี ขณะที่เขาแทงหอกออกมา

พยัคฆ์ฟ้าเหมือนกับสายฟ้าฟาดปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเย่เฉาเกอทันที เขาไขว้มือซ้ายขวาเป็นกากบาท  โจมตีใส่หลังของเย่เฉาเกอด้วยพลังที่น่าพิศวง

รัศมีกระบี่ผลึกที่โปร่งใสและเย็นยะเยือกถูกยิงออกมาจากกระบี่ของหานปิงหนิงตรงเข้าใส่ขาของเย่เฉาเกอ

เหลียงชิวคำรามและกระตุ้นปราณแท้ให้ทำงานเหมือนกับว่าทำให้เขามีความสามารถบางอย่าง เขาปล่อยหมัดออกช้าๆ รังสีหมัดดำและขาวถูกยิงออกมาใส่เย่เฉาเกอ

ซือหม่าเซียงซานเป็นเหมือนควันไฟปรากฏตัววูบที่หลังศีรษะของเย่เฉาเกอทันทีนิ้วทั้งห้าของเขาเหมือนกรงเล็บตวัดใส่ศีรษะของเย่เฉาเกออย่างเงียบงัน

ถังอี้อยู่ห่างไกลออกไป เขาสั่งกองทัพของเขาให้เริ่มโจมตีทันที

ระยะ 200 เมตรสำหรับถังอี้ คือระยะโจมตีที่ดีที่สุด

เมื่อพยัคฆ์ฟ้ามองมาก่อนหน้านั้น  ถังอี้ก็เข้าใจแผนของปิง  ทุกคนต้องโจมตีและดึงดูดความสนใจของเย่เฉาเกอ ขณะที่วิชาสังหารที่แท้จริงจะมาจากการบัญชาการกองทัพของถังอี้

ถังอี้ผู้มีพลังโจมตีที่โดดเด่นเหมาะสมที่สุดในการใช้เป็นพลังโจมตีสุดยอด

ถังอี้เพ่งสมาธิเต็มที่ เขารู้ว่า เขามีโอกาสโจมตีเพียงครั้งเดียว

การโจมตีนี้จะกำหนดชะตาชีวิตพวกเขา

เขาชูดาบฟันขาม้าในมือขึ้นสูง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด