ตอนที่แล้วตอนที่ 332 อาเฮ่อคาดไม่ถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 334 เหตุผลที่ต้องชนะ

ตอนที่ 333 หวงฝู่หง


นอกจากอาเฮ่อและหย่งเซียนจงที่อยู่สภาวะแปลกประหลาด  การต่อสู้อีกด้านหนึ่งกลับตึงเครียดมาก

ปิงจับตามองกองทหารที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นในปัจจุบัน  การจัดขบวนของฝ่ายตรงข้ามแน่นหนามาก  ทหาร 500 นายยืนหยัดมั่นคงไม่มีเสียงแต่อย่างใด

ทั้งหมดนั้นสวมชุดเกราะที่ไม่เหมือนใครดูคล้ายกับเกราะแต่ว่าหนากว่า  มีกลไกเสริมช่วยมากมาย  ราวกับว่าเป็นอาวุธจักรกลอย่างง่ายแต่ว่าเบากว่าอาวุธจักรกล

ปิงคุ้นเคยกับอาวุธจักรกลดีอยู่แล้วเพียงแค่เห็นเขาก็เข้าใจความคิดของศัตรู

อาวุธจักรกลน้ำหนักเบา?

เทียบกับอาวุธจักรกลดั้งเดิมมันยังเบากว่ามาก และมีความสามารถป้องกันระดับกลาง  วิศวกรจักรกลของฝ่ายตรงข้ามก็มีความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน  แต่ในแง่ความสำเร็จของวิชาจักรกลพวกเขายังอ่อนกว่าเซรีนมากมายนัก

การตั้งขบวนของฝ่ายตรงข้ามแน่นหนา  และเขาสามารถบอกได้ว่าพวกเขาได้รับการฝึกฝนและมีประสบการณ์การรบโชกโชน

“อาโมรี่, เจ้ามีพลังแข็งแกร่งที่สุด  ตำแหน่งหัวธนูเป็นตำแหน่งสำคัญที่สุดมีแต่เพียงเจ้าเท่านั้น! พ่อหนุ่ม,  เราฝากความหวังไว้กับเจ้า!”

ปิงแนะนำอย่างอดทนและเป็นระบบแทบจะใช้สำเนียงปลอบโยนเหมือนกับผู้ใหญ่คุยกับเด็กน้อย

ปิงไม่หวังพึ่งสติปัญญาของอาโมรี่ แต่อาโมรี่คือผู้เชี่ยวชาญในการจู่โจมทำลาย  ดังนั้นงานนี้จึงต้องปล่อยให้เขา   ไม่ว่าจะเป็นการตั้งขบวนแบบไหนกับคนถึกและไร้เหตุผลวิ่งเข้าใส่โดยไม่ยั้งคิด ย่อมจะต้องมีจุดอ่อนให้เห็นแน่นอน

อาโมรี่มีสีหน้าตื่นเต้นและเริ่มตบอก “ลุงนี่, ตาถึงอย่างคิดไว้จริงๆ!  วางใจได้!  นักสู้จอมห้าวผู้นี้จะฆ่าให้เรียบจนเลือดไหลเป็นลำธารเลย”

พร้อมกับรังสีฆ่าฟันที่ถูกปลดปล่อย  เขาเดินนำหน้าทุกคนและกวัดแกว่งดาบชี้ไปที่กองกำลังข้างหน้า “พวกเจ้าไม่มีหวังแล้ว  นักรบจอมห้าวคนนี้จะกวาดล้างพวกเจ้าให้เรียบ”

ไม่มีใครยุ่งกับเขาสักคน

“วัวแมงวัน, พวกมันดูถูกเจ้าอยู่นะ”  ซือหม่าเซียงซานพูดเย็นชา  “ไปเลย!  แสดงฝีมือให้พวกมันเห็นว่าเจ้าทำอะไรได้บ้าง!”

ตาของอาโมรี่เรืองแสงแดง  เขากู่ร้องและก้าวยาววิ่งเข้าหาศัตรู

ขณะเดียวกันทุกคนก็ถูกปลุกระดม

หวงฝู่หงมองดูกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าเขา สีหน้าของเขาเยือกเย็นและจัดเจนไม่มีความดีใจหรือโกรธ กองทหารเหล็กกล้าเป็นกองทัพของกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ของสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  เขาอยู่ในกองทัพมานานสี่สิบปีแล้ว   เขาเริ่มเป็นทหารตั้งแต่ยังมีตำแหน่งน้อยและเลื่อนขึ้นจนมีตำแหน่งเช่นวันนี้

เขามีประสบการณ์โชกโชน

ความจริงเขาไม่เห็นด้วยกับภารกิจ  ขณะที่เขารู้สึกว่ามีความหมายลึกๆซ่อนอยู่  เขาใช้ความเพียรพยายามมากมายสร้างกองทัพเหล็กกล้า นอกจากระดับของสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือแล้ว  เขารู้น้ำหนักของตัวเอง

แต่ทำอย่างไรได้  เจ้านายของเขาโดนเย่จิ่วกดดันจนต้องเข้าร่วม

กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ไม่นับว่าเป็นกลุ่มดาวที่มีกองทัพที่แข็งแกร่งในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  และเพียงสิ่งเดียวที่มีค่าก็คือกองกำลังทหารเหล็กกล้าที่มีราคาแพง เจ้าของกองทัพหมกมุ่นอยู่กับวิชาจักรกลอย่างลึกซึ้งและเนื่องจากว่าเจ้าของค่ายก้าวร้าวและทะเยอทะยาน ด้วยความตื่นเต้นของเขา เขาสร้างกองทัพจักรกลขึ้นมา

หลังจากหวงฝู่หงรับดูแลกองทัพ เขาพบช่างจักรกลคนหนึ่งที่ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องเล็กน้อยทั้งหมด และจากนั้นช่วยให้เขาสร้างกลยุทธ์พิเศษ เพียงเท่านั้นกองทัพเหล็กกล้าก็เริ่มแสดงคุณค่าของมัน

หวงฝู่หงปกติบัญชาการกองทัพเหล็กกล้าและชนะมาได้สองสามศึกทำให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งเป็นจรวดในขอบฟ้าเหนือ

เหตุผลที่เขาต้องการสู้ก็เพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นขุนพลวิญญาณผู้นำทหารที่แข็งแกร่ง รังสีควบคุมที่น่าทึ่งและโดดเด่นนั้นทำให้หวงฝู่หงสูดลมหายใจหนาวเหน็บ  หวงฝู่หงมีความมั่นใจในตนเองเสมอ  แต่เมื่อเห็นรังสีควบคุมที่น่าหวาดหวั่นกับตาตนเอง เขาคิดว่าเขาเองคงไม่มีทางมีความสำเร็จได้ขนาดนั้นแน่ สำหรับกองทหารเหล็กกล้าเมื่อต้องเผชิญกับขุนพลวิญญาณผู้นำทหาร  หวงฝู่หงรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก

กองทัพเหล็กกล้ามีมูลค่ามหาศาลก็จริง  แต่ในสายตาของเขาก็ยังไม่มีความโดดเด่นพอ ถึงที่สุดแล้วเจ้าปกครองดวงดาวก็ไม่ยังไม่ยอมทุ่มทุนในกองทัพอย่างเพียงพอ เนื่องจากกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์มีความสงบสุขเกินไป  ดังนั้นสถานการณ์ของกองทัพจึงมิสู้ดี

แต่เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามีเพียงห้าคน  หวงฝู่หงก็สงบใจได้

กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์เป็นกลุ่มดาวที่สงบสุข ดังนั้นงานของกองทัพเหล็กกล้าส่วนใหญ่ก็คือกำจัดโจร  จัดการกลุ่มเล็กๆ ราวสิบคนเพื่อให้ประสบการณ์ของหวงฝู่หงมากขึ้น

เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามวิ่งตรงเข้าหาคนของเขาอย่างสับสนโดยไม่เปลี่ยนกระบวนประกายตาเยือกเย็นของหวงฝู่หงวาบขึ้นมาทันที

เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร  สีหน้าเขาเคร่งขรึม  ทหารของเขารู้ว่าจะต้องทำยังไง

รูปขบวนของแนวนักสู้ชั้นนอกถอยกลับทันที

อาโมรี่ไม่กลัวและไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น  เหมือนกับสัตว์ป่าคลั่งตัวหนึ่ง  เขาวิ่งเอาหัวนำไปก่อน

ทหารโล่สองคนก่อแนวป้องกันขวางอยู่ข้างหน้าเขา  หอกยาวสามเล่มโผล่ออกมาจากช่องว่าง

ทันใดนั้นรูปขบวนกลายสภาพเป็นอันตรายไม่มีช่องว่างทันที

อาโมรี่คำรามรัศมีเหลืองครอบคลุมดาบในมือเขาฟันลงใส่หอกยาวทั้งสามเหมือนกับค้อนทุบทำให้หอกกระเด็น  อาโมรี่มองหาช่องว่างขณะที่เขาฟันใส่โล่ตรงๆ

แก๊ง

นักสู้สองคนรู้สึกปวดสะท้านข้อมือทันทีพลังที่ดุเดือดรุนแรงผ่านตรงเข้ามาเหมือนกับสัตว์ป่ากระแทกใส่อย่างรุนแรง  ร่างของพวกเขาปลิวทันที  นักสู้สองคนข้างหลังไม่ทันมีเวลาได้ตั้งแนวป้องกันและสี่หรือห้าคนถูกกระแทกล้ม

อาโมรี่ยังคงวิ่งเข้าใส่ต่อและรังสีหอกเจ็ดถึงแปดสายแทงใส่ที่หน้าอกและชายโครงเขาอย่างคล่องแคล่วเพื่อทำร้ายเขา

ติง ติง ติงกระบี่เงินปรากฏด้านขวาเขาทันทีคลื่นกระบี่นุ่มนวลพลันแตกกระจายรังสีออกมาทันทีต้านรับรังสีหอกสองสามสาย  คลื่นความเย็นถูกปล่อยใส่ในทุกๆกระบี่อย่างอ่อนช้อยงดงาม

เสียงทึบของลูกตุ้มเหล็กดังขึ้นกระแทกใส่รังสีหอกจนสลายหายไป

ความตือรือร้นของอาโมรี่เพิ่มมากขึ้น  เขาตวาดลั่น “ย่าห์ๆๆ  เจอดาบของข้าบ้าง!”

เขาก้าวยาวพอถึงครึ่งทางเขาบิดเอวตวัดดาบของเขา

รังสีดาบเหลืองเป็นทางยาวเหมือนขีดเขียนปากกา แม้แต่ท่าที่แปลกประหลาดของอาโมรี่ก็ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในรังสีดาบ

นักสู้ที่อยู่ต่อหน้าอาโมรี่ประหลาดใจและยกอาวุธป้องกันอกพวกเขาไว้

ปัง!

นักสู้สามคนที่ข้างหน้าอาโมรี่เสียหลักถอยหลังไปห้าหกก้าวทุกคนก่อนจะหยุดนิ่งได้ แต่สิ่งที่แปลกก็คือพวกเขากลายเป็นเหมือนหุ่นไม้ แครก แครก แครกเกราะบนตัวพวกเขาทั้งหมดมีรอยแตกร้าวเหมือนใยแมงมุมปรากฏมีเลือดไหลออกมาตามรอยแตกร้าวแดงฉาน

ทั้งสามคนตายทันที

สีหน้าของอาโมรี่ดุร้าย  กล้ามเนื้อทั่วตัวเขาเปล่งประกาย

พลัง!  พลังของเขามากกว่าเมื่อก่อนสามเท่าพลังของสายเลือดเผ่าพันธุ์หมีโบราณบริสุทธิ์ 50 % ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้น  ปกติพลังเถื่อนถึกของเขาก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้วและด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นอีกสามเท่านี้ กลับกลายเป็นพลังที่น่ากลัวมาก  พลังของดาบวายุปฐพีในมือของเขาก็ใช้ได้อย่างน่ากลัว

อาโมรี่บรรเทาอารมณ์ลงและฉีกเสื้อของเขาทันที  ใครๆสามาถเห็นร่างของเขาซึ่งเหมือนกับหลอมขึ้นจากทองแดงกับโลหะเห็นชั้นผิวเป็นมันวาวอย่างเห็นได้ชัด

เขาคำรามและวิ่งเข้าใส่กระบวนทัพทันที

เมื่อเผชิญหน้ากับรังสีดาบและปลายหอก  ความจริงเขาไม่ได้หลบแต่ปล่อยให้กระทบใส่ร่างของเขา

กระบี่และหอกที่สามารถแทงและตัดแผ่นเหล็กได้เพียงแต่ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างของอาโมรี่ เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย และฉวยโอกาสฟันใส่อีกสองคน

ผิวทองแดงกระดูกเหล็ก!

ม่านตาของหวงฝู่หงหดลีบ ความเหี้ยมหาญของคู่ต่อสู้เกินไปกว่าที่เขาคาดไว้มาก  และในการปะทะเพียงครั้งเดียว  เขาสูญเสียมือดีไปถึงสองคน

ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่ง  ช่างเป็นคนที่น่ากลัว

หวงฝู่หงลดมือลงและดึงขึ้นเล็กน้อยทันที

ทันใดนั้น นักสู้รอบๆตัวอาโมรี่และที่เหลือพากันถอยและสร้างพื้นที่ว่างวงกลม

หัวใจปิงเต้นเร็ว  เขารู้แผนของคู่ต่อสู้ทันทีและตะโกนด้วยความกังวล  “เข้าไปในกลุ่มคน”

เพียงเวลาไม่นานหอกและรังสีดาบระดมลงมาเหมือนกับฝน โจมตีมาจากทุกทิศ

“ให้ข้าเอง”

เสียงเยือกเย็นและชัดใสดังขึ้น หานปิงหนิงสะบัดข้อมือและกระบี่มังกรเงินฟันเป็นรูปวงกลมและมีรังสีกระบี่ระเบิดออกไป

รังสีกระบี่ของหานปิงหนิงมีลักษณะเฉพาะตัวมากเนื่องจากมีกลุ่มหมอกถูกเกล็ดก้อนน้ำแข็งสร้างขึ้น

หลังจากดูดกลืนสายเลือดหัวใจดาวแปดเหลี่ยนระหว่างทุกอิริยาบถเคลื่อนไหวของนาง  จะมีปราณเย็นแผ่ออกมา  วิชากระบี่ของนางเป็นวิชาที่สมบูรณ์แบบ  พลังน้ำแข็งที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างนางมีระดับความเย็นสูงสุด  ความเข้าใจเรื่องความเย็นของนางลึกซึ้งมากขึ้นดังนั้นความเข้าใจพลังน้ำแข็งของนางก็มากขึ้นเช่นกัน

ไอระเหยของรังสีกระบี่กระจายทำให้ระลอกปราณเย็นแทรกซึมออกมา

หอกและดาบที่กวาดใส่หมอกเย็นมีชั้นน้ำแข็งเกาะและกลายเป็นน้ำแข็งหลังจากกวาดผ่านแค่เพียงระยะสั้นๆ

พวกเขาฉวยโอกาสย่นระยะห่างระหว่างพวกเขากับศัตรู

ซือหม่าเซียงซานติดตามมาด้านหลังเหมือนภูตพราย การแสดงความแข็งแกร่งของอาโมรี่และหานปิงหนิงทำให้เขาประหลาดใจมาก

ทันใดนั้นเสียงของปิงดังเข้าหูของเขา

“ให้สังเกตว่ามีคนประหลาดอยู่ข้างใน  เราต้องหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้าม  เขาซ่อนตัวอยู่ภายในนั้น  ตราบใดที่เราหาเขาพบ  เราจะชนะ”

ปิงหาร่องรอยผู้บัญชาการไม่พบแม้แต่น้อย ผู้บัญชาการหลายคนเหมือนซ่อนตนเองอยู่ในกลุ่มทหาร  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สั่งการที่ไม่แข็งแกร่งและเพื่อป้องกันการถูกศัตรูจับตัว พวกเขาจะปะปนอยู่ในหมู่ทหาร นับว่าเป็นความคิดที่แยบยลอย่างหนึ่ง

ปิงไม่ใช้ตาของเขา  แต่มองดูประกายหอกดาบอย่างระมัดระวัง

มีอยู่หลายวิธีที่ผู้นำทหารจะใช้พลังควบคุมของเขา  แต่ก็ยังมีกฎที่ต้องปฏิบัติตาม  มีเพียงผู้นำทหารผู้ฉลาดสามารถซ่อนเร้นและปิดบังเครื่องหมายของพวกเขาได้  การปกปิดก็เป็นแค่เพียงการปกปิดเท่านั้น ผู้นำทหารก็คือหัวใจของการควบคุมรังสีของกองทัพ  และพวกเขาคือจุดศูนย์กลางของการรบ

แต่หลังจากคลื่นโจมตีสองระลอกผ่านไปแล้ว  ปิงก็ยังหาร่องรอยของฝ่ายตรงข้ามไม่เจอ

เป็นผู้นำที่ฉลาด

เขาอยู่ที่ไหนกันแน่?

ปิงคิดในใจอย่างรวดเร็ว

สถานการณ์แบบไหนที่ผู้นำทหารแบบนี้เกลียดที่สุด?

คำตอบแทบจะออกมาทันที..... ความวุ่นวาย!

ใช่แล้วผู้นำทหารเหล่านี้จะเกลียดความสับสนวุ่นวาย ยิ่งมีความสับสนวุ่นวายเพิ่มเข้ามา ก็ยิ่งยากจะทำให้เขาควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ และตราบใดที่เขาสร้างความวุ่นวายสักสองสามที่ รังสีควบคุมของของฝ่ายตรงข้าก็จะตกอยู่ในความวุ่นวายสับสน  ประสิทธิภาพจะลดลงอีกมากมาย

ตราบเท่าที่ประสิทธิภาพลดลงมากมาย  ร่องรอยของผู้สั่งการจะปรากฏออกมาอย่างแน่นอน

จากนั้นเขาจะสามารถค้นหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้ามได้!

ตราบใดที่เขาหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้ามได้  ชัยชนะจะตกอยู่ในมือของเขา  ผู้บัญชาการของคู่ต่อสู้ไม่แข็งแกร่งและความจริงข้อนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเขา

“ใช่แล้ว มันต้องเป็นอย่างนั้น!”

“ทุกคน, แยกย้ายกันโจมตี!”

เสียงของปิงดังออกมาจากพยัคฆ์ฟ้า  ขณะที่พยัคฆ์ฟ้าเป็นเหมือนสายฟ้าและวิ่งเข้าหาตำแหน่งศัตรู

เมื่อตระหนักได้ถึงแผนของเขา  อีกสองสามคนก็แยกกันโจมตี

ปิงเข้าไปใกล้พวกทหารเกราะได้อย่างง่ายดายจิตใจเขานึกถึงยุคเก่าก่อนทันที

ทันใดนั้นเขาเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เมื่อหมื่นปีที่แล้ว  ในสมรภูมิที่มีควันสงครามลอยกรุ่นอยู่ในอากาศ  ปีกของพยัคฆ์ฟ้ากางออกและบินตรงเข้าหาทันที  เป็นคนร่างใหญ่ที่ตะโกน  ปิงสามารถควบคุมพยัคฆ์ฟ้าได้โดยสัญชาตญาณ

“ฮึ.. กองทัพกางเขนใต้...บุก!”

คำพูดเหล่านี้พึมพำออกมาเบาๆ  ขณะที่สายตาเยือกเย็นของเขาเป็นประกาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด