ตอนที่แล้วตอนที่ 329 ดำเนินการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 330 การจัดการของปิง

ตอนที่ 328 หอวิญญาณ


ฟงโฉ่วเข้าไปโดยไม่ลังเล

ปิงจ้องมองประตูบรอนซ์ต่อหน้าเขาและยินดีเล็กน้อย

จะเรียกว่าประตูก็ไม่ถูกความจริงมันเป็นห้องคุมขังเรียกว่าหอวิญญาณ  ตลอดทั้งอาคารสร้างด้วยบรอนซ์ของดาวกางเขนใต้  และสูตรที่สร้างในรุ่นนั้นมักจะเป็นความลับ

รอบๆผนังหอวิญญาณปกคลุมด้วยลายข่ายรูปแบบที่เป็นวิชาจักรกล  มีมากมายและชิดติดกันมองดูเหมือนกับลายเส้นบนใบไม้ หอวิญญาณแต่เดิมมาจากผนังวิทยายุทธและเป็นสถานที่ผลิตเทคนิคจักรกลของกลุ่มดาวกางเขนใต้  เนื่องจากการฝืนต่อสู้ทำให้นายทหารหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและความคิดอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของผู้บัญชาการโดยใช้ผนังวิทยายุทธสร้างขุนพลวิญญาณผู้นำทหารเพื่อคลี่คลายวิกฤติ

หลังจากนั้น ต่อจากผนังวิชาวิทยายุทธก็มีความก้าวหน้าปรากฏเป็นหอวิญญาณขึ้น มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ดีขึ้นด้วยระยะเวลาที่สั้นกว่า ผนังวิชาวิทยายุทธคือการชำระขุนพลวิญญาณและต้องใช้เวลาในการกินการ์ดวิญญาณนาน  แต่หอวิญญาณเป็นกระบวนการที่รีบเร่ง  ในช่วงเวลาสงคราม  ศัตรูจะไม่ยอมให้เวลาท่านมากนัก

ในค่ายทหารทุกแห่งจะมีหอวิญญาณถูกสร้างไว้  เพียงแค่ในกรณีฉุกเฉินกำลังพลไม่เพียงพอ แม้ว่าขุนพลวิญญาณจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับผู้นำทหาร  แต่ว่าในยามที่ต้องการ ถือว่าทดแทนกันได้ดี

ในประตูบรอนซ์ลายเส้นที่ทั้งไม่ชัดและชัดขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทุกแถวจะมีรูปสี่เหลี่ยมสามรูป รวมแล้วสิบแปดระดับ  สิบแปดระดับแสดงว่าระดับทหารสิบแปดระดับของกองทัพดาวกางเขนใต้และในทุกระดับจำเป็นต้องใช้การ์ดวิญญาณสามใบ

ทหารมีสามระดับจ่ามีสี่ระดับ, นายกองร้อยมีสี่ระดับ, ผู้การมีสามระดับ และนายพลมีสามระดับระดับสูงที่สุดคือเป็นนายพล

ถังอี้เป็นจ่าตรีชั้นทองและอยู่ในขั้นที่หก

ยศทหารของปิงซึ่งถังเทียนยังไม่รู้ก็คือพลตรีระดับสิบห้า

สีหน้าของปิงเคร่งเครียด  เขาเอากระเป๋าเอกสารออกมาและเปิดออก  ข้างในเต็มไปด้วยการ์ดวิญญาณ  เขาเอาการ์ดออกมาทั้งหมด  ในอดีตเขาเคยใช้หอวิญญาณมากมายหลายครั้ง  สมควรจะบอกว่าเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำในอดีต  และจะไม่มีความแปรปรวนทางอารมณ์  แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกกังวลบ้างเล็กน้อย?

ปิงหัวเราะให้กับตนเองจากนั้นอารมณ์ที่ปรากฏในสีหน้าเขาก็หายไป

หลังจากใช้หอวิญญาณหลายครั้งคราเขาย่อมมีประสบการณ์เป็นธรรมดา ฟงโฉ่วคือขุนพลวิญญาณระดับแปด ดังนั้นเขาจึงเริ่มจากระดับแปด  เขาเลือกการ์ดวิทยายุทธระดับแปดออกมาสามใบและวางไว้ในแถวล่างสุดที่ประตูหอวิญญาณ  กรอบสี่เหลี่ยมทุกรูปจะมีการ์ดวิญญาณวางไว้หนึ่งใบ  และการ์ดวิญญาณจะถูกสูบพลังไว้  และแสงสีเงินสว่างนวลตา แสงสีเงินนี้จะผสานเข้ากับลายเส้นบนผนังอย่างรวดเร็ว

ตาของปิงแวววาว  แสงสีเงินแทรกซึมเข้าไปอย่างรวดเร็ว

นั่นคือสัญญาณที่ดี  ปิงสังเกตว่าความมุ่งมั่นของฟงโฉ่วกล้าแข็งมากกว่าเขา นิ้วของเขาขยับอย่างรวดเร็ว และการ์ดเงินอีกสามใบถูกวางไว้ในรูปสี่เหลี่ยมแถวที่สอง

แสงสีเงินของการ์ดสามใบเปล่งออกมาพร้อมกัน  และซึมเข้าไปในผนังโดยรอบ

สีหน้าของปิงเคร่งเครียด  นิ้วของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว  และการ์ดทั้งหมดถูกวางเข้าในช่องเหลี่ยมประตู  การ์ดทั้งหมดนี้ปิงเลือกมาไว้เตรียมการเป็นพิเศษ หลังจากนั้นการ์ดก็ส่องแสง

ในช่วงเวลาสั้นๆสิบนาที ปิงใส่การ์ดไปแล้วถึงสิบห้าใบ นั่นหมายความว่าฟงโฉ่วในตอนนี้เป็นจ่าเอกซึ่งมีระดับต่ำกว่าถังอี้หนึ่งระดับ

ครั้งนี้ความเร็วของแสงเงินที่กำลังซึมซาบเริ่มช้าลงและหลังจากผ่านไปอีกสิบนาทีการ์ดอีกสามใบก็เริ่มเปล่งแสง  ฟงโฉ่วแสดงออกถึงพลังที่กล้าแข็งกว่า   หอวิญญาณมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งกว่าผนังวิทยายุทธและการ์ดวิญญาณที่อยู่ในมือปิงก็มากกว่าในอดีต  แต่ที่สำคัญที่สุดฟงโฉ่วเป็นขุนพลวิญญาณนักสู้ขณะที่กรงเล็บภูตพรายเหลือเพียงแค่ปราณระดับเงิน

วิญญาณนักสู้ของฟงโฉ่วยังไม่สมบูรณ์นัก แต่เมื่อเทียบกับกรงเล็บภูตพรายที่เหลือแต่ปราณเงิน  เขายังนับว่าแกร่งกว่ามาก

ที่ระดับเจ็ด รอบๆหอวิญญาณดูเหมือนจะถูกคลุมไปด้วยข่ายเงินดูงดงามมาก  แต่ก็หมายความว่าแสงสีเงินนั้นเต็ม  ปิงไม่พบว่าเป็นเรื่องแปลก  เนื่องจากเขารู้ว่าที่ระดับเจ็ดถึงแปดเป็นเรื่องยากมาก

ที่ระดับเจ็ดก็คือระดับจ่าสิบเอก  ขณะที่ระดับแปดก็คือระดับจ่าสิบเอกพิเศษ

เกี่ยวกับพลังสั่งการจ่าสิบเอกสามารถสั่งการได้ร้อยคน  ขณะที่จ่าสิบเอกพิเศษสั่งได้สองร้อยคน แต่ความแตกต่างไม่เพียงแค่จำนวนหนึ่งร้อยเท่านั้น  แต่ในเรื่องเกี่ยวกับความรู้ในเรื่องกลยุทธ์ของทั้งสองยังแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวงเมื่อถึงระดับร้อยโท ผู้นำทหารจะเริ่มเปลี่ยนแปลง บางรายจะแข็งแกร่งขึ้นหรือบางรายอาจกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญควบคุมพลังรังสือและบางรายอาจเป็นผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมกลยุทธ์

เมื่อแสงสีเงินเปล่งความสว่างเต็มที่  ปิงมีการ์ดทองอยู่หนึ่งใบเป็นการ์ดวิชาระดับแปด

ปิงวางการ์ดทองลงในช่องสี่เหลี่ยมแรกของระดับที่แปด  เมื่อเสียบเข้าไปแล้วแสงสว่างก็ถูกปลดปล่อยออกมา และแสงสีทองเข้มก็เริ่มซึมซาบไปตามข่ายเส้นเงิน  ข่ายเส้นเงินนี้ดูเหมือนใยแมงมุมที่มีด้ายสีทองเส้นหนึ่งอยู่ในนั้น

สองชั่วโมงต่อมา  แสงสีทองของการ์ดค่อยๆ หมองลง

จากนั้นนั้นปิงหยิบการ์ดใบที่สองซึ่งยังคงเป็นการ์ดทองระดับแปด เมื่อวางการ์ดลงไป แสงสีทองเหมือนกันก็ถูกปล่อยออกมาแต่การดูดซึมแสงสีทองในข่ายเส้นเงินช้าลงอย่างมาก

หลังจากผ่านไปเจ็ดชั่วโมงเต็มแสงจากการ์ดวิญญาณใบที่สองก็ถูกดูดซึมซับได้สำเร็จ

ปิงรู้ว่าฟงโฉ่วกลืนกินจนเต็มพิกัดแล้ว  แต่ยังวางการ์ดทองใบที่สามลงไป

ใช้เวลาอีกยี่สิบสี่ชั่วโมงสำหรับดูดซับการ์ดทองอย่างเต็มที่และมันคงที่โดยไม่มีการขยับอะไรทั้งนั้น ปิงโล่งใจ เป็นความรู้สึกที่เร้าใจมาก

ทันใดนั้นการ์ดทั้งยี่สิบสี่ใบบนผนังสลายหายไปกลายเป็นควัน

ประตูบรอนซ์ค่อยๆเปิดออก

ร่างผอมบางร่างหนึ่งปรากฏ  ขุนพลวิญญาณที่ดูสุภาพคนหนึ่งเดินออกมาช้าๆจากกลางประตู และคำนับปิง “ข้าพเจ้าจ่าสิบเอกพิเศษถังโฉ่วขอรายงานตัวรับภารกิจขอรับ!”

ลักษณะของถังโฉ่วดูไม่เหมือนตอนที่เขาเป็นฟงโฉ่วมิเพียงแต่ไม่อัปลักษณ์อีกต่อไป แต่เขายังดูหล่อขึ้นเหมือนคนอายุสี่สิบปี เขามีร่างผอม นัยน์ตาเต็มไปด้วยพลังกระตือรือร้น  ให้ความรู้สึกว่างามสง่าเพียงแต่มือของเขาว่างเปล่าปราศจากอาวุธ

ปิงไตร่ตรองชั่วขณะและถาม  “จ่าสิบเอกพิเศษ, เชิญแนะนำตัวเอง!”

ถังโฉ่วคำนับ  “ขอรับท่าน, ข้าพเจ้าถังโฉ่ว, ระดับแปด,ความสามารถในการสู้ไม่ดีนัก, ความสามารถทางวิทยายุทธธรรมดา,ความฉลาดใช้กลยุทธอยู่ในระดับดี”

ปิงประหลาดใจความจริงกลับกลายเป็นว่าเขาขาดความสมดุลอย่างมากนี่เป็นกรณีทั่วไปของผู้ช่วยนายกอง ประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคืออยู่ในห้องวางแผนรบมากกว่าอยู่ในสนามรบ

ฟงโฉ่วผู้กระหายการต่อสู้กลับกลายเป็นนายทหารผู้ช่วยช่างคาดไม่ถึงเลยจริงๆ

“ดีแล้ว จ่าสิบเอกพิเศษ,เชิญรอรับคำสั่งอยู่ข้างๆ ก่อน” ปิงผงกศีรษะ

“ขอรับ!”  ถังโฉ่วยืนอยู่ข้างๆ อย่างว่าง่าย

ปิงต้องการจะเตือนถังอี้บางอย่าง  แต่ถังอี้เดินเข้าประตูบรอนซ์ไปแล้ว  ปิงจึงค่อยเข้าใจชัด  รากฐานของถังอี้นั้นด้อยมาก  ถ้าเขาทำก่อนที่กรงเล็บภูตพรายจะหายไป ปิงคาดว่าความมุ่งมั่นของกรงเล็บภูตพรายมีแนวโน้มว่าอาจจะไปได้ถึงขั้นนายร้อยเอก แต่กรงเล็บภูตพรายเหลือแต่เพียงวิญญาณที่อ่อนแอเกินไป  แต่เพราะวิญญาณที่อ่อนนี่เองสามารถผลิตจ่าตรีชั้นทองออกมาได้  ปิงก็ประหลาดใจมากแล้ว

นั่นหมายความว่ามาตรฐานของถังอี้แทบจะเค้นออกมาหมด

แม้ว่าอัตราความสำเร็จของหอวิญญาณจะสูงมากกว่าผนังวิทยายุทธ  แต่ก็ยังมีอันตรายจากความล้มเหลว  ตราบใดที่ล้มเหลวอย่างนั้นทุกอย่างจะสลายกลายเป็นควันไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ให้ มีประสบการณ์ในอดีตซึ่งพวกเขาเคยผ่านการแปลงเหมือนถังอี้มาก่อน  แต่อันตรายและความเสี่ยงก็สูง

แต่ปิงรู้สึกถึงความมุ่งมั่นของถังอี้  ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธ

ประตูบรอนซ์ปิดแน่นอีกครั้งและที่ระดับหนึ่งถึงระดับเจ็ด ช่องสี่เหลี่ยมทั้งหมดเป็นสีเทาหม่น

ปิงวางการ์ดเงินลงในช่องสี่เหลี่ยมแรกในระดับเจ็ด  การ์ดเงินปล่อยแสงทันทีและมีเสถียรภาพทำให้ปิงโล่งใจ

เมื่อแสงเงินจากการ์ดใบแรกหมองปิงวางการ์ดเงินใบที่สอง

แสงเงินฉายออกมาจากการ์ดเงินทันทีทำให้ปิงชักเครียด  ไม่ดีเลย!

เป็นไปตามคาดแสงเงินเริ่มหมองและใกล้จะดับ ครู่หนึ่งที่มันมีประกายแพรวพราวจากนั้นก็หมองจนแทบไม่เหลือแสงเหมือนกับว่าไม่มีพลังงานอีกต่อไป

ปิงมองดูการ์ดเงินอย่างกังวลและแสงที่กระพริบหมายความว่าถังอี้กำลังผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดกับจิตวิญญาณยุทธภายในการ์ด  แสงกระพริบนั้นหมายความว่าการต่อสู้ดุเดือดมาก

การกลืนกินเป็นกระบวนการที่โหดร้ายมาก

ความรู้สึกของปิงจุกอยู่ที่คอหอย  หรือนี่จะเป็นเหตุผล เพราะตอนนี้เขาคือขุนพลวิญญาณเช่นกัน? และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้เศร้าและอารมณ์เสีย?  เมื่อเขาใช้หอวิญญาณในอดีต  เขาไม่มีความรู้สึกเช่นนั้น...  เขากลับรู้สึกว่าบริวารของเขาอยู่ในห้วงความเป็นความตายมากกว่า...

อย่างนั้นข้าว่าข้าไม่ใช่คนหัวใจเย็นชา ข้าเป็นเหมือนในอดีต

ปิงหัวเราะเยาะตนเอง

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าแสงเงินที่กำลังกระพริบก็ค่อยๆ เสถียรขึ้น ผ่านไปอีกสามชั่วโมง แสงเงินของการ์ดวิทยายุทธก็เริ่มหมอง ผลกระทบของถังอี้เมื่อเทียบกับถังโฉ่วอ่อนกว่ามาก

แต่ปิงยังคงวางการ์ดเงินใบที่สามลงไป

แสงสีเงินกระจายออกการ์ดวิญญาณมั่นคงมากทำให้ปิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่เหมือนกับครั้งสุดท้ายที่กลายเป็นสภาพรุนแรง แต่การดูดกลืนครั้งนี้ใช้เวลาสิบชั่วโมงเต็ม

เขากลายเป็นจ่าสิบเอกแล้ว

แต่....

การ์ดวิญญาณบนประตูยังไม่ดับ  นั่นหมายความว่าการต่อสู้ยังไม่จบ

ถังอี้ปรารถนาจะไปต่อ

ปิงนิ้วสั่น  เจ้าบ้านี่ อารมณ์ของเขาช่างเหมือนกับกรงเล็บภูตพรายเสียจริง

แต่ชั่วขณะนั้นเขาไม่มีทางเลือกอื่น  ถ้าถังอี้ไม่ต้องการจบ  อย่างนั้นก็จบไม่ได้  ถ้าไม่อย่างนั้นจะถือว่าล้มเหลว  ปิงหายใจลึก นัยน์ตาเป็นประกายเจิดจ้า  เนื่องจากเจ้าต้องการทำต่อไป  อย่างนั้นก็เอาให้ดีที่สุดไปเลย

การ์ดทองระดับแปดถูกวางในช่องระดับแปดช่องแรก

แสงทองจากการ์ดเปล่งออกมาและเสถียรหลังจากผ่านไปชั่วโมงแรก แสงสีทองที่วาบออกมามีเสถียรภาพอย่างเห็นได้ชัด  ความเร็วจากการดูดซึมทำให้ปิงตกตะลึง

อะไร อะไร อะไรกัน...

ปิงสาบานได้ว่าเขาใช้หอวิญญาณมามากมายหลายครั้ง  แต่นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นภาพเช่นนี้ การ์ดวิญญาณระดับเจ็ดอันตรายและอาจล้มเหลวได้  แต่การ์ดทองระดับแปดกลับมั่นคงมีเสถียรภาพ?

นี่มันเหตุผลบ้าอะไรกัน?

ลำแสงสีทองยังคงซึมผ่านไปตามเส้นข่ายเงินต่อไป

หนึ่งชั่วโมง

เขาใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงการ์ดทองระดับแปดก็ถูกดูดซับเข้าไปหมด

เมื่อปิงวางการ์ดทองใบที่สองลงไป  สมองของเขาก็ทำงานได้ไม่ดีอีกต่อไป

สองชั่วโมง!

นั่นคือเวลาที่ใช้ในการดูดซับพลังจากการ์ดทองใบที่สองและแสงจึงหมองลงในที่สุด

ปิงประหลาดใจอยู่ถึงสองชั่วโมงเต็มและเตรียมวางการ์ดใบที่สาม

เขาตื่นเต้นอย่างมาก  ถังอี้เลื่อนยศไปถึงระดับจ่าสิบเอกพิเศษแล้ว

ในชั่วขณะนั้นการ์ดทองใบแรกถูกทำลายทันทีและกลายเป็นควันหายไปฉากภาพที่ปรากฏต่อหน้าปิงกลายเป็นเรื่องแปลก การ์ดทองใบที่สองก็เริ่มอับแสงลง แต่พื้นที่ซ้ายและขวาของมันว่างเปล่า

ปิงตาแทบถลนสีหน้าของเขาราวกับกำลังเจอผีหลอก

เขาเหมือนกับรูปปั้นดินน้ำมันยืนอึ้งอยู่กับที่จ้องมองประตูบรอนซ์

นั่น...นั่นมัน....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด