ตอนที่แล้วตอนที่ 318 ตัดสินใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 320 แผนของปิง

ตอนที่ 319 ปันผลสงคราม


ถังอี้และหัวหม่าเอ้อเลือกเชลยและออกเดินทาง  พวกเขาเป็นบริวารฝีมือดีของอูเถี่ยหวี่ คนที่ได้รับเลือกเหล่านี้เป็นพวกมีพลังโดดเด่นและเป็นชาวบ้าน  ดังนั้นพวกเขาจะเข้าใจอีกฝ่าย  และสำหรับพวกเขาแล้วกลุ่มอิทธิพลของกลุ่มดาวหมาป่าในปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดความทะเยอทะยานชิงบัลลังก์ในกลุ่มดาวหมาป่าไม่สามารถหยุดยั้งได้แล้ว

นอกจากนี้พวกเขายังเห็นกับตาตนเองถึงพลังที่น่ากลัวของถังเทียน  พวกเขาทุกคนได้รับความเชื่อถือจากเขามานานแล้ว

การได้พวกเขานำทางทำให้ถังอี้และหัวหม่าเอ๋อเดินทางได้สะดวก  ไม่ว่าคนจะโง่เขลาเพียงใด พวกเขาก็สามารถบอกได้ว่ากลุ่มคนที่แข็งแกร่งทรงพลังกำลังขี่ม้าตรงมาที่พวกเขา  และถ้าพวกเขายังคงดื้อรั้นต่อต้าน  พวกเขาจะตายแน่นอน

เพียงแต่ว่ามีหลายคนต้องอิจฉาเผ่าทะเลทรายที่มีโชคดีและหลายคนอ่อนน้อมต่อถังเทียนโดยไม่ลังเล ช่วงเวลาที่พวกเขาจะต้องร่วมกับผู้ทรงพลานุภาพขนาดนั้น  ใครก็ตามที่ช้าจะมีผลต่อตำแหน่งในอนาคต

ถังอี้และหัวหม่าเอ้อเพิ่งออกเดินทางเมื่อพวกเขาทราบข่าวกลุ่มพลังต่างๆ ของกลุ่มดาวหมาป่าต้องการยอมรับทั้งหมด วันแรกสามในสี่ของกลุ่มอิทธิพลทั้งดวงดาวยอมจำนนทันที  และวันที่สองกลุ่มอิทธิพลสุดท้ายที่รักษาการณ์ที่มั่นสุดในกลุ่มดาวก็ยอมแพ้

เรื่องถ่วงเวลาสมาพันธ์ชาวยุทธปล่อยให้ซือหม่าเซียงซานจัดการ  เขาเป็นคนที่ตีสองหน้าได้เก่งถือว่าเป็นงานที่เหมาะสมกับเขา

หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้วถังเทียนรู้ว่าผลเก็บเกี่ยวหลังจากต่อสู้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

สมบัติจากกลุ่มอิทธิพลใหญ่ทั้งสามของกลุ่มดาวหมาป่า นอกจากของคานท์ตกอยู่ในเงื้อมมือถังเทียนหมด และสมบัติของอันไป๋ผู้ถูกถังอี้ฆ่าก็ตกอยู่ในมือของถังเทียน  บวกกับสมบัติของหกองครักษ์ตระกูลถูยิ่งไม่อาจจินตนาการได้

ทั้งสิบคนนี้เป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี  และทั้งสิบคนนี้ตายในการต่อสู้นี่เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว

สำหรับหลายคนมันกลายเป็นสงครามไปแล้ว

แม้ว่าจะเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีแต่ชีวิตของพวกเขาก็เหมือนต้นหญ้าในสงคราม นักสู้ธรรมดาไม่ถือว่าคุ้มค่าเงิน

ในเวลาเดียวกันการแบ่งปันสินสงครามก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ

ในการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์  สมบัติที่โดดเด่นที่สุดไม่มีอะไรต้องสงสัย ก็คือกระบี่ปลอดสำเนียงของเหมิงเว่ยซึ่งเป็นสมบัติมืดระดับตำหนักระนาบกลาง  อาวุธสมบัติที่หายากนี้ไม่สามารถพบเห็นในตลาดใดๆได้  ถ้ามันถูกนำมาขายก็จะถูกขายออกไปได้ง่ายด้วยราคาที่สูงกว่าสองสามร้อยล้านและถ้าประชาสัมพันธ์ดีๆคนอาจยอมซื้อในราคาเกินกว่าหมื่นล้าน

ชั้นต่อมาเป็นอาวุธสมบัติระดับแดนขั้วขอบฟ้าสองชิ้นคือคลื่นหมีปฐพีแห่งกลุ่มดาวหมีเล็กและมังกรฟ้าคำราม สมบัติของกลุ่มดาวมังกร สมบัติชิ้นแรกได้มาจากมือของอูเถี่ยหวี่และชิ้นที่สองได้มาจากมือของหวยไป่หัวรวมมูลค่าสมบัติทั้งสองชิ้นราวๆ ห้าร้อยล้านเหรียญ

ยังคงมีสมบัติดวงดาวชั้นเงินคุณภาพกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือรวมแล้วหกสิบสี่ชิ้น

นอกจากนั้นยังมีอาวุธสมบัติอีกสิบชิ้น อาวุธสมบัติเงินคุณภาพขอบฟ้าเหนือมีราคาทั้งหมดเกินกว่าสามสิบล้านเหรียญดาว สมบัติชั้นเงินคุณภาพขอบฟ้าเหนือธรรมดาจะถูกกว่ามาก แต่ก็ยังคงมีราคาสองล้านเหรียญ

สมบัติดวงดาวทั้งหมดหกสิบสี่ชิ้นทำให้ถังเทียนมีมูลค่ารวมหกร้อยล้านเหรียญดาว

แม้แต่ถังเทียนก็ยังตะลึง  ทั้งหมดนี้แค่เฉพาะสมบัติดวงดาว

ยังมีอีกกองหนึ่งเป็นการ์ดวิทยายุทธ

นักสู้สวรรค์วิถีทุกคนพกการ์ดวิญญาณไว้กับตัว  และการ์ดพวกนี้ไม่ใช่สินค้าธรรมดาการ์ดยี่สิบแปดใบเป็นการ์ดทองวิทยายุทธระดับแปดทั้งหมดและสิ่งที่ทำให้ถังเทียนทึ่งก็คือมีการ์ดชั้นม่วงทองอยู่สามใบ

การ์ดม่วงทองมีคุณสมบัติพอที่จะกลายเป็นการ์ดสุดยอดวิชาวิทยายุทธโดดเด่นได้  คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีถึงสามใบ

ถังเทียนใช้เงินมหาศาลซื้อการ์ดวิชาลมพรางและโล่อากาศโจมตีไม่มีใครเข้าใจมูลค่าของการ์ดวิญญาณเหล่านี้ดี

หินดวงดาวระดับต่างๆถูกแยกไว้ ถังเทียนสังเกตว่ามีหินดวงดาวระดับสิบ แสงของมันสว่างเจิดจ้าจนตาถังเทียนพร่า

การ์ดเหรียญดาวรวมแล้วเกินกว่าพันล้านเหรียญส่วนใหญ่ได้มาจากอูเถี่ยหวี่และหัวไป่หัวทั้งสองเป็นผู้ปกครองเทียบกับคนที่เหลือนับว่าร่ำรวยมากกว่า

ถังทียนและพวกเป็นเหมือนกับพวกบ้านนอกเข้ากรุง  พวกเขาไม่เคยเห็นเงินมากมายอย่างนี้มาก่อนจากที่แห่งไหนเลย?

พวกเขางุนงงทันที

“โอวพระเจ้า!”  อาโมรี่ยืนตะลึงกับที่  พยายามใช้นิ้วทั้งสิบนับ แต่ไม่สำเร็จ  “เรารวยแล้ว! เงินตั้งมากมาย  ถ้าเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธ เราจะต้องทำกี่ภารกิจถึงจะได้เงินมากขนาดนั้น”

“แรงงานไร้ฝีมือ ถือเป็นกรรมของเจ้าเอง”  ซือหม่าเซียงซานพูดขณะลับดาบอยู่ด้านข้าง

เหลียงชิวก็ตะลึงเช่นกัน  “เงินนี้น่าจะพอซื้อดาวอู่อันได้ทั้งดวง”

ซือหม่าเซียงซานกล่าว  “เจ้าตีราคาดาวอู่อันสูงเกินไป”

“เรารวยกันแล้ว” เหมือนกับว่าถังเทียนกำลังก้าวเดินอยู่บนกองฝ้ายย่างเท้าของเขานุ่มนวลไม่ได้ใช้กำลังใดๆ  เขารู้สึกว่าเสียงตัวเขาเองก้องกังวาน เมื่อเขาได้ยินม่อเว่ยเทียนพูดเรื่องสิบหกพันล้าน  ถังเทียนไม่ได้รู้สึกอะไร  เพราะสำหรับเขา นั่นเป็นแค่จำนวนตัวเลข

แต่เมื่อสินสงครามมีราคาถึงสิบพันล้านวางอยู่ต่อหน้าเขา เหมือนกับว่าเขาถูกต่อยที่ศีรษะจนมึนงงทำอะไรไม่ถูก

กองเหรียญดวงดาวเหมือนภูเขาเลากาเป็นประกายระยิบระยับ รวยมากจนเขาแทบมึนเมา

ประกายแสงของสมบัติเงินสว่างแพรวพราวกว่าดวงอาทิตย์

การ์ดวิทยายุทธวางเป็นแถวเรียงรายกระพริบอย่างต่อเนื่อง

นั่นมันสุดยอดจริงๆ!

“มาแบ่งกันเถอะ”  ถังเทียนพูด

หลิงซิ่วกับอาเฮ่อไม่สนใจสมบัติดวงดาว

ฟลามิงโกของหลิงซิ่วไม่ช้าจะต้องมีการปรับปรุงรุ่นให้ดีขึ้น  ดังนั้นหินดวงดาวเป็นวัสดุที่มีค่าสำหรับเขา

อาเฮ่อไม่มองหาอะไรมากเขากวาดมือทีเดียวก็เลือกการ์ดวิชากระบี่ออกมาสองสามใบ

คลื่นหมีปฐพีมอบให้อาโมรี่   เขาเป็นพวกบ้าพลังและในเวลาฝึกฝนเพื่อช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น คลื่นหมีปฐพีจะช่วยเขาได้ทำให้เขามีพลังน่ากลัวมากขึ้น

มังกรฟ้าคำรามคือกระบี่เล่มหนึ่งมอบให้หานปิงหนิงตลอดทั้งตัวกระบี่เป็นเงินกระพริบส่องแสง ด้ามกระบี่เป็นเหมือนหัวมังกรเพิ่มราศีเยือกเย็นให้หานปิงหนิง มันคมมาก ความจริงถังเทียนต้องการจะมอบกระบี่ปลอดสำเนียงให้หานปิงหนิง  แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง  กระบี่ปลอดสำเนียงต่อต้าน  มันต้องการให้ถังเทียนใช้มันเท่านั้น

เหลียงชิวฝึกวิทยายุทธใช้มือเปล่า และการ์ดวิชาระดับม่วงทองก็มีอยู่วิชาหนึ่งชื่อว่าผสานหยินหยาง

ซือหม่าเซียงซานเลือกวิชาตัวเบาการ์ดระดับม่วงทองวิชาก้าวย่างภูตพราย

การ์ดม่วงทองที่เหลือเป็นวิชาหมัดนามว่าหมัดสำลี  มีแต่ถังเทียนที่ฝึกวิชาหมัด  และเมื่อเห็นชื่อแล้ว ถังเทียนขมวดคิ้ว  สำหรับเขาแล้ววิชาหมัดมวยควรจะแกร่งกร้าวดุดัน  หมัดสำลี มันคือวิชาหมัดอะไรกัน?

แต่เมื่อเห็นว่าเป็นวิชาการ์ดม่วงทอง  ถังเทียนเก็บไว้อย่างไม่เต็มใจ  ถังเทียนไม่ต้องการสมบัติดวงดาวมากนัก  ไม่มีเกราะเลย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาอาจจะสนใจอยู่บ้าง

เขาตื่นเต้นที่สุดสำหรับการฝึกฝนพิเศษของปิง

สองวันต่อมาจู่ๆ เขาก็เรียกหลิงซิ่ว, อาเฮ่อและพวกที่เหลือมาประชุมกัน

เมื่อถังเทียนดึงแผ่นไม้ออกอย่างมีความสุขและอวดหลุมทางเข้าสีดำ  ทำให้ทุกคนตกใจ

“หวา, ถังพื้นฐาน!  เจ้าไปเรียนวิธีขุดรูมาตั้งแต่เมื่อไหร่?  เอ่, ทำได้ดีจริงๆนะ กลมเป๊ะ”  อาโมรี่เบิกตา  เขารู้สึกประทับใจ

สีหน้าถังเทียนชะงักค้าง  เจ้าบ้าเอ๊ย ทุกครั้งที่ข้าต้องการแสดงความเท่เป็นต้องพังทุกทีเพราะเจ้าวัวโง่นี่

“ทุกคนตามลงมา” ถังเทียนพูดอย่างเฉยเมยและกระโดดลงไปก่อน

ที่เหลือตามลงมาเป็นพรวน  และเมื่อพวกเขาลงไปยืนข้างล่างแล้ว  พวกเขาต้องประหลาดใจกันทุกคน

พื้นที่ข้างล่างกว้างใหญ่น่าประหลาดใจ เครื่องจักรกลประหลาดสองสามเครื่องทำให้พวกเขาตื่นตระหนก  มันคือฐานใต้ดินจริงๆ

“บรอนซ์?”  อาเฮ่อก้มศีรษะและตรวจสอบพื้นและสะดุ้งตกใจ

เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนสัมผัสที่พื้นทันที และพากันตกใจทั้งหมด

“ถังพื้นฐาน, ฐานนี้ไม่ได้สร้างจากบรอนซ์ล้วนๆใช่ไหม?” เหลียงชิวอดถามไม่ได้

เมื่อเห็นสีหน้าทุกคนถังเทียนที่ตอนแรกไม่ค่อยพอใจ ถึงกับมีความสุขทันทีและกล่าวอย่างภูมิใจ  “ถูกแล้ว สร้างจากบรอนซ์ล้วนๆข้าใช้เวลาสองวันจึงสร้างได้ขนาดนี้ เหนื่อยมาก”

สองวัน...

ถ้าเป็นที่พักทุกคนคงเรียกถังเทียนว่าบ้าแน่ ฐานใต้ดินบรอนซ์ สร้างสำเร็จในสองวัน? นี่เขานึกว่าเราโง่อย่างนั้นหรือ?

อาเฮ่อและหลิงซิ่วมองหน้ากัน  พวกเขาตกใจพอๆ กัน พวกเขารู้ว่าถังเทียนมีวิศวกรจักรกลที่ทำงานให้เขา  ถ้าไม่อย่างนั้นหลิงซิ่วจะได้ฟลามิงโกมาจากไหน?  แต่ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักว่าวิศวกรจักรกลที่ทำงานให้ถังเทียนไม่ใช่วิศวกรจักรกลธรรมดา

มีวิศวกรจักรกลที่มีความสามารถน่าทึ่งจริงๆ..

เขาหรือนางต้องมีความแข็งแกร่งมากแน่นอน

วิศวกรจักรกลแบบไหนที่สามารถสร้างฐานบรอนซ์ได้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยภายในสองวัน?

ตาของหลิงซิ่วเป็นประกาย เมื่อเห็นเครื่องจักรกลลึกลับทรงพลังมากกว่าที่เขาคิด อย่างนั้นฟลามิงโกของเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นได้แน่นอน  ไม่ว่าพลังอำนาจใดที่หนุนถังเทียนอยู่เขาไม่สนทั้งนั้น

ถังเทียนพอใจมาก เขาสามารถสร้างฐานใต้ดินเสร็จได้ภายในสองวัน  เขาทำงานหนักแทบตาย

ประสิทธิภาพงานของเซรีนเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง  อสูรจักรกลจำนวนมากถูกส่งเข้าประตูแสงและตามหยาหยาช่วยขุดที่ราบสูงในระดับที่เร็วขึ้น ถังเทียนได้รับแรงบันดาลใจมากจึงขอให้เซรีนสร้างอสูรจักรกลสำหรับขุดอีกมากกว่าสิบเนื่องจากเนินทรายอ่อนนุ่ม พวกมันจึงขุดได้อย่างง่ายดาย และอสูรจักรกลทั้งสิบก็ขุดทั้งวันทั้งคืนสร้างพื้นที่ขนาดมหึมา ขณะที่ชิ้นส่วนบรอนซ์ทั้งหมดถูกส่งมาจากเมืองสามวิญญาณจากนั้นใช้ตู้เก็บของอควาเรียสเคลื่อนย้ายมาติดตั้งทั้งหมด

แม้ว่าถังเทียนจะแข็งแกร่งมากแต่การเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนบรอนซ์ทั้งหมดติดตั้งก็ทำให้เขาเกือบหมดแรง

มันสามารถถูกจัดอันดับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้  ด้วยความรู้สึกเกี่ยวกับมันทำให้ถังเทียนรู้สึกว่างานหนักที่เขาทำมานั้นไม่มีอะไร

“แค่ก” ถังเทียนพูดขัดจังหวะความคิดของทุกคนและเริ่มอธิบาย  “เหตุผลที่ข้าสร้างฐานนี้ขึ้นมาก็คือเพื่อช่วยในการฝึกฝนพิเศษของพวกเรา”

“ฝึกฝนพิเศษ?”

คำเหล่านี้ช่างดึงดูดทุกคนนัก

“ถูกแล้ว”  เสียงของปิงดังออกมาจากเงามืดในฐาน ขณะที่เขาค่อยๆลอยออกมาให้ทุกคนเห็น “การต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นเรื่องยากลำบากมาก  พวกเจ้าทุกคนรู้ว่าสมาพันธ์ชาวยุทธทำงานกันอย่างไร  พวกเขาจะต้องส่งคนมาฆ่าพวกเจ้าทุกคนแน่  ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนจำเป็นต้องฝึกบทฝึกพิเศษสนามมรณะนี้ให้สำเร็จในช่วงเวลานี้”

“บทฝึกมรณะพิเศษ?”  อาโมรี่สงสัย “มันคืออะไร?”

“ฝึกมรณะพิเศษนี้หมายความว่าถ้าพวกเจ้าทำไม่สำเร็จ พวกเจ้าก็จะตาย”  ปิงกล่าวเฉื่อยชา

“ถ้าเราเราฝึกไม่สำเร็จ...เราจะตาย...” อาโมรี่แข็งค้างขณะตะกุกตะกักกล่าว

“ถูกแล้ว”ปิงพูดเฉื่อยชา  “กล่าวกันว่าสิ่งที่สามารถดึงศักยภาพเต็มที่ของมนุษย์ออกมาได้เต็มที่  อันดับหนึ่งมีเพียงสิ่งเดียวและนั่นก็คือความตาย มีแต่เมื่อเผชิญกับความตายเท่านั้น พวกเจ้าจึงจะได้ตระหนักรับรู้  ทุกอย่างรอบตัวเจ้าจะเปลี่ยนไป  นั่นรวมทั้งทัศนคติของเจ้า  พลังใจของเจ้า วิทยายุทธ  ความตายจะช่วยให้พวกเจ้าเติบโตก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว  แต่ละคนจะเปลี่ยนแปลง หรือไม่ก็พังทลายไปเลย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด