ตอนที่แล้วตอนที่ 10-38 ระเบิดความโกรธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-40 เครื่องบดเนื้อ

ตอนที่ 10-39 สู้กับความตาย


กิลเยโมยังคงเงียบชั่วครู่  จากนั้นกล่าว “ก็ได้, งั้นก็ดำเนินการได้เลย”

ในไม่ช้านักรบที่ดูเหมือนคนธรรมดาหกคนปรากฏตัวที่ศูนย์บัญชาการ  เวส พอร์ตเตอร์และกิลเยโมมองหน้ากันเอง  จากนั้นเวส พอร์ตเตอร์พูดกับบุรุษทั้งหก  “พวกเจ้าทั้งหกคนจงปะปนเข้าไปในกลุ่มทหารและบุกจู่โจมไปที่กำแพงเมือง  เมื่อเจ้าไปถึงกำแพงเมืองให้เร่งความเร็วบุกเข้าไปเปิดประตูเมือง จากนั้นนำทหารเข้าไปในเมือง พวกเจ้าต้องทำไม่ให้พวกเขาตั้งตัวได้ทัน”

“ขอรับ, ใต้เท้า”

บุรุษทั้งสามคนรับรู้ทันที  ขณะที่อีกสามคนมองดูกิลเยโม  กิลเยโมพยักหน้าเล็กน้อย  “ทำตามที่เวส พอร์ตเตอร์บอก”

“ขอรับ ใต้เท้า”

บนภาคพื้นที่กว้างใหญ่ฝูงผู้คนที่ดูคล้ายกับตั๊กแตนกำลังบุกเข้ามาที่เมืองอย่างบ้าคลั่ง  ปืนใหญ่พลังเวทเปล่งประกายอย่างต่อเนื่อง พรากชีวิตคนไปมากมายทุกครั้งที่ปืนใหญ่เปล่งแสงในแต่ละครั้ง  บนกำแพงเมืองค็อด, ลินลี่ย์, บาร์เกอร์ เกทส์เฮเซอร์ อังเก้และบูนแต่ละคนกำลังมองดูการสู้รบ

“พวกเขากำลังสู้รบอย่างบ้าคลั่ง”  เกทส์เลียริมฝีปาก ยิ้มขณะพูด

เฮเซอร์มองดูลินลี่ย์  นัยน์ตาของเขาฉายประกาย  “ท่านลอร์ดลินลี่ย์,ให้เราไปสั่งสอนพวกเขาเถอะ” บรรดาพี่น้องบาร์เกอร์ มีแต่บาร์เกอร์เท่านั้นที่ถึงระดับเซียนในร่างมนุษย์ พี่น้องอีกสี่คนเป็นนักรบระดับเก้าชั้นสูงเตรียมบรรลุในระดับสูงขึ้นไปเมื่อใดก็ได้

ลินลี่ย์มองดูการสู้รบเบื้องล่างหัวเราะอย่างในเย็น  เขากล่าว “ไม่ต้องเร่ง  เจ้าจะได้รับโอกาสในไม่ช้า  แต่จำไว้ว่าไม่ว่ายังไง พวกเจาจะปล่อยให้พวกเขายึดเหมืองอัญมณีเวทไม่ได้”

เทียบกับอัญมณีเวทจำนวนมากมายแล้ว  ความจริงลินลี่ย์ให้คุณค่ากับห้องมิติมากกว่า

นั่นคือสถานที่ฝึกฝนมีค่าซึ่งต้องรักษาเอาไว้

“โชคไม่ดีที่ซาสเลอร์ก็ถึงระดับเซียนเช่นกัน มิฉะนั้นเมื่อเขาลงมืออาจโต้ตอบทหารเป็นล้านได้ในครั้งเดียว”  ลินลี่ย์ถอนหายใจกล่าว  ซาสเลอร์และลินลี่ย์ถึงระดับเซียนแทบจะในเวลาเดียวกัน  ตอนนี้ซาสเลอร์กลายเป็นเซียนพ่อมดไปแล้ว  หลังจากเป็นเซียนพ่อมดพลังของซาสเลอร์อยู่ในระดับที่น่ากลัวจริงๆ

สิ่งที่ซาสเลอร์ทำในตอนนี้ก็คือรวบรวมผีดิบระดับเซียน

พ่อมดจอมเวทคนเดียวสามารถรวบรวมและฝึกผีดิบระดับเซียนได้กลุ่มหนึ่ง  ใครๆก็พอจะนึกได้ว่าพวกมันจะทรงพลังน่ากลัวขนาดไหน

“ตาแก่บัดซบนั่นเขาใช้เวลาทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ภายในภูเขาเอาแต่ฝึกอย่างเดียว เขาไม่เคยโผล่หน้าออกมาเลยในช่วงหลายวันนี้”  เกทส์บ่น “ครั้งสุดท้ายที่ข้าไปเยี่ยมเขา เขาส่งผีดิบระดับเซียนออกมาสู้กับข้าช่วงเวลาหนึ่ง  ข้าต้องยอมรับว่า ไอ้ผีดิบบ้านั่น..มันแข็งแกร่งจริงๆ”  เกทส์ถอนหายใจ

ลินลี่ย์แอบขำในใจ

ซาสเลอร์เพียงแต่หยอกเกทส์เล่น ลินลี่ย์รู้เองว่า..ถ้าซาสเลอร์ลงมือจริงจัง  เกทส์คงจะพ่ายแพ้ทันที  นี่เป็นเพราะพ่อมดมีทักษะสูงในการใช้พลังจิตวิญญาณ และยิ่งมีพรสวรรค์ในการโจมตีด้วยพลังวิญญาณมาก  เมื่อถึงระดับเซียน ซาสเลอร์ก็ใช้พลังโจมตีจิตวิญญาณได้ทันที...

แม้แต่เซียนที่ทรงพลังบางทีอาจจะทนรับไม่ได้

“ปัง!”

ทันใดนั้นลินลี่ย์และคนอื่นๆ รู้สึกว่ากำแพงเมืองสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทันที  หน้าของบาร์เกอร์เปลี่ยนไป  “แย่แล้ว!”  พลังจิตของลินลี่ย์ตรวจพบพลังโจมตี นักรบระดับเก้าหกคนเข้าปะปนอยู่ในกองกำลังใช้แรงกระแทกใส่ประตูเมือง

“บุก!”  ทหารที่บุกโจมตีพบว่าประตูเมืองพังทลายแล้ว

ทันใดนั้นทหารจำนวนมากเริ่มหลั่งไหลไปที่ประตูเมือง  หัวหน้าทหารก็คือนักรบระดับเก้าหกคน  ทหารประจำการเมืองค็อดต้องการจะขัดขวางพวกเขาแต่พวกเขาถูกนักรบระดับเก้าหกคนสังหารตายอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามผู้บัญชาการประตูทิศใต้มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างใจเย็น

“ปล่อยก้อนหิน!”  เสียงของผู้บัญชาการดังขึ้น ไม่มีวี่แววความตื่นเต้น

ทันใดนั้นนักรบหลายสิบคนดึงคันโยกลับ  พอเสียงแคร็กดังขึ้นหินมหึมาเกินกว่าสิบเมตรเริ่มกลิ้งลงมา ทหารที่อยู่ด้านล่างต้องการหลบ แต่เกือบทั้งหมดไม่สามารถทำได้ถูกบดขยี้เป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน

“บึ้ม!”

ประตูเมืองถูกผนึกไว้

ทหารที่อยู่ภายนอกไม่สามารถเข้ามาข้างในได้  และทหารข้างในไม่สามารถออกไปข้างนอกได้เช่นกัน

“นักรบระดับเก้าทั้งหกคนทุ่มเทจริงๆ”  เกทส์คำรามด้วยความโกรธ  จากนั้นเพียงพลิกมือเขาดึงขวานยักษ์ออกมาขณะบุกโจมตีจากด้านบนกำแพงลงมาที่ลานภายใน  นักรบระดับเก้าทั้งหกคนอยู่ภายในกำแพงเมืองแล้วเกทส์กระโดดลงมา อังเก้ บูนและเฮเซอร์ก็ตามลงมาทันที

ภายในเมือง

นักรบระดับเก้าทั้งหกคนเข่นฆ่าอย่างบ้าคลั่งโดยไม่มีทหารคนใดรอบๆ ตัวพวกเขาสามารถต้านทานได้ติด

“หนีไป!”หนึ่งในนักรบระดับเก้าตะโกนดังลั่นขณะที่เขาใช้ดาบศึกฟันใส่นายทหารคนหนึ่งจนขาดครึ่ง  ไม่ว่าที่ใดก็ตามที่นักรบเหล่านี้ผ่านไปจะมีศพล้มลงเป็นทาง

นักรบระดับเก้าอีกคนหนึ่งรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานเกินไป

พวกเขาไม่สนใจทหารที่ตามพวกเขาเข้ามา  นักรบตาเดียวผมทองกระโดดขึ้นจากพื้นทันทีเขาลอยตัวอยู่ในอากาศเกินกว่าสามสิบเมตรพลิกตัวผ่านกำแพงและมาถึงด้านนอกเมือง นักรบระดับเก้าอีกห้าคนก็เริ่มโดดขึ้นจากพื้น...

“เจ้าต้องการหนีหรือ?!”

เสียงคำรามเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากนั้นขวานยักษ์ที่น่ากลัวพุ่งวาบตรงมาที่ตัวพวกเขา  เกทส์เป็นคนแรกที่มาถึง และในกลางอากาศเขาหยุดหนึ่งในนักรบระดับเก้าที่กระโจนขึ้นมาไว้ได้  นักรบระดับเก้าต้องการใช้ดาบหนักในมือของเขาป้องกันขวานเอาไว้  แต่ทันทีที่เขาทำ...

“ปัง!”

ดาบหนักของนักรบผู้นั้นแตกเป็นเสี่ยงและหลังของเขากระแทกกลับลงไปกับพื้น พื้นสั่นสะเทือนจากแรงปะทะ เกทส์คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว  “แม่มันเอ๊ย! บังอาจมาทำลายเมืองงั้นหรือ? ตายซะเถอะ!”  ขวานยักษ์ที่น่ากลัวฟันลงอีกครั้งและมันทำให้พื้นที่โดยรอบแข็งชะงักทันที

ขวานนี้ถึงระดับเคล็ดวิชา‘กำหนด’ แล้ว

ไม่มีที่ให้นักรบระดับเก้าได้หนี  “อ๊า!”  เสียงร้องโหยหวนดังได้ยิน และจากนั้นอวัยวะสำคัญกระจัดกระจายเพราะขวานยักษ์ เลือดและอวัยวะภายในกระจายไปทุกที่และร่างของเขาฟาดกับพื้นอย่างรุนแรงไม่มีทางลุกขึ้นมาได้อีกเลย

แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นนักรบระดับเก้าแต่เกทส์เป็นนักรบระดับเก้าชั้นสูงและเป็นนักรบอมตะ  ความแตกต่างมีมากมายเกินไป

นักรบอีกสี่คนเผชิญหน้ากับบูนอังเก้และเฮเซอร์ อังเก้บังคับให้สองนักรบในกลุ่มถอยออกไป  ตาของเฮเซอร์ บูนและอังเก้เต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดอำมหิต

การสู้รบปรากฏผลอย่างรวดเร็ว

“ใต้เท้านอกจากข้าเองแล้วอีกห้าคนไม่สามารถหลบหนีได้” บุรุษผมทองตาเดียวดูเหมือนไม่ยอมรับผลที่ออกมาเช่นนี้

หน้าของเวสพอร์ตเตอร์และกิลเยโมบิดเบี้ยวน่าเกลียด

“เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?  พวกเจ้าเป็นนักรบระดับเก้า!”  หน้าของเวสพอร์ตเตอร์ซีดขาวอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เขาพูด

“ข้าเห็นลินลี่ย์และนักรบอมตะเหล่านั้นอยู่ในเมือง”  กิลเยโมพูดทันที  พลังระดับกิลเยโมแม้ว่าจะห่างออกไปหลายกิโลเมตร เขาก็สามารถเห็นลินลี่ย์และคนอื่นๆ บนกำแพงเมืองได้

เสียงของเวสพอร์ตเตอร์ทุ้มต่ำ  “กิลเยโมหรือว่าลินลี่ย์จะเพิกเฉยข้อตกลงก่อนนี้และลงมือกับนักรบระดับเก้า?”

“ไม่น่าจะเป็นลินลี่ย์”  กิลเยโมส่ายศีรษะ  “ถ้าเป็นเขามีแนวโน้มว่าจะไม่เหลือนักรบให้หนีรอดได้แม้แต่คนเดียว  ข้าคาดว่านักรบอมตะที่ยังไม่ถึงระดับเซียนในร่างมนุษย์  นอกจากพลังของพวกเขาแล้วคงไม่ใช่เรื่องยากที่พวกเขาจะจัดการกับนักรบระดับเก้าธรรมดาได้”

เวสพอร์ตเตอร์เริ่มหงุดหงิด

“เจ้าไปได้แล้ว”  นักรบผู้โชคดีรอดชีวิตออกไป

เวสพอร์ตเตอร์ออกคำสั่ง “ให้ทหารที่กำลังโจมตีถอนกำลังเดี๋ยวนี้ วันนี้เราจะพักไว้เพียงเท่านี้ก่อน”

“ขอรับ ใต้เท้า”  คนถ่ายทอดคำสั่งวิ่งออกไปทันที

กิลเยโมมองดูเวสพอร์ตเตอร์อย่างงงงวย  เวสพอร์ตเตอร์หลับตา  หลังจากนั้นชั่วขณะเขาลืมตาและพูดอย่างใจเย็น  “กิลเยโม! ตอนกลางคืนเตรียมสั่งให้คนของเราโจมตีอีกครั้ง  ตอนดึกเราต้องยึดเมืองให้ได้ก่อนตะวันจะขึ้นในวันพรุ่งนี้  เราจะต้องทุ่มเททุกอย่างในชีวิตเท่าที่จำเป็น”

“ตอนดึก?” กิลเยโมขมวดคิ้ว ขณะมองดูเวส พอร์ตเตอร์ “ต่อให้เราไม่สนใจเรื่องชีวิตของนักรบ แต่มันยากจะตีฝ่าได้”

ไม่ว่าจะเป็นทั้งกิลเยโมหรือเวสพอร์ตเตอร์ล้วนไม่สนใจชีวิตของทหารธรรมดาทั้งนั้น พวกเขาสั่งคนได้เป็นจำนวนมาก และความจริงก็คือเพื่อใช้ประโยชน์ในการลดจำนวนประชากรเล็กน้อยผ่านการทำสงคราม  นักรบธรรมดาฝึกอบรมมาปีหรือสองปีเท่านั้น

พวกเขาไม่สนใจชีวิตทหารธรรมดา

สิ่งที่พวกเขาสนใจก็คือทหารฝีมือดี

ตัวอย่างเช่นทหารแสนคนที่ถูกส่งไปโจมตีประตูทิศตะวันออกเป็นต้น

“คืนนี้เราจะโจมตีเมืองให้ได้  ไม่ว่าจะต้องทุ่มเทเพียงไหนก็ตาม  ถ้าภายในเวลาตีห้าเรายังตีเมืองไม่ได้  จากนั้นเราจะใช้ไม้ตายเผด็จศึกของเจ้า”  เวส พอร์ตเตอร์มองดูกิลเยโม  “ว่ายังไง, กิลเยโม?”

“ไม้ตายเผด็จศึกของเรา?”  กิลเยโมเงียบไปชั่วขณะ

เขารู้ว่าเวสพอร์ตเตอร์พูดถึงอะไร กิลเยโมพยักหน้าเล็กน้อย “เอาอย่างนั้นก็ได้!”

ความจริงถ้าพวกเขาเริ่มโจมตีตอนกลางคืนและสู้อย่างทุ่มเทจนถึงเวลาตีห้าต่อให้พวกเขาไม่สามารถทะลวงฝ่าเข้าไปได้ พวกเขาก็สามารถทำให้กองกำลังเมืองค็อดอ่อนกำลังลงได้  พอถึงจุดนั้น ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาจะใช้ไม้ตายเผด็จศึก เพื่อให้แน่ใจว่าชัยชนะเป็นของพวกเขา

นักรบนับไม่ถ้วนที่อยู่ด้านล่างกำแพงถอยออกไปเหมือนกับน้ำ

ว็อทส์ยืนอยู่ด้านบนกำแพงเมืองสีหน้าไร้ความรู้สึก

ลินลี่ย์มองดูว็อทส์อยู่ใกล้ๆสายตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม เพียงแค่นั้นเขามองดูกระบวนการสู้รบทั้งหมด  ศัตรูโจมตีอยู่หลายครั้งและประตูทิศตะวันออกและประตูทิศตะวันตกแต่คำสั่งของว็อทส์จัดการกองกำลังฝ่ายตรงข้ามได้อย่างสมบูรณ์ดี

“ว็อทส์” ลินลี่ย์ บาร์เกอร์ บูน อังเก้และคนอื่นเดินตรงมาหาเขา

ว็อทส์คำนับทันทีที่เขาเห็นกลุ่มคนชุดนี้

ลินลี่ย์ยิ้ม  “การสู้รบวันนี้ได้ผลสรุปแล้ว  ว็อทส์ คืนนี้พักผ่อนให้ดีล่ะ”

“ไม่ต้องทำอย่างนั้น ใต้เท้า”  ว็อทส์มีสีหน้าเคร่งเครียดมาก “วันนี้ศัตรูโจมตีเราหลายครั้งด้วยกองทัพของพวกเขา  พวกเขาใช้กองทหารฝีมือดีพยายามทำลายประตูทิศตะวันออกแล้วส่งนักรบระดับเก้ามาทำลายประตูทางทิศใต้ และพวกเขามีทหารโจมตีอย่างบ้าคลั่ง.. ข้ารู้สึกว่าผู้บัญชาการฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่คนอดทนเท่าใดนัก ข้าคาดว่ากลยุทธต่อไปของเขาจะเปิดเผยให้เห็นในวันนี้หรือไม่ก็พรุ่งนี้  คืนนี้พวกเขาอาจจะลอบโจมตีเราก็ได้”

ว็อทส์มองดูค่ายของศัตรู

เมื่อทหารทั้งสองฝ่ายเข้าโรมรันพันตู ถ้าฝ่ายใดสามารถเข้าใจนิสัยของผู้บัญชาการฝ่ายตรงข้ามได้  ก็จะทำนายการกระทำของศัตรูได้ดีกว่า

“โอว?” ใบหน้าของลินลี่ย์มีรอยยิ้ม

เกทส์หัวเราะลั่น “ใต้เท้าลินลี่ย์  ไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว  การคาดการณ์ของว็อทส์มีแนวโน้มว่าจะเกิดได้ถึง90%”

คืนนั้นลินลี่ย์ บาร์เกอร์ และคนอื่นกำลังดื่มกินอยู่ที่ลานว่างเพราะว็อทส์คาดการณ์ว่าศัตรูจะพยายามลอบเข้ามาโจมตีคืนนี้  พวกเขาทุกคนจึงนั่งรอ

“ห้องมิติลับ?” บูนดูเหมือนตกใจกับคำพูดของลินลี่ย์

บาร์เกอร์พยักหน้าเช่นกัน  “ตอนนี้ แม้แต่ข้าที่ไม่มีความสัมพันธ์ธาตุที่ดีนักก็ยังรู้สึกถึงได้ชัดถึงธาตุต่างๆ ในห้องลึกลับ ความรู้สึกแบบนั้นเฉพาะตัวมาก ข้ารู้สึกว่าได้อยู่ใกล้กับธรรมชาติมากว่าที่เคยเป็นมาก่อน”

“อังเก้ บูน เกทส์ เฮเซอร์พวกท่านจำเป็นต้องฝึกหนัก ในอนาคตเมื่อพวกท่านเป็นระดับเซียนแล้ว พวกท่านจะสามารถเข้าไปฝึกในห้องมิติได้”ลินลี่ย์ยิ้ม

ห้องมิติกว้างสิบเมตร  สามารถให้คนหลายคนเข้าไปฝึกรวดเดียวได้

ทันใดนั้น,เสียงร้องต่อสู้รุนแรงดังมาจากประตูทิศใต้ ตามมาด้วยเสียงลั่นจากปืนใหญ่พลังเวทอย่างดุเดือด  เสียงร้องทุกข์ทรมานดังมาในอากาศเป็นระยะๆ..ลินลี่ย์ บาร์เกอร์และพวกที่เหลือต่างมองหน้ากัน จากนั้นจึงเริ่มหัวเราะ

“ว็อทส์ผู้นั้น เขาคาดเดาได้ถูก  มาเถอะ”  ลินลี่ย์เริ่มรู้สึกชื่มชมว็อทส์

กลุ่มของพวกเขารีบเร่งตรงไปที่ประตูเมืองทิศใต้  ยิ่งพวกเขาใกล้เข้าไปเสียงของการสู้รบก็ยิ่งดังกราดเกรี้ยวน่ากลัวมากขึ้น  ประกายคบเพลิงบนพื้นข้างล่างจากกำแพงเมืองเต็มไปด้วยซากศพ  ขณะที่มีทหารจำนวนมากมายร่วงตกลงไปจากกำแพงเนื่องจากทหารจากข้างล่างยิงธนูขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน

“บันไดเทียบกำแพง” ลินลี่ย์เห็นได้ทันทีถึงสิ่งก่อสร้างที่เคลื่อนที่มาตามทางมุ่งสู่เมืองช้าๆ

บันไดเทียบกำแพงเมืองกว้างเกินสี่สิบเมตรและสร้างขึ้นจากเหล็กและปูน เป็นป้อมขนาดยักษ์กำลังเคลื่อนที่ช้าๆตรงเข้ามายังกำแพงเมือง  ส่วนของป้อมเคลื่อนที่หันหน้าเข้าหากำแพงเมืองสร้างขึ้นมาจากเหล็กหนา

“บึ้ม!”  ปืนใหญ่พลังเวทยิงเข้ามายิ่งเพิ่มความโกรธให้พวกเขา

บอลเพลิงเพียงแต่ทำให้ชั้นหนึ่งเหล็กละลาย  แต่เหล็กกล้าหนาหลายเมตรสิ่งก่อสร้างชนิดนี้ไม่ได้กระทบกระเทือนแม้แต่น้อย  มีป้อมบันไดเทียบกำแพงเมืองอยู่สิบป้อมและทั้งหมดตั้งแถวค่อยๆ เคลื่อนหน้าเข้าหากำแพงเมือง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด