ตอนที่แล้วตอนที่ 316 – ตอนที่ 297 วิหคเพลิงอมตะหลากสี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 318 – ตอนที่ 299 หลั่งเลือดต่อสู้คว้าชัย

ตอนที่ 317 – ตอนที่ 298 อย่าอวดอำนาจเกิน มิฉะนั้นจะถูกฟ้าผ่า


เมื่อเย่ว์หยางและจ้าวปีศาจสู้กันอยู่นั้น ที่ปราสาทตระกูลเย่ว์ เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดเช่นกัน

ในกลุ่มคนพวกนี้ คนที่มีช่วงเวลาที่ง่ายดายที่สุดเป็นเสวี่ยทันหลาง

แม้ว่าคุณชายสามตัวปลอมจะเป็นนักสู้ระดับ 6 ก็ตาม แต่ระดับของเขาถูกเลื่อนขึ้นมาด้วยวิธีผิดปกติด้วยฝีมือของนักสู้ปราณก่อกำเนิด ไม่ใช่สิ่งที่เขาฝึกฝนด้วยตนเอง สู้กับอัจฉริยะอย่างเสวี่ยทันหลางผู้ฝึกฝนมาอย่างหนักตั้งแต่เล็ก ไม่เพียงไม่สามารถเอาชนะเหนือเขาได้เท่านั้น แต่เสวี่ยทันหลางยังสามารถหลบได้อย่างง่ายดาย เขายังใช้พลังไม่ถึงครึ่งที่มีอยู่ด้วยซ้ำ ถ้าคุณชายสามตัวปลอมไม่มีสองนักสู้จากอาณาจักรสือจินคอยช่วยเหลือเขา เขาคงเจ็บตัวประสบความพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเสวี่ยทันหลางไปแล้ว

เป็นไปไม่ได้ที่คุณชายสามตัวปลอมจะเอาชนะได้ ไม่ว่าจะเทียบความแข็งแกร่งในด้านใดก็ตาม ทั้งวิชา, หรือสัตว์อสูร เสวี่ยทันหลางข่มเขาได้หมด

เพราะการปรากฏตัวของเย่ว์หยางในฐานะสุดยอดอัจฉริยะและเป็นความหวังของตระกูล จึงสร้างแรงกดดันให้เสวี่ยทันหลางมากมาย

หลังจากฝึกฝนมานานและหนักจนเกือบเป็นการทรมานตนเอง เสวี่ยทันหลางจึงมีพลังรุดหน้าอย่างมาก ประกอบกับได้รับคำสอนและแนะนำของพี่สาวของเขา คุณชายสามตัวปลอจึงมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแม้แต่น้อย ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการจับเป็นคุณชายสามตัวปลอมและล้างมลทินให้ว่าที่พี่เขยของเขา เสวี่ยทันหลางคงเอาชนะไปนานแล้ว

สำหรับสองนักสู้ของอาณาจักรสือจินที่เข้ามาช่วย พลังของพวกเขายังไม่อยู่ในระดับเดียวกับคุณชายสามตัวปลอม พวกเขาเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าหลังจากโดนพายุหิมะความเร็วสูงที่เสวี่ยทันหลางสร้างเล่นงานและไม่สามารถออกมาได้

เจ้าอ้วนไห่และเย่คงต่อสู้อย่างยากลำบากที่สุด

ทั้งสองคนต้องสู้กับเย่ว์ชิวตัวปลอมโดยรุกกระหนาบเขาไว้ตรงกลาง พวกเขาต้องลำบากกับการรับมือวิชาดาบของเย่ว์ชิว ดาบผ่าปฐพี

แม้เย่ว์ชิวผู้นี้จะเป็นตัวปลอมก็ตาม แต่วิชาดาบของเขากลับเป็นของจริง

ถ้าไม่ใช่เพราะสัตว์อสูรของพวกเขามีพลังป้องกันที่เหลือเชื่อ พวกเขาเพิ่งจะทำสัญญากับแมมม็อธสายฟ้า และวานรทองปีศาจที่กลายเป็นอสูรชั้นทองจากการยกระดับจากอสูรทองแดงทำให้มีพลังรุดหน้ามากมาย แต่พวกเขาก็ยังโดนเย่ว์ชิวตัวปลอมเล่นงานสะบักสะบอม พี่น้องตระกูลหลี่พยายามเข้ามาช่วยเหลือ แต่พวกเขาก็วุ่นเกินไป ทั้งนี้เพราะขุนพลปีศาจบางส่วนที่ออกมาจากประตูเทเลพอร์ตได้บุกจู่โจมใส่พวกเขาจากทุกด้าน ยังดีที่หนึ่งในขุนพลปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวเล่นงานทันที มิฉะนั้น พี่น้องตระกูลหลี่คงไม่สามารถสู้กับกำลังเสริมที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุดยั้ง

“ฆ่ามัน, ฆ่า” พี่น้องตระกูลหลี่ฆ่าจนกระทั่งนัยน์ตาเป็นสีแดง ของที่เขาเพิ่งยึดมาได้ ก็คืออาวุธระดับทองดาบคู่หัวศรที่ทำให้พวกเขาต่อสู้ได้เหมือนกับเสือติดปีก

จำนวนปีศาจที่ทั้งสองคนฆ่าเกือบถึงร้อย ทว่ายังมีปีศาจออกมาจากประตูเทเลพอร์ตอีกมาก พวกเขาฆ่าได้ไม่หมด

แม้ว่าทหารยามประจำตระกูลเย่ว์จะไม่เข้าใจสถานการณ์ ไม่รู้ว่าจะช่วยเย่ว์ชิวหรือเย่ว์หยางดี แต่พวกเขารู้ว่าการรุกรานของปีศาจก็คือหายนะ มีอยู่หลายคนหยิบอาวุธขึ้นต่อสู้กับปีศาจ พวกเขามีความเข้มแข็งและสามารถฆ่าปีศาจชั้นต่ำได้

ลานฝึกวิชาของปราสาทตระกูลเย่ว์ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง เห็นได้ชัดว่ามีอยู่หลายคนกำลังต่อสู้กันอยู่

นอกจากกองกำลังป้องกันตระกูลเย่ว์แล้ว ยังมีทหารฝีมือดีจากอาณาจักรสือจินเป็นจำนวนน้อยมากที่ถืออาวุธเข้าห้ำหั่นกับปีศาจ เหตุผลเป็นเพราะทันทีที่ปีศาจกรูกันออกมา พวกมันไม่สนใจว่าเป็นสหายหรือศัตรูและฆ่าคนที่พวกมันเห็น แน่นอน ทหารของสือจินจึงถูกบังคับให้ต้องป้องกันชีวิตตนเอง พลังของหลินเหล่ยและหลินเหมี่ยวอย่างมากที่สุดก็แค่สู้กับปีศาจเขียวและเหลือง พวกปีศาจแข็งแกร่งยังไม่เคลื่อนไหว โดยเฉพาะหลินเหมี่ยวกลัวจัด ทันทีที่หลินเหมี่ยวเห็นปีศาจที่แข็งแกร่งปรากฏตัว เขาจะรีบวิ่งหนีล้มกลิ้งล้มหงายล่อปีศาจไปทางยอดฝีมือจากอาณาจักรสือจิน

ความจริงแผนนี้ สร้างปัญหาให้คนอื่นจริงๆ จนทำให้ทหารจากสือจินตายไปหลายคน

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสู้กับผู้อาวุโสปีศาจร้อยแปลง

พลังความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสปีศาจร้อยแปลงแห่งนิกายพันปีศาจสูงล้ำมาก นางเป็นนักสู้ระดับ 8 และความแข็งแกร่งของนางใกล้เคียงระดับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิด ถ้าเป็นเจ้าอ้วนไห่และเย่คง บางทีพวกเขาอาจจะถูกเล่นงานเกือบตายก็ได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากร่างขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้รับการชำระด้วยเพลิงอมฤต ควบคู่กับฝึกร่างนางกับอักษรรูนโบราณและฝึกผสานร่างกับเย่ว์หยาง แม้ว่านางจะยังไม่บรรลุระดับปราณก่อกำเนิดก็ตาม แต่นางกล้าสู้กับนักสู้ปราณก่อกำเนิดทั้งที่นางยังไม่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด ไม่เพียงแต่แค่นั้น นางยังมีทักษะที่ทำร้ายคู่ต่อสู้ของนางให้บาดเจ็บหนักได้ อาจเห็นได้ว่าพลังรุกของนางยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ

ผู้อาวุโสปีศาจร้อยแปลงยอดเยี่ยมกว่าในเรื่องความเร็ว ขยับขึ้นลงหลบหลีกพลังโจมตีได้ นางไม่กล้ารับพลังดาบยักษ์ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโดยตรง

ขณะเดียวกัน กรงเล็บของนางอาบยาพิษร้ายแรงถึงตาย ดังนั้นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต้องรับมือด้วยความระมัดระวัง

เจ้าเมืองโล่วฮัว, เย่ว์หวี่และอี้หนานร่วมกันต่อสู้กับผู้อาวุโสปีศาจที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาใหม่คือ ปีศาจร้อยปีก, ปีศาจร้อยตา, ปีศาจร้อยกรงเล็บ สามผู้อาวุโสปีศาจเหล่านี้ยังมีพลังห่างกันช่วงใหญ่เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสปีศาจร้อยแปลง พวกเขาแค่มีพลังแข็งแกร่งระดับ 6 เท่านั้น ถ้าพลังแสงอุษาของเจ้าเมืองโล่วฮัวยิงถูกเป้าหมาย หนึ่งในพวกเขาจะต้องตายทันทีแน่นอน

แม้ว่าชื่อของผู้อาวุโสปีศาจทั้งสามจะยิ่งใหญ่ แต่พลังของพวกเขาแค่เพียงพอจะโค่นเย่ว์หวี่เท่านั้น พวกเขาไม่มีทางจะได้เปรียบอี้หนานผู้ครอบครอง “ภูตกระจก” อสูรระดับทองได้

ทันทีที่พลังวิเศษของอี้หนานถูกใช้ ก็อาจทำให้ผู้อาวุโสปีศาจตนใดตนหนึ่งเป็นบ้าได้

นางกำลังหาโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปีศาจร้อยตาผู้ใช้อสูรตาแมวเป็นหลัก พวกเขาค่อยๆ เดินเข้าหากับดักมรณะที่อี้หนานวางไว้ นางเตรียมสร้างฝันมรณะให้พวกมัน อันจะเป็นเหตุให้ความกลัวจากก้นบึ้งจิตใจค่อยๆ ผุดขึ้นมาจนพวกเขาสูญเสียสติ

ในกลุ่มของศัตรู ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดไม่มีใครเกินสื่อจินโหว

เสวี่ยอู๋เสียต่อสู้กับศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวนี้ด้วยตัวเอง

นอกจากนางแล้ว ไม่มีใครอื่นสามารถสู้กับสื่อจินโหวได้

กับคู่ต่อสู้คนนี้ของนาง เสวี่ยอู๋เสียยอมสู้กับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 1 ดีกว่าที่จะสู้กับเจ้าผู้นี้ เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และมีกลอุบายแอบซ่อนไว้เสมอ สื่อจินโหว เจ้าชายแห่งแดนปีศาจผู้ซ่อนความแข็งแกร่งเตรียมเป็นทายาทของจ้าวปีศาจในอนาคต เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขาสู้ชนะแม่เฒ่าฉือและบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้ เขายังสู้กับเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสีย ในที่สุดเขาเกือบฆ่าเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียในวันนั้น และเย่ว์หยางได้แอบเรียนรู้วิธีเทเลพอร์ตเฉพาะพื้นที่จากเขา

“ข้าไม่สนใจจะสู้กับเจ้า!” สื่อจินโหวเทเลพอร์ตออกมาจากปราสาทตระกูลเย่ว์

“งั้นก็ไปซะ!” เสวี่ยอู๋เสียใช้พลังเทเลพอร์ตสายลมในทำนองเดียวกันไล่ตามเขาติดๆ

สื่อจินโหวหลบการโจมตีจากนางพญากระหายเลือดได้ ก่อนที่ฮุยไท่หลางจะมาทัน สื่อจินโหวคว้าเอาหัวนักสู้ปราณก่อกำเนิดปีศาจฉือเหลียวหลังจากที่ร่างเขาระเบิด

ฮุยไท่หลางโกรธจัดจนขนตั้งชัน

มันไม่ง่ายที่จะทำให้ศัตรูกลัวหนีไปตอนนี้ ก่อนที่จะได้รับรางวัลยังมีเวลาเรียกน้ำย่อยของมันได้ แต่ก็ถูกปีศาจตัวหนึ่ง (สื่อจินโหว) ชิงไปได้ ที่สำคัญนั่นคืออาหารของมัน ฮุยไท่หลางกระโจนใส่สื่อจินโหว ส่วนในท้องฟ้าตั๊กแตนมรณะและนางพญากระหายเลือดก็พุ่งลงมาพร้อมกัน โคเงาและปีศาจดอกหนามก็ยังล้อมมาจากด้านข้าง

ถ้าเป็นศัตรูอื่น พวกมันอาจจะฝังลงหลุมศพไปได้ในตอนนี้แล้ว

อย่างไรก็ตาม สื่อจินโหวมีแผนหลบหนีแล้ว

เขาไม่เร่งร้อนเทเลพอร์ตหนีไป เขาเรียกคัมภีร์ของเขาและกางโล่ป้องกันการจู่โจมของฮุยไท่หลาง

สัตว์อสูรที่ถูกเรียกออกมาแต่ละตัวจะล่อความสนใจฮุยไท่หลางและตั๊กแตนมรณะที่กำลังไล่ฆ่าเขา เสวี่ยอู๋เสียสังเกตว่าเจ้าผู้นี้ไม่ได้เรียกออกมาจากคัมภีร์ของเขา แต่เรียกมาจากแก้วผลึก นางถึงกับใจสั่น นางจำได้ถึงความคิดที่เย่ว์หยางบอกนางไว้ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น สื่อจินโหวผู้นี้อาจไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเย่ว์ชิวตัวปลอมสู้ เขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา หรือว่าบางทีเขาใกล้จะกลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด แต่ขาดสิ่งจำเป็นบางอย่าง บางทีเขาอาจต้องการของ หรือจำเป็นต้องเรียนรู้เคล็ดวิชาบางอย่างเพื่อเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดก็ได้

เสวี่ยอู๋เสียรู้สึกว่าสิ่งที่เย่ว์หยางพูดมีเหตุผลมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเห็นสื่อจินโหวคว้าศีรษะของฉือเหลียว การกระทำเช่นนี้ยืนยันข้อสงสัยได้มาก

หัวปีศาจปราณก่อกำเนิดฉือเหลียวเป็นของจำเป็นเพื่อกลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดสำหรับสื่อจินโหวแน่นอน

“ข้าจะจากไปเดี๋ยวนี้ ข้ามีความสุขนะสำหรับของขวัญที่พวกเจ้าให้ข้า เมื่อมีโอกาสภายหลัง ข้าจะชดใช้คืนเป็นร้อยเท่า ข้าขอสาบานในนามจ้าวปีศาจในอนาคต” สื่อจินโหวเปิดม้วนเทเลพอร์ตทอง จากนั้นจากนั้นข่วนอกและใบหน้าจนเป็นรอย

“เอ๋?” นางพญากระหายเลือดมีสติปัญญาเพียงพอจะทำการตัดสินใจเรื่องความเคลื่อนไหวของศัตรูได้ อย่างไรก็ตาม นางไม่อาจคิดเข้าใจความหมายของการกระทำของสื่อจินโหว

ประตูเทเลพอร์ตสีทองเปิดออก และมีบุรุษสามคนออกมาจากในนั้น

หนึ่งในนั้นเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่ดูดุร้าย เสวี่ยอู๋เสียสามารถระบุได้อย่างรวดเร็วว่าเขาเป็นหนึ่งในห้าผู้อาวุโสปูชนียบุคคลแห่งอาณาจักรสือจิน นี่คือนักสู้ปราณก่อกำเนิดนามว่าโหลวเว่ย เป็นเสนาบดีแห่งอาณาจักรสือจิน  เดิมทีเขาเกิดในประเทศเล็กๆ เรียกว่าเย่ว์จือ เขาเป็นหนึ่งในข้าราชสำนักในอาณาจักรเย่ว์จือ ต่อมาเขาทรยศกษัตริย์ของเขาและแปรพักตร์ไปเข้ากับอาณาจักรสื่อจิน จากนั้นเป็นต้นมาเขานำกองทัพด้วยตนเอง บดขยี้อาณาจักรเย่ว์จือจนราบ ชิงสตรีของกษัตริย์ไปเป็นของตนทั้งหมด เขากลายเป็นคนเลวที่สุด อกตัญญูที่สุดที่หันหน้าไปเข้ากับศัตรู

เพราะหนึ่งในธิดาของกษัตริย์แห่งเย่ว์จือเป็นศิษย์ลับของนิกายตำหนักภูตจันทราอุดร คนทั่วไปไม่รู้สถานะที่พิเศษของนาง ต่อมานางถูกโหลวเว่ยข่มขืนและฆ่า ทำให้ตำหนักภูตจันทราเหนือส่งผู้อาวุโสสองคนมาฆ่าโหลวเว่ย

ภายใต้การขัดขวางของนักสู้ของอาณาจักรสือจินและนิกายเจดีย์ราชสีห์ ผู้อาวุโสทั้งสองบาดเจ็บหนัก อย่างไรก็ตามพวกท่านยังสามารถจับโหลวเว่ยตอนเป็นขันที ก่อนที่จะปล่อยเขาหนีรอดชีวิตไปได้

เพราะเหตุนี้ นิกายตำหนักภูตจันทราเหนือจึงประกาศว่าพวกเขาจะไม่รับศิษย์สตรีจากอาณาจักรสือจิน

ประชาชนภายนอกไม่ทราบเหตุและคิดว่ากษัตริย์ของสือจินไม่ให้เกียรติพวกตำหนักภูตจันทราเหนือ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาปกป้องคนเลวอย่างโหลวเว่ย แน่นอนว่านิกายตำหนักภูตจันทราเหนือก็แค้นเขาไปด้วย ประชาชนคิดว่าโหลวเว่ยได้รับการลงโทษแล้ว แต่เขาได้รับมอบตำหนักจันทราและได้เป็นเสนาบดีกรมวังของอาณาจักรสือจิน

ด้านหลังโหลวเว่ย คนที่สองมีผิวขาวซีด เขามีลักษณะตุ้งติ้งเหมือนกะเทยและเป็นที่รักที่สุดของโหลวเว่ย คอยติดตามเขาไปทุกที่

หลังจากได้รับการฝึกฝนภายใต้ความเอาใจใส่ของโหลวเว่ย บุรุษที่เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงของเขาทั้งสองนี้มีพลังของนักสู้ระดับ 6 วิธีฆ่าของพวกเขาโหดเหี้ยมและอำมหิตมาก พวกเขามักจะฆ่าทุกคน พวกนักรบในโลกมักแอบเรียกพวกเขาว่า “สองสุนัขหอกเบญจมาศ” แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าเรียกพวกเขาอย่างนั้นต่อหน้า ได้แต่เรียกว่า สองขุนพลหอกเบญจมาศ

“ฝ่าบาท, ทำไมมีเลือดหยดออกมาจากแผลเล่า? ใครหนอที่กล้าทำร้ายร่างกายที่ล้ำค่าของท่าน?”

โหลวเว่ยมองขึ้นฟ้า เหมือนกับว่าเขาไม่สนใจทุกสิ่งรอบตัว

เกี่ยวกับเรื่องของสื่อจินโหว เขาแค่เพียงกล่าวต้อนรับเล็กน้อย พลางยินดีกับสื่อจินโหว เขาถามด้วยเสียงอ่อนนุ่มเหมือนผู้หญิง แต่ฟังดูน่ารังเกียจ

แม้ว่าเสวี่ยอู๋เสียจะเป็นสตรี แต่นางก็ยังสะท้านเมื่อได้ยินเสียงของเขา

ยังดีที่ท้องของนางย่อยอาหารที่กินไปแล้ว มิฉะนั้นนางคงอาเจียนอาหารออกมาทั้งหมดเพราะได้ยินเสียงเช่นนี้

มีเส้นเลือดปูดออกมาจากขมับของสื่อจินโหว เหมือนกับว่าเขาไม่สามารถทนเจ้าผู้นี้ได้ อย่างไรก็ตาม เขายังทำเป็นเหมือนว่าได้รับบาดเจ็บและไอสองครั้ง “ข้าได้รับบาดเจ็บ และต้องการพักฟื้นอย่างเร่งด่วน ยากที่จะสู้ต่อไป ข้าจะปล่อยให้ท่านจัดการทั้งหมดนะ เสนาบดี!”

โหลวเว่ยยิ้มและพยักหน้า “สบายใจได้, ข้าผู้เสนาบดีมีแผนเรียบร้อยแล้ว ข้าจะทำงานให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ และจะไม่ยอมให้ฝ่าบาทของข้าต้องผิดหวัง”

สื่อจินโหวโซซัดโซเซจนเกือบล้ม

โชคดีที่ขาของเขายั้งได้ทัน เขารีบเปิดม้วนเทเลพอร์ตและจากไปเหมือนกับว่าเขากำลังหลบหนีไป

“เจ้าอยากตายอย่างไร? เจ้าควรจะรู้เรื่องหนึ่งนะว่า เสนาบดีวังผู้นี้เกลียดผู้หญิงสวยเป็นที่สุด ถ้าพวกนางสวยกว่าเสนาบดีผู้นี้ พวกนางก็ต้องตายกันทั้งหมด เสี่ยวจี เสี่ยวหัว พวกเจ้าจะรออะไร? นี่คือสุนัขชั้นดีกันทั้งนั้น เมื่อข้าเสนาบดีผู้นี้ทุบตีพวกมันแล้ว พวกเจ้าค่อยทำสัญญากับพวกมันทั้งหมด สำหรับสตรีพวกนั้น พวกที่ควรถูกถลกหนังก็ให้ถลกหนัง พวกที่ควรถูกบดขยี้ ก็ขยี้ซะ เจ้าทั้งสองทำงานให้ดี แต่ถ้าเจ้าโกงข้า ข้าก็คงไม่เห็นด้วยนะ เจ้าก็รู้” คำพูดของโหลวเว่ยทำให้ฮุยไท่หลางอ้วกทันที จนถึงกับตัวสั่น

“ผู้นี้..เป็นไปได้ไหมที่เจ้าผู้นี้เรียกว่าหญิงโสโครก เหมือนอย่างที่นายท่านบอกเราไว้?” นางพญากระหายเลือด อาหงชี้มาที่โหลวเว่ย เหมือนกับว่านางเพิ่งนึกเรื่องนี้ได้ และถามนายหญิงในอนาคตอย่างเสวี่ยอู๋เสวีย

“หญิงโสโครก? อือ หญิงโสโครกรสชาติดีหรือเปล่า?” ปีศาจดอกหนามพูดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สีหน้าและดวงตาของนางบ่งบอกความหมายอย่างนั้น

“ไม่ใช่อย่างนี้นะ, หญิงโสโครก, หญิงโสโครกคือสิ่งที่เจ้าจะต้องทุบด้วยพลังทั้งหมดของพวกเจ้า, ไม่สิ, มันไม่ใช่อาหาร! อา, ใครจะสนกันเล่า! ค่อยกินเขาทีหลังก็ได้!” นางพญากระหายเลือดไม่เหมือนปีศาจดอกหนามที่กินคนได้ อย่างไรก็ตาม นางรู้สึกว่าถ้าปีศาจดอกหนามกินโหลวเว่ยผู้นี้ อย่างนั้นความขยะแขยงในใจนางอาจลดลงบ้าง แน่นอนว่า นี่เป็นครั้งแรกที่นางไม่คัดค้านปีศาจดอกหนามมิให้กินคน

“ข้าเห็นด้วย” เสวี่ยอู๋เสียพยักหน้า นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่นางเกิดที่นางคิดว่าการกินคนเป็นความคิดที่ไม่เลว

“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!” ฮุยไท่หลางคัดค้าน มันรู้สึกว่าตัวโสโครกนี้ ทันทีที่กินลงไปอาจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน มันปฏิเสธที่จะกินโหลวเว่ย

บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม

ยังคงเป็นโคเงาอาหมันที่มีความเคลื่อนไหวที่จริงจังมากที่สุด นางปล่อยพลังเต็มที่กระทืบพื้นแล้ววิ่งเข้าใส่โหลวเว่ย

นางเหวี่ยงหมัดและต่อยไปที่เขา

แน่นอนว่า ไม่มีผู้ใดช้ากว่านาง

ในอากาศ ตั๊กแตนมรณะและนางพญากระหายเลือดมาถึงพร้อมกัน หนามนับไม่ถ้วนแทงออกมาจากพื้น นั่นคือผลงานชิ้นโบว์แดงที่เย่ว์หยางวางแผนสู้ให้ปีศาจดอกหนาม นักรบดอกหนาม ครั้งหนึ่งมันใช้ทำลายจ้าวอัคนีสูงสามสิบเมตรโดยไม่มีเหงื่อตกด้วยซ้ำ มันเคลื่อนไหวอีกครั้ง ประกอบไปด้วยเถาหนามนับพัน

ฮุยไท่หลางบุกด้านซ้ายขณะที่อสูรทองน้อยบุกปีกขวา นายหญิงในอนาคตของพวกมันเสวี่ยอู๋เสียถือสายฟ้าด้วยมือข้างหนึ่งและน้ำแข็งด้วยมืออีกข้างหนึ่ง นางผสานมันเข้าด้วยกัน ทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยลูกเห็บและร่วมกับอาหมันบุกโจมตีทั้งข้างหน้าข้างหลัง

ปราณก่อกำเนิดหรือ?

นักสู้ปราณก่อกำเนิดกี่คนที่เย่ว์หยางฆ่า? นักสู้ปราณก่อกำเนิดทุกคนมีฝีมือจริงๆ หรือ

นักสู้ปราณก่อกำเนิดพูดจาน่าขยะแขยงได้หรือ?

แค่เพราะคนผู้หนึ่งกลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดทำเหลวไหลได้หรือ?

ฮุยไท่หลางมีความเสียใจอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าเพียงแต่มันสามารถพูดได้เหมือนนางพญากระหายเลือ อย่างนั้นมันจะบอกเจ้าโสโครกผู้นี้ เพื่อที่เขาจะได้ไม่หยิ่งเกินไป เหมือนอย่างที่เจ้านายมันพูด อย่ามาทำอวดอำนาจ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะถูกฟ้าผ่า

**************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด