ตอนที่แล้วตอนที่ 10-29 เลื่องชื่อลือนาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-31 แหล่งอัญมณีเวท

ตอนที่ 10-30 การค้นพบ


ถังน้อยบรรจุเต็มด้วยเลือดมังกรวางอยู่หน้าเด็กทั้งสามคนและพอลินลี่ย์พลิกมือคราหนึ่ง เขาดึงหญ้าใจฟ้าออกมากำใหญ่จากในแหวนของเขา  ใบสีหยกของหญ้าใจฟ้าเปล่งประกายเรืองแสงสีน้ำเงินบางๆลินลี่ย์แบ่งหญ้าออกเป็นสามส่วน แต่ละส่วนมีห้ากลุ่มก้อน

“ฟังนะพวกเจ้าทั้งสามคน” ลินลี่ย์มองดูเด็กทั้งสาม

ซีน่า เทย์ลอร์และชาชาทุกคนลุกขึ้นยืนอยู่ข้างหน้าของลินลี่ย์คอยฟังคำแนะนำของผู้อาวุโสของพวกเขา  ลินลี่ย์กล่าวให้ดื่มเลือดมังกรให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกว่าจะรู้สึกว่าเต็มท้อง แต่ก่อนที่จะทำเช่นนั้น  พวกเจ้าจะต้องกินหญ้าใจฟ้านี้ก่อนว่ากันตามเหตุผล หญ้าใจฟ้าคนละสามก้อนก็น่าจะเพียงพอแล้ว  แต่เพื่อให้ปลอดภัย  จะดีที่สุดพวกเจ้าควรกินให้ได้ห้าก้อน”

“กินหญ้า?” ชาชาเชิดจมูกไม่สบายใจ

จะให้เด็กคนหนึ่งกินหญ้าใจฟ้า  โดยเฉพาะเด็กที่ถูกฟูมฟักเลี้ยงดูมาตลอดชีวิตของเธอ  ย่อมได้รับการต่อต้านบ้างเป็นธรรมดา

“พี่ชาชา!!  เมื่อท่านพ่อยังเป็นวัยรุ่น ท่านต้องไปที่ภูเขาอสูรวิเศษด้วยตัวเองเพื่อหาหญ้าใจฟ้าและดื่มเลือดมังกรเกราะหนาม  แต่ตอนนี้ท่านพ่อเอาเลือดมังกรมาวางไว้ต่อหน้าเรา  เจ้ายังกลัวที่จะดื่มด้วยหรือ?”  เทย์เลอร์ไม่มีความห่วงกังวลอะไร  เขาคว้าหญ้าใจฟ้าทันทีและเริ่มกิน

เห็นก้อนใหญ่อย่างนั้น เขากระเดือกลงไปทั้งหมด

เมื่อเห็นเช่นนี้ ลินลี่ย์อดยิ้มไม่ได้  ลินลี่ย์พอใจเทย์เลอร์ลูกชายของเขา  แม้ว่าเทย์เลอร์จะค่อนข้างชอบเล่นสนุก  แต่เขาเป็นคนที่อดทนมีความเพียรพยายาม  และเขาก็ฝึกฝนได้ดี เทย์เลอร์ไม่ได้อ่อนแอกว่าระดับลินลี่ย์เมื่อตอนสิบขวบเท่าใดนัก

ซีน่ายิ้ม จากนั้นคว้าหญ้าใจฟ้ามาถือแล้วเริ่มกินเช่นกัน

“ชาชา, ไม่เป็นไรหรอก น้ำจากหญ้าใจฟ้าความจริงเย็นและสดชื่นนะ”  ซีน่าพูดหลอกล่อ

“เหรอ?” เมื่อถูกบิดาจ้องมอง ชาชาหยิบหญ้าใจฟ้าและเริ่มเคี้ยว  ขณะที่เธอเริ่มเคี้ยว ก็ทำหน้าเบ้เหมือนกินยาขม  “พี่ซีน่า เจ้าหลอกข้า นี่เหรอน้ำยาเย็น? แต่เจ้าใบไม้นี่ทำให้ข้าปากชาไปหมดแล้ว” ถึงแม้จะบ่น แต่ชาชาก็ยังคงกินต่อ

ลินลี่ย์กับเดเลียหัวเราะ

“อึกอึก” เทย์เลอร์เป็นคนแรกที่ยกถังเลือดน้อยและเริ่มจ่อปากดื่ม  เทย์เลอร์รู้ว่ายิ่งดื่มเลือดมังกรมากก็ยิ่งกระตุ้นพลังสายเลือดมังกรในเส้นเลือดของเขาได้  ดังนั้นเขาดื่มอึกใหญ่อย่างไม่ลังเล

ซีน่าและชาชายกถังเลือดและเริ่มดื่มเช่นกัน

“อึก อึก” เด็กทั้งสามดื่มเลือดมังกรพร้อมกัน ภาพนี้ทำให้ลินลี่ย์ถอนหายใจอย่างปลื้มใจในที่สุด

คนรุ่นก่อนตัดไม้ฟืนเผื่อ คนรุ่นหลังไม่ต้องกลัวหนาวเย็น

ลินลี่ย์พยายามอย่างหนักเท่าที่เป็นไปได้เพื่อไม่ให้ลูกหลานต้องเผชิญพบกับอันตรายที่ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย

“อ๊า!” คนแรกที่เริ่มตะโกนร้องออกมาอย่างเจ็บปวดคือเทย์เลอร์  ถังเลือดในมือของเขาหล่นลงพื้น และเทย์เลอร์เจ็บปวดจนล้มลงกับพื้นและเกลือกกลิ้งกับพื้น  หน้าของเขาซีดขาวทันทีและหยาดเหงื่อเริ่มไหลเต็มใบหน้าของเขา

หน้าของเดเลียเปลี่ยนทันที

“ไม่เป็นไร” ลินลี่ย์ให้ความมั่นใจเดเลีย

เดเลียรู้..ว่าครั้งแรกที่นักรบเลือดมังกรกระตุ้นพลังสายเลือดมังกรของพวกเขา  พวกเขาจะแปลงร่างได้โดยไม่ตั้งใจ  การแปลงร่างครั้งแรกนี้จะเจ็บปวดมาก ลินลี่ย์ได้ประสบกับความเจ็บปวดนี้มาในอดีตเช่นกัน...เมื่อความเจ็บปวดถึงระดับที่แน่นอน ความเจ็บนั้นจะหายไป  และแน่นอน

ขณะที่เกล็ดดำงอกออกมาจากตัวของเขา เทย์เลอร์ก็หมดสติ

หลังจากนั้นทันทีซีน่าและชาชาก็เริ่มกรีดร้องครวญครางเช่นกัน ทั้งสองคนนอนกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น   เกล็ดสีฟ้าเริ่มงอกออกมาจากร่างของซีน่า ความรู้สึกถึงเกล็ดที่งอกออกมาจากทั่วร่างเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกฆ่า

“ถ้าพวกเขาไม่สามารถทนความเจ็บปวดเล็กน้อยนี้ได้  พวกเขาจะบรรลุความสำเร็จอะไรได้?”  ลินลี่ย์มองดูเงียบๆ

ในเวลาสั้นๆเทย์เลอร์และซีน่าทั้งสองคนมีความเปลี่ยนแปลงเต็มที่  ขณะที่ชาชาเป็นคนสุดท้ายที่ดื่มเลือดมังกรในที่สุดเธอก็เริ่มแปลงร่างเช่นกัน เกล็ดของเทย์เลอร์เป็นสีดำ ขณะที่เขาได้รับตกทอดสีสันของมังกรหฤโหด เกล็ดของซีน่าเป็นสีฟ้าเหมือนกับที่กิ้งก่าสายฟ้าเป็นสีฟ้า

ขณะที่ชาชา...

“ลินลี่ย์, ดูสิ” เดเลียดูเหมือนจะตกใจและหวาดกลัว

ลินลี่ย์สังเกตการแปลงร่างของชาชาเช่นกันพร้อมกับเสียงสั่นสะเทือนปีกเหมือนผีเสื้อสีทองเบาบางงอกออกมาจากหลังของชาชา  นี่คือสิ่งที่เธอได้รับตกทอดมาจากมังกรทองเป็นปีกคู่ขนาดใหญ่ แต่ปีกสีทองเลือนรางเหล่านี้ทำให้ชาชาดูเหมือนภูตน้อยตนหนึ่ง

อย่างไรก็ตามเกล็ดสีทองที่คลุมทั้งหน้าของเธอทำให้ชาชาดูลึกลับมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากเธอมีเขามังกรงอกบนหน้าผากและมีหางมังกรด้วยซึ่งทำให้ร่างนักรบเลือดมังกรของชาชามีราศีที่โดดเด่นเช่นกัน

….

หลังจากผ่านไปนานเด็กทั้งสามก็ฟื้นขึ้น  หลังจากฟื้นขึ้นแล้วเด็กทั้งสามเริ่มจ้องมองตัวเองและร่างแปลงอย่างตื่นเต้น

“โหว.. พี่ชาชา.. เจ้ามีปีกด้วย?”  เทย์เลอร์จ้องมองชาชาอย่างอิจฉา

ชาชาเองก็ชอบปีกของเธอเช่นกัน  ปีกเป็นส่วนหนึ่งของเธอเหมือนกับมือ  ปีกทั้งสองกระพือเล็กน้อยชาชาก็บินขึ้นไปในอากาศอย่างสง่างาม และเธอตะโกนอย่างตื่นเต้น  “ข้าบินได้ ข้าบินได้ด้วย”

“ข้าก็รู้สึกว่าทรงพลังมาก”  เทย์เลอร์ตื่นเต้นและต่อยใส่หินที่อยู่ใกล้ๆ  หินก้อนนั้นแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที  เด็กอายุสิบปีสามารถต่อยหินจนแตกเป็นชิ้นๆได้ด้วยหรือ?  ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาจะสามารถทำเช่นนี้ได้สำเร็จ

ซีน่าก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน

“วูบ” เคลื่อนไหวได้ราวกับประกายไฟ  ร่างซีน่าทิ้งไว้แต่เงาตามหลังเลือนราง  เมื่อเขาเคลื่อนไหว  เขาไวมาก

ลินลี่ย์ เดเลียวอร์ตันและนีน่าพากันหัวเราะทุกคนเมื่อเห็นเช่นนั้น

“น่าอัศจรรย์จริงๆ” เซียนมังกรทองถอนหายใจชมเชย “นักรบเลือดมังกรนี่เหลือเชื่อจริงๆ” มังกรระดับเซียนทั้งสามถอนหายใจด้วยความรู้สึกทึ่งกับภาพที่เกิดขึ้นนี้  สุดยอดนักรบในตำนานล้วนน่าทึ่งจริงๆ  พวกเขาสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้...ในอีกไม่กี่ทศวรรษ เด็กทั้งสามคนนี้จะกลายเป็นนักรบเลือดมังกรระดับเซียน

หลังจากเด็กทั้งสามเหนื่อยจากการละเล่นแล้ว

“ท่านแม่, เสื้อผ้าของข้าอยู่ไหน?”  ชาชาพูดกับเดเลีย

การแปลงร่างทำให้เสื้อผ้าของเธอเสียหาย  กางเกงของชาชาไม่ขาดเสียหาย  แค่เพียงเปรอะเปื้อนเล็กน้อย  แต่ชุดที่ปิดร่างกายช่วงบนฉีกขาดเพราะปีกทั้งสองของเธอ ตอนนี้ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่เมื่ออยู่ในร่างมังกรแปลง  ถ้าเธอกลับคืนร่างมนุษย์เธอจะไม่เปิดเผยร่างกายทั้งหมดหรือ?

เดเลียเริ่มหัวเราะ

ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะพลางกล่าว  “พวกเจ้าทั้งสามฟังให้ดี  ต่อไปข้างหน้าพวกเจ้าต้องตั้งใจฝึกฝนตามคัมภีร์ลับเลือดมังกร อย่างไรก็ตามมีอยู่เรื่องหนึ่งที่จะต้องบอกไว้คร่าวๆ พวกเจ้าจะยังไม่สามารถแปลงร่างเป็นมังกรได้  นอกจากนี้ในตอนนี้พวกเจ้ายังอ่อนแออยู่แม้จะอยู่ในร่างมังกรก็ตาม  พลังของพวกเจ้ายังไม่มากนัก”

“ขอรับ ท่านพ่อ (ท่านลุง)”

เด็กทั้งสามเห็นด้วย

“วอร์ตัน, ข้าจะมอบเด็กทั้งสามให้เจ้าจัดการ”  ลินลี่ย์มองดูน้องชายของเขา  เด็กทั้งสามควรใช้ชีวิตอยู่ในนครบาลุค  พวกเขายังอายุน้อย  ที่สำคัญถ้าพวกเขามาใช้ชีวิตในที่อย่างภูเขาแบล็คคราเวนสถานที่ซึ่งแทบจะไม่มีคนอื่นอยู่รอบๆ คงไม่มีประโยชน์อะไรกับเด็กๆ  และอารมณ์ของพวกเขาจะได้รับผลกระทบไปด้วยเหมือนกัน

“ได้เลย” วอร์ตันพยักหน้า

….

เทย์เลอร์และคนอื่นๆลงจากเขา มังกรสองในสามอยากรู้ใคร่เห็น ตัดสินใจเข้าวังในนครบาลุคด้วยเช่นกัน  แต่แน่นอน พวกเขาต้องย่อขนาดลงก่อน ลินลี่ย์และเดเลียยังคงอยู่ที่ภูเขาแบล็คคราเวนต่อไป  ใช้ชีวิตฝึกฝนอย่างเงียบสงบ

เดเลียจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับลินลี่ย์  ปกตินางจะไปที่นครบาลุคเพื่อพบลูกๆเป็นครั้งคราว

สำหรับลินลี่ย์...

เขาอาจจะใช้เวลาหลายเดือนหรือครึ่งปีต่อครั้งโดยไม่ได้พบเจอกับลูกๆโดยปกติเขาจะอยู่ที่ภูเขาแบล็คคราเวนและฝึกฝน

ท้องฟ้ามืดมิด

ที่บ้านศิลากลางทะเลสาบในภูเขาแบล็คคราเวน ภายในห้องพักลินลี่ย์กับเดเลียนอนตระกองกอดอยู่บนเตียง  “ลินลี่ย์, เจ้าเคยถามบีบีบ้างไหมว่าหินดำที่เขาให้เราในวันแต่งงานนั้นมีคุณสมบัติอะไร?”

“ข้าถามบีบีดูแล้ว แต่จักรพรรดิหนูบอกแต่เพียงว่าเป็นของที่ดีต่อการฝึกฝน”  ลินลี่ย์ตอบ

เดเลียเริ่มหัวเราะเช่นกัน “โธ่เอ๊ย..ข้าไม่เคยคิดเลยว่าการฝึกฝนเป็นจอมเวทของข้าจะทำได้เร็วถึงขนาดนี้  พี่ชายข้าเป็นอัจฉริยะขนาดนั้นและทั้งยังได้รับการอบรมสั่งสอนจากมหานักพรตโดยตรง  เขายังเป็นจอมเวทระดับเก้าอยู่  ในขณะที่ข้า ข้ายังไม่เก่งเท่าเขา.. แต่ข้ากลับเข้าถึงจอมเวทระดับเก้าได้ก่อนเขา  ทุกๆวันข้ารู้สึกเหมือนพลังจิตของข้ากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย..แม้ในเวลาที่ข้าไม่ได้ฝึกก็ตาม พลังจิตของข้าจะเพิ่มอย่างช้าๆ  แม้แต่ข้าเองก็กลัวระดับความก้าวหน้าของข้าเอง”

“พอเถอะ, อย่าคิดมากไปเลย อะไรก็ตามที่จักรพรรดิหนูให้เรา เราจะพบได้ในไม่ช้านี้ ตอนนี้ดึกแล้ว นอนเสียเถอะ”

…….

ขณะที่ลินลี่ย์ฝึกฝนอยู่เงียบๆ ที่ภูเขาแบล็คคราเวนและวิเคราะห์กฎธรรมชาติธาตุลมและธาตุดินอย่างต่อเนื่อง ในภูเขาเล็กไกลไปทางทิศตะวันออกของนครบาลุคสามร้อยกิโลเมตร มีบุรุษสองคนกำลังตรวจสอบคุณภาพของดินอย่างระมัดระวัง

อาณาจักรและจักรวรรดิทั้งหมดจำเป็นต้องได้ทรัพยากรแร่ธาตุเพื่อพึ่งพาตนเอง

ก่อนที่อาณาจักรบาลุคจะก่อตั้งภูมิภาคนี้เดือดร้อนจากไฟสงครามและอยู่ภายใต้การบริหารที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว  วันนี้ท่านได้เมือง พรุ่งนี้เมืองอาจตกเป็นของคนอื่น ไม่มีใครมีเวลาหรือความสามารถในการหาแหล่งแร่เพื่อทำเหมืองแร่

ต่อให้พวกเขาหาแหล่งแร่พบ บางทีพวกเขาอาจถูกโจมตีโดยกลุ่มชนใกล้เคียงและลงท้ายด้วยความตาย

ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ทำเหมืองแร่

แต่หลังจากก่อตั้งอาณาจักรบาลุค  พวกเขาก็เพ่งกับการสำรวจค้นหาแหล่งทรัพยากรแร่ ผู้สำรวจเหล่านั้นได้ตรวจสอบพื้นที่ทุกตารางนิ้วในอาณาจักรบาลุคอย่างระมัดระวัง  ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา  พวกเขาได้พบเหมืองแร่โลหะได้น้อยมาก  อย่างเช่นเหมืองเหล็ก เหมืองทองแดง เหมืองทองเหมืองเงิน  และไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น  เหมืองยังมีขนาดแตกต่างกันทั้งหมด

พวกเขายังได้พบเหมืองที่มีค่าบางแห่ง  แต่ผลผลิตของเหมืองเหล่านี้ค่อนข้างต่ำ  เช่นเหมืองเหล็กดำ และเหมือนโลหะมิทธิลเป็นต้น

การมีเหมืองเป็นของตนเองก็หมายความว่าอาณาจักรไม่จำเป็นต้องนำเข้าวัสดุสำหรับสร้างอาวุธจากประเทศอื่น

“หัวหน้า,ดูเหมือนดินที่นี่จะค่อนข้างมีลักษณะเฉพาะตน” บุรุษผมทองผอมเหมือนลิงพูดเบาๆ บุรุษวัยกลางคนที่อยู่ใกล้เขาตรวจสอบดินอย่างระมัดระวังเช่นกันจากนั้นออกทำสั่งทันที  “คาย่า, ขุดลึกลงไปอีก  ลึกลงไปอีกหน่อย มาดูว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น”

“ได้ขอรับ หัวหน้า” บุรุษหนุ่มเอาเครื่องมือออกมาและเริ่มขุดตามคำสั่งของหัวหน้า  แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนแข็งแกร่ง  แต่บุรุษหนุ่มก็เป็นนักรบระดับสาม  ขณะที่หัวหน้าของเขาเป็นนักรบระดับห้า  การขุดจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

ทักษะการขุดของพวกเขาได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และหลุมจึงถูกขุดได้ลึกอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องขยายออกมาก

“แคล้ง” เสียงกระทบดังขึ้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะขุดกระทบโลหะอย่างใดอย่างหนึ่ง!

“หัวหน้า,มาดูเร็วเข้า!” บุรุษหนุ่มคนนั้นรีบกล่าว

บุรุษวัยกลางคนก้มหัวจ้องมองดูทันที  ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายและมีแสงอาทิตย์ส่องให้เห็น บุรุษวัยกลางคนเห็นได้ชัดเจนว่าของบางอย่างนี้สะท้อนกับแสงอาทิตย์อัสดงค์  และเขารีบใช้มือปัดฝุ่นและดินออกทันที

อัญมณีโปร่งใสปรากฏต่อสายตาของเขา

“นี่...นี่คือ...” บุรุษวัยกลางคนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จากนั้นพูดอย่างตกใจ  “นี่คือแร่อัญมณีเวท  อัญมณีเวท คาย่า มันคืออัญมณีเวท!”

“อะไรนะ? หัวหน้า,เรารวยแล้ว! เรารวยแล้ว!” ตาของบุรุษหนุ่มเป็นประกายความสุขทันที

อัญมณีเวทคือสิ่งที่มีค่ามาก  ในความเป็นจริง...อัญมณีเวทของอสูรเวทก็มีคุณสมบัติคล้ายกับอัญมณีเวท  แม้ว่าจะเป็นผลึก  แต่มันก็ยังเป็นอัญมณีชนิดหนึ่งเช่นกัน  ตัวอย่างเช่น ผลึกแก่นมังกรก็เรียกกันว่า ‘อัญมณีมังกร’

แต่แน่นอนว่าอัญมณีเวทตามธรรมชาติไม่ได้มีปริมาณพลังงานที่น่ากลัวอย่างที่อัญมณีมังกรมี

ตามราคาในตลาดปกติ...

อัญมณีเวทคุณภาพต่ำ ราคาสิบเหรียญทอง  จะมีคุณภาพเท่ากับผลึกเวทของอสูรเวทระดับสาม

อัญมณีเวทคุณภาพปานกลาง ราคาร้อยเหรียญทองเท่ากับแก่นเวทของอสูรเวทระดับสี่

อัญมณีเวทคุณภาพสูง ราคาพันเหรียญทองเท่ากับแก่นเวทของอสูรเวทระดับหก

อัญมณีเวทคุณภาพสูงสุด ราคาหมื่นเหรียญทองโดยทั่วไปยังไม่เทียบเท่ากับแก่นเวทของอสูรเวทระดับเจ็ด ซึ่งจะมีราคาราวๆห้าหมื่นเหรียญทอง  การหาอัญมณีเวทหรือแก่นเวทอสูรที่มีราคามากกว่าอัญมณีเวทคุณภาพสูงสุด  ผู้ครอบครองจะต้องไปฆ่าอสูรเวทระดับเจ็ดหรือแปดหรือสูงกว่านั้น

อาจกล่าวได้ว่า...เหมืองอัญมณีเวทจะมีค่ามากกว่าเหมืองทองเป็นล้านเท่า  ทั้งนี้เพราะเมื่อร่วมทำเหมืองทอง  ก็จะต้องมีการร่อนทอง และใช้เวลามาก  แต่เหมืองอัญมณีเวทแตกต่างออกไป  มันมีอัญมณีเวทจำนวนมากรวมกลุ่มกันอยู่...

ก็เหมือนกับว่ามีแก่นเวทจำนวนมากรวมๆ กัน

ในทวีปยูลานสิ่งเดียวที่เทียบราคากับเหมืองอัญมณีเวทได้ก็คือเหมืองมิทธิล

“เรากำลังจะรวยแล้ว, หัวหน้า!  เราสามารถหาอัญมณีเวทได้เป็นกระสอบ และอัญมณีเหล่านั้นจะทำเงินได้หลายแสนเหรียญทอง  เราจะรวยกันใหญ่แล้ว!”  บุรุษหนุ่มดีใจแทบคลั่ง

คนหัวหน้าขมวดคิ้ว “อย่าเพิ่งรีบร้อน นี่น่าจะเป็นเหมือนอัญมณีเวทเหมืองหนึ่ง.. มาสำรวจดูก่อนว่าเหมืองนี้จะใหญ่ขนาดไหน?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด