ตอนที่แล้วข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 21 ลัทธิมารเป็นบ้ากันหมดแล้วหรือ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 23 ข้อมูลผิดพลาดอีกแล้ว?

ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 22 กำราบจางขุย


ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 22 กำราบจางขุย

ปัง!

จางขุยคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่เซวียน

“เป็นเจ้าเอง?!”

เมื่อมองไปยังฉู่เซวียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ จางขุยแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง ชายหนุ่มผู้นี้เป็นคนโจมตีเมื่อครู่?

เขาดูคล้ายกับฉู่ชิวหลัวเล็กน้อย

เขาไม่ใช่บุตรชายขยะของฉู่ชิวหลัวหรือ?

ยอดฝีมือขอบเขตรวมศูนย์อายุน้อยเช่นนี้เป็นขยะนะหรือ?

ข้างจางขุย ใบหน้าของต่งเฉียนบวมเป่งและกำลังนอนหมดสติอยู่กับพื้น

บนหัวของเขามีแมวน้อยน่ารักตัวหนึ่ง

ทันทีที่ต่งเฉียนเข้าไปในเรือนสี่ประสาน เขารู้สึกว่าไหล่ของเขาหนักอึ้งราวกับมีบางอย่างกระโดดมาบนไหล่ของเขา

ต่งเฉียนกลัวจนขนหัวลุก แต่ก่อนทันได้ตอบโต้ เขาก็รู้สึกถึงอุ้งเนื้อเล็ก ๆ ตบเข้ากับใบหน้าของเขาด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง

มันตบทั้งซ้ายและขวา

แล้วเขาก็ล้มลงกับพื้นด้วยความสับสน

ต่งเฉียนไม่กล้าขยับตัว เขาไม่กล้าแม้แต่เปิดใช้งานลูกปัดมิติหลบหนี

เขาก่นด่าจางขุยอยู่ในใจ ยังยืนกรานบุกเข้าไปในอาณาเขตตระกูลฉู่ แล้วตอนนี้ละอย่างไร กำลังรนหาที่ตายชัดๆ

ฉู่เซวียนถอนหายใจด้วยความเศร้าใจและถามว่า “พวกเจ้าเป็นบ้าไปกันหมดแล้วหรือ? เหตุใดปรปักษ์กับข้านัก เพียงเพราะบิดาข้าคือฉู่ชิวหลัว?”

จางขุยอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ภายใต้สถานการณ์ปกติ ใครหน้าไหนจะสนใจเศษขยะในหมู่สายเลือดหลักของตระกูลฉู่

ทว่าบิดาของเขาคือฉู่ชิวหลัว นั่นคือเหตุผลว่าเหตุใดถึงแตกต่างออกไป

มารดาเจ้าเถอะ บิดาของเจ้าเป็นยอดฝีมือสุดโหดอยู่แล้ว ตอนนี้บุตรชายของเขายังเหลวไหลยิ่งกว่าเดิม

“เจ้ามีสถานะเช่นใดในลัทธิมาร? ขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่เก้า ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่เลวทีเดียว...”

ฉู่เซวียนถามด้วยความสงสัย

ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตว่างเปล่าขั้นที่เก้าถือเป็นยอดฝีมือชั้นยอดในแคว้นฉิน ตัวตนเช่นนี้น่าจะเป็นคนสำคัญในลัทธิมาร

หากฉู่เซวียนสังหารเขา ลัทธิมารคงส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามาแน่นอน

ยุ่งยากยิ่งนัก!

เขาแค่อยากเก็บตัวอยู่บ้านและสะสมความแข็งแกร่งอย่างสงบ แต่เหตุใดถึงมีเรื่องไร้สาระมากมายขัดขวางอยู่ตลอด

จางขุยรู้สึกว่าตนควรทำตัวแข็งกร้าวมากกว่ายอมก้มหัวให้ชายหนุ่ม ไม่อย่างนั้นมันจะลดศักดิ์ศรีของเขา

ทันใดนั้นเขาก็เห็นต้นไม้เล็กๆ กำลังวิ่งด้วยขารากมาหาเขา

มันแสดงท่าทางว่าสนใจในตัวเขามาก

เขาพลันตื่นตระหนก

ต้นไม้เดินได้จะธรรมดาได้อย่างไร?

“ข้าจางขุย รองจ้าวลัทธิมารลำดับหนึ่งของแคว้นฉิน!”

ฉู่เซวียนดวงตาเป็นประกาย “สถานะของเจ้าไม่ต่ำเลย”

เขาวางแผนอยู่ในใจและตัดสินใจที่จะควบคุมจางขุยจ้าวลัทธิมารลำดับหนึ่ง ด้วยตัวตนของเขาในลัทธิมาร เขาย่อมสั่งให้ลัทธิมารหยุดรังควานฉู่เซวียนได้

ยิ่งกว่านั้น จางขุยยังสามารถทำหน้าที่เป็นสายลับระดับสูงในลัทธิมาร หากจักรวรรดิต้าเซี่ยเคลื่อนไหวอะไร ฉู่เซวียนสามารถได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า

“ไม่ต้องกลัว ข้าฉู่เซวียนหาใช่คนฆ่าไก่ไม่ ไม่มีเหตุใดที่ข้าต้องฆ่าเจ้า”

จางขุยตัวสั่นสะท้าน หัวใจของเขาตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิม คนที่มักกล่าวคำเช่นนี้ไม่ใช่คนดีสักคน

เขายังจำได้ดี ในตอนนั้นฉู่ชิวหลัวเองก็เคยกล่าวคล้ายกันนี้ แต่ชั่วพริบตาเขาก็สังหารหมู่ลัทธิมารไปหลายสิบคน

บุตรชายของเขาอาจจะเหมือนกัน

ชีวิตของข้าคงได้แต่เดิมพันแล้ว!

จางขุยเหงื่อแตกพลั่ก เขาอยากต่อต้านจนตัวตาย กระทั่งขยับตัวก็ยังทำไม่ได้

ถึงสาวกมารจะโหดร้ายเลวทราม แต่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่กลัวตายกันทุกคน จางขุยบังเอิญเป็นคนที่กลัวตาย

“รองจ้าวลัทธิมารลำดับหนึ่งอาจเป็นสมบัติอันล้ำค่า สังหารเขาเป็นเรื่องน่าเสียดาย” ฉู่เซวียนกล่าวกับตนเอง

ต่งเฉียนที่แกล้งทำเป็นหมดสติ จู่ๆ ก็ตัวสั่นเมื่อเขาได้ยินว่าจางขุย รองจ้าวลัทธิมารลำดับหนึ่งอาจเป็นสมบัติอันล้ำค่า สังหารเขาเป็นเรื่องน่าเสียดาย หากเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นคนที่ถูกสังหารแทนหรือ?

“นายน้อยฉู่ นายน้อยฉู่ขอรับ ข้าเป็นจ้าวลัทธิมารสาขาเมืองฉู่ ข้าเองก็เป็นสมบัติอันล้ำค่าเช่นกัน”

เขารีบเปิดปากเอ่ย

เห็นการกระทำอันขี้ขลาดของต่งเฉียน ทำเอาฉู่เซวียนถึงกับกล่าวไม่ออก

จางขุยสบถในใจ ขยะเช่นนี้... ไม่น่าแปลกใจที่สาขาเมืองฉู่ถึงได้รับความสูญเสียอย่างหนัก

ฉู่เซวียนก็ใช้ตราประทับเมล็ดวิญญาณเพื่อควบคุมทั้งคู่

จางขุยกับต่งเฉียนทำความเคารพทันที แต่ส่วนลึกภายในใจของทั้งคู่กลับมีแต่ความหวาดกลัว ทว่าพวกเขาทำไม่ได้แม้แต่จะคิดต่อต้านหรือไม่เชื่อฟัง

นับจากนี้ไปพวกเขาคือข้ารับใช้ผู้ภักดีของฉู่เซวียนที่ยอมถวายหัวให้แก่เขา

หลังจากเข้าใจจุดประสงค์เบื้องหลังในการบุกรุกของจางขุยกับต่งเฉียนแล้ว ฉู่เซวียนก็ถึงกับกล่าวไม่ออก หากไม่ใช่เพราะเขา ตระกูลฉู่คงตกอยู่ในความโกลาหลนับครั้งไม่ถ้วน

“ทำให้สาวกมารของเจ้าสงบลงซะ อย่าส่งคนมาก่อปัญหาในตระกูลฉู่อีก”

“ขอรับนายท่าน ข้าจะออกคำสั่งห้ามสาวกมารอย่างแน่นอน หากใครฝ่าฝืนคำสั่ง ข้าจะสังหารมันทันที!”

คำกล่าวของจางขุยมาพร้อมกับเจตนาสังหารที่น่าสะพรึงกลัว

“เจ้าเป็นรองจ้าวลัทธิมารลำดับหนึ่ง จงทำงานหนักและมุ่งมั่นเพื่อเป็นจ้าวลัทธิมารแห่งแคว้นฉิน”

วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาการรังควานของลัทธิมารคือการควบคุมลัทธิมาร

จางขุยเป็นรองจ้าวลัทธิมารลำดับหนึ่ง และหากมีโอกาสเหมาะสม เขาสามารถกลายเป็นจ้าวลัทธิมารได้

ทว่าลัทธิมารยังคงแบ่งฝักแบ่งฝ่าย คงไม่ง่ายสำหรับจางขุยในการกลายเป็นจ้าวลัทธิมาร

ต้องรู้ว่าจ้าวลัทธิมารแห่งแคว้นหนึ่งจะต้องได้รับการหนุนหลังจากยอดฝีมือของจักรวรรดิต้าเซี่ย

หากจางขุยต้องการเป็นจ้าวลัทธิมาร เขาต้องได้รับการหนุนหลังจากยอดฝีมือของจักรวรรดิต้าเซี่ยและเอาชนะจ้าวลัทธิมารคนปัจจุบัน ในตอนนั้นเขาถึงจะขึ้นแทนที่จ้าวลัทธิมารได้

ฉู่เซวียนไม่รีบร้อน ด้วยตัวตนในปัจจุบันของจางขุยในฐานะรองจ้าวลัทธิมารลำดับหนึ่ง เขาย่อมทำสิ่งต่างๆ ได้หลายอย่าง ตอนนี้ปัญหาของตระกูลฉู่อาจสิ้นสุดลงชั่วคราว

ตราบเท่าที่เขามีเวลาเก็บตัวอยู่บ้านมากพอ เมื่อเขาบรรลุขอบเขตจักรพรรดิ ต่อให้จักรพรรดิมารมาเองฉู่เซวียนก็ไม่เกรงกลัว

เนื่องจากไม่มียอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิในแผ่นดินหนานโจว!

“เจ้ารู้จักหอจันทร์ทมิฬมากน้อยเพียงใด”

ฉู่เซวียนเพิ่มความสนใจเรื่องของหอจันทร์ทมิฬ พวกเขากระจายอยู่ทั่วแผ่นดินหนานโจวและมีเครือข่ายธุรกิจและลูกค้ามากมาย และพวกเขายังไม่กลัวขุมอำนาจใดๆ ในแผ่นดินหนานโจวเช่นกัน

อาจกล่าวได้ว่าเป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินหนานโจว

“หอจันทร์ทมิฬกระจายอยู่ทั่วเกือบทุกหนแห่ง แม้แต่ฐานลับของลัทธิมารเราก็ไม่สามารถหลบซ่อนจากพวกเขาได้ เป็นไปได้มากว่าหอจันทร์ทมิฬจะครอบครองอาวุธสมบัติที่สามารถสอดแนมหรือสืบค้นข้อมูลของผู้อื่นได้!” จางขุยกล่าวด้วยความเคารพ

เขาเองก็หวาดกลัวหอจันทร์ทมิฬเป็นอย่างมาก

ไม่ว่าลัทธิมารจะระวังเพียงใด ตราบใดที่พวกเขาอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป พวกเขาไม่มีทางหลีกเลี่ยงการตรวจจับของหอจันทร์ทมิฬ

“และยังมีข่าวลือว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นฉิน ไม่ใช่คนจากราชวงศ์ฉินแต่เป็นยอดฝีมือลึกลับจากหอจันทร์ทมิฬในแคว้นฉิน” จางขุยกล่าวต่อ

พลังของหอจันทร์ทมิฬค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว

พวกเขาโอ้อวดเรื่องความน่าเชื่อถือ แต่ก็เห็นแก่ตัวเช่นกัน

ฉู่เซวียนเกิดความคิดและแผนการบางอย่างเกี่ยวกับหอจันทร์ทมิฬ แต่ก่อนอื่นเขาจำเป็นต้องแข็งแกร่งมากพอที่จะจัดการกับพวกมันได้ซะก่อน

ทันใดนั้นฉู่เซวียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันทรงพลังที่ปรากฎขึ้นในอาณาเขตตระกูลฉู่

ฉู่เทียนหมิง!

ดูเหมือนเขาเพิ่งกลับมา

เขาได้รับข้อมูลเรื่องจางขุยโจมตีหรือเปล่า?

“พวกเจ้าออกไปก่อน เจ้าควรรู้ว่าต้องทำอย่างไรใช่หรือไม่? หากข้าต้องการให้เจ้าทำอะไร เดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเอง”

ฉู่เซวียนโยนยันต์หยกออกไปสองชิ้น

“พาพวกมันไปด้วย สิ่งนี่สามารถช่วยเจ้าหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ข้าอยากดูว่าหอจันทร์ทมิฬจะตรวจจับทุกสิ่งอย่างได้จริงรึไม่”

ยันต์หยกสองชิ้นนี้คือหยกวิเศษประเภทปกปิดที่เขาได้รับจากระบบ

“ขอรับนายน้อย!”

ทั้งจางขุยและต่งเฉียนต่างตกใจ ยันต์หยกสองชิ้นนี้คือหยกวิเศษ ในแผ่นดินหนานโจว หยกวิเศษส่วนใหญ่จะพบในซากโบราณ และยากที่จะพบเจออีกด้วย

แทบทุกชิ้นอยู่ในมือของขุมอำนาจใหญ่

ถึงแม้หอจันทร์ทมิฬจะมีขาย แต่ราคาแต่ละชิ้นกลับสูงลิบลิ่วจนมิอาจเอื้อม

หลังจากเปิดใช้ยันต์หยกแล้ว จางขุยและต่งเฉียนก็หายตัวออกไปจากอาณาเขตตระกูลฉู่โดยไร้ร่องรอย

ฉู่เซวียนสัมผัสได้ว่าฉู่เทียนหมิงกำลังลาดตระเวนไปทั่วเขต เขายิ้มเยาะและกลับห้องไปนอน

หลังจากกำราบจางขุย อย่างน้อยเขาก็ใช้ชีวิตอย่างมั่นคงได้ชั่วคราว และต่อไปจะไม่มีพวกสาวกมารมารังควานเขาอีก

“โฮสต์ไม่ออกจากบ้านแต่สามารถกำราบยอดฝีมือของลัทธิมารได้ โฮสต์ได้รับรางวัลคือการฝึกฝนพลังยุทธ์สิบปีและเนตรทองคำ!”

ปัง!

คลื่นแห่งความรู้แจ้งไหลเข้าสู่ร่างกายและวิญญาณของฉู่เซวียน ทำให้ฐานพลังยุทธ์ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขอบเขตรวมศูนย์ขั้นที่สอง...

ขอบเขตรวมศูนย์ขั้นที่สาม...

ฐานพลังยุทธ์ของเขาเพิ่มขึ้นไม่หยุดจนถึงขั้นที่แปด

5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด