ตอนที่แล้ว2078 - ปลอมเป็นหมูเพื่อกินเสือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป2080 - สิ่งมีชีวิตสูงสุดที่ไร้ยางอายที่สุดในประวัติศาสตร์

2079 - เหน็ดเหนื่อยจนราชาอมตะยังต้องกระอักเลือด


2079 - เหน็ดเหนื่อยจนราชาอมตะยังต้องกระอักเลือด

“แม้ว่าเขาจะมาจากดินแดนเบื้องล่างที่ยากจน แต่คนผู้นี้ก็ไม่อ่อนแอจริงๆ” มีคนกล่าวชื่นชม

ในสนามประลองนั้นเข้มข้นเป็นพิเศษ ทั้งสองต่อสู้กันมานานกว่าแปดร้อยกระบวนท่า

ในท้ายที่สุดสิงโตเก้าเศียรก็ถูกสือฮ่าวกระแทกฝ่ามือใส่หน้าอกจนทำให้เขากระอักเลือดออกมาและปลิวตกจากสนามประลอง

“เจ้าค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับข้าแล้วมันแตกต่างกันราวกับสวรรค์และปฐพี เจ้าถือว่าอ่อนแอเกินไป! เห็นแก่หน้าพี่น้องร่วมสาบานของข้าที่อยู่ในอาณาจักรด้านล่างวันนี้พอแค่นี้เถอะ”

สือฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นและพูดเสียงดัง

ฟ่อ!

หลายคนปล่อยเสียงคำราม พวกเขาต่อสู้กันถึงแปดร้อยกระบวนท่า การต่อสู้ที่ขมขื่นขนาดนี้เจ้ายังคงบอกว่าความแตกต่างเหมือนสวรรค์และปฐพี?

นี่นับว่าผ่อนปรนได้หรือ? เจ้าเพิ่งได้รับชัยชนะด้วยความบังเอิญต่างหาก!

เส้นเลือดขนาดใหญ่สั่นกระตุกบนหน้าผากของจินซู เขาพ่ายแพ้ พ่ายแพ้ต่อหน้าทุกคนโดยเจ้าเด็กเหลือขอคนนั้น นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถยอมรับได้

“หากเจ้ากล้าก็สู้อีกรอบ!”

“เจ้ามีอะไรมาเดิมพัน? ถ้าจะสู้กับข้าเจ้าต้องเอาเดิมพันที่มากกว่าเดิมสิบเท่าออกมาก่อน มิฉะนั้นข้าไม่มีอารมณ์ร่วมเล่นกับเจ้า” สือฮ่าวมองเขาด้วยความรังเกียจ

จินซูโกรธมาก เขาหันหลังจากไป เขาจะไปเอาอาวุธและยืมทรัพยากรของสหายของเขามาเดิมพันก่อนจะกลับมาต่อสู้อีกครั้ง

หลายคนแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าคนจากอาณาจักรล่างนี้หยิ่งผยองเกินไป

“ถ้ารับไม่ได้ก็มาเถอะ จักรพรรดิองค์นี้จะสอนความอ่อนน้อมถ่อมตนทั้งหมดให้กับพวกเจ้าอย่างเหมาะสม” สือฮ่าวชี้ไปที่บุคคลที่กำลังตะโกนด่าเขา

"เจ้ารนหาที่ตาย?!" คนผู้นั้นคำรามด้วยความโกรธ

ในเวลานี้ผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและองค์หญิงเหยาเยว่ก็มาทันเหตุการณ์พอดี

พวกเขาล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตในเก้าสวรรค์สิบแผ่นพิภพและยังมาเข้าร่วมการชุมนุมที่โดดเด่นอีกด้วย เมื่อทราบข่าวพวกเขาก็รีบมาที่นี่ทันที

แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งสองคนถึงกับพูดไม่ออก เจ้าเด็กคนนี้ที่จริงก็เข้าสู่ดินแดนอมตะเช่นกัน

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเขาจะติดอยู่ในอาณาจักรล่าง แต่ตอนนี้ เขาวิ่งไปที่เมืองราชาพาน ยิ่งกว่านั้นยังเริ่มความวุ่นวายแบบเดิมอีก สมกับเป็นเขาจริงๆ ไม่ว่าจะไปที่ใดก็สามารถสร้างความปั่นป่วนได้!

“เจ้าพูดอยู่กับใคร!” ข้างล่างเด็กหนุ่มผมสีเขียวจ้องเขม็ง ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน

“ผมสีเขียวหากเจ้ากล้าต่อสู้ก็ขึ้นมา? จักรพรรดิองค์นี้จะสอนวิธีปฏิบัติอย่างถูกต้องให้เจ้ารู้ซึ้งถึงความหมายของความอ่อนน้อมถ่อมตน!” สือฮ่าวชี้มาที่เขาและทำหน้าหยิ่งผยองราวกับว่าเขาเป็นจักรพรรดิองค์เดียว

“เจ้ารออยู่ตรงนั้นก่อน!” บุคคลนั้นโกรธมากจริงๆการที่ถูกเรียกว่าผมเขียวนั้นทำให้เขารู้สึกรับไม่ได้

ทุกคนที่เป็นผู้สูงสุดล้วนมีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะมีชื่อเล่น แต่ชื่อเล่นของพวกเขานั้นมีความองอาจกล้าหาญไหนเลยจะมีเจ้าผมเขียวผมเหลืองอะไร

ไม่น่าแปลกใจที่จินซูโกรธจัดและยืนกรานที่จะต่อสู้กับเขา มันมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังนี่คือสิ่งที่เด็กหนุ่มผมสีเขียวคิด จากนั้นเขาก็ไม่สามารถนั่งเฉยๆได้อีกต่อไป

“ผมเขียว ข้ากำลังพูดถึงเจ้าอยู่ จงรีบขึ้นมาที่นี่แล้วจักรพรรดิคนนี้จะล้มเจ้าด้วยแขนเดียวให้ดู พวกเจ้าก็เหมือนกัน ผมขาว ผมม่วง ผมฟ้า?” สือฮ่าวตะโกน

ด้านล่างทุกคนพบว่ามันยากที่จะสงบลง ในหมู่พวกเขามีผู้บ่มเพาะผมสีเงิน ผมสีม่วง และผมสีฟ้า ซึ่งใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที

เด็กเหลือขอคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการยั่วยุคนอื่น คนกลุ่มที่อยู่ด้านล่างไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้อีกต่อไป

สือฮ่าวไม่เคยวางแผนที่จะยอมจำนนต่อความอับอายหลังจากที่เขาเข้าสู่ดินแดนอมตะ เนื่องจากเขามีสัตว์ประหลาดสี่ตัวมาด้วยเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมาก

นี่เป็นสถานที่ที่เขาถูกเชิญมาเพื่อทำให้อับอายขายหน้า ดังนั้นจึงไม่มีความหมายอะไรที่เขาจะต้องแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนออกมา

ตอนนี้เขาเล่นเป็นคนโง่อยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ผิดหรอกแค่หน้าด้านเท่านั้น ใครก็ตามที่มองเขาด้วยความเกลียดชังจะถูกตอบโต้ทันที

“ข้าจะสู้กับเจ้าเอง!” แน่นอนว่าชายหนุ่มผมเขียวคนนั้นไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่สนามประลอง

“เดี๋ยวก่อน เจ้ามีทรัพยากรระดับเซียนหรือไม่? จักรพรรดิองค์นี้จะไม่ต่อสู้กับคนยากจน ข้ามีเมตตาและเป็นกุศลเสมอมา” สือฮ่าวตะโกนขวางหน้าเขา

บางคนสาปแช่ง ความเมตตากรุณา นี้เป็นความโลภอย่างเห็นได้ชัด เจ้าเป็นคนขี้เหนียวกล้าแม้กระทั่งเอ่ยปากขอดูกระเป๋าเงินของผู้อื่น

“เจ้า…” ชายผมเขียวชี้มาที่เขาใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย

“ผมเหลือง อย่ารีบร้อนออกไป ให้ข้าตรวจสอบสินค้าคงคลังก่อน ดูว่าทรัพยากรที่เจ้าทิ้งไว้เพียงพอหรือไม่” สือฮ่าวตะโกนตามจินซู

จินซูส่ายหน้าเกือบล้มลง

เด็กหนุ่มผมสีเขียวขึ้นไปบนเวทีด้วยเสียง ฮัวลา เขาวางกองทรัพยากรขนาดใหญ่ที่ข้างเวที พวกมันพร่างพรายอย่างเหลือเชื่อ บางส่วนลอยอยู่ในอากาศ บางส่วนกองอยู่ที่พื้น ลึกลับและทรงพลังเต็มไปด้วยสีสันสดใส

ทรัพยากรเหล่านั้นเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆ ที่ปลดปล่อยพลังชีวิตมากมายมหาศาลออกมา

“มากกว่าของเจ้าผมเหลืองนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่มาก…” สือฮ่าวกล่าว เขาพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

ฮ่อง!

ทันใดนั้น เถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของชายผมสีเขียว มันกลายเป็นโซ่ศักดิ์สิทธิ์ที่พันเข้าหาสือฮ่าว เขาดำเนินการทันทีหลังจากก้าวขึ้นมาบนเวที

"ดี!" สือฮ่าวเผชิญหน้ากับศัตรูของเขา

นี่คือการต่อสู้ระหว่าง 'มังกรพยัคฆ์' การต่อสู้ครั้งนี้ยิ่งใหญ่ยาวนานกว่าเก้าร้อยกระบวนท่า

สือฮ่าวปลดปล่อยรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์จากฝ่ามือ ระเบิดชายผมสีเขียวบินออกไปนอกเวที เลือดพุ่งออกมาจากปากและจมูกของเขาไม่หยุด

“เจ้าแข็งแกร่งกว่าผมสีเหลืองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เทียบกับข้าแล้วเจ้ายังห่างชั้นอีกมากกลับไปฝึกฝนพันปี!” สือฮ่าวกล่าว ใบหน้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและหายใจไม่ออกเล็กน้อย

ทุกคนอ้าปากค้างเมื่อมองมาที่เขา เจ้าเหนื่อยถึงขนาดนี้แล้ว ต่อสู้มาจนถึงเก้าร้อยกระบวนท่า อะไรคือความห่างชั้นที่เจ้าพูดถึง? เจ้าเพียงชนะผิวเผินเท่านั้น

ไป๋เจ๋อและจื่อคุนต่างก็สาปแช่งในใจ รู้สึกเหมือนกับว่าไอ้คนนี้มันไร้ศีลธรรมเกินไปหน่อย นี่เป็นความตั้งใจ เขาต้องการหลอกล่อให้คนอื่นลงมือต่อสู้มากกว่านี้

สิ่งมีชีวิตสูงสุดสองคนจากตระกูลเอ๋าก็อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าบิดเบี้ยวเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถพูดความจริงได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้น่าละอายเกินไป

ด้วยเสียงฮัวลา สือฮ่าวรวบรวมกองทรัพยากรเก็บไว้ไหนสิ่งประดิษฐ์เชิงพื้นที่

“เดี๋ยวก่อน ค่านายหน้าของเราเจ้ายังไม่ได้จ่าย” เจ้าของร้านพูดขึ้นก่อนหน้านี้เขาอึ้งเล็กน้อยเกือบลืมไป

“เจ้าของร้าน ที่ประทับของราชาอมตะของโรงเตี๊ยมนี้เจ้ายินดีขายหรือไม่? ข้าต้องการซื้อมัน” สือฮ่าวกล่าว

เจ้าของร้านกลอกตา มีที่ประทับของราชาอมตะไม่มากนักในเมืองราชาพาน แต่ว่าเจ้ามีปัญญาซื้อหรือ?

คนอื่นๆพูดไม่ออกทุกคนมองมาที่เขา ชายผู้นี้กล้าพูดจริงๆ เขาหมายปองแม้กระทั่งที่ประทับของราชาอมตะ

มีเพียงผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและองค์หญิงเหยาเยว่เท่านั้นที่เข้าใจเจตนาของเขา แม้ว่าตอนนี้สือฮ่าวจะแกล้งเป็นคุ้มคลั่งเหมือนคนสติไม่สมประกอบ แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เขาต้องการคือที่ประทับของราชาอมตะนั้นเอง

“ของที่กองอยู่ตรงนี้ยังไม่พออีกเหรอ” สือฮ่าวกล่าวด้วยความงุนงง

“เจ้าหนู จริงจังหน่อยสิ ต่อให้มีทรัพย์สมบัติมากกว่าของพวกนี้อีกแสนเท่าล้านเท่าก็ไม่สามารถแลกที่ประทับของราชาอมตะได้ ที่ประทับของราชาอมตะเจ้ารู้หรือไม่ว่าต้องทำลายจักรวาลมากเท่าไหร่ถึงจะรวบรวมพลังศักดิ์สิทธิ์ได้พอ” เจ้าของร้านที่มีเคราหลอมแหลมกล่าว

สือฮ่าวรู้สึกตกใจจากภายในใจ ที่ประทับของราชาอมตะต้องใช้พลังงานมากถึงขนาดนี้? พวกเขาต้องทำลายดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตไปมากมายเท่าไรถึงจะพอเลี้ยงดูมัน?

“มีใครอีกไหมที่อยากจะต่อสู้กับข้า” สือฮ่าวถามเสียงดัง

ด้านล่างผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและองค์หญิงเหยาเยว่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

นี่เป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ เขาปลุกปั่นให้เกิดความโกลาหลไม่รู้จบในดินแดนเบื้องล่าง และตอนนี้เขาเริ่มมันอีกครั้งในดินแดนอมตะ

ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมา เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวว่าผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลราชาอมตะเอ๋าเฉิงมีความเกลียดชังต่อฮวง

ก่อนหน้านี้เขาพยายามเกี้ยวพาชิงยี่ อย่าบอกนะว่าการที่ฮวงมาที่นี่ครั้งนี้ก็เป็นแผนการของเขาด้วย?

ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความตกใจ

“ข้าจะสู้กับเจ้าเอง!” แน่นอนว่ามีคนที่ทนไม่ได้จึงต้องกระโดดขึ้นไปบนเวทีเพื่อต่อสู้กับเขาอีกครั้ง

“เดี๋ยวก่อน ข้าขอพักสักหน่อย ข้าต่อสู้สองรอบติดต่อกันแม้แต่ราชาอมตะก็ยังต้องเหน็ดเหนื่อยจนต้องกระอักเลือดออกมา!” สือฮ่าวโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย

หลายคนมองเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม ราชาอมตะจะกระอักเลือด?

ในระดับนั้นพวกเขาสามารถต่อสู้เป็นเวลาหลายปีโดยไม่หยุดพัก ก่อนหน้านี้เคยมีราชาอมตะที่ไม่มีใครเทียบได้ได้ต่อสู้กันเป็นเวลาเกือบพันปีจนกระทั่งมีใครคนหนึ่งตายการต่อสู้จึงยุติลง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด