ตอนที่แล้วตอนที่ 10-6 พี่สาม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-8 พลังน่ากลัวของเซียนจอมเวท

ตอนที่ 10-7 เดลี่


ชาวบ้านแท้ๆ ทุกคนในหมู่บ้านลับในดินแดนอนารยชนตอนใต้นี้อยู่รวมกันที่นี่กำลังจ้องมองมิลเลอร์, ลิฟวิงสโตนและลินลี่ย์ขณะที่พวกเขากำลังบินลงมา คนนับพันเหล่านั้นตื่นเต้นทันทีและเริ่มเรียกขานชื่อของเซียนทั้งสอง

“มิลเลอร์!”  “มิลเลอร์!”  “มิลเลอร์!”  “มิลเลอร์!”

“ลิฟวิงสโตน!”  “ลิฟวิงสโตน!”  “ลิฟวิงสโตน!”  “ลิฟวิงสโตน!”

คลื่นเสียงโห่ร้องดังกึกก้องไปทั้งหุบเขา  บรรยากาศที่นี่มีชีวิตชีวาและสนุกสนานมาก  มิลเลอร์, ลิฟวิงสโตนและลินลี่ย์บินเข้ามาอยู่ตรงกลาง  มิลเลอร์เหยียดมือและบอกให้ทุกคนเงียบเสียง

ทุกคนจ้องมองคนทั้งสามที่อยู่ตรงกลางและหลายคนสังเกตเห็นหนูเงาน้อยที่อยู่บนไหล่ลินลี่ย์

รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของมิลเลอร์  “ปีนี้จะเป็นเหมือนเช่นเคย  เราจะเริ่มการแข่งขันประจำปีของเรา อย่างไรก็ตามปีนี้มีอยู่อย่างหนึ่งที่แตกต่าง   ประการแรก มีผู้เข้าแข่งขันในการแข่งขันประจำปีนี้ถึง1022 คนซึ่งมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา และประการที่สอง...ปีนี้อาจารย์ลินลี่ย์ผู้มีชื่อเสียงทั่วทั้งทวีปยูลานก็มาร่วมด้วย!”

อาจารย์ลินลี่ย์?

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ชาวบ้านนับพันคนตกอยู่ในความเงียบและหันไปมองลินลี่ย์..จากนั้นทั่วทั้งหมู่บ้านระเบิดเสียงโห่ร้องต้อนรับ ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นว่าเซียนอัจฉริยะในตำนานผู้นั้นก็มาร่วมด้วย

“ขอโทษ,ขอทางหน่อย” เรย์โนลด์เบียดตัวเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

แต่มีคนมากมายเกินไป  เรย์โนลด์มักจะทำตัวไม่โดดเด่นแต่แรกในกลุ่มชาวบ้าน  แต่ตอนนี้ เขากำลังเบียดไปข้างหน้า

“ทำไมเจ้าถึงเบียดขึ้นหน้าเล่า?”  เสียงตะโกนไม่พอใจดังขึ้น

เรย์โนลด์หันหน้าไปดูและเห็นเป็นไวเดล  ชายหนุ่มที่มีความแค้นกับเขา ตอนนี้พื้นที่เต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง  แต่ไวเดลจ้องหน้าเรย์โนลด์อย่างเย็นชาและกระซิบ  “อะไร,เจ้าต้องการดูหน้าอาจารย์ลินลี่ย์หรือ?  ฮะฮะ.... ตลกว่ะ!”

แต่เรย์โนลด์ผ่านไวเดลไปโดยไม่สนใจ  และเบียดตัวขึ้นหน้าต่อไป

“ทุกคน!เงียบ”  มิลเลอร์เหยียดแขนและโบกมือ และชาวบ้านทุกคนเริ่มตกอยู่ในควมเงียบ  แต่ขณะที่มิลเลอร์เตรียมจะพูด  มีเสียงหนึ่งดังมาจากกลุ่มผู้คน  “พี่สาม!”

ลินลี่ย์ที่พูดคุยหัวเราะกับลิฟวิงสโตนอยู่ก็พลอยเงียบไปด้วย  แต่ทันใดนั้น หน้าของเขากระด้างทันที  เมื่อเห็นสีหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปลิฟวิงสโตนอดตกใจไม่ได้  เขากระซิบ “ลินลี่ย์?”  แต่ดูเหมือนว่าลินลี่ย์จะไม่ได้ยินเขาเนื่องจากเขาหันหน้าไปทางตำแหน่งเสียงนั้น

ร่างที่คุ้นเคยนั้นรวมอยู่กับกลุ่มชาวบ้าน...

“พี่สาม...”  เรย์โนลด์ตื่นเต้นมากจนสั่นไปทั้งตัว

“น้องสี่!”  ลินลี่ย์ทั้งดีใจและตื่นเต้นจนลืมไปว่ามิลเลอร์และลิฟวิงสโตนพูดว่าอะไร ร่างของเขาเลือนรางและวิ่งไปหาเรย์โนลด์ที่เบียดผู้คนเข้ามา  สองพี่น้องกอดกันทันที

พวกเขากอดกันแน่นมาก!

หลังจากรู้ความจริงว่าเบื้องหลังนั้นเรย์โนลด์‘ตาย’ ยังไง ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น และสังหารเจ้าชายจูเลียน เมื่อลินลี่ย์ได้รู้ว่าฮิวจ์เป็นคนฆ่าเรย์โนลด์  ลินลี่ย์ตั้งใจจะฆ่าฮิวจ์ที่ค่ายทหารเพื่อแก้แค้นให้น้องของเขา

แต่หลังจากนั้นเขาจึงได้ทราบว่าเรย์โนลด์ยังไม่ตาย จากนั้นลินลี่ย์ยับยั้งใจไม่ฆ่าเขา

ลินลี่ย์ไม่ใช่ทหาร  ในใจของเขาเขาไม่สนใจระดับของตระกูลหรือยศทหาร ตามศักดิ์ศรีของขุนนาง หากจะกล่าวว่า ถ้ากษัตริย์สั่งให้ตายอย่างเป็นทางการ  ข้าราชสำนักคงไม่มีทางเลือกนอกจากตาย  แต่เจ้าชายจูเลียนนี้กลัวตายปล่อยให้เรย์โนลด์ตายอย่างไร้ประโยชน์  เขาทำเช่นนี้เพราะตามศักดิ์ของขุนนางอำนาจของเจ้าเมืองยิ่งใหญ่มากกว่าเรื่องอื่นมากนัก

แต่สำหรับลินลี่ย์?

เหลวไหล!

ต่อให้เป็นจักรพรรดิก็ไม่สำคัญเท่ากับพี่น้องของเขา  จัดการกับจักรพรรดิจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร?  เขาเกิดมาในราชตระกูลและได้รับมอบราชสมบัติ  แล้วไง? นั่นหมายความว่าเขาต้องมีเกียรติมากกว่าพี่น้องของลินลี่ย์อย่างนั้นหรือ?  นั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าคนทั่วๆไปที่ไม่รู้จักคิด ลินลี่ย์ไม่สนใจคนพวกนั้นแม้แต่น้อย

“เรย์โนลด์และอาจารย์ลินลี่ย์...แต่...”  ทุกคนตะลึง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวเดล ไอ้หนุ่มรูปงามเรย์โนลด์กอดกับลินลี่ย์เสียแน่นเชียว? พวกเขามีความสัมพันธ์ใดกันแน่

ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ค่อยคลายอ้อมแขนกัน

เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นลินลี่ย์มีสีหน้าดีใจ  เมื่อหันไปมองมิลเลอร์และลิฟวิงสโตน  เขาบอก “ท่านมิลเลอร์  ข้าขออภัยจริงๆที่ขัดจังหวะการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

“ไม่เป็นไร”  มิลเลอร์รีบกล่าว  แต่จากนั้นเขามองลินลี่ย์ด้วยความสับสน  “น้องลินลี่ย์  เจ้ากับเรย์โนลด์..?”

ลินลี่ย์วางมือบนไหล่ของเรย์โนลด์ตามปกติ  “เรย์โนลด์คือสหายของข้า  หนึ่งในพี่น้องของข้าที่สนิทที่สุดรักที่สุดเหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ”  เรย์โนลด์หัวเราะขณะที่ตบไหล่ลินลี่ย์ “พี่สาม, ท่านไม่ต้องเยินยอขนาดนั้นก็ได้”

“ฮ่าฮ่า..”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างมีความสุขมาก

การแข่งขันประจำหมู่บ้านจัดขึ้นโดยใช้กฎเกณฑ์ปกติ แต่กลุ่มคนรุ่นเยาว์หลายคนเมื่อเห็นลินลี่ย์กับเรย์โนลด์อยู่ด้วยกันก็รู้สึกตกตะลึง พวกเขาเคยรังแกเรย์โนลด์ในอดีต ทั้งเตะทั้งต่อย  ถ้าเรย์โนลด์บอกลินลี่ย์  และลินลี่ย์บอกมิลเลอร์...

เนื่องจากการลงทัณฑ์ในอดีตของมิลเลอร์ยังคงเป็นตำนาน  พวกเขาคงต้องหดหู่เป็นแน่

“เจ้าเรย์โนลด์นี่...เรย์โนลด์นี่เข้ามาเกี่ยวข้องกับอาจารย์ลินลี่ย์ได้ยังไง?”  ไวเดลและเด็กหนุ่มอื่นรู้สึกเสียใจ

หลังจากที่เปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางเสร็จแล้วมิลเลอร์ ลิฟวิงสโตน ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ก็แยกออกมาพร้อมกันมุ่งหน้าไปยังพื้นที่หวงห้าม บ้านของโมนิกา

“ลุงมิลเลอร์,ข้าไม่ควรไปด้วย”  เรย์โนลด์เห็นดงไม้ไกลๆ และกล่าวทันที

นี่เป็นพื้นที่หวงห้าม

มิลเลอร์หัวเราะ  “ไม่จำเป็น  เนื่องจากเจ้าเป็นน้องของลินลี่ย์  มากับเราได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่นักหรอก”  มิลเลอร์ขมวดคิ้วและหัวเราะ  “เรย์โนลด์เจ้าเรียกข้าว่าลุงมิลเลอร์.. ข้ากลับนับลินลี่ย์เป็นน้องนี่.. นี่มันช่างน่าประหลาดเสียจริง  ฮ่าฮ่าฮ่า”

ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ตกใจทั้งคู่  ตอนนี้พวกเขาถึงได้รู้ตัวเช่นกัน

ลิฟวิงสโตนหัวเราะเช่นกัน  “มิลเลอร์พูดเล่นกันพอแล้ว พวกเจ้าแต่ละคนก็ควรมีสถานะของแต่ละคน เจ้าและข้าทั้งสองคนอายุเกินพันปีแล้ว เรายังรู้จักเซียนที่อายุเกินสี่หรือห้าพันปีด้วย เราทั้งหมดก็ยังอยู่ร่วมกันได้เลยไม่ใช่หรือ?”

“ข้าก็แค่พูดหยอกล้อ”  มิลเลอร์เม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจ

เรย์โนลด์ก็เริ่มหัวเราะเช่นกัน แม้ว่าโดยปกติมิลเลอร์จะมีสีหน้าเย็นชาแต่เขาก็มีด้านอารมณ์ขันอยู่เหมือนกัน และมีทางเป็นไปได้ว่ามีเพียงไม่กี่คนในหมู่บ้านที่เคยเห็นมิลเลอร์หัวเราะ  เรย์โนลด์เข้าใจ.. มีเพียงอยู่ต่อหน้ายอดฝีมือระดับเดียวกับพวกเขา  พวกเขาจึงจะแสดงอารมณ์สนุกสนานได้ตามปกติ

“ท่านมิลเลอร์รีบๆ เถอะ ข้าอยากรู้จักยอดฝีมือที่ท่านได้พูดถึง”  ลินลี่ย์กระตุ้น

ลินลี่ย์มักจะรู้สึกคาดหวังว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงเรื่องยอดฝีมือในหมู่บ้านลึกลับ  เขารู้ว่า..ยอดฝีมือเหล่านี้บางทีอาจมีคนที่เทพสงครามได้พูดถึงไว้  ยอดฝีมือเหล่านั้นฝึกฝนอย่างเงียบๆ สันโดษ ยอดฝีมือเหล่านี้ไม่ค่อยรู้จักกันมากนักในทวีปในช่วงเวลานี้  บางทีก็นานมาแล้ว พวกเขามีชื่อเสียงมาก  ยอดฝีมือเหล่านี้ว่าในเรื่องพลังยังแข็งแกร่งมากกว่ายอดฝีมือในยุคปัจจุบัน

เมื่อผ่านดงไม้หนาแน่นไป  พวกเขาก็มาถึงพื้นที่สนามหญ้ากว้างใหญ่เต็มไปด้วยดอกไม้และม้านั่งหินโต๊ะหินตั้งไว้ในบริเวณใกล้ๆ อีกด้วย

ตรงกลางพื้นสนามหญ้ามีทะเลสาบกลม

ผ่านพื้นที่สนามหญ้าพวกเขามาถึงสนามฝึกฝนเชิงเขา ใกล้ๆ เชิงเขาจะมีบ้านศิลาหลายหลัง  ที่เชิงเขาเองก็ขุดอุโมงค์เอาไว้หลายที่

พี่เรย์โนลด์!”  เสียงตื่นเต้นและมีความสุขดังขึ้นและจากอุโมงค์ที่อยู่ใกล้ มีร่างหนึ่งสวมชุดขาววิ่งออกมา  เมื่อเห็นเด็กสาวผมสีหยกแล้ว  ลินลี่ย์หันไปดูสีหน้าของเรย์โนลด์

ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ  “น้องสี่,มิน่าเล่าเจ้าถึงไม่ยินดีกลับบ้าน”

เรย์โนลด์ได้แต่หัวเราะอย่างเก้อเขิน

ท่าทางที่ลินลี่ย์มองหน้าเรย์โนลด์ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนว่าเขาเคยเห็นภาพที่คุ้นเคย  เรย์โนลด์จอมกะล่อนสามารถเขินอายได้จริงๆ หรือ? หรือว่าในครั้งนี้ เรย์โนลด์จะตกหลุมรักเข้าแล้วจริงๆ?

“พี่เรย์โนลด์,ท่านมาทำอะไรที่นี่?” โมนิกาจับมือเรย์โนลด์ นางตื่นเต้นมาก เรย์โนลด์เดินมาใกล้โมนิกาทันที จากนั้นกระซิบและอธิบายให้โมนิกาที่หันไปมองดูลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ  “เขาคือลินลี่ย์หรือ?”

“ฮ่าฮ่า,ข้าได้ยินว่าลินลี่ย์มาหรือนี่?”  เสียงหัวเราะดังขึ้นจนได้ยิน

มีเงาร่างสามคนโผล่ออกมาจากด้านข้างหนึ่งของสนามหญ้า  คนที่พูดเป็นชายชราผมหงอกแต่ผิวของเขาเหมือนเด็ก  อีกสองคน?  คนหนึ่งเป็นบุรุษวัยกลางคนค่อนข้างท้วมมีท่าทีเป็นมิตร ขณะที่บุรุษอีกคนหนึ่งที่เดินคั่นระหว่างพวกเขาเป็นบุรุษวัยกลางคนที่สง่างามไว้ผมยาวสีดำสวมชุดยาวสีขาวนวลเหมือนดวงจันทร์

เห็นได้ชัดว่าบุรุษวัยกลางคนที่สง่างามนี้คือผู้นำของคนทั้งสาม

“ท่านพ่อ”  โมนิกาวิ่งเข้าไปหาบุรุษที่สง่างามทันทีฉุดแขนของเขาขณะที่ชี้มาที่เรย์โนลด์และแนะนำเขาทันที  “ท่านพ่อคนนี้คือเรย์โนลด์ที่ข้าพูดให้ท่านพ่อฟังไงเล่า”

โมนิกาแนะนำเรย์โนลด์ทันทีทำให้เขากระวนกระวาย

นี่เป็นการได้พบว่าที่พ่อตาของเขาเป็นครั้งแรก  ที่สำคัญคือ... ว่าที่พ่อตาของเขาดูเหมือนจะเป็นคนน่าทึ่งมาก

“ไม่เลว”  บุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่าชมเรย์โนลด์และยิ้มอย่างเป็นมิตร  มิลเลอร์รีบแนะนำทันที  “ใต้เท้าเรย์โนลด์ผู้นี้เดิมทีเป็นนักเรียนอยู่สถาบันเดียวกับลินลี่ย์  พวกเขาเป็นสหายสนิทกัน สำหรับพวกเขาสามารถพบกับเราได้ที่นี่ก็หมายความว่ามีโซ่วาสนาผูกพันกับเราเข้าด้วยกัน”

ขณะที่มิลเลอร์พูด  เขาเดินเข้าหาบุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่า  ขณะเดียวกัน เขากระซิบบางอย่าง

หน้าของบุรุษวัยกลางคนผู้สง่างามชะงักค้างอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กลับคืนเป็นปกติ อย่างไรก็ตามเมื่อไม่มีใครให้ความสนใจ เขาลอบมองหนูเงาน้อย ‘บีบี’ บนไหล่ของลินลี่ย์  รอยยิ้มบนใบหน้าของเขามีแววเป็นมิตรเพิ่มอีก 30%

“ลินลี่ย์,สวัสดี ยินดีมากจริงๆ ที่ได้พบกับเจ้า.. ฮ่าฮ่า.. ข้าขอแนะนำเจ้าก่อน”  บุรุษวัยกลางคนพูดด้วยกิริยาที่เป็นมิตร  เขาชี้มาที่บุรุษที่ใบหน้าอวบอูมกล่าว  “นี่คือสหายสนิทที่มาที่นี่พร้อมกับข้า  ฮาร์เวิร์ด เขาเป็นจอมเวทเช่นกันแต่เป็นจอมเวทสายธาตุไฟ”

ฮาร์เวิร์ดที่มีใบหน้าแดงหัวเราะให้ลินลี่ย์  “เป็นจอมเวทระดับเก้าตอนอายุยี่สิบเจ็ดปีน่าชื่นชมจริงๆ”

“สุภาพบุรุษท่านนี้ชื่อโฟร์แมน  เขาเป็นนักรบระดับเซียนและก็เหมือนกับเจ้า เขาฝึกกฎธรรมชาติธาตุดิน” บุรุษวัยกลางคนสง่างามหัวเราะ “ข้ายังมีสหายอีกคนหนึ่งที่ยังอยู่ในระหว่างฝึกฝน  อีกสักครู่เขาน่าจะมาถึง  โอวจริงสิ ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย”

บุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่ายิ้มขณะมองดูลินลี่ย์   “ข้าชื่อเดลี่ ข้าฝึกตามกฎธรรมชาติธาตุแสง”

หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้านเล็กน้อย

เป็นเขาจริงๆ ด้วย

ตามที่เทพสงครามบอกไว้ทั่วทวีปยูลานมีสุดยอดเซียนอยู่ห้าคนเป็นผู้ที่ขาดอีกก้าวเดียวจะเข้าสู่ระดับเทพ เฟนแห่งวิทยาลัยเทพสงครามก็เป็นหนึ่งในนั้น  ขณะที่อีกคนหนึ่งก็คือยอดฝีมือนามว่าเดลี่ในแดนอนารยชน

ลินลี่ย์เข้าใจว่าคนเหล่านี้สามารถเอาชนะเขาได้ภายในกระบวนท่าเดียวเช่นเดียวกับเฟนที่ทำให้เขาร่วงได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว

ทั้งเฟนและเดลี่ถึงปากประตูระดับเทพแล้วเพียงก้าวเดียวก็จะผ่านประตูนั้นไป เข้าถึงอีกระดับหนึ่ง  แต่ก้าวนั้นช่างยากเย็นยิ่งนัก  ซีซาร์ที่ก่อนหน้านี้ก็ฝีมือพอๆกับเฟนต้องใช้เวลาหลายพันปีเช่นกัน แต่เมื่อผ่านก้าวสุดท้ายไปแล้ว เขาก็กลายเป็นเทพชั้นต้น

“ข้าขอคารวะท่านเดลี่”  ลินลี่ย์พูดอย่างนอบน้อม

เดลี่หัวเราะอย่างใจเย็น  “มาเถอะ, ไปนั่งคุยกันข้างใน  ภรรยาข้าน่าจะมาถึงในไม่ช้านี้”

ทุกคนมุ่งหน้าไปยังอุโมงค์ใกล้ๆ

“โอว”ลินลี่ย์จ้องมองสถาปัตยกรรมในภูเขาด้วยความประหลาดใจ  ภายในถูกขุดออกสร้างเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ห้องและลานถูกสร้างอยู่ภายใน ที่สำคัญที่สุดเพดานประดับไปด้วยอัญมณีหลากหลายทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยแสงหลากหลายแพรวพราวเหมือนกับภาพฝัน

ภายในภูเขาเสียงน้ำไหลรินจากน้ำผุดได้ยินอย่างต่อเนื่อง ฟังดูเงียบสงบ

อุณหภูมิวันนี้ค่อนข้างต่ำ  แต่ภายในภูเขาจะอบอุ่นและสบายมาก  ในพื้นที่ว่างมีโต๊ะสี่เหลี่ยมหลายตัวเต็มไปด้วยผลไม้หลากหลาย

“ลินลี่ย์,นั่งลงก่อน ข้าจะไปเรียกภรรยาของข้า ฮาร์เวิร์ด เจ้าและคนอื่นคุยกับลินลี่ย์ไปก่อน”  เดลี่ยิ้ม จากนั้นเดินลึกเข้าไปในข้างใน  หลังจากเดินลดเลี้ยวไปมา  เดลี่ก็มาถึงห้องศิลาที่ปิดผนึก

เสียงหินสะเทือนสามารถได้ยินและประตูหินเปิดออก สตรีงดงามผมสีหยกอยู่ในชุดขาวสง่าเดินชดช้อยออกมา  นางมองดูคล้ายโมนิกาเพียงแต่เมื่อเพ่งมองให้ดีจะสังเกตได้ว่านางเป็นผู้ใหญ่กว่าโมนิกา

“ที่รัก” เดลีหัวเราะขณะที่เขามองดูสตรีนี้ “มาเถอะวันนี้ไม่เพียงแต่ลินลี่ย์เท่านั้นที่มา แต่เรย์โนลด์ก็มาด้วยเช่นกัน”

สตรีงามนั้นขมวดคิ้ว  “ทำไมเรย์โนลด์ผู้นั้นถึงมาด้วย?” นางไม่ชอบเด็กหนุ่มรูปงามที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าและต้องการตามติดพันธิดาของนาง

“เรย์โนลด์และลินลี่ย์เป็นสหายสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน”  เดลี่อธิบาย

“งั้นพวกเขาจะเป็นยังไง?  ลินลี่ย์ไม่มีอะไรนอกจากอัจฉริยะคนหนึ่ง”  หญิงงามไม่ได้สนใจลินลี่ย์เป็นพิเศษแต่อย่างใด  “ถ้าไม่ใช่เพราะระดับความเร็วในการฝึกฝนของเขาเร็วมากและถ้าเราเพียงแต่มองระดับพลังของเขาในปัจจุบัน เขายังคู่ควรให้ข้าต้องออกจากห้องฝึกไปต้อนรับเขาหรือ?”

เดลี่หัวเราะขณะที่เขาส่ายศีรษะ  “ที่รัก,ข้าคิดว่าเจ้าไม่ควรกีดกันเรย์โนลด์และลูกสาวของเราไม่ให้อยู่ด้วยกันเป็นดีที่สุดเจ้าควรจะเปลี่ยนทัศนคติของเจ้าที่มีต่อลินลี่ย์”

“ทำไม?” หญิงงามขมวดคิ้ว

เดลี่พูดอย่างมั่นใจ  “ต้องไปดูอสูรเวทระดับเซียนที่อยู่บนไหล่ของลินลี่ย์นั้น  และเจ้าจะรู้เหตุผล  ข้าคิดว่า.. เมื่อเจ้าเห็นมัน  เจ้าจะต้องเปลี่ยนความคิด”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด