ตอนที่แล้วตอนที่ 10-10 ลืมเสียเถิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-12 เหตุเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

ตอนที่ 10-11 คำสั่งมาถึง


ฮิกกินสันยืนอยู่กับที่จ้องมองลินลี่ย์ ความจริงลินลี่ย์เริ่มฝึกทันทีโดยไม่สนใจใครอื่น

“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม” ฮิกกินสันถอนหายใจชมเชย จากนั้นบินเข้ามาหาเดลี่ กลุ่มของเดลี่กำลังมองดูลินลี่ย์ด้วยสายตาที่รับรองชื่นชมเช่นกัน  ทุกคนนั่งลง และฮาร์เวิร์ดหัวเราะ  “พี่ใหญ่, ลินลี่ย์ผู้นี้อัจฉริยะโดยแท้  ขณะยังซ้อมมือกับฮิกกินสันที่ใช้กฎธาตุแสง  เขาก็ยังมีการรู้แจ้งได้”

คนในกลุ่มของเดลี่จัดอยู่ในกลุ่มเซียนระดับสูงทุกคน

เมื่อเห็นลินลี่ย์ทำเช่นนี้  พวกเขารู้ว่าลินลี่ย์ต้องมีการรู้แจ้งบางอย่างซึ่งเป็นเหตุให้เขาเริ่มฝึกทันที

“ท่านลุง” เรย์โนลด์วิ่งเข้ามาดูการกระทำของลินลี่ย์ทันที  “เกิดอะไรขึ้นกับลินลี่ย์?  เขาบาดเจ็บหรือเปล่า?”

“อ่าฮ่า....” เดลี่และคนอื่นเริ่มหัวเราะลั่น มิลเลอร์หัวเราะและกล่าว “เรย์โนลด์  ลินลี่ย์ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามยากจะบอกได้ว่าเขาจะใช้เวลาฝึกนานเท่าใด เพราะคนระดับเราหาโอกาสได้ยากมากที่จะรู้แจ้งได้ฉับพลัน”

จากนั้นเรย์โนลด์ก็วางใจ

ตอนนี้ใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เงากระบี่ยาวเป็นประกายแปลบปลาบในใจของเขา   เมื่อมันแทงมาที่เขาโดยวิชาที่ฮิกกินสันใช้  กระบี่ของฮิกกินสันดูเหมือนจะเป็นภาพลวงตา...

กระบี่โดดออกมาประกายแสงปรากฏ มิติบิดเบี้ยว....

ชั้นของมิติที่หนาเลือนราง...พลังทะลุทะลวงที่น่ากลัวนั้น.. ดูเหมือนจะไม่สามารถหยุดได้

“มันคืออะไร? คืออะไรกันแน่?” ลินลี่ย์ทบทวนเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในใจของเขาก็ฉายภาพกระบี่โจมตีนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นกัน  ในฉับพลันเมื่อเห็นกระบี่นั้นดูเหมือนลินลี่ย์จะมีความเข้าใจอะไรบางอย่าง

แต่มันเลือนรางมาก!

เขาทบทวนภาพการโจมตีในใจครั้งแล้วครั้งเล่าเพ่งความสนใจให้กับเรื่องนี้อย่างเต็มกำลัง

ทันใดนั้น...

เป็นเหมือนกับว่าประกายสายฟ้าฉายแว่บขึ้นมาในใจของลินลี่ย์ ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้านและชั้นหมอกอุปสรรคในใจก็สลายออกไป  ในที่สุดเขาก็เข้าใจความรับรู้ที่เขารู้สึกได้  “ใช่แล้ว นั่นคือสายลม  สายลม!  ด้าน ‘เร็ว’ ของธาตุลม!”

ใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี

ก่อนนั้นเมื่อลินลี่ย์ได้เห็นมิลเลอร์ใช้ด้าน ‘ช้า’ ของกฎธาตุลม ลินลี่ย์ก็เข้าใจทิศทางในการฝึกฝนด้าน ‘ช้า’ ลินลี่ย์เรียนรู้ว่าพลังของ ‘จังหวะแห่งสายลม’ ของเขาสามารถเพิ่มขึ้นได้

ทั้งนี้เป็นเพราะ‘จังหวะแห่งสายลม’ คล้ายกับสัจจธรรมแห่งธาตุดิน  ด้วยพลังสัจจธรรมแห่งธาตุดินคลื่นสั่นสะเทือนที่มากขึ้นสามารถสร้างพลังโจมตีที่รุนแรงขึ้น

ด้วยตรรกะเดียวกันนั้น‘จังหวะแห่งสายลม’ จะใช้ผสานพลังของความเร็วและด้าน ‘ช้า’ ของสายลมเพื่อสร้าง ‘จังหวะแห่งสายลม’ ที่ทรงพลังมากขึ้น

หลังจากซ้อมมือกับมิลเลอร์  ความรู้แจ้งของลินลี่ย์ในด้าน ‘ช้า’ ของสายลมก็เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

แต่ความคืบหน้าในการทำความเข้าใจด้าน‘เร็ว’ ของสายลมกลับหยุดนิ่งกับที่

กฎธรรมชาติแห่งธาตุลม– มีเส้นทางการฝึกด้าน ‘เร็ว’ยังไง?

แต่วันนี้หลังจากเห็นกระบี่ว่างลวงตาของฮิกกินสัน  ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจชัด

เขาควรทำอย่างไร  “ตามกฎแห่งธาตุในแง่ความเร็ว กฎธรรมชาติธาตุลมและกฎแห่งธาตุแสงจะมีความได้เปรียบ  ฮิกกินสันนั้นไว  ไวมากจนในการโจมตีฉับพลันของเขาทำให้เกิดมิติบิดเบี้ยว  แต่ในด้าน ‘ช้า’ ของกฎธรรมชาติธาตุลมสามารถแช่แข็งพื้นที่มิติได้  ใช่แล้ว.... กฎแห่งธาตุลม ในด้าน ‘เร็ว’เหล่านั้นก็น่าจะสามารถทำให้มิติบิดเบี้ยวได้หลายชั้นในตัวเอง”

ลินลี่ย์มีความรู้แจ้งในด้าน‘เร็ว’ ของกฎธรรมชาติธาตุลมขั้นพื้นฐานบ้างแล้ว  เขาจึงไตร่ตรองจนถึงตอนนี้

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าอะไรคือเป้าหมายของเขาแน่...ใจของลินลี่ย์เริ่มไตร่ตรองถึงวิธีฝึกฝนอย่างรวดเร็ว  เหมือนกับว่าตอนนี้เขารู้จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดแล้วสิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือตัดสินใจหาวิธีที่ดีที่สุดในเส้นทางการฝึกฝนนี้  และจากนั้นเดินตามเส้นทางนั้นไปจนสุดทางของมัน

ใจของลินลี่ย์ฉายภาพในใจเขานับครั้งไม่ถ้วนและค่อยๆ รู้แจ้งในด้าน ‘เร็ว’ของกฎธรรมชาติธาตุลมเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่เขาไม่สามารถแก้ปัญหาในใจของเขาได้อีกต่อไป ลินลี่ย์จะลุกขึ้นยืนและใช้กระบี่อ่อนเลือดม่วงทดสอบยืนยันทฤษฎีในที่นั้นเอง

นี่คือธรรมชาติของการฝึกฝนลำบาก, เจ็บปวดและบางครั้งก็ผุดความเข้าใจรู้แจ้ง

ราวกับว่าคนผู้หนึ่งที่เห็นประกายแสงฉับพลันและเห็นรูปร่างของถนนอยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้เขาจะมีความคิดทั่วไปถึงสถานที่ซึ่งเขาควรจะมุ่งหน้าไป ทั้งหมดที่ต้องทำขั้นต่อไปก็คือเรียนรู้และทดสอบต่อไป  ตราบใดที่เขามีเวลาพอเขาจะสามารถไปถึงเป้าหมายได้แน่นอน

……

สามารถได้รับการรู้แจ้งด้าน‘เร็ว’ของกฎธรรมชาติธาตุลมจากการดูวิชากระบี่เกี่ยวกับกฎธรรมชาติธาตุแสงได้ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ จะสามารถทำได้  ตอนนี้เดลี่และคนอื่นยังไม่รู้ว่าลินลี่ย์เกิดความรู้แจ้งในด้านไหน

“เป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว แต่พี่สามก็ยัง...” เรย์โนลด์จ้องมองลินลี่ย์ที่ยังนั่งสมาธิอยู่ด้วยสายตากระวนกระวาย

โมนิกาที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะ  “พี่เรย์โนลด์ เมื่อคืนก่อนข้าเห็นลินลี่ย์ลุกขึ้นยืนทันทีและจากนั้นก็ใช้วิชากระบี่  อย่างไรก็ตามกระบี่ของเขาเลือนรางไม่ชัดเจน เมื่อเปล่งประกายสีม่วง ลมจะเริ่มพัดรอบตัวเขาและความเร็วของกระบี่ของเขารวดเร็วมาก ข้าไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเลย”

“ถ้าพี่สามเป็นแบบนี้ใครจะรู้ว่าต้องใช้เวลานานอีกเท่าใด” เรย์โนลด์พูดอย่างไม่สบายใจ

“พี่เรย์โนลด์ ดูสิ” ทันใดนั้นโมนิกาชี้ไปที่ลินลี่ย์อย่างตื่นเต้น  เรย์โนลด์หันไปมอง...และเห็นว่าลินลี่ย์ลุกขึ้นยืนแล้วและกำลังยิ้มให้เรย์โนลด์ขณะเดินมาหาพวกเขา  “น้องสี่, เกิดอะไรขึ้นหรือ?  ที่หน้าข้ามีดอกไม้บานหรือไง?”

ขณะนั้นร่างเงาเลือนรางก็กระโจนขึ้นไปเกาะบนบ่าของลินลี่ย์ทันที

“บีบี” ลินลี่ย์ลูบหัวบีบีอย่างเอ็นดู

บีบีเบะปากอย่างไม่พอใจ  “พี่ใหญ่, ใช้เวลาตั้งครึ่งเดือนท่านต้องหลับแน่นอน”

“หลับ?” ลินลี่ย์หัวเราะลั่นโดยไม่รู้ตัว

เขารู้ตัวว่าขณะที่เขากำลังฝึก  บีบีจะต้องรู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์อยู่ในอารมณ์ที่ดีในวันนี้.. เพราะเขามีความก้าวหน้าในด้าน ‘เร็ว’ ของกฎธรรมชาติธาตุลม  ลินลี่ย์เข้าใจได้เป็นอย่างดีเพื่อจะให้เข้าถึงระดับพลังโจมตีด้วยกระบี่นั้นของฮิกกินสัน  เขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึงสิบปีหรือราวๆนั้น

สำหรับการไปให้ถึงระดับเดียวกับมิลเลอร์ในการใช้กฎธรรมชาติด้าน‘ช้า’ มีแนวโน้มว่าจะต้องใช้เวลาสามถึงสี่ปี

เห็นได้ชัดว่า...มิลเลอร์มีระดับความเข้าใจที่ต่ำมากกว่าฮิกกินสันมาก  ลินลี่ย์ลอบดีใจ ความจริงที่ว่าการซ้อมมือกับยอดฝีมือจะช่วยให้ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วขึ้นมาก

ถ้าเขาฝึกด้วยตนเองในภูเขาตลอดเวลาและฝึกฝนไปโดยไร้จุดหมาย  หากเขาโชคดีบางทีอาจใช้เวลาสิบปีหรือร้อยปี เขาจึงจะพบหนทางที่ถูกต้อง ถ้าเขาโชคไม่ดี เขาอาจใช้เวลาเป็นร้อยหรือพันปีก่อนจะพบเส้นทางที่ถูกต้อง

นี่คือธรรมชาติของการฝึก  ถ้าท่านได้รู้แจ้งอย่างรวดเร็ว  ท่านก็ฝึกฝนได้เร็ว  ถ้าท่านรู้แจ้งช้า  ท่านจะฝึกฝนได้ช้า  ที่สำคัญไม่ต้องใช้เวลามากเกินจำเป็นหลังจากนักสู้ถึงระดับเซียนแล้วเพราะปราณยุทธของเขาถึงขีดระดับเซียนแล้ว ทุกคนจะใช้เวลาของพวกเขาเพิ่มการรู้แจ้งในเรื่องของกฎธรรมชาติ..  ตัวอย่างเช่นโอลิเวอร์สามารถเอาชนะดิลลอนได้ในไม่นานหลังจากที่เขาเข้าถึงระดับเซียน เนื่องจากดิลลอนแทบจะไม่รู้แจ้งกฎธรรมชาติเลย  จึงแทบไม่มีอะไรสำหรับการเป็นเซียน

…..

ในแดนอนารยชนตอนเหนือ  เริ่มมีการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ขึ้น

เป็นไปตามแผนของลินลี่ย์และซาสเลอร์เจ็ดหรือแปดวันหลังจากลินลี่ย์มุ่งหน้าไปหมู่บ้านลึกลับ  บาร์เกอร์และคนอื่นๆ ก็เริ่มโจมตีบุกลงใต้รุกรานแคว้นที่อยู่ในความควบคุมของศาสนจักรเจิดจรัส นั่นก็คือแคว้นเชอรี่

ทหารของแคว้นเชอรี่ยังมีคุณภาพด้อยกว่ากองกำลังของลินลี่ย์  คนของลินลี่ย์อยู่ติดกับไพรทมิฬดังนั้นจึงคุ้นเคยกับความป่าเถื่อนรุนแรงเป็นอย่างดี  พวกเขามีการสู้รบที่รุนแรงมากกว่า  และแน่นอน พวกเขามีห้าพี่น้องบาร์เกอร์นำพวกเขาสู้ศึก

นับเป็นความหายนะที่ใหญ่หลวง!

ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นเชอรี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าสามยอดฝีมือระดับแปด พวกเขาไม่มียอดฝีมือระดับเก้าแม้แต่คนเดียว  เป็นไปได้อย่างไรที่แคว้นเชอรี่จะหยุดยั้งกองกำลังของลินลี่ย์ได้?

บาร์เกอร์และน้องๆของเขาเหมือนกับเทพเจ้าศึกห้าคนขณะที่พวกเขานำกองกำลังที่ห้าวหาญเข้าบุกรุกฝ่าทลายแนวป้องกันทั้งหมด  ในเวลาเพียงสี่วันหัวเมืองของแคว้นและห้าเมืองบริวารของแคว้นเชอรี่ก็ถูกยึดไว้ทั้งหมด  ดินแดนของลินลี่ย์ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว

เกทส์เฮเซอร์และอังเก้ทุกคนอยู่ประจำในหัวเมืองเอกแคว้นเชอรี่

“พวกเขาไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย”  เกทส์พูดเสียงดัง  “อ่อนเกินไป อ่อนเหลือเกิน ที่นี่ไม่มีใครชะลอพลังของเราได้เลย” ความจริง แม้ว่าพวกเขาจะพบกับการต่อต้านที่แข็งแกร่ง ใครเล่าจะสามารถสู้ประลองเดี่ยวกับคนอย่างเกทส์และพี่น้องคนอื่นเล่า?

นอกจากนี้อสูรเวทระดับเซียนอย่างเสือดำเมฆแฮรุก็อยู่ในสภาพพร้อมจะโจมตีตลอดเวลา

“แอนดรูว์” อังเก้หันไปจ้องบุรุษวัยกลางคนผมเงินที่อยู่ด้านหลังพวกเขา  บุรุษคนนั้นคำนับทันทีรอรับคำสั่งของอังเก้  อังเก้ถาม  “ตอนนี้ จะปฏิรูปกองทัพแคว้นเชอรี่ยังไงดี?  และสถานการณ์ในหมู่ประชาชนเป็นยังไงบ้าง?”

ในการจัดการประเทศปกติจะต้องใช้งานคนอย่างเหมาะสม บาร์เกอร์และคนอื่นๆ ใช้สำหรับพิชิตทางทหารเท่านั้น

“ใต้เท้า” แอนดรูว์เรียนด้วยความเคารพ “ปัจจุบันนี้ มีการปรับโครงสร้างทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว  เราได้วางทหารของเมืองแบล็คเดิร์ทหลายคนไว้ในกลุ่มของพวกเขาเช่นกัน”

บาร์เกอร์และคนอื่นๆไม่ค่อยเชื่อถือพวกทหารที่ยอมแพ้เหล่านี้เท่าใดนัก ดังนั้นสิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้คือพยายามส่งคนพวกเขาแพร่กระจายไปให้มากเท่าที่ทำได้เพื่อป้องกันมิให้พวกเขามีการประสานงานกันง่ายดาย  ขณะเดียวกัน พวกเขาจะฆ่าคนบางคนในขณะที่เสริมบริวารผู้ภักดีของตนเข้าไป

“แคว้นเชอรี่ถูกครอบงำโดยศาสนจักรเจิดจรัสมาเป็นเวลานาน และมีผู้ศรัทธาในศาสนจักรเจิดจรัสหลายคนในที่นี้”  แอนดรูว์พูดด้วยความกังวล “ข้าเชื่อว่าถ้าศาสนจักรเจิดจรัสจะมาโจมตีเรา  ฝูงชนอาจจะก่อกบฏต่อเรา  แต่ที่นี่มีคนหลายคน  เราทำอะไรได้ไม่มาก

“ก่อกบฏ?”

เฮเซอร์พูดอย่างมั่นใจ  “เรายังจะกลัวอะไร?  คุกคามด้วยความตาย ประชาชนทั่วไปเหล่านี้จะก่อคลื่นได้มากแค่ไหนกันเชียว?”

“แอนดรูว์!  เราเพิ่งจะชิงแคว้นเชอรี่ได้  ตอนนี้ ประชาชนยังไม่สงบ  เราคงต้องให้ท่านช่วยรับมือ”  อังเก้ออกคำสั่ง  แอนดรูว์ยอมรับคำสั่งดังกล่าว

“พอได้แล้ว ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว”  อังเก้หัวเราะ ในไม่ช้าก็เหลือแต่เพียง อังเก้ เฮเซอร์และเกทส์

อังเก้มองดูน้องๆทั้งสองคน “ผลการประชุมของท่านซาสเลอร์ออกมาแล้ว เราได้รับคำสั่งให้หยุดโจมตีในตอนนี้ก่อน และเตรียมตัวพบกับเจ้าครองแคว้นของเราในอีกครึ่งเดือนจากนี้  ตอนนี้เรามีคนสิบล้านคนอยู่ในบังคับของเรา”

เฮเซอร์และเกทส์ยิ้มทั้งคู่

“ข้าไม่คาดเลยว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะไม่โต้ตอบกลับแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ต้องการสู้กับเราโดยตรง”  เกทส์หัวเราะ “อย่างนั้นก็เป็นไปตามแผนเดิม เรายังคงดำเนินการต่อไป หลังจากที่เราประกาศก่อตั้งแคว้นปกครองของเราอย่างเป็นทางการเราจะโจมตีศาสนจักรเจิดจรัสต่อไป”

ศาสนจักรเจิดจรัสช่างไร้น้ำยาจริงๆ  ทางศาสนจักรทำให้เฮเซอร์และเกทส์มั่นใจว่าพวกเขาไม่ยินดีจะเผชิญหน้ากับกองกำลังของพวกเขาโดยตรง

…….

บุรุษวัยกลางคนผมทองเข้ามาที่ห้องมีแสงสลัวอีกครั้ง

“ใต้เท้าตุลาการ”  บุรุษวัยกลางคนผมทองพูดอย่างเคารพ

โอเซนโนนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานนัยน์เป็นประกายลุกโชน  เขาตอบอย่างใจเย็น  “ตอนนี้ฝ่ายลินลี่ย์เพิ่งจะชิงแคว้นเชอรี่ได้ พวกเขาจะค่อยๆ ซึมซับไปตามเวลา ข้าเชื่อว่าตอนนี้พวกเขาเชื่อว่าเราไม่ยินดีจะต่อสู้กับพวกเขา

บุรุษผมทองวัยกลางคนมองดูโอเซนโนและพูดอย่างตื่นเต้น  “เราจะโจมตีหรือ?”

“การโจมตีของเราจะต้องทำลายฝ่ายลินลี่ย์ให้ได้เด็ดขาด”  เสียงของโอเซนโนเย็นยะเยียบดุจน้ำแข็ง “ลินลี่ย์ผู้นี้คุกคามต่อศาสนจักรเจิดจรัสอย่างใหญ่หลวง  ถ้าเขาเติบโตก้าวหน้าต่อไป  อย่างนั้นเราจะต้องมีชีวิตด้วยความเสียใจ  แม้แต่ตอนนี้เขาก็กล้าตอแยพวกเราและโจมตีแคว้นเชอรี่ เห็นได้ชัดว่า เขาตั้งใจจะสู้กับศาสนจักรเจิดจรัสของเรา”

“เนื่องจากเขาต้องการสู้ อย่างนั้นเราต้องกำจัดยอดฝีมือฝ่ายลินลี่ย์ให้หมด”  เสียงของเขาเย็นชามากขึ้น และแสงสีม่วงชั่วร้ายสะท้อนประกายอยู่ในดวงตาของเขา

บุรุษวัยกลางคนผมทองยิ่งมีความตื่นเต้นมาก  แต่จากนั้นเขาพูดด้วยความสับสน  “ใต้เท้าตุลาการ  เป็นไปได้ว่าเราจะใช้เซียนงั้นหรือ? แต่จะส่งผลให้ลัทธิเงาเกิดความไม่พอใจได้นะ  จักรวรรดิโอเบรียนและฝ่ายอื่น?”

“ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนั้น”  โอเซนโนพูดเย็นชา  “ถ้าลินลี่ย์ยังคงขยายดินแดนต่อไป  อย่างนั้นงานที่ศาสนจักรได้ทำมาในดินแดนอนารยชนนี้เป็นพันๆปีก็ต้องเป็นอันพับและสูญเปล่า  นอกจากนี้ลินลี่ย์เองจะถูกปล่อยให้เติบโตไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว  ระดับความก้าวหน้าของเขาเร็วจนน่ากลัว  ตอนนี้...ข้ายังมีความสามารถที่จะฆ่าเขาได้ แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป...”

โอเซนโนมองดูบุรุษผมทองวัยกลางคน  “พอได้แล้วดำเนินตามแผนการเดิมของเราต่อไปและเริ่มพิธีการได้”

“ขอรับ, ใต้เท้าตุลาการ”  บุรุษผมทองวัยกลางคนรับคำ

“คืนพรุ่งนี้เทวทูตระดับเซียนเก้าคนจะมาที่นี่ทันที.. และข้าเองจะเป็นคนรับมือสัตว์เลี้ยงของลินลี่ย์เจ้าหนูตัวนั้นเอง”  โอเซนโนมั่นใจมาก  เขามีพลังระดับเดียวกับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์  และมีระดับที่สูงกว่าเฮนด์เซนขั้นหนึ่ง

เขามั่นใจเต็มที่ว่าสามารถฆ่าลินลี่ย์ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด